10 หนังล้างเเค้นของเกาหลี (Korean Revenge) ชั้นเยี่ยมเเห่งศตวรรษที่ 21

กระทู้สนทนา

ภาพยนตร์เกาหลี ภาพยนตร์ระทึกขวัญ ภาพยนตร์ชีวิต ภาพยนตร์แอ็คชั่น รางวัลภาพยนตร์

.
หลังความสำเร็จอันเป็นรูปธรรมของ The Vengeance Trilogy ทั้งด้านรางวัล คำวิจารณ์ เเละรวมไปถึงรายได้กว่า 4 เท่าของทุนสร้าง ทำให้หนังเกาหลีในช่วงเวลาต่อมามักที่จะเดินตามสูตรสำเร็จหนังปาร์คชานวุค กับการพลิกเเพลงผูกปมเเค้นเข้าเนื้อหาเเละถ่ายทอดออกมาด้วยความดิบโหด จนเรียกได้ว่าเป็นเอกลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของหนังเกาหลีที่นิยมใช้กันอย่างเเพร่หลาย...
.
.
.
.
.
.
.
.
10. Broken (2014)

การพรากสิ่งอันเป็นที่รักที่สุดของคนเป็นพ่อเป็นเเม่ เป็นการจุดชนวนเเค้นที่นิยมใช้ในหนังเกาหลีเพราะมันจะให้ความรู้สึกที่หนักเเน่นเเละน่าเชื่อถือต่อทุกการกระทำที่จะเกิดขึ้น เหมือนกับผู้เป็นพ่อในหนังเรื่องนี้ ที่หัวใจเเหลกสลายหลังพบว่าลูกที่เป็นดั่งเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจสิ่งสุดท้ายของชีวิตได้ถูกเเก๊งวัยรุ่นกระทำชำเราเเละฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหด ตัวหนังใช้เวลาไม่นานเพื่อบอกความจริงกับคนดูว่าต้นเหตุเกิดจากใคร ก่อนโฟกัสไปยังการไล่ล่าเพื่อคิดบัญชีเเค้นของผู้เป็นพ่อ ขณะเดียวกันฝั่งตำรวจที่ดูเเลคดีนี้ก็ต้องพยายามเเกะรอยเพื่อสาวถึงตัวผู้ก่อเหตุให้พบก่อนฝั่งผู้เป็นพ่อ ที่หมายมั่นจะทวงความยุติธรรมให้ลูกด้วยความตายของเเก๊งวัยรุ่นพวกนี้
.
.
.
.
.
.
.
.
9. Inside Men (2015)

การเมืองเฉือนคมสุดเข้มข้นที่ถูกขับเคลื่อนผ่านปมเเค้นของอดีตมาเฟียทรงอิทธิพลที่ถูกหักหลังจนต้องเสียเเขนไปข้างนึง จับพลัดจับผลูไปร่วมมือกับอัยการหนุ่มที่วางเป้าหมายในการเลื่อนขั้นด้วยการทำคดีสำคัญระดับประเทศในการชิงตำเเหน่งประธานาธิบดีที่เบื้องหลังเต็มไปด้วยการคอรัปชั่นระหว่างกลุ่มผู้มีอิทธิพลทั้งสื่อข่าว นักการเมือง เเละกลุ่มนักธุรกิจ ที่เกื้อหนุนกันเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่ฝั่งตัวเอกจะขุดคุ้ยเเละหาหลักฐานต่างๆเพื่อเอาผิด ถอนรากถอนโคนคนกลุ่มนี้ ทำให้ตัวหนังเต็มไปด้วยโมเมนต์ของการเฉือนคม จากเเผนการอันซับซ้อนที่คนดูต้องคอยวิเคราะห์ ประติดประต่อเรื่องราวให้ทันท่วงที
.
.
.
.
.
.
.
.
8. The Villainess (2017)

การบอกเล่าชีวิตอันน่าเศร้าของหญิงสาวที่มีชีวิตอยู่เพื่อรอวันเเก้เเค้นคนที่มาพรากชีวิตพ่อของเธอ ขณะเดียวกันอีกโลกหนึ่งในฐานะมือสังหาร เธอก็เป็นเเค่เครื่องมือ ถูกคนรอบตัวหักหลังซ้ำไปซ้ำมาจนไม่อาจเชื่อใจใครได้ โดยหนังจะเปิดเรื่องด้วยหนึ่งในลองเทคทรงคุณค่าเเห่งโลกภาพยนตร์ที่มีความยาวเกือบ 6 นาที ที่เธอบุกตะลุยรังฝูงโจร สังหารทุกคนที่ขวางหน้า ก่อนหนังจะตัด 2 ไทม์ไลน์ในอดีต (ช่วงวัยเด็กก่อนพ่อเธอถูกฆ่า, ช่วงที่เธอพบรักเเละถูกฝึกเป็นมือสังหาร) มาเเทรกสอดเหตุการณ์ปัจจุบันที่เธอถูกเเปลงโฉมเป็นมือสังหารคนใหม่ เพื่ออธิบายปม เสริมเเรงจูงใจ เเละพาไปสู่ฉากไคลเเม็กซ์ได้อย่างทรงพลัง
.
.
.
.
.
.
.
.
7. Bedevilled (2010)

ชีวิตเเสนรันทดของผู้เป็นเเม่ที่กลายเป็นเครื่องระบายอารมณ์ของสามี เเม้เธอต้องเจอความรุนเเรง ความเจ็บปวดเเสนสาหัสมากมายเพียงใด ก็สามารถทนอยู่เเละเเบกรับมันได้ เว้นเเต่จะส่งผลกระทบไปถึงลูกที่เป็นดั่งเเก้วตาดวงใจ ซึ่งหนังใช้ความละเอียดอ่อนของความรู้สึกเป็นตัวจุดชนวนความเเค้นของผู้เป็นเเม่ที่ต้องสูญเสียลูก จนไปกระตุ้นสัญชาติญาณดิบให้ตื่นขึ้น เปลี่ยนเธอเป็นเครื่องจักรสังหารออกไล่ล่าผู้คนที่เคยกระทำไม่ดีกับเธอเเละลูก เรียกว่าเป็นการปิดบัญชีเเค้นสุดโหด เเละสาเเก่ใจคนดูที่คอยเฝ้าดูชะตาชีวิต ลุ้นเอาใจช่วยให้พวกเธอได้พบกับช่วงเวลาดีๆสักครั้งในชีวิต เเม้วันนั้นอาจไม่มีวันเกิดขึ้นเเล้วก็ตาม
.
.
.
.
.
.
.
.
6. The Man from Nowhere (2010)

บ่อยครั้งที่หนังเกาหลีมักจะใช้เด็กมาเป็นตัวเเปรสำคัญในการกัดเซาะตัวตน สำรวจความเป็นมนุษย์ที่ยังหลงเหลืออยู่ในกลุ่มตัวร้ายหรือตัวเอกที่มีลักษณะสีเทา เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนเเปลงสำคัญของเรื่อง เหมือนกับหนังเรื่องนี้ที่ตัวเอกเป็นอดีตสายลับที่ผันตัวมาเปิดโรงรับจำนำเล็กๆในชุมชนเเออัด เพื่อหลบซ่อนจากอดีตอันเเสนเจ็บปวดที่ต้องเสียลูกเเละเมีย ก่อนเขาจะได้รู้จักกับเด็กสาวคนหนึ่งที่กลายมาเป็นเพื่อนคนสำคัญในชีวิต ซึ่งหนังก็วางปมให้เด็กสาวคนนั้นถูกลักพาตัว เป็นสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงต่อชีวิต ที่อดีตสายลับต้องทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจสิ่งสุดท้ายของชีวิต เเละฉากไคลเเม็กซ์ที่อัดเเน่นด้วยความเศร้าเเละโกรธเเค้น ก็เป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่าเด็กคนนี้มีค่ามากกับเขาเเค่ไหน
.
.
.
.
.
.
.
.
5. A Bittersweet Life (2005)

เมื่อความพลาดพลั้งเพียงครั้งเดียว กลับทำให้ความภักดีที่ผ่านมามันสูญค่า จึงเกิดเป็นการทวงเเค้นไถ่ถอนความยุติธรรมจากบุคคลที่เคยให้ความเคารพรัก เรียกว่าเป็นหนังที่ครบเครื่องทั้งความดิบโหด การปรุงเเต่งพล็อตที่ดูจำเจให้เกิดความน่าสนใจเเละตรึงคนดูได้อยู่หมัดตลอดทั้งเรื่อง จึงไม่เเปลกที่หนังจะถูกขนานนามว่าเป็นหนึ่งในหนังแก๊งสเตอร์ดีที่สุดของเกาหลี โดยหนังวางปมให้ตัวเอกถูกมอบหมายจากหัวหน้าที่มองเขาเป็นดั่งมือขวา ให้ตามติดชีวิตเเฟนสาวเเละหากพบว่าเธอไปเเอบมีชู้ให้รีบทำการเก็บทั้งคู่ เเต่เมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริง เขาก็ไม่สามารถตัดสินฆ่าทั้งคู่ลงได้ สุดท้ายคนที่ถูกเก็บดันกลายเป็นเขาเสียเอง ทว่าการรอดชีวิตได้ดั่งปาฏิหาริย์ ก็พาเขาไปสู่เป้าหมายเเห่งการทวงเเค้นจากหัวหน้าที่เคยเคารพรัก
.
.
.
.
.
.
.
.
4. Sympathy for Mr. Vengeance (2002)

ปฐมบทเเห่งไตรภาคล้างเเค้นของ 'ปาร์คชานวุค' ที่โดดเด่นในการออกเเบบคาเเรคเตอร์ เมื่อต่างฝ่ายก็เป็นสีเทา ไม่มีใครเป็นพระเอกหรือตัวร้าย คนดูไม่อาจเทใจเลือกข้างใดข้างหนึ่ง เพราะทุกคนต่างมีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง โดยหนังเริ่มด้วยการเซ็ทสถานการณ์ที่ยากลำบากของน้องชายหูหนวกที่ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อหาเงินมารักษาพี่สาวที่ป่วยโรคไต กระทั่งเข้าตาจนเลยเลือกที่จะลักพาตัวลูกของเศรษฐีมาเรียกค่าไถ่ เเต่ดันเกิดความผิดพลาดอย่างไม่ตั้งใจที่ทำให้เด็กคนนั้นเสียชีวิต จึงกลายเป็นชนวนเเห่งความเเค้นเเละการไล่ล่าสุดโหดของคุณพ่อเศรษฐีที่มีลูกเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวสิ่งสุดท้ายของชีวิต
.
.
.
.
.
.
.
.
3. Sympathy for Lady Vengeance (2005)

การปลดเปลื้องความเเค้นของ 'ปาร์คชานวุค' ที่เล่าโดยเน้นอารมณ์สุนทรีย์เพื่อลดทอนความรุนเเรงเเละให้สอดรับกับคาเเรคเตอร์หวานดุของตัวเอกที่สวมบทโดย 'อียองเเอ' หญิงสาวที่จำยอมรับโทษจำคุก13 ปีในข้อหาลักพาตัวเเละฆาตกรรมเด็กวัย 5 ขวบอย่างเหี้ยมโหด หนังโฟกัสไปยังช่วงเวลาที่เธอได้พ้นโทษเเละไม่ลืมที่จะล้างเเค้นชายที่ทำให้เธอต้องรับผิดในสิ่งที่ตัวเองไม่ได้เป็นผู้ก่อ ซึ่งวิธีการล้างเเค้นเรียกว่าเป็นจุดเเข็งสำคัญของภาคนี้ ที่ผู้ถูกกระทำทุกฝ่ายจะได้รับความยุติธรรมร่วมกัน โดยชายที่ถูกล้างแค้นจะได้รับความเจ็บปวด รุนเเรงทีละเล็กละน้อย จนค่อยๆซึมซาบ และตระหนักถึงความผิดที่ได้ทำลงไป
.
.
.
.
.
.
.
.
2. I Saw the Devil (2010)

เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร พุทธสุภาษิตที่ปรารถนาจะให้มนุษย์ใช้ชีวิตอย่างสุขสงบ ไม่อาฆาตเเค้นต่อกัน เเต่บางครั้งความเเค้นบางอย่างก็ไม่ใช่สิ่งที่จะยอมกันง่ายๆ หรือใช้สันติวิธีมายุติความอาฆาตที่เกิดขึ้น เหมือนสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอกของเรื่องนี้ หลังพบว่าเเฟนสาวที่กำลังตั้งท้องถูกฆ่าตายอย่างเหี้ยมโหดด้วยฝีมือฆาตกรต่อเนื่อง ร่างของเธอที่ถูกหั่นเเยกเป็นชิ้นๆกลายเป็นภาพจำที่เขาไม่มีวันลืม เเละสาบานกับตนเองว่าจะจับฆาตกรรายนี้มาลงโทษเเละทรมานอย่างสาสม ซึ่งนั่นก็ทำให้ตลอดทั้งเรื่องจะเต็มไปด้วยฉากเเอคชั่น การไล่ล่าเฉือนคมที่คนดูไม่อาจละสายตาไปจากมันได้
.
.
.
.
.
.
.
.
1. Oldboy (2003)

ผลงานลำดับที่สองจากไตรภาคเเห่งการล้างเเค้นของ 'ปาร์คชานวุค' ที่คว้ารางวัลกรังด์ปรีซ์จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ครั้งที่ 57 ด้วยความเเปลกของพล็อตกับไคลเเม็กซ์อันทรงพลังที่ไม่เพียงเเต่ตัวละครที่ต้องเจ็บปวด คนดูยังรู้สึกช็อกเเละสะเทือนใจไม่ต่างกันไป จนกลายเป็นอีกผลงานขึ้นหิ้งของเกาหลีที่ผู้คนทั่วโลกต่างยกย่องเชิดชู โดยหนังเปิดปมด้วยตัวเอกที่ถูกจับขังไว้ในห้องเล็กๆ จนเวลาล่วงเลยไป 15 ปี เขาก็ถูกปล่อยออกมาเป็นอิสระ ก่อนหนังจะพาคนดูเข้าสู่วังวนเเห่งการล้างเเค้นของตัวเอกที่พยายามสืบหาผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ เเละไม่นานนักก็ได้พบหญิงสาวปริศนาที่มีชะตาต้องกันตั้งแต่แรกพบ และจะกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่พาตัวเอกไปรับรู้ความจริงทั้งหมด
.

.
.
.
.
.
.
.

ทวิตเตอร์ @Review_Me_
พูดคุยหนังทั่วไปเเละซีรีส์(โดยเฉพาะฝั่งเกาหลี)
.
เพจเฟสบุ๊ค
https://www.facebook.com/Criticalme
.
เเละขออนุญาตฝากไอจีเพจด้วยนะครับ @review_me__