'สุดารัตน์' จี้รัฐบาลประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ หลังเขื่อนอุบลรัตน์น้ำไม่พอการเกษตร
https://www.voicetv.co.th/read/-ABVSw4TG
'สุดารัตน์' ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น รับฟังปัญหาภัยแล้ง - ฝนทิ้งช่วง พบสถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ไม่พอใช้การเกษตร สอนมวย รัฐบาล ขอให้พูดความจริง เรื่องวิกฤตภัยแล้ง ย้ำต้องออกประกาศพื้นที่แล้งเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทันที กำหนดค่าชดเชยให้ชัดเจน อย่าปล่อยประชาชนกู้หนี้มาทำนาแล้วไม่มีน้ำใช้
เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงไร่แม่สำราญ ต.โคกสูง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นาย
ปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นา
งมุกดา พงษ์สมบัติ นาย
จตุพร เจริญเชื้อ ส.ส. จังหวัดขอนแก่นพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง ทั้งพืชสวนไร่นาต่างได้รับผลกระทบ
โดยลงพื้นที่จุดแรก ที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงไร่แม่สำราญ คณะคุณหญิงสุดารัตน์พบปะประชาชน ขับรถอีแต๊ก เยี่ยมให้กำลังใจ กับชาวบ้านในพื้นที่ เพราะทราบว่ากำลังกำลังเผชิญปัญหาภัยแล้ง พืชที่ปลูกไว้ยืนต้นตาย ซึ่งการลงพื้นที่จะได้เก็บข้อมูลนำไปสะท้อนต่อหน่วยงานของรัฐ ขณะเดียวกันได้แนะนำ สินค้าชุมชน ซึ่งจะเป็นทางเลือกทางรอดสำหรับ ประชาชนในช่วงที่ต้องเผชิญกับวิกฤตภัยแล้ง
สำหรับผลิตภัณฑ์ประกอบไปด้วย เสื่อสำหรับปูนั่ง ผ้าขาวม้าทอมือซึ่งทำจากผ้าฝ้าย นอกจากนี้ยังมีสินค้าบริโภคเช่น เมล่อน แตงโม กล้วยฉาบ ข้าวปลอดสารพิษ รวมถึงน้ำปลาร้าปรุงรสฝีมือคนท้องถิ่น
ขณะที่ ผู้นำชุมชนสะท้อนว่า ปัจจุบันมีปัญหาภัยแล้งจึงต้องการน้ำบาดาล เชื่อว่า ถ้ามีน้ำเศรษฐกิจจะดีขึ้น ขณะดียวกันเห็นว่า เวทีสภาควรจะพูดในสิ่งที่มีสาระ สิ่งใดที่ไม่เป็นประโยชน์หรือไม่มีสาระต่อประชาชนขอให้ยุติสิ่งเหล่านี้
เขื่อนอุบลรัตน์น้ำพอใช้อุปโภคแต่ไม่พอการเกษตร
ต่อมา เวลา 10.45 น. คณะของคุณหญิง
สุดารัตน์เข้ารับฟังการบรรยายที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ถึงสถานการณ์น้ำ เดือน ก.ค. ในเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำในเขื่อนเมื่อเทียบกับ ปีที่ผ่านน้อยกว่า 5 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ เดือน ส.ค. มากกว่าเกิน 10 ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเดือน ก.ย. จะน้อยกว่าค่าปกติประมาณ 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งค่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าฝนสะสมน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
สำหรับเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำสะสมที่ร้อยละ 23 สามารถใช้การได้ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคแต่ไม่สามารถใช้ทำการเกษตรได้ จะต้องชะลอหรือให้งดทำการเกษตรจนกว่าฝนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
เขื่อนลำปาว มีปริมาณน้ำสะสมในเขื่อนร้อยละ 27% เช่นเดียวกับเขื่อนจุฬาภรณ์ มีปริมาณน้ำในเขื่อนร้อยละ 27% ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 61 แห่ง กว่า 50 แห่งมีปริมาณน้ำสะสมในอ่างน้อยกว่าร้อยละ 30
ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำท่าชี ยังมีเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค โดยกรมชลประทานมีแนวทางในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน จะจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศให้เพียงพอตลอดทั้งปี การส่งเสริมการปลูกพืชฤดูฝนให้ใช้น้ำฝนเป็นหลักใช้น้ำชลประทานเสริมกรณีฝนทิ้งช่วงเท่านั้น
บริหารจัดการน้ำถ้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยระบบและอาคารชลประทาน ดำเนินการเก็บกักน้ำในเขื่อนให้มากที่สุดไม่ต่ำกว่าเกณฑ์เก็บกักน้ำขั้นต่ำสุดตามช่วงเวลาเพื่อความมั่นคงด้านการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ รวมถึงวางแผนป้องกันและบรรเทาอุทกภัย
'สุดารัตน์' ฉะรัฐบาลบกพร่องเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ต่ำไม่พอเกษตร
จากนั้น คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการนำคณะลงพื้นที่ โดยระบุว่ารัฐมีข้อมูลอยู่แล้วว่าปีนี้จะเผชิญกับภัยแล้ง จึงต้องมีมาตรการเบื้องต้น ซึ่งวันนี้มาติดตามปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ ถือว่าอยู่ในระดับต่ำ จึงจำเป็นต้องเก็บน้ำไว้เพื่อการอุปโภคบริโภค ไม่เพียงพอที่จะทำการเกษตรได้
ดังนั้นสิ่งที่บกพร่องคือตั้งแต่ก่อนเข้าฤดูทำนารัฐบาลควรจะทำความเข้าใจกับประชาชน ใน จ.ขอนแก่นและใกล้เคียงว่าปีนี้มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้ทำนา เพราะไม่มีน้ำ จึงจำเป็นต้องออกมาตรการที่ชัดเจนให้กับประชาชน
"อย่างที่บอกปีนี้ปลูกข้าวมา 4 รอบแล้ว ปลูกเสร็จก็ต้องไถทิ้ง ลงค่าเมล็ดค่าปุ๋ย ค่ายาไป 4 รอบเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งชาวบ้านก็มาตั้งคำถามว่าบ้าน อยู่รอบเขื่อน แต่ทำไมไม่มีน้ำให้ใช้" คุณหญิง
สุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิง
สุดารัตน์ จึงเห็นว่า นายกรัฐมนตรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ต้องกล้าพูดความจริงกับประชาชน ต้องประกาศพื้นที่ภัยพิบัติภัยแล้งให้กับประชาชนทันที
"ป่วยการที่จะไม่พูดความจริงกับประชาชนต้องพูดความจริงกับประชาชนว่ามันไม่สามารถทำนาได้ในฤดูกาลนี้ นาปีนี้ทำไม่ได้ในพื้นที่ไหนบ้าง และประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้งและกำหนดอัตราชดเชยเลยว่าไม่ทำนา ไม่ต้องไปลงทุนเพิ่ม ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินเพิ่ม" คุณหญิง
สุดารัตน์ กล่าว
ซึ่งเมื่อรัฐกำหนดอัตราการชดเชยชัดเจนแล้วประชาชนจะได้หาทางออกหาอาชีพเสริมเพิ่มเติมหรือเข้าไปใช้แรงงานในกรุงเทพฯหรือในหัวเมืองเพื่อทำมาหากิน
คุณหญิง
สุดารัตน์ ย้ำด้วยว่าปัจจุบันมีข้อพิพาทเรื่องการใช้น้ำเกิดขึ้นระหว่างหน่วยงานของรัฐกับประชาชน ดังนั้นรัฐบาลต้องพูดความจริง เพราะไม่ใช่ จังหวัดขอนแก่น เท่านั้น แต่ยังมีจังหวัดอื่นๆ ซึ่งท้ายที่สุดก็ต้องประกาศเป็นพื้นที่เขตภัยพิบัติภัยแล้ง ขอให้เร่งรัดดำเนินการประกาศ เพื่อชดเชยทันที ดีกว่าปล่อยให้ประชาชนมีความหวังลมๆแล้งๆและไปกู้หนี้ยืมสินมาทำการเกษตรแต่ไม่มีน้ำให้ประชาชนใช้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะได้ติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
ด้าน ตัวแทนประชาชน ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ยื่นหนังสือ ผ่านนาง
มุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย พร้อมเล่าข้อเท็จจริงให้คุณหญิง
สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เป็นข้อมูล นำข้อร้องเรียนไปสะท้อนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังประชาชนหลายราย ถูกเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินคดี โดยอ้างว่า บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่อยู่ตลอดแนวเขื่อนอุบลรัตน์ และเป็นพื้นที่ที่ใช้ทำมาหากินมากว่า70ปี แต่หลังจากมีข้อพิพาทเนื่องจากกรมอุทยาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ปักปันหลักเขตแดนใหม่ จึงกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีเหมือนกับประชาชนหลายๆก่อนหน้านี้ จึงต้องการสื่อสารให้ภาครัฐรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน ว่าจะมีกระบวนการจัดสรรพื้นที่อย่างไร
ซึ่งตรงกับข้อมูล ของกำนันตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า จะมีประชาชน 200ถึง 300 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ จากปัญหาที่เกิดขึ้นและมีประชาชนถูกดำเนินคดีไปแล้วหลายคนและเชื่อว่าการดำเนินการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้เรียกรับผลประโยชน์จากชาวบ้าน จึงต้องการให้มีการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว
ด้านนาง
มุกดา ซึ่งเป็นส.ส.ในพื้นที่พิพาท เผยว่ารับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว จึงเรียกร้องไปถึงหน่วยงานรัฐ ให้ยุติการดำเนินคดีไว้ชั่วคราวเพื่อให้เกิดกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ พร้อมหาทางออกให้ประชาชน ขณะเดียวกันนางมุกดา จะพูดคุยกับเพื่อนสมาชิกส.ส.ให้พิจารณายื่นเรื่องดังกล่าวเสนอเป็นญัตติตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาข้อเท็จจริงและหาช่องทางช่วยเหลือต่อไป
พปชร.-พรรคร่วม บีบ ปชป. อย่าเพิ่งเร่งแก้รธน. ระวังเข้าทางฝ่ายค้าน-'ธนาธร' รอดคดีหุ้นสื่อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1581642
“ปชป.” กดดันหนัก แก้ รธน.ภายใน 1 ปี ตัวแทน “พปชร.-พรรคร่วม” ปรามหวั่น สร้างเงื่อนไขขัดแย้ง-กระทบเสถียรภาพรัฐบาล
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า สำหรับการจัดทำร่างนโยบายรัฐบาลนั้น ในระหว่างการจัดทำร่างนโยบายได้มีความพยายามกดดันอย่างหนักจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยื่นเงื่อนไขในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญภายใน 1 ปีแรกของรัฐบาลเข้ามา อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคร่วมรัฐบาล มองว่าเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องทำคือ การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน และไม่ต้องการให้มีเงื่อนไขความขัดแย้ง เพราะจะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน พรรคร่วมรัฐบาลจึงเห็นพ้องกันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่วาระสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยหากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญควรผ่านกระบวนการอีกหลายขั้นตอน และควรรับฟังความเห็นจากประชาชน เพราะอย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญ 2560 ผ่านการทำประชามติ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้
อย่างไรก็ตาม พรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่าควรบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปก่อน เพราะมีจุดแข็งอยู่ที่การปราบปรามการทุจริต ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยมาโดยตลอด และนอกจากนี้ ในส่วนคดี ห้าม ส.ส.ถือหุ้นกิจการสื่อ โดยเฉพาะคดีของนาย
ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ฝ่ายค้านอยากแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นดังกล่าวด้วย เพราะหากนาย
ธนาธรโดนตัดสินว่า มีความผิด แต่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นาย
ธนาธรอาจจะพ้นผิด เนื่องจากอาจจะมีการระบุไว้ในกฎหมายให้ยกเว้นโทษย้อนหลัง ซึ่งฝ่ายค้านหวังจะใช้กรณีดังกล่าวให้เป็นประโยชน์ หากพรรคร่วมรัฐบาลตกหลุมพราง อาจจะเข้าทางของฝ่ายค้านได้
JJNY : 4in1 สุดารัตน์จี้ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ/บีบปชป.อย่าเพิ่งเร่งแก้รธน./อัยการเผยคำสั่งคสช.จ่อสิ้นสภาพ/น้ำโขงวิกฤติ
https://www.voicetv.co.th/read/-ABVSw4TG
'สุดารัตน์' ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น รับฟังปัญหาภัยแล้ง - ฝนทิ้งช่วง พบสถานการณ์น้ำเขื่อนอุบลรัตน์ไม่พอใช้การเกษตร สอนมวย รัฐบาล ขอให้พูดความจริง เรื่องวิกฤตภัยแล้ง ย้ำต้องออกประกาศพื้นที่แล้งเป็นพื้นที่ภัยพิบัติทันที กำหนดค่าชดเชยให้ชัดเจน อย่าปล่อยประชาชนกู้หนี้มาทำนาแล้วไม่มีน้ำใช้
เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงไร่แม่สำราญ ต.โคกสูง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางมุกดา พงษ์สมบัติ นายจตุพร เจริญเชื้อ ส.ส. จังหวัดขอนแก่นพรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่ ให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่กำลังเผชิญปัญหาภัยแล้ง ฝนทิ้งช่วง ทั้งพืชสวนไร่นาต่างได้รับผลกระทบ
โดยลงพื้นที่จุดแรก ที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงไร่แม่สำราญ คณะคุณหญิงสุดารัตน์พบปะประชาชน ขับรถอีแต๊ก เยี่ยมให้กำลังใจ กับชาวบ้านในพื้นที่ เพราะทราบว่ากำลังกำลังเผชิญปัญหาภัยแล้ง พืชที่ปลูกไว้ยืนต้นตาย ซึ่งการลงพื้นที่จะได้เก็บข้อมูลนำไปสะท้อนต่อหน่วยงานของรัฐ ขณะเดียวกันได้แนะนำ สินค้าชุมชน ซึ่งจะเป็นทางเลือกทางรอดสำหรับ ประชาชนในช่วงที่ต้องเผชิญกับวิกฤตภัยแล้ง
สำหรับผลิตภัณฑ์ประกอบไปด้วย เสื่อสำหรับปูนั่ง ผ้าขาวม้าทอมือซึ่งทำจากผ้าฝ้าย นอกจากนี้ยังมีสินค้าบริโภคเช่น เมล่อน แตงโม กล้วยฉาบ ข้าวปลอดสารพิษ รวมถึงน้ำปลาร้าปรุงรสฝีมือคนท้องถิ่น
ขณะที่ ผู้นำชุมชนสะท้อนว่า ปัจจุบันมีปัญหาภัยแล้งจึงต้องการน้ำบาดาล เชื่อว่า ถ้ามีน้ำเศรษฐกิจจะดีขึ้น ขณะดียวกันเห็นว่า เวทีสภาควรจะพูดในสิ่งที่มีสาระ สิ่งใดที่ไม่เป็นประโยชน์หรือไม่มีสาระต่อประชาชนขอให้ยุติสิ่งเหล่านี้
เขื่อนอุบลรัตน์น้ำพอใช้อุปโภคแต่ไม่พอการเกษตร
ต่อมา เวลา 10.45 น. คณะของคุณหญิงสุดารัตน์เข้ารับฟังการบรรยายที่โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ถึงสถานการณ์น้ำ เดือน ก.ค. ในเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำในเขื่อนเมื่อเทียบกับ ปีที่ผ่านน้อยกว่า 5 ถึง 15 เปอร์เซ็นต์ เดือน ส.ค. มากกว่าเกิน 10 ถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเดือน ก.ย. จะน้อยกว่าค่าปกติประมาณ 5 ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งค่าเฉลี่ยตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ปรากฏว่าฝนสะสมน้อยกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
สำหรับเขื่อนอุบลรัตน์ มีปริมาณน้ำสะสมที่ร้อยละ 23 สามารถใช้การได้ 3 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภคแต่ไม่สามารถใช้ทำการเกษตรได้ จะต้องชะลอหรือให้งดทำการเกษตรจนกว่าฝนจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
เขื่อนลำปาว มีปริมาณน้ำสะสมในเขื่อนร้อยละ 27% เช่นเดียวกับเขื่อนจุฬาภรณ์ มีปริมาณน้ำในเขื่อนร้อยละ 27% ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 61 แห่ง กว่า 50 แห่งมีปริมาณน้ำสะสมในอ่างน้อยกว่าร้อยละ 30
ส่วนสถานการณ์น้ำในแม่น้ำท่าชี ยังมีเพียงพอสำหรับการอุปโภคบริโภค โดยกรมชลประทานมีแนวทางในการบริหารจัดการน้ำในช่วงฤดูฝน จะจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศให้เพียงพอตลอดทั้งปี การส่งเสริมการปลูกพืชฤดูฝนให้ใช้น้ำฝนเป็นหลักใช้น้ำชลประทานเสริมกรณีฝนทิ้งช่วงเท่านั้น
บริหารจัดการน้ำถ้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุดด้วยระบบและอาคารชลประทาน ดำเนินการเก็บกักน้ำในเขื่อนให้มากที่สุดไม่ต่ำกว่าเกณฑ์เก็บกักน้ำขั้นต่ำสุดตามช่วงเวลาเพื่อความมั่นคงด้านการอุปโภคบริโภคและรักษาระบบนิเวศ รวมถึงวางแผนป้องกันและบรรเทาอุทกภัย
'สุดารัตน์' ฉะรัฐบาลบกพร่องเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ต่ำไม่พอเกษตร
จากนั้น คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวภายหลังการนำคณะลงพื้นที่ โดยระบุว่ารัฐมีข้อมูลอยู่แล้วว่าปีนี้จะเผชิญกับภัยแล้ง จึงต้องมีมาตรการเบื้องต้น ซึ่งวันนี้มาติดตามปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ ถือว่าอยู่ในระดับต่ำ จึงจำเป็นต้องเก็บน้ำไว้เพื่อการอุปโภคบริโภค ไม่เพียงพอที่จะทำการเกษตรได้
ดังนั้นสิ่งที่บกพร่องคือตั้งแต่ก่อนเข้าฤดูทำนารัฐบาลควรจะทำความเข้าใจกับประชาชน ใน จ.ขอนแก่นและใกล้เคียงว่าปีนี้มีความเสี่ยงที่จะไม่ได้ทำนา เพราะไม่มีน้ำ จึงจำเป็นต้องออกมาตรการที่ชัดเจนให้กับประชาชน
"อย่างที่บอกปีนี้ปลูกข้าวมา 4 รอบแล้ว ปลูกเสร็จก็ต้องไถทิ้ง ลงค่าเมล็ดค่าปุ๋ย ค่ายาไป 4 รอบเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซึ่งชาวบ้านก็มาตั้งคำถามว่าบ้าน อยู่รอบเขื่อน แต่ทำไมไม่มีน้ำให้ใช้" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
คุณหญิงสุดารัตน์ จึงเห็นว่า นายกรัฐมนตรี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ต้องกล้าพูดความจริงกับประชาชน ต้องประกาศพื้นที่ภัยพิบัติภัยแล้งให้กับประชาชนทันที
"ป่วยการที่จะไม่พูดความจริงกับประชาชนต้องพูดความจริงกับประชาชนว่ามันไม่สามารถทำนาได้ในฤดูกาลนี้ นาปีนี้ทำไม่ได้ในพื้นที่ไหนบ้าง และประกาศเป็นพื้นที่ภัยแล้งและกำหนดอัตราชดเชยเลยว่าไม่ทำนา ไม่ต้องไปลงทุนเพิ่ม ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินเพิ่ม" คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
ซึ่งเมื่อรัฐกำหนดอัตราการชดเชยชัดเจนแล้วประชาชนจะได้หาทางออกหาอาชีพเสริมเพิ่มเติมหรือเข้าไปใช้แรงงานในกรุงเทพฯหรือในหัวเมืองเพื่อทำมาหากิน
คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำด้วยว่าปัจจุบันมีข้อพิพาทเรื่องการใช้น้ำเกิดขึ้นระหว่างหน่วยงานของรัฐกับประชาชน ดังนั้นรัฐบาลต้องพูดความจริง เพราะไม่ใช่ จังหวัดขอนแก่น เท่านั้น แต่ยังมีจังหวัดอื่นๆ ซึ่งท้ายที่สุดก็ต้องประกาศเป็นพื้นที่เขตภัยพิบัติภัยแล้ง ขอให้เร่งรัดดำเนินการประกาศ เพื่อชดเชยทันที ดีกว่าปล่อยให้ประชาชนมีความหวังลมๆแล้งๆและไปกู้หนี้ยืมสินมาทำการเกษตรแต่ไม่มีน้ำให้ประชาชนใช้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยจะได้ติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
ด้าน ตัวแทนประชาชน ตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ยื่นหนังสือ ผ่านนางมุกดา พงษ์สมบัติ ส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย พร้อมเล่าข้อเท็จจริงให้คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เป็นข้อมูล นำข้อร้องเรียนไปสะท้อนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังประชาชนหลายราย ถูกเจ้าหน้าที่รัฐดำเนินคดี โดยอ้างว่า บุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งเป็นพื้นที่ ที่อยู่ตลอดแนวเขื่อนอุบลรัตน์ และเป็นพื้นที่ที่ใช้ทำมาหากินมากว่า70ปี แต่หลังจากมีข้อพิพาทเนื่องจากกรมอุทยาน และการไฟฟ้าฝ่ายผลิต ปักปันหลักเขตแดนใหม่ จึงกังวลว่าจะถูกดำเนินคดีเหมือนกับประชาชนหลายๆก่อนหน้านี้ จึงต้องการสื่อสารให้ภาครัฐรวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นให้ชัดเจน ว่าจะมีกระบวนการจัดสรรพื้นที่อย่างไร
ซึ่งตรงกับข้อมูล ของกำนันตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า จะมีประชาชน 200ถึง 300 ครัวเรือนได้รับผลกระทบ จากปัญหาที่เกิดขึ้นและมีประชาชนถูกดำเนินคดีไปแล้วหลายคนและเชื่อว่าการดำเนินการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้เรียกรับผลประโยชน์จากชาวบ้าน จึงต้องการให้มีการตรวจสอบในเรื่องดังกล่าว
ด้านนางมุกดา ซึ่งเป็นส.ส.ในพื้นที่พิพาท เผยว่ารับทราบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว จึงเรียกร้องไปถึงหน่วยงานรัฐ ให้ยุติการดำเนินคดีไว้ชั่วคราวเพื่อให้เกิดกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ พร้อมหาทางออกให้ประชาชน ขณะเดียวกันนางมุกดา จะพูดคุยกับเพื่อนสมาชิกส.ส.ให้พิจารณายื่นเรื่องดังกล่าวเสนอเป็นญัตติตั้งกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาข้อเท็จจริงและหาช่องทางช่วยเหลือต่อไป
พปชร.-พรรคร่วม บีบ ปชป. อย่าเพิ่งเร่งแก้รธน. ระวังเข้าทางฝ่ายค้าน-'ธนาธร' รอดคดีหุ้นสื่อ
https://www.matichon.co.th/politics/news_1581642
“ปชป.” กดดันหนัก แก้ รธน.ภายใน 1 ปี ตัวแทน “พปชร.-พรรคร่วม” ปรามหวั่น สร้างเงื่อนไขขัดแย้ง-กระทบเสถียรภาพรัฐบาล
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า สำหรับการจัดทำร่างนโยบายรัฐบาลนั้น ในระหว่างการจัดทำร่างนโยบายได้มีความพยายามกดดันอย่างหนักจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ยื่นเงื่อนไขในเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญภายใน 1 ปีแรกของรัฐบาลเข้ามา อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคร่วมรัฐบาล มองว่าเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องทำคือ การแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชน และไม่ต้องการให้มีเงื่อนไขความขัดแย้ง เพราะจะกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล ทำให้นักลงทุนไม่เชื่อมั่น ซึ่งจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชน พรรคร่วมรัฐบาลจึงเห็นพ้องกันว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่วาระสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ โดยหากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญควรผ่านกระบวนการอีกหลายขั้นตอน และควรรับฟังความเห็นจากประชาชน เพราะอย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญ 2560 ผ่านการทำประชามติ ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เห็นชอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้
อย่างไรก็ตาม พรรคร่วมรัฐบาลเห็นว่าควรบังคับใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปก่อน เพราะมีจุดแข็งอยู่ที่การปราบปรามการทุจริต ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศไทยมาโดยตลอด และนอกจากนี้ ในส่วนคดี ห้าม ส.ส.ถือหุ้นกิจการสื่อ โดยเฉพาะคดีของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ทำให้ฝ่ายค้านอยากแก้รัฐธรรมนูญในประเด็นดังกล่าวด้วย เพราะหากนายธนาธรโดนตัดสินว่า มีความผิด แต่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายธนาธรอาจจะพ้นผิด เนื่องจากอาจจะมีการระบุไว้ในกฎหมายให้ยกเว้นโทษย้อนหลัง ซึ่งฝ่ายค้านหวังจะใช้กรณีดังกล่าวให้เป็นประโยชน์ หากพรรคร่วมรัฐบาลตกหลุมพราง อาจจะเข้าทางของฝ่ายค้านได้