ตกหลุมรักเพื่อนสนิทแบบถอนตัวไม่ขึ้น แต่ก็ไม่อยากเสียเพื่อนไป

สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นบอกก่อนว่าเป็นผู้หญิงที่ไม่มีความรักมานานมากๆ เกินห้าปี เพราะสเปคสูงมาก บ้างาน แมนๆห้าวๆ มีโอกาสได้เป็นเรียนภาษาอยู่ต่างประเทศสองเทอม เวลาว่างออกกำลังกาย จนได้รู้จักเพื่อนคนนี้ บุคลิกไม่สนไม่แคร์อะไรในโลกทั้งสิ้น บุคลิกแปลกมากๆ หนึ่งปีผ่านไปจนเรียนจบภาษา แต่เพื่อนยังตัดสินใจเรียนต่ออีกหนึ่งเทอม ส่วนเรากลับไทยแต่ยังบินไปบินมาอยู่เพราะบังเอิญได้งานแถวๆนั้น ทำให้ยังไปมาหาสู่กันได้กับเพื่อนๆคนอื่นๆที่เรียนที่เดียวกันด้วย

จากคนแปลกหน้าชวนกันออกกำลังกาย จนออกกำลังกายด้วยกันตลอด ตอนแรกเค้าไม่ชอบขี้หน้าเรามากๆ เพราะไม่ค่อยทำความรู้จักกับใครใหม่ซักเท่าไหร่ ส่วนเราก็เฟรนลี่ ทักเพื่อนใหม่ไปทั่ว ฝึกภาษาไปในตัวแต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงเริ่มสนิทกับคนนี้ขึ้นมา จากคนแปลกหน้า ก็กลายเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน จนเรียนจบก็กลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆ มีอะไรก็ปรึกษากันได้หมด ปีที่แล้วเลยได้มีโอกาสเค้าดาวนด้วยกัน แล้วก็ได้มีรูปคู่ลงโพสไปด้วยยย ปกติเค้าไม่ชอบถ่ายรูป และไม่โพสรูปเดี่ยว คู่ กับใครเลย

ผ่านไปสามเทอม สรุปแยกย้ายกลับบ้าน ก่อนกลับบ้านเพื่อนคนนี้ก็แวะมาเที่ยวไทย เรา เพื่อนคนนี้ และเพื่อนอีกสองคนก็เที่ยวด้วยกัน สนุกมาก จนวันที่เค้ากลับจากไทยไปวันแรกสองวันแรก เรารู้สึกคิดถึงมากๆแบบไม่อยากให้จากกันเลย ตัดสินใจวีดีโอคอลหา และสารภาพความรุ้สึกทั้งหมดที่มีให้เพื่อนฟังไป แบบไม่คิดอะไรเลย รู้สึกโล่งมากๆ แต่คำตอบคือ เค้าดูออกนานแล้ว เพราะสิ่งที่เราทำให้เค้ามันพิเศษกว่าคนอื่นๆ แต่เค้าบอกว่าเราแตกต่างกันมาก ไม่เหมาะกันหรอก และ ก็ไม่อยากเสียเพื่อนที่ดีที่สุดในชีวิตเค้าไป ถ้าเกิดวันไหนเลิกกันเราคงมองหน้ากันไม่ติด ประมาณนี้ เลยสัญญาตกลงกันไว้ว่าเรื่องนี้เราจะไม่บอกเพื่อนๆที่เหลือ รู้กันสองคน ส่วนอนาคตจะเป็นอย่างไรก็ขอให้เรายินดีซึ่งกันและกันนะ และเราสองคนก็กลับมามีความสัมพันธ์แบบเพื่อนดังเดิม

ความสัมพันธ์หลังจากสารภาพไป ส่วนตัวคือถือว่าคุ้มค่ามากๆ รุ้สึกสนิทกันมากกว่าเดิมทั้งสองฝ่าย บทสนทนา ความคิดถึง ความห่วงใยกันมันมากกว่าเดิมมากๆ แต่ก็ยังรักษาความถี่ในการติดต่อ เพราะเรายังเป็นแค่เพื่อนกัน และรู้ใจกันมากๆ เราสามารถบอกรัก บอกคิดถึงได้แบบไม่เขินอาย และเค้าเองก็ไม่ปฏิเสธการแสดงออกทางความรู้สึกของเราที่มีต่อเค้า

หลังจากนั้นเพื่อนๆในแก๊งที่เราเคยเรียนอยู่ก็ปิดเทอม เลยนัดรวมตัวกันมาเที่ยวที่ประเทศเค้าก็เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เราได้มารวมตัวกันอีกครั้ง ห่างจากครั้งล่าสุดที่ไทยประมาณหกเดือนได้ ตอนนี้ใกล้ๆคือนับวันรอ เพราะคิดถึงมากๆ 5555 จนได้ไปเที่ยวด้วยกันกับเพื่อนๆ มันสนุกมากๆ และได้เห็นการแสดงความห่วงใยของเค้าที่มีต่อเรา ในเรื่องต่างๆ เช่น ตอนขอขี่มอเตอร์ไซด์ก็บอกว่าเรายังเจ็บอยู่ จนเค้ามานั่งซ้อมท้ายเราจึงยอมให้เราลองขี่ดู หรือตอนล่องแพกันสองคนก็คือให้จับตรงนี้ อย่าลืม พูดบ่อยมากๆ คือมันมีสัญญาณหลายๆอย่าง หลายๆตอนว่ามันพิเศษกว่าเพื่อนๆคนอื่น (หรือเราอาจจะคิดไปเอง)

จนเที่ยวเสร็จทักคนแยกย้ายกลับบ้าน ส่วนเราต้องไปทำธุระที่เมืองที่บ้านของเค้ามา ประมาณสามเดือน (บังเอิญไหม!!!) นี่ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์ละ ได้มีโอกาสไปเที่ยวด้วยกันสองคนหนึ่งวัน สัมผัสได้เลยว่าจากเค้าจากคนที่มีนิสัยแข็งกร้าว ไม่ยอมใคร ตอนนี้นิสัยอ่อนนวลลงเยอะมาก ยอมคน ยอมทำอะไรที่ตัวเองไม่ชอบ และไม่เคยทำ แต่เป็นเพราะตามใจเรา เอาที่เราสะดวก และเป็นห่วงเราอย่างมากจนกว่าจะถึงบ้านพัก และที่สำคัญคือละเอียดมากกว่าอิชั้นเองเสียอีก 

วันที่เราไปเที่ยวกันเองสองคน ปกติเค้าจะไม่มาที่นี่เพราะคนเยอะ อากาศร้อน วันนั้นคือวันเปิดใจในเรื่องส่วนตัวของตัวเองไม่ได้คุยเรื่องความสัมพันธ์ของเราสองคนอีกครั้ง เพราะเราเองไม่กล้าเริ่มเปิด555 เพราะหน้าแหกไปแล้วหนึ่งรอบ แต่จำได้ว่าเราสองคนชอบอะไรไม่เหมือนกัน เพราะเวลาพูดถึงอะไรไม่เหมือนกัน เค้าจะชอบพูดลอยๆว่า เราสองคนแตกต่างกัน (แบบขำๆนะๆ) ก็เลยสวนกลับไปว่า แล้วยังไง เค้าก็เลยบอกว่าก้เลยไม่เหมาะสมกันไง ซึ่งแบบบบบ ยังจำได้อีกนะ!!!!! พอดีวันนั้นไปในย่านที่มีร้านอาหารสวยๆเยอะ เลยพาเค้าขึ้นไปดุไฟนไดนนิ่งที่นึงบนดาดฟ้า บอกเค้าว่าเดี่ยววันเกิดเรา มากินข้าวที่นี่กันนะ เค้าก็เขินๆพูดแกมหยอกประมาณว่ารวยจังนะ 5555

ระหว่างก่อนที่จะเจอกันนั้น เพราะเรามาอยู่ประเทศเค้า เค้ามาช่วยจัดแจงเรื่องย้ายบ้าน ช่วยเราเก็บเงินที่มาจากไทยก้อนใหญ่ให้ไว้ที่บ้านเค้า เตือนทุกอย่างเรื่องการกินอยู่ ถ้าอยู่ไม่ได้จะช่วยหาที่พักให้ใหม่ พ่อแม่น้องสาวคืออบอุ่นมากๆ ประทับใจความรักในครอบครัวนี้มากๆ รู้สึกเหมือนยิ่งรู้จัก ยิ่งรักเธอ อารมณ์แบบนี้เลย!

แต่ต้องยอมรับว่าตัวเราเองเปลี่ยนไปเยอะมาก จากคนที่คาดหวังสุง สเปคต้องสุดจริงๆถึงจะพิจารณา แต่สำหรับเพื่อนคนนี้คือ ไม่มีอะไรตรงสเปคซักอย่าง อย่างเดียวที่แพ้คือแพ้ความดีของนางที่ทำให้เราตลอด ไม่รู้ไปตกหลุมรักตอนไหน ไม่รู้ตัวเลย  แล้วยังทำให้เราจากผุ้หญิงกระด้างอยุ่กับเค้าเรารุ้สึกไม่ต้องเป็นผุ้นำ เราปลอดภัย เราโง่ได้ ทำตัวปัญญาอ่อนได้สุดๆ เหมือนอยุ่กับแม่ของเราเอง

ถึงตอนนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ แต่คิดถึงเรื่องความเป็นจริงแล้ว เราสองคนก็แตกต่างกันมากจริงๆ ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต เราชีวิตรวดเร็วมีแบบแผน สุ้เผื่อชีวิตที่ดีกว่าวันนี้ เค้าชีวิตเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก ที่บ้านปุทางมาสบาย ไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากในชีวิตไม่คาดหวังมาก อายุเราก็มากกว่าเค้าด้วยสี่ปี แค่รู้สึกว่าเราสองคนก็ปรับเปลี่ยนมามากตังแต่เริ่มรุ้จักกันเมื่อสองปีที่แล้วจนสนิทกัน ไว้ใจกันได้ขนาดนี้ ลงรูปคู่โดยไม่เขินอายใคร (อิชั้นคนเดียวที่ได้รับเกียรตินี้5555)

คำถาม:
หรือว่าเราจะเข้าเฟรนโซนไปอย่างแน่แท้แล้ว?มีวิธีออกจากเฟรนโซนนี้อย่างไรบ้าง เพราะเขานัดเราว่าจะเจอกันอาทิตย์ละครั้ง อยากให้ช่วงเวลานี้ให้เป็นประโยชน์ที่สุดเพราะเป็นช่วงเวลาที่เราได้อยู่ใกล้ชิดกันมากที่สุด ขอคำแนะนำเพื่อนๆ ว่าเราสองคนสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ได้อีกหรือไม่ อย่างไร บอกชอบอีกครั้ง ถ้าเค้ายังคิดเหมือนเดิมเราสองคนยังจะเหมือนเดิมหรือไม่ (คิดแล้วเศร้าา) คงรทำอย่างไรดี!!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่