ภวังคของพระพุทธเจ้า กับภวังคของสัตว์

อรรถกถา ทีฆนิกาย มหาวรรค 
               มหาปรินิพพานสูตร 
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=10&i=67&p=5&h=ภวัง#hl 
ภวังคพระพุทธเจ้า
               พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากฌานแล้ว
หยั่งลงสู่ภวังค์ แล้วปรินิพพานในระหว่างนั้น
ชื่อว่าระหว่างฌาน ในลำดับ ๒ นั้น. 
               พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จออกจากฌานแล้ว
พิจารณาองค์ฌานอีก หยั่งลงสู่ภวังค์ แล้วปรินิพพานในระหว่างนั้นนั่นแหละ
ชื่อว่าระหว่างปัจจเวกขณญาณ. แม้ทั้ง ๒ นี้ก็ชื่อว่าระหว่างทั้งนั้น. 
               ก็พระผู้มีพระภาคเจ้าเข้าฌานเสด็จออกจากฌาน
พิจารณาองค์ฌานแล้วปรินิพพานด้วยภวังคจิต
เป็นอัพยากฤตเป็นทุกขสัจจะ.
สัตว์เหล่าใดเหล่าหนึ่ง
ไม่ว่าพระพุทธเจ้าหรือพระสาวก
อย่างต่ำมดดำมดแดง
ต้องกระทำกาละด้วยภวังคจิตที่เป็นอัพยากฤต
เป็นทุกขสัจทั้งนั้นแล. 

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๒ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ 

               อรรถกถา มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ มูลปริยายวรรค 
               สัพพาสวสังวรสูตร ว่าด้วยการสังวรในอาสวะทั้งปวง 
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=10&p=2&h=ภวัง#hl 

               อีกอย่างหนึ่ง ในกาลใด(เป็นภวังของสัตว์)
รูปารมณ์มาสู่คลองจักษุ ในกาลนั้น เมื่อภวังคจิตเกิดขึ้น ๒ ครั้งแล้วดับไป 
               อนึ่ง ในบทว่า
จกฺขุนฺทฺริยสํวรสํวุโต วิหรติ นั้น
การสำรวมหรือการไม่สำรวมย่อมไม่มีในสมัยแห่งภวังคจิต
ทั้งในสมัยแห่งอาวัชชนจิตเป็นต้นสมัยใดสมัยหนึ่ง
การสำรวมหรือการไม่สำรวมย่อมไม่มีเช่นเดียวกัน. 
               ตอบว่า
เพราะเมื่อมีการไม่สำรวมในจักขุนทรีย์นั้น.
ทวารก็ดี ภวังคจิตก็ดี วิถีจิตมีอาวัชชนะเป็นต้นก็ดี
ย่อมเป็นอันพระโยคาวจรไม่คุ้มครองแล้ว. 

               เมื่อโทษเครื่องทุศีลบังเกิดขึ้นในชวนจิต
เมื่อมีการไม่สำรวมในชวนจิตนั้น
ทวารก็ดี ภวังคจิตก็ดี วิถีจิตมีอาวัชชนจิตเป็นต้นก็ดี
เป็นอันภิกษุไม่คุ้มครองฉันนั้นนั่นแล. 

               แต่เมื่อศีลเป็นต้นเกิดขึ้นในชวนจิตนั้น
ทวารก็ดี ภวังคจิตก็ดี วิถีจิตีมีอาวัชชนจิตเป็นต้นก็ดี
ย่อมเป็นอันภิกษุคุ้มครองดีแล้ว. 

               ภวังคจิตก็ดี วิถีจิตมีอาวัชชนจิตเป็นต้นก็ดี
เป็นอันภิกษุคุ้มครองดีแล้วฉันนั้นเหมือนกัน. 
               โดยที่มันไม่เหลืออยู่แม้ในภายในของภิกษุนั้น
โดยที่สุดแม้เพียงในภวังคจิต (ก็ไม่มี). 

               อรรถกถา มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ มูลปริยายวรรค 
               อนังคณสูตร ว่าด้วยผู้ไม่มีกิเลส 
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=53&p=1&h=ภวัง#hl 

               แต่ในข้อความนี้ว่า
จักเป็นผู้มีจิตเศร้าหมอง มรณภาพ
ไม่ควรเห็นอรรถาธิบายอย่างนี้ว่า
จักมรณภาพด้วยอกุศลจิต.
เพราะสัตว์ทุกตัวตนตายโดยปกติจิต
คือโดยภวังคจิตกันทั้งนั้น
แต่คนคนนี้ยังไม่ชำระจิตสันดาน
ให้สะอาดก่อนแล้วจึงตาย ดังนี้แล
พึงทราบอรรถาธิบายว่า
พระสารีบุตรกล่าวข้อความไว้อย่างนี้
หมายเอาอรรถาธิบายข้อนี้. 

               อรรถกถา มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ มูลปริยายวรรค 
               วัตถูปมสูตร ว่าด้วยข้ออุปมาด้วยผ้า 
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=91&p=1&h=ภวัง#hl 

               แม้จิตที่เศร้าหมองเพราะกิเลสทั้งหลายที่จรมาก็ฉันนั้น (คือ)
ก็ตามปกติ จิตนั้นย่อมเป็นธรรมชาติที่สะอาดทีเดียว
ในวาระปฏิสนธิจิตและภวังคจิต. 

               อรรถกถา มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ มูลปริยายวรรค 
               สัมมาทิฏฐิสูตร ว่าด้วยความเห็นชอบ 
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=110&p=3&h=ภวัง#hl 

               และเวทนาในปฏิสนธิขณะ
ภวังคขณะและจุติขณะที่เป็นไปในทวารทั้ง ๖ มีการเกิดขึ้น
เพราะการเกิดขึ้นแห่งมโนสัมผัสที่เกิดขึ้นร่วมกัน. 

               อรรถกถา มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์ มูลปริยายวรรค 
               สติปัฏฐานสูตร ว่าด้วยการเจริญสติปัฏฐาน 
http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=12&i=131&p=3&h=ภวัง#hl 

วังค์ (จิตอยู่ในภวังค์) ๑ อาวัชชนะ (การระลึกถึง )
               บรรดาจิตทั้ง ๗ นั้น               
ภวังค์ให้กิจคือเป็นเหตุแห่งอุปปัตติภพสำเร็จเป็นไป.
กิริยามโนธาตุ ครั้นยังภวังค์นั้นให้หมุนกลับ
แล้วจะให้อาวัชชนกิจสำเร็จอยู่
เพราะอาวัชชนกิจนั้นดับไป
จักขุวิญญาณจะให้ทัสสนกิจสำเร็จเป็นไป
เพราะทัสสนกิจนั้นดับไป
วิปากมโนธาตุจะให้สัมปฏิจฉนกิจสำเร็จเป็นไป
เพราะสัมปฏิจฉนกิจนั้นดับไป
มโนวิญญาณธาตุที่เป็นวิบาก
จะให้สันตีรณกิจสำเร็จเป็นไป
เพราะสันตีรณกิจนั้นดับไป
มโนวิญญาณธาตุที่เป็นกิริยา
จะให้โวฏฐัพพนกิจสำเร็จเป็นไป
เพราะโวฏฐัพพนกิจนั้นดับไป
ชวนะจะแล่นไป ๗ ครั้ง. 
               ก็เมื่อรูปปรากฏในจักษุทวารแล้ว
ต่อจากภวังคจลนะ (ภวังค์ไหว) ไป
เมื่อวิถีจิตมีอาวัชชนะเป็นต้น
เกิดขึ้นแล้วดับไปด้วยอำนาจทำกิจของตนให้สำเร็จ
ในที่สุด ชวนะก็จะเกิดขึ้น
ชวนะนั้นจะเป็นเหมือนชาย
ที่เป็นแขกของวิถีจิตมีอาวัชชนะเป็นต้น
ที่เกิดขึ้นก่อน (มาเยี่ยมถึง) ประตูคือตา (จักขุทวาร)
ที่เท่ากับเป็นเรือน
แม้เมื่อวิถีจิตมีอาวัชชนะเป็นต้น
ไม่กำหนัด ไม่ขัดเคือง ไม่ลุ่มหลงในจักขุทวาร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่