เคยตั้งกระทู้นึงไม่นานนี้เรื่องปัญหาการเงินภายในบ้าน ที่แม่ต้องการมห้เราส่งเงินให้จำนวนมากทุกเดือน
เราส่งมาตั้งแต่เรียนจบเป็น 10 ปี เฉลี่ยเดือนละ 10,000-30,000 ขึ้นอยู่กับว่าเคาต้องการเท่าไหร่
แต่ช่วงนี้ภาระเราหนักขึ้น พร้อมกับการทำงานที่ไม่เฟื่องฟูเหมือนเดิม
ทำให้รายรับเราน้อยลง และต้องเจียดไปใช้หนี้ตัวเองเพื่อปิดบัตร
ทุกวันนี้ให้เค้าก่อนจนเราแทบไม่เหลือตังกินข้าวถึงสิ้นเดือน ขอเค้า 500 ยังไม่มีให้
พอสิ้นเดือนเราก็ต้องโอนให้เค้าใหม่ เดือนนี้เราตัดสินใจหักดิบ
เพราะเคยคุยหลายครั้งแล้วเรื่องการใช้เงินของที่บ้าน ให้ช่วยกันประหยัด
เค้าก็กางเหตุผลต่างๆนาๆมา ซึ่งก็คือตัดอะไรไม่ได้เลย ทุกอย่างจำเป็นต้องจ่ายทั้งหมด
รวมๆ 50,000 บาทต่อเดือน ที่เราให้ไปคือยังน้อย ไม่พอด้วยซ้ำ
สุดท้าย หลังจากงดจ่ายเงินไป 14 วัน แม่ก็เริ่มเข้ามาตราการด่า
สมัยเราเด็กๆ เราเคยเกเร ติดเกมส์ โดดเรียนไปเล่นเกมส์ (แต่ก็ได้คะแนนสูงสุดได้ใบประกาศของสายศิลป์ ทั้งโรงเรียน)
เข้ามหาลัยที่เค้าผิดหวัง (แต่ก็เอ็นติดคะแนนอันดับ1 ของภาคเรียน) ไม่ภูมิใจ
พอไปพูดกับใคร เค้าก็อาย เค้าก็จะพูดถึงแต่น้องว่าได้มหาลัยอันดับแนวหน้า
เค้าไม่เคยรู้สึกว่าเราเป็นความภาคภูมิใจ เราอยู่หอเริ่มมีแฟน เค้าก็อับอายที่เรามีแฟน
ด่าทอเป็นคนใจง่าย เราเรียนจบตามเกณฑ์ (จบเทอม3ช้าไปนิดแต่จบ 4 ปีครึ่งแหละ)
วันรับปริญญา แม่ไม่เชื่อ หาว่าเราเอาชุดมาใส่ แถมไม่เคยให้เงินช่วยวันรับปริญญา ทั้งๆที่รู้
ว่าเราเพิ่งโดนโกงค่าแรงมา ไม่มีเงินมากมายมาจ่ายค่ารับ แต่ก็อยากรับให้เค้าเห็นซักครั้ง
พอเริ่มทำงาน ก็ให้เริ่มส่งเงินให้ 1/3 ของเงินเดือน งานแรกเราได้เงินเดือน 9,000 บาท
ต้องส่งให้แม่ 3,000 บาท ลำบากมาก ไม่มีเงินกินข้าว ไม่มีเงินขึ้นรถไปทำงาน ต้องนอนที่ทำงาน
เราขอเงินเค้า 500 ค่ารถ ก็มีแต่คำว่า กูไม่มี
จากนั้นเราเลยเริ่มหางานใหม่ที่ได้เงินเพิ่ม พอเรามีมากขึ้น เราก็ให้เค้าเพิ่มตามลำดับ 1/3
น้องเรา สปอยแม่หนักมากขึ้นทุกวัน ให้เยอะเพราะเค้าเงินเดือนดีมาก สตาร์ทมา 4-5 หมื่น
แม่รักน้องมาก เปรียบเทียบกันตลอด ด่าเราว่าเราเป็นพี่ที่ใช้ไม่ได้
ใหเงินเค้าน้อยกว่าน้อง น้องให้ 15,000 เราให้ 10,000 ให้น้อยกว่าตั้ง 5,000
เป็นพี่แบบนี้ได้ยังไง ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้อง
เป็นพี่ต้องรับผิดชอบมากกว่านี้ เราเลยยอมที่จะจ่ายค่าอื่นๆเพิ่มเพื่อนตัดปัญหา
จากเดิมที่ให้แค่ค่าน้ำนม 8,000-10,000 ก็เพิ่มเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านเข้าไป
ตกอีกเดือนละ 6,000-14,000 แล้วแต่ว่าเค้าจะใช้จ่ายอะไรกัน เช่น
ซื้อเสื้อผ้า ซื้อของใช้
จนมันเลยเถิดมาเดือนละ20,000 - 25,000
จนเราไม่ไหว เพราะมีวันนึงเรากลับมาจากทำงาน สิ่งที่ออกมาจากปากแม้คือ
เดือนนี้จะได้เงินเพิ่มมั้ย ถ้าให้แม่เพิ่มได้ขออีกนะ
ขาทรุดหมดแรง เหนื่อยมาก อยากได้ยินว่า เหนื่อยมั้ยลูก กินข้าวรึยีง
แต่ไม่เคยได้ยิน ทำได้แค่มองหน้าแล้วเดินเข้าห้องนอน
ชีวิตเค้ามีแต่น้องคนกลาง กับคนเล็ก เรารู้สึกเหมือนเราเป็นแค่คนหาเงิน
ไม่รุ้ว่าเค้าสอนให้น้องมองเราแบบไหนบ้าง เราทำเต็มที่แล้วเค้าก้ไม่เห้นความดี
มองแค่เรื่องแย่ๆที่เราทำที่ผ่านมา โดดเรียน ติดเกมส์ มีแฟน ไปอยู่กับแฟน
เราอายุ 30 กว่าแล้ว แต่รู้สึกเหมือนไม่มีชีวิตของตัวเองเลย
ในสายตาคนอื่นเราไม่เคยแคริว่าใครจะมองยังไง แต่ผิดหวังที่คนเป็นแม่
ทำให้เรารู้สึกเป็นขยะได้ขนาดนี้
ถ้าไม่ให้เงิน คือคนไร้ค่า หมาข้างถนน
เราต้องจัดการความคิดเรายังไงดีคะ?
แม่ ทำให้รู้สึกอยากตาย
เราส่งมาตั้งแต่เรียนจบเป็น 10 ปี เฉลี่ยเดือนละ 10,000-30,000 ขึ้นอยู่กับว่าเคาต้องการเท่าไหร่
แต่ช่วงนี้ภาระเราหนักขึ้น พร้อมกับการทำงานที่ไม่เฟื่องฟูเหมือนเดิม
ทำให้รายรับเราน้อยลง และต้องเจียดไปใช้หนี้ตัวเองเพื่อปิดบัตร
ทุกวันนี้ให้เค้าก่อนจนเราแทบไม่เหลือตังกินข้าวถึงสิ้นเดือน ขอเค้า 500 ยังไม่มีให้
พอสิ้นเดือนเราก็ต้องโอนให้เค้าใหม่ เดือนนี้เราตัดสินใจหักดิบ
เพราะเคยคุยหลายครั้งแล้วเรื่องการใช้เงินของที่บ้าน ให้ช่วยกันประหยัด
เค้าก็กางเหตุผลต่างๆนาๆมา ซึ่งก็คือตัดอะไรไม่ได้เลย ทุกอย่างจำเป็นต้องจ่ายทั้งหมด
รวมๆ 50,000 บาทต่อเดือน ที่เราให้ไปคือยังน้อย ไม่พอด้วยซ้ำ
สุดท้าย หลังจากงดจ่ายเงินไป 14 วัน แม่ก็เริ่มเข้ามาตราการด่า
สมัยเราเด็กๆ เราเคยเกเร ติดเกมส์ โดดเรียนไปเล่นเกมส์ (แต่ก็ได้คะแนนสูงสุดได้ใบประกาศของสายศิลป์ ทั้งโรงเรียน)
เข้ามหาลัยที่เค้าผิดหวัง (แต่ก็เอ็นติดคะแนนอันดับ1 ของภาคเรียน) ไม่ภูมิใจ
พอไปพูดกับใคร เค้าก็อาย เค้าก็จะพูดถึงแต่น้องว่าได้มหาลัยอันดับแนวหน้า
เค้าไม่เคยรู้สึกว่าเราเป็นความภาคภูมิใจ เราอยู่หอเริ่มมีแฟน เค้าก็อับอายที่เรามีแฟน
ด่าทอเป็นคนใจง่าย เราเรียนจบตามเกณฑ์ (จบเทอม3ช้าไปนิดแต่จบ 4 ปีครึ่งแหละ)
วันรับปริญญา แม่ไม่เชื่อ หาว่าเราเอาชุดมาใส่ แถมไม่เคยให้เงินช่วยวันรับปริญญา ทั้งๆที่รู้
ว่าเราเพิ่งโดนโกงค่าแรงมา ไม่มีเงินมากมายมาจ่ายค่ารับ แต่ก็อยากรับให้เค้าเห็นซักครั้ง
พอเริ่มทำงาน ก็ให้เริ่มส่งเงินให้ 1/3 ของเงินเดือน งานแรกเราได้เงินเดือน 9,000 บาท
ต้องส่งให้แม่ 3,000 บาท ลำบากมาก ไม่มีเงินกินข้าว ไม่มีเงินขึ้นรถไปทำงาน ต้องนอนที่ทำงาน
เราขอเงินเค้า 500 ค่ารถ ก็มีแต่คำว่า กูไม่มี
จากนั้นเราเลยเริ่มหางานใหม่ที่ได้เงินเพิ่ม พอเรามีมากขึ้น เราก็ให้เค้าเพิ่มตามลำดับ 1/3
น้องเรา สปอยแม่หนักมากขึ้นทุกวัน ให้เยอะเพราะเค้าเงินเดือนดีมาก สตาร์ทมา 4-5 หมื่น
แม่รักน้องมาก เปรียบเทียบกันตลอด ด่าเราว่าเราเป็นพี่ที่ใช้ไม่ได้
ใหเงินเค้าน้อยกว่าน้อง น้องให้ 15,000 เราให้ 10,000 ให้น้อยกว่าตั้ง 5,000
เป็นพี่แบบนี้ได้ยังไง ไม่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับน้อง
เป็นพี่ต้องรับผิดชอบมากกว่านี้ เราเลยยอมที่จะจ่ายค่าอื่นๆเพิ่มเพื่อนตัดปัญหา
จากเดิมที่ให้แค่ค่าน้ำนม 8,000-10,000 ก็เพิ่มเรื่องค่าใช้จ่ายในบ้านเข้าไป
ตกอีกเดือนละ 6,000-14,000 แล้วแต่ว่าเค้าจะใช้จ่ายอะไรกัน เช่น
ซื้อเสื้อผ้า ซื้อของใช้
จนมันเลยเถิดมาเดือนละ20,000 - 25,000
จนเราไม่ไหว เพราะมีวันนึงเรากลับมาจากทำงาน สิ่งที่ออกมาจากปากแม้คือ
เดือนนี้จะได้เงินเพิ่มมั้ย ถ้าให้แม่เพิ่มได้ขออีกนะ
ขาทรุดหมดแรง เหนื่อยมาก อยากได้ยินว่า เหนื่อยมั้ยลูก กินข้าวรึยีง
แต่ไม่เคยได้ยิน ทำได้แค่มองหน้าแล้วเดินเข้าห้องนอน
ชีวิตเค้ามีแต่น้องคนกลาง กับคนเล็ก เรารู้สึกเหมือนเราเป็นแค่คนหาเงิน
ไม่รุ้ว่าเค้าสอนให้น้องมองเราแบบไหนบ้าง เราทำเต็มที่แล้วเค้าก้ไม่เห้นความดี
มองแค่เรื่องแย่ๆที่เราทำที่ผ่านมา โดดเรียน ติดเกมส์ มีแฟน ไปอยู่กับแฟน
เราอายุ 30 กว่าแล้ว แต่รู้สึกเหมือนไม่มีชีวิตของตัวเองเลย
ในสายตาคนอื่นเราไม่เคยแคริว่าใครจะมองยังไง แต่ผิดหวังที่คนเป็นแม่
ทำให้เรารู้สึกเป็นขยะได้ขนาดนี้
ถ้าไม่ให้เงิน คือคนไร้ค่า หมาข้างถนน
เราต้องจัดการความคิดเรายังไงดีคะ?