เราคบกับแฟนตอน17. ได้กันหลังคบ6เดือน ก็คบแบบหลบๆซ่อนๆแต่ไม่เสียการเรียน เเละที่หลบซ่อนเพราะกลัวครอบครัวรับไม่ได้ เราไม่เคยขอเงินครอบครัวเพื่อแฟน ออกแนวได้มาเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น ต่างคนต่างหารจ่าย เราถือว่าผิดที่มีรสนิยมทางเพศแบบนี้ (ยอมรับว่าขาดไม่ได้จริงๆ) แถมป้องกันทุกวิถีทาง จนครอบครัวจับได้ตอนอายุ18 กำลังขึ้นมหาลัย ครอบครัวพาญาติมาไกล่เกลี่ย สรุปได้ความว่าเรียนจบค่อยว่ากันอีกที เรา2คนก็แอบคบกันอีก พอตัดสินใจเข้ามหาลัย ที่จริงมีมหาลัยห่างจากบ้านแค่ครึ่งชั่วโมง แต่เรากลัวว่าพ่อจะบังคับไปกลับ(เวลาพ่อพูดจะชอบพูดแรงๆ เราเกลียดมาก และเขาชอบบงการ ขี้งก ขี้หวง ผลคือถ้าเราติดนี่ เขามาบ่อยแน่ๆ และอาจบังคับไปกลับค่ารถถูกกว่านอนหอ)เราจึงเลือกไปมหาลัยอีกที่ แฟนเราเขายอมที่จะขี่มอเตอร์ไซค์ขาละ70กิโล เพื่อมาเจอเรา ส่วนเราก็พยายามหาเวลา ทั้งแบ่งวิชาเรียนให้มีวันว่างยาว จะได้มีเวลาเจอกัน ชีวิตเรามองดูบ้ามาก ถ้าคนอื่นมารู้คงคิดว่าเราโคตรหน้ามืด แต่เรื่องเรียนเราก็ยังตั้งใจ แบ่งหมดทั้งวางแผนวันหยุด วางแผนค่าใช้จ่าย เงิน1000ต่อสัปดาห์ เราเจียดค่ารถไปกลับ200 กินเองวันละ30(เราชอบทำกับข้าวกินเองด้วย) เหลือพอที่จะเอาไว้ฉุกเฉิน200และเที่ยวกับแฟนในเงินที่เหลือ เราดันเป็นคนเสพติดความลำบากด้วย แต่ขอแค่มีแฟนเท่านั้น เท่าไหนเท่ากัน
เรื่องนี้ครอบครัวรู้ว่าเรายังติดต่อแฟนอยู่ ก็จะคอยด่าเราเวลาเราขอไม่กลับบ้านเสาร์อาทิตย์ (เราขอท่านกลับสัปดาห?เว้นสัปดาห์ แต่ท่านชอบตะวาด บังคับเรากลับทุกเสาร์อาทิตย์โดยท่านจะเป็นคนมาส่ง) แต่เมื่อจบมหาลัย ยอมรับว่ายังไม่รับใบปริญญา แต่ต้องรอ3เดือนจึงจะถึงวันรับ เรายอมรับว่าเบื่อที่ต้องตื่นมาทำงานทั้งวัน ไม่มีเวลาให้แฟน เราบอกพ่อว่าจะไปสมัครงาน ก็โดนเหน็บว่าตอแล งานที่เราสมัคร เข้างาน7โมง ออกบ่าย3 เราจึงออกบ้านตีห้า-6โมง ถึงบ้าน4-5โมง (เดินทาง30นาที+) ทำให้เรากลับไวก็ด่า กลับช้าก็ด่า นานวันยิ่งด่าหนักเรื่อยๆ เราจึงหนีออกมา ทางพ่อจึงโทรบอกญาติทุกคนว่าเราหนีออกมา ญาติเรียกตัวเราขึ้นไป และตะล่อมถามเรา เราเบื่อพ่อ เยื่อกรอบ เบื่อความกดดัน เบื่อที่สุดคือคำว่ายังไม่ถึงเวลา ตอนนี้อายุ22เขาว่าเรายังไม่พร้อมมีแฟนหรอก ยังไม่ควรที่จะออกมาอยู่กินส่วนตัว ญาติจึงให้ข้อเสนอว่าเราควรอยู่ที่นี่ แฟนคิดถึงก็ให้มาหา(เราอยู่ภาคใต้ เขาอยู่ภาคเหนือ) ไม่ได้ให้เลิกกัน แต่เว้นระยะห่าง ผู้หญิงที่ดีไม่ควรไปหาฝ่ายชาย คิดถึงก็โทรหากันเดี๋ยวนี้ี้เทคโนโลยีมันล้ำแล้ว รอรับวุฒิอีก1เดือน เขาจึงจะปล่อย เราจึงคิด ถ้าเป็นคุณจะทำยังไง หากผู้ชายห่างแฟน1เดือน คุณจะรอได้ไหม
คำว่าถ้าเขารอไม่ได้ แปลว่าไม่รักจริง สมัยนี้รอได้นานสุดเท่าไหร่
เรื่องนี้ครอบครัวรู้ว่าเรายังติดต่อแฟนอยู่ ก็จะคอยด่าเราเวลาเราขอไม่กลับบ้านเสาร์อาทิตย์ (เราขอท่านกลับสัปดาห?เว้นสัปดาห์ แต่ท่านชอบตะวาด บังคับเรากลับทุกเสาร์อาทิตย์โดยท่านจะเป็นคนมาส่ง) แต่เมื่อจบมหาลัย ยอมรับว่ายังไม่รับใบปริญญา แต่ต้องรอ3เดือนจึงจะถึงวันรับ เรายอมรับว่าเบื่อที่ต้องตื่นมาทำงานทั้งวัน ไม่มีเวลาให้แฟน เราบอกพ่อว่าจะไปสมัครงาน ก็โดนเหน็บว่าตอแล งานที่เราสมัคร เข้างาน7โมง ออกบ่าย3 เราจึงออกบ้านตีห้า-6โมง ถึงบ้าน4-5โมง (เดินทาง30นาที+) ทำให้เรากลับไวก็ด่า กลับช้าก็ด่า นานวันยิ่งด่าหนักเรื่อยๆ เราจึงหนีออกมา ทางพ่อจึงโทรบอกญาติทุกคนว่าเราหนีออกมา ญาติเรียกตัวเราขึ้นไป และตะล่อมถามเรา เราเบื่อพ่อ เยื่อกรอบ เบื่อความกดดัน เบื่อที่สุดคือคำว่ายังไม่ถึงเวลา ตอนนี้อายุ22เขาว่าเรายังไม่พร้อมมีแฟนหรอก ยังไม่ควรที่จะออกมาอยู่กินส่วนตัว ญาติจึงให้ข้อเสนอว่าเราควรอยู่ที่นี่ แฟนคิดถึงก็ให้มาหา(เราอยู่ภาคใต้ เขาอยู่ภาคเหนือ) ไม่ได้ให้เลิกกัน แต่เว้นระยะห่าง ผู้หญิงที่ดีไม่ควรไปหาฝ่ายชาย คิดถึงก็โทรหากันเดี๋ยวนี้ี้เทคโนโลยีมันล้ำแล้ว รอรับวุฒิอีก1เดือน เขาจึงจะปล่อย เราจึงคิด ถ้าเป็นคุณจะทำยังไง หากผู้ชายห่างแฟน1เดือน คุณจะรอได้ไหม