
ก่อนอื่นต้องขออภัยคนที่รอตามอ่าน A Week in Seoul อยู่ เนื่องจากช่วงนี้งานยุ่งมาก พอเริ่มเคลียร์ได้ก็เกิดป่วยอีก ทำให้ผลัดไปหลายวันกว่าจะได้ฤกษ์กลับมาเขียนต่อตอนที่ 2 ครับ
ตอนที่ 1 สามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่นี่ครับ >>>
https://pantip.com/topic/38990765
ส่วนในกระทู้นี้ เรามาต่อกันเป็นตอนที่ 2 หลังจากไปเตร็ดเตร่ในโซลกับสถานที่ๆ ค่อนข้างเป็นภาพจำกันแล้ว รอบนี้เราจะเริ่มฉีกแนวออกไปบ้าง
Day 3
Column cafe
대림창고
คอลัมน์คาเฟ่ (แทริมชังโก)
เช้าวันที่ 3 ในกรุงโซล ผมเลือกจะไปเดินเล่นแถวย่านอุตสาหกรรมของโซล ที่ชื่อว่า Seongsu (성수) ซึ่งมีฉายาว่า The Brooklyn of Seoul ด้วยความที่ตึกรามบ้านช่องส่วนใหญ่เป็นอาคารอิฐส้มของโรงงานเก่าที่ปัจจุบันถูกดัดแปลงมาเป็นอาคารบ้านเรือนและร้านค้าต่างๆ
คาเฟ่แห่งหนึ่งที่เหล่านักท่องเที่ยวรู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือร้าน Onion คาเฟ่ในอาคารร้างดัดแปลงที่คงความดิบของตึกร้างเอาไว้ แต่รอบนี้เราไม่ได้แวะไปครับ ... !
หลังจากที่เดินเล่นในย่านนี้มาได้พักใหญ่ ท้องก็เริ่มเรียกร้องหาของกิน แต่ไม่อยากไปร้าน Onion ก็เลยของ search หาคาเฟ่อื่นๆ ที่น่าสนใจในย่านซองซู ก็เลยมาเจอร้าน Column cafe ที่มีสโลแกนเท่ๆ ว่า The coolest cafe ที่ระบุว่าเป็นโกดังเก่าที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นคาเฟ่เท่ๆ ที่ตกแต่งด้วยอิฐ ปูน และไม้ ตามสโลแกน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่การจัดแสดงงานศิลปะขนาดย่อมๆ อยู่ภายในร้านด้วย
เมนูในร้าน Column cafe จะเป็นกาแฟ เครื่องดื่มสามัญ และอาหารสไตล์อิตาเลียน ผมได้ลองสั่งข้าว Risotto มาทานคู่กับชาเขียวเย็น ซึ่งรสชาติดีมากทั้ง 2 เมนู และคาดว่าเมนูอื่นๆ ก็น่าจะอร่อยไม่แพ้กัน เพราะสังเกตว่ามีคนเข้าออกร้านตลอดเวลาแม้จะยังเช้าอยู่ก็ตาม และแม้ราคาอาหารที่นี่จะค่อนข้างสูงอยู่หน่อยๆ แต่ก็คุ้มค่ากับรสชาติและบรรยากาศในร้านที่ได้มา
กระซิบเพิ่มเติมนิดหน่อย ... พนักงานในร้านแจ้งว่าร้านนี้ห้ามถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายภาพนะครับ (แต่ใช้โทรศัพท์ถ่ายได้ซะงั้น)
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานีซองซู (Seongsu) ทางออกที่ 3 ใช้ GPS หาด้วยคำว่า Column cafe หรือ 대림창고 (ใน Kakao Map)
Yongma Land
용마랜드
ยงมาแลนด์
หลังจากทานอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาออกไปเตร็ดเตร่กันนอกเมืองบ้าง สถานที่ต่อไปคือสวนสนุกร้างที่จู่ๆ ก็กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมในการไปถ่ายรูปเล่น เพราะที่นี่ได้ถูกใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ MV เพลงดังๆ หลายเพลง
ยงมาแลนด์ดินแดนแห่งความฝัน สวนสนุกร้างที่ไม่ถูกทอดทิ้งที่เราอาจจะต้องใช้เวลามากหน่อยในการเดินทางไปเยือน จนกระทั่ง Taxi พามาส่งหน้าป่าข้างตึกร้างโทรมๆ ที่ดูเปลี่ยวและน่ากลัว บรรยากาศเหมือนจะโดนหลอกมาฆาตกรรมเลย 555 แต่จริงๆ แล้วตรงนี้คือจุดที่กล้ที่สุดที่จะมาส่งนักท่องเที่ยวเพื่อเดินทะลุป่าออกไปยังหน้าประตูทางเข้าของสวนสนุกยงมาแลนด์
เมื่อมาถึงทางเข้าแล้วให้มองหาคุณลุงผู้ดูแลสถานที่เพื่อจ่ายค่าผ่านประตูสวนสนุกราคา 5,000 วอน หลังจากนี้ก็เข้าไปหามุมแปลกๆ เท่ๆ แนวๆ สวยๆ เพื่อถ่ายภาพตามความครีเอทิฟของแต่ละคนได้เต็มที่ภายในสวนสนุกร้างแห่งนี้ หรือถ้าใครอยากให้รูปของคุณดูอลังการกว่านี้ให้ลองมาช่วงเย็นๆ ค่ำๆ เพื่อเปย์ค่าเปิดไฟในสวนสนุกเพิ่ม ก็จะได้ภาพถ่ายกับไฟสวยๆ ในช่วงกลางคืนติดกล้องไปด้วย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานีวังชิมนี (Wangsimni) ต่อรถไฟฟ้า Wangsimni Line GJ ลงสถานีมันกู (Mangu) ทางออกที่ 1 จากนั้นให้ขึ้น Taxi ที่หน้าสถานีรถไฟไปยงมาแลนด์ (Yongma Land)
Hongkong Banjeom
홍콩반점
ฮ่องกงบันจอม
การเดินทางไปยงมาแลนด์ค่อนข้างทำเอาเสียเวลาไปเกือบทั้งวัน แต่ก็คุ้มสำหรับรูปถ่ายที่ได้มา ช่วงเย็นๆ เลยขอมานั่ง slow life ชิลด์ๆ อยู่แถวๆ ที่พัก เป็นสวนสาธารณะขนาดย่อมที่บรรยากาศดี อยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยซอกัง (서강대학교) ตกแต่งด้วยรางรถไฟ และมีรูปปั้นมานะแอบดูใต้กระโปรงของมานีตั้งอยู่เป็นจุดสังเกต
ตะวันใกล้ตกดินแล้ว ก็ได้เวลาเคลื่อนย้ายร่างกายไปเตร็ดเตร่ต่อที่ย่าน shopping สุดฮิตอีกแห่งหนึ่งของกรุงโซล นั่นคือย่านฮงแด หรือ ถนนรอบๆ มหาวิทยาลัยฮงอิก ถ้าเปรียบกับกรุงเทพฯ ก็คือย่านสยามข้างๆ จุฬาฯ นั่นแหละครับ
แต่...รอบนี้แค่แวะมา เพื่อมาทานจาจังมยอนในตำนาน ร้าน Hongkong Banjeom (홍콩반점)
จริงๆ แล้ว Hongkong Banjeom ก็เป็นอีกร้านที่มีสาขาอยู่เต็มเกาหลี แต่สาขานี้น่าจะสะดวกสำหรับผมที่สุดแล้ว เมนูที่ทุกคนต้องมาทานก็คือเจ้าบะหมี่ซอสดำ หรือ จาจังมยอน (짜장면) เสิร์ฟร้อนๆ กลิ่นหอมๆ รสชาติอร่อย ในปริมาณที่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวครับ แอบเสียดาย ถ้ามากันหลายคนน่าจะได้ลองหลายเมนู ผมเจอจาจังมยอนไปจานเดียวก็จอดแล้ว อดลองเมนูอื่นๆ ในร้านที่ก็น่าทานไม่แพ้กัน ไว้งวดหน้าแล้วกันนะ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานีฮงแด (Hongdae / Hongik University ) ทางออกที่ 9
Otaku Playground
홍대 오덕후 놀이터
ฮงแด โอตอกกุ โนรีถ่อ
ระหว่างทางที่กำลังเดินกลับรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็เกิดไปสะดุดตากับเจ้าตุ๊กตา Finn กับ Jake (Adventure Time) ตัวใหญ่ ที่โดดเด่นอยู่ในซอกหลืบ เชื้อเชิญให้เดินเข้าไปในซอยนั้น ทำให้มาพบกับร้านของเล่นสีสันสดใส ที่ข้างในมีของเล่นของที่ระลึกจากการ์ตูนเกือบทุกเรื่องที่พอจะนึกออก ร้านนี้มีชื่อว่า ฮงแด โอตอกกุ โนรีถ่อ (홍대 오덕후 놀이터) เนื่องจากหาชื่อภาษาอังกฤษไม่เจอ จึงขอถือวิสาสะตั้งเองว่า Otaku Playground ตามคำแปลของภาษาเกาหลี
ชั้นล่างของร้านจะเป็นดงกาชาปองล้วนๆ ที่ตั้งอยู่เรียงรายไปทั่วชั้น
ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นของเล่น ของสะสม ของที่ระลึกของการ์ตูนเรื่องต่างๆ ที่ต้องใช้เวลาในการเดินหาของที่อยากได้ซักหน่อย เพราะมีเยอะมากจริงๆ '
และชั้นที่ 3 จะเป็นตู้เกมจ้า
หวังว่าซอกหลืบนี้จะช่วยเติมเต็มหัวใจของนักท่องเที่ยวสายโอตาคุที่มาเที่ยวเกาหลีได้บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ สำหรับผมเองก็ได้ทั้งของซื้อและของฝากซื้อกลับมาให้เพื่อนๆ ในไทยได้พอสมควรเลยแหละ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานีฮงแด (Hongdae / Hongik University ) ทางออกที่ 9
Day 4
Byeokje Station
벽제역
อุโมงค์พยอกเจ
เข้าสู่วันที่ 4 ในโซล ครึ่งทางของทริปนี้กันแล้ว วันนี้จึงขอเที่ยวน้อยๆ เป็นการพักเท้า ตื่นสายๆ ให้คุ้มค่ากับคำว่ามาพักผ่อน อาบน้ำแต่งตัวอย่างไม่เร่งรีบเพื่อเดินทางออกจากกรุงโซลด้วยรถบัสไปประมาณ 1 ชั่วโมงมายังอุโมงค์พยอกเจ
อุโมงค์พยอกเจเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยกเลิกการใช้เส้นทางนี้แล้ว กลายเป็นอุโมงค์ร้างที่ยังสภาพดีอยู่ หลังจากที่อุโมงค์แห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ MV ของวงไอดอลเกาหลี GOT7 ผู้คนก็แห่ทยอยมาจนเป็นที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่หนุ่มสาวเกาหลีนิยมมาถ่ายภาพอาร์ตกันที่นี่ โดยเฉพาะคู่รัก ซึ่งในวันที่ไปก็มีคู่รักมาถ่ายรูปคู่กันหลายคู่เลย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 3 ลงสถานีพุล-กวัง (Bulgwang) ทางออกที่ 8 เดินตรงมาถึงร้าน Burger King ให้ข้ามถนนมาเพื่อรอรถบัสสาย 774 ตรงป้ายที่อยู่บนเกาะกลางถนน (ป้าย 12-021) และลงป้าย พยอกแจยอก (Byeokje Station) เดินหาร้าน 7-ELEVEn แล้วเดินอ้อมไปข้างหลังร้าน ตัวอุโมงค์พยอกเจจะซ่อนอยู่ด้านหลังร้านครับ
Big Guy's Lobster
บิ๊ก กายส์ ล็อบสเตอร์
เดินทางกลับเข้าโซล มาหาของกินอร่อยๆ สำหรับคนที่ชอบกินล็อบสเตอร์ต้องไม่พลาดร้านนี้ ร้าน Big Guy's Lobster เมนูล็อบสเตอร์ตัวโตๆ ปรุงสดๆ เนื้อเด้งๆ ร้านเด็ดของกรุงโซล มีหลายสาขาเท่าที่เช็คมา เช่น Hyundai Department Store, Myeongdong เป็นต้น แต่สาขาที่ผมไปทานเป็นสาขา Lotte World Mall หรือที่เดียวกับ Land Mark ยักษ์ใหญ่อย่าง Lotte World Tower นั่นเอง
ร้าน Big Guy's Lobster จะมีเมนูหลัก 4 เมนู ในราคาเท่ากันที่ 25 USD และมีกิมมิคเล็กๆ อยู่ที่ราคาอาหารในร้านจะถูกแปลงจาก Dollar มาเป็นเงิน Won ด้วย Exchange Rate ในแต่ละวัน แปลว่าถ้าเราไปทานด้วยราคาเงินวอน ราคาจะเปลี่ยนแปลงไปในทุกๆ วัน ซึ่งทางร้านจะมีป้ายบอกราคาประจำวันอยู่หน้าร้านให้ลูกค้าได้รับรู้กันก่อนเข้าไปสั่งรับประทาน
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานีจัมซิล (Jamsil) ทางออกที่ 2
Lotte World Tower Fireworks Festival 2019
롯데월드타워 불꽃축제 2019
มาถึง Highlight ประจำการเตร็ดเตร่ครั้งนี้ ที่ไม่ได้คิดว่าจะได้ชมมาก่อน เนื่องจากตอนแรกผมตั้งใจว่าจะขึ้นไปชมวิวบนตึก Lotte World Tower เพราะเป็นธรรมเนียมส่วนตัวที่ชอบไปชมวิวบนตึกสูงในแต่ละเมืองที่ไปเที่ยว แต่รอบนี้มีเพื่อนส่งข่าวมาบอกว่าในวันนั้นจะมีโชว์พลุประจำปีของ Lotte World Tower พอดิบพอดี ดังนั้นแผนการที่จะขึ้นตึกจึงถูกเปลี่ยนไปยังจุดชมพลุแทน
ฝูงประชาชนทั้งคนเกาหลี คนญี่ปุ่น รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลต่างทยอยกันเดินทางไปยังจุดชมพลุที่ทางงานได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่บอกทางไว้ให้ แต่ในความเป็นจริง เรียกได้ว่า ไม่ต้องถามทางใคร แค่เดินตามๆ กันไปก็พอ ข้อดีของการมาคนเดียวคือการเดินซอกแซกมองหาจุดที่คิดว่าน่าจะได้มุมมองที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ โดยไม่ต้องมาระวังว่าจะหลงกับใคร สุดท้ายก็มาปักหลักที่ริมถนนท่ามกลางเหล่าคู่รักที่หิ้วกันมาเป็นคู่ๆ ... ทำเอารู้สึกหนาวขึ้นกว่าเดิมจากที่หนาวอยู่แล้วกันเลยเชียว
สำหรับความตื่นตาตื่นใจของพลุ ขอเอาคลิปมุมสวยๆ จากใน Youtube มาแปะให้ดูแทน เนื่องจากคลิปที่ผมถ่ายมาไฟล์มีปัญหา เหลือแต่มารูปให้ดูกันเล็กๆ น้อยๆ ถือว่าจบการเตร็ดเตร่วันที่ 4 ในกรุงโซล
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานีจัมซิล (Jamsil) ทางออกที่ 2

ผ่านไปครึ่งทริปของการเตร็จเตร่ไปในกรุงโซลแล้ว อีก 3 วันที่เหลือขอยกยอดไปเล่าต่อใน A Week in Seoul ตอนที่ 3 สำหรับเนื้อหาถ้าถูกใจก็ฝากกด Like กด Share กันได้ ไม่ต้อง CF นะครับ แล้วเจอกันจ้า
[CR] A Week in Seoul - เตร็ดเตร่ไปในกรุงโซล - #2
ก่อนอื่นต้องขออภัยคนที่รอตามอ่าน A Week in Seoul อยู่ เนื่องจากช่วงนี้งานยุ่งมาก พอเริ่มเคลียร์ได้ก็เกิดป่วยอีก ทำให้ผลัดไปหลายวันกว่าจะได้ฤกษ์กลับมาเขียนต่อตอนที่ 2 ครับ
ตอนที่ 1 สามารถย้อนกลับไปอ่านได้ที่นี่ครับ >>> https://pantip.com/topic/38990765
ส่วนในกระทู้นี้ เรามาต่อกันเป็นตอนที่ 2 หลังจากไปเตร็ดเตร่ในโซลกับสถานที่ๆ ค่อนข้างเป็นภาพจำกันแล้ว รอบนี้เราจะเริ่มฉีกแนวออกไปบ้าง
대림창고
คอลัมน์คาเฟ่ (แทริมชังโก)
เช้าวันที่ 3 ในกรุงโซล ผมเลือกจะไปเดินเล่นแถวย่านอุตสาหกรรมของโซล ที่ชื่อว่า Seongsu (성수) ซึ่งมีฉายาว่า The Brooklyn of Seoul ด้วยความที่ตึกรามบ้านช่องส่วนใหญ่เป็นอาคารอิฐส้มของโรงงานเก่าที่ปัจจุบันถูกดัดแปลงมาเป็นอาคารบ้านเรือนและร้านค้าต่างๆ
คาเฟ่แห่งหนึ่งที่เหล่านักท่องเที่ยวรู้จักกันเป็นอย่างดีก็คือร้าน Onion คาเฟ่ในอาคารร้างดัดแปลงที่คงความดิบของตึกร้างเอาไว้ แต่รอบนี้เราไม่ได้แวะไปครับ ... !
หลังจากที่เดินเล่นในย่านนี้มาได้พักใหญ่ ท้องก็เริ่มเรียกร้องหาของกิน แต่ไม่อยากไปร้าน Onion ก็เลยของ search หาคาเฟ่อื่นๆ ที่น่าสนใจในย่านซองซู ก็เลยมาเจอร้าน Column cafe ที่มีสโลแกนเท่ๆ ว่า The coolest cafe ที่ระบุว่าเป็นโกดังเก่าที่ถูกนำมาดัดแปลงเป็นคาเฟ่เท่ๆ ที่ตกแต่งด้วยอิฐ ปูน และไม้ ตามสโลแกน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่การจัดแสดงงานศิลปะขนาดย่อมๆ อยู่ภายในร้านด้วย
เมนูในร้าน Column cafe จะเป็นกาแฟ เครื่องดื่มสามัญ และอาหารสไตล์อิตาเลียน ผมได้ลองสั่งข้าว Risotto มาทานคู่กับชาเขียวเย็น ซึ่งรสชาติดีมากทั้ง 2 เมนู และคาดว่าเมนูอื่นๆ ก็น่าจะอร่อยไม่แพ้กัน เพราะสังเกตว่ามีคนเข้าออกร้านตลอดเวลาแม้จะยังเช้าอยู่ก็ตาม และแม้ราคาอาหารที่นี่จะค่อนข้างสูงอยู่หน่อยๆ แต่ก็คุ้มค่ากับรสชาติและบรรยากาศในร้านที่ได้มา
กระซิบเพิ่มเติมนิดหน่อย ... พนักงานในร้านแจ้งว่าร้านนี้ห้ามถ่ายภาพด้วยกล้องถ่ายภาพนะครับ (แต่ใช้โทรศัพท์ถ่ายได้ซะงั้น)
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานีซองซู (Seongsu) ทางออกที่ 3 ใช้ GPS หาด้วยคำว่า Column cafe หรือ 대림창고 (ใน Kakao Map)
용마랜드
ยงมาแลนด์
หลังจากทานอิ่มแล้ว ก็ได้เวลาออกไปเตร็ดเตร่กันนอกเมืองบ้าง สถานที่ต่อไปคือสวนสนุกร้างที่จู่ๆ ก็กลายเป็นสถานที่ยอดนิยมในการไปถ่ายรูปเล่น เพราะที่นี่ได้ถูกใช้เป็นโลเคชั่นในการถ่ายทำ MV เพลงดังๆ หลายเพลง
ยงมาแลนด์ดินแดนแห่งความฝัน สวนสนุกร้างที่ไม่ถูกทอดทิ้งที่เราอาจจะต้องใช้เวลามากหน่อยในการเดินทางไปเยือน จนกระทั่ง Taxi พามาส่งหน้าป่าข้างตึกร้างโทรมๆ ที่ดูเปลี่ยวและน่ากลัว บรรยากาศเหมือนจะโดนหลอกมาฆาตกรรมเลย 555 แต่จริงๆ แล้วตรงนี้คือจุดที่กล้ที่สุดที่จะมาส่งนักท่องเที่ยวเพื่อเดินทะลุป่าออกไปยังหน้าประตูทางเข้าของสวนสนุกยงมาแลนด์
เมื่อมาถึงทางเข้าแล้วให้มองหาคุณลุงผู้ดูแลสถานที่เพื่อจ่ายค่าผ่านประตูสวนสนุกราคา 5,000 วอน หลังจากนี้ก็เข้าไปหามุมแปลกๆ เท่ๆ แนวๆ สวยๆ เพื่อถ่ายภาพตามความครีเอทิฟของแต่ละคนได้เต็มที่ภายในสวนสนุกร้างแห่งนี้ หรือถ้าใครอยากให้รูปของคุณดูอลังการกว่านี้ให้ลองมาช่วงเย็นๆ ค่ำๆ เพื่อเปย์ค่าเปิดไฟในสวนสนุกเพิ่ม ก็จะได้ภาพถ่ายกับไฟสวยๆ ในช่วงกลางคืนติดกล้องไปด้วย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานีวังชิมนี (Wangsimni) ต่อรถไฟฟ้า Wangsimni Line GJ ลงสถานีมันกู (Mangu) ทางออกที่ 1 จากนั้นให้ขึ้น Taxi ที่หน้าสถานีรถไฟไปยงมาแลนด์ (Yongma Land)
홍콩반점
ฮ่องกงบันจอม
การเดินทางไปยงมาแลนด์ค่อนข้างทำเอาเสียเวลาไปเกือบทั้งวัน แต่ก็คุ้มสำหรับรูปถ่ายที่ได้มา ช่วงเย็นๆ เลยขอมานั่ง slow life ชิลด์ๆ อยู่แถวๆ ที่พัก เป็นสวนสาธารณะขนาดย่อมที่บรรยากาศดี อยู่ตรงข้ามมหาวิทยาลัยซอกัง (서강대학교) ตกแต่งด้วยรางรถไฟ และมีรูปปั้นมานะแอบดูใต้กระโปรงของมานีตั้งอยู่เป็นจุดสังเกต
ตะวันใกล้ตกดินแล้ว ก็ได้เวลาเคลื่อนย้ายร่างกายไปเตร็ดเตร่ต่อที่ย่าน shopping สุดฮิตอีกแห่งหนึ่งของกรุงโซล นั่นคือย่านฮงแด หรือ ถนนรอบๆ มหาวิทยาลัยฮงอิก ถ้าเปรียบกับกรุงเทพฯ ก็คือย่านสยามข้างๆ จุฬาฯ นั่นแหละครับ
แต่...รอบนี้แค่แวะมา เพื่อมาทานจาจังมยอนในตำนาน ร้าน Hongkong Banjeom (홍콩반점)
จริงๆ แล้ว Hongkong Banjeom ก็เป็นอีกร้านที่มีสาขาอยู่เต็มเกาหลี แต่สาขานี้น่าจะสะดวกสำหรับผมที่สุดแล้ว เมนูที่ทุกคนต้องมาทานก็คือเจ้าบะหมี่ซอสดำ หรือ จาจังมยอน (짜장면) เสิร์ฟร้อนๆ กลิ่นหอมๆ รสชาติอร่อย ในปริมาณที่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวครับ แอบเสียดาย ถ้ามากันหลายคนน่าจะได้ลองหลายเมนู ผมเจอจาจังมยอนไปจานเดียวก็จอดแล้ว อดลองเมนูอื่นๆ ในร้านที่ก็น่าทานไม่แพ้กัน ไว้งวดหน้าแล้วกันนะ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานีฮงแด (Hongdae / Hongik University ) ทางออกที่ 9
홍대 오덕후 놀이터
ฮงแด โอตอกกุ โนรีถ่อ
ระหว่างทางที่กำลังเดินกลับรถไฟฟ้าใต้ดิน ก็เกิดไปสะดุดตากับเจ้าตุ๊กตา Finn กับ Jake (Adventure Time) ตัวใหญ่ ที่โดดเด่นอยู่ในซอกหลืบ เชื้อเชิญให้เดินเข้าไปในซอยนั้น ทำให้มาพบกับร้านของเล่นสีสันสดใส ที่ข้างในมีของเล่นของที่ระลึกจากการ์ตูนเกือบทุกเรื่องที่พอจะนึกออก ร้านนี้มีชื่อว่า ฮงแด โอตอกกุ โนรีถ่อ (홍대 오덕후 놀이터) เนื่องจากหาชื่อภาษาอังกฤษไม่เจอ จึงขอถือวิสาสะตั้งเองว่า Otaku Playground ตามคำแปลของภาษาเกาหลี
ชั้นล่างของร้านจะเป็นดงกาชาปองล้วนๆ ที่ตั้งอยู่เรียงรายไปทั่วชั้น
ส่วนชั้นที่ 2 จะเป็นของเล่น ของสะสม ของที่ระลึกของการ์ตูนเรื่องต่างๆ ที่ต้องใช้เวลาในการเดินหาของที่อยากได้ซักหน่อย เพราะมีเยอะมากจริงๆ '
และชั้นที่ 3 จะเป็นตู้เกมจ้า
หวังว่าซอกหลืบนี้จะช่วยเติมเต็มหัวใจของนักท่องเที่ยวสายโอตาคุที่มาเที่ยวเกาหลีได้บ้าง ไม่มากก็น้อยนะครับ สำหรับผมเองก็ได้ทั้งของซื้อและของฝากซื้อกลับมาให้เพื่อนๆ ในไทยได้พอสมควรเลยแหละ
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานีฮงแด (Hongdae / Hongik University ) ทางออกที่ 9
벽제역
อุโมงค์พยอกเจ
เข้าสู่วันที่ 4 ในโซล ครึ่งทางของทริปนี้กันแล้ว วันนี้จึงขอเที่ยวน้อยๆ เป็นการพักเท้า ตื่นสายๆ ให้คุ้มค่ากับคำว่ามาพักผ่อน อาบน้ำแต่งตัวอย่างไม่เร่งรีบเพื่อเดินทางออกจากกรุงโซลด้วยรถบัสไปประมาณ 1 ชั่วโมงมายังอุโมงค์พยอกเจ
อุโมงค์พยอกเจเป็นอุโมงค์รถไฟที่ยกเลิกการใช้เส้นทางนี้แล้ว กลายเป็นอุโมงค์ร้างที่ยังสภาพดีอยู่ หลังจากที่อุโมงค์แห่งนี้ถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำ MV ของวงไอดอลเกาหลี GOT7 ผู้คนก็แห่ทยอยมาจนเป็นที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่หนุ่มสาวเกาหลีนิยมมาถ่ายภาพอาร์ตกันที่นี่ โดยเฉพาะคู่รัก ซึ่งในวันที่ไปก็มีคู่รักมาถ่ายรูปคู่กันหลายคู่เลย
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 3 ลงสถานีพุล-กวัง (Bulgwang) ทางออกที่ 8 เดินตรงมาถึงร้าน Burger King ให้ข้ามถนนมาเพื่อรอรถบัสสาย 774 ตรงป้ายที่อยู่บนเกาะกลางถนน (ป้าย 12-021) และลงป้าย พยอกแจยอก (Byeokje Station) เดินหาร้าน 7-ELEVEn แล้วเดินอ้อมไปข้างหลังร้าน ตัวอุโมงค์พยอกเจจะซ่อนอยู่ด้านหลังร้านครับ
Big Guy's Lobster
บิ๊ก กายส์ ล็อบสเตอร์
เดินทางกลับเข้าโซล มาหาของกินอร่อยๆ สำหรับคนที่ชอบกินล็อบสเตอร์ต้องไม่พลาดร้านนี้ ร้าน Big Guy's Lobster เมนูล็อบสเตอร์ตัวโตๆ ปรุงสดๆ เนื้อเด้งๆ ร้านเด็ดของกรุงโซล มีหลายสาขาเท่าที่เช็คมา เช่น Hyundai Department Store, Myeongdong เป็นต้น แต่สาขาที่ผมไปทานเป็นสาขา Lotte World Mall หรือที่เดียวกับ Land Mark ยักษ์ใหญ่อย่าง Lotte World Tower นั่นเอง
ร้าน Big Guy's Lobster จะมีเมนูหลัก 4 เมนู ในราคาเท่ากันที่ 25 USD และมีกิมมิคเล็กๆ อยู่ที่ราคาอาหารในร้านจะถูกแปลงจาก Dollar มาเป็นเงิน Won ด้วย Exchange Rate ในแต่ละวัน แปลว่าถ้าเราไปทานด้วยราคาเงินวอน ราคาจะเปลี่ยนแปลงไปในทุกๆ วัน ซึ่งทางร้านจะมีป้ายบอกราคาประจำวันอยู่หน้าร้านให้ลูกค้าได้รับรู้กันก่อนเข้าไปสั่งรับประทาน
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานีจัมซิล (Jamsil) ทางออกที่ 2
Lotte World Tower Fireworks Festival 2019
롯데월드타워 불꽃축제 2019
มาถึง Highlight ประจำการเตร็ดเตร่ครั้งนี้ ที่ไม่ได้คิดว่าจะได้ชมมาก่อน เนื่องจากตอนแรกผมตั้งใจว่าจะขึ้นไปชมวิวบนตึก Lotte World Tower เพราะเป็นธรรมเนียมส่วนตัวที่ชอบไปชมวิวบนตึกสูงในแต่ละเมืองที่ไปเที่ยว แต่รอบนี้มีเพื่อนส่งข่าวมาบอกว่าในวันนั้นจะมีโชว์พลุประจำปีของ Lotte World Tower พอดิบพอดี ดังนั้นแผนการที่จะขึ้นตึกจึงถูกเปลี่ยนไปยังจุดชมพลุแทน
ฝูงประชาชนทั้งคนเกาหลี คนญี่ปุ่น รวมไปถึงนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลต่างทยอยกันเดินทางไปยังจุดชมพลุที่ทางงานได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่บอกทางไว้ให้ แต่ในความเป็นจริง เรียกได้ว่า ไม่ต้องถามทางใคร แค่เดินตามๆ กันไปก็พอ ข้อดีของการมาคนเดียวคือการเดินซอกแซกมองหาจุดที่คิดว่าน่าจะได้มุมมองที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ โดยไม่ต้องมาระวังว่าจะหลงกับใคร สุดท้ายก็มาปักหลักที่ริมถนนท่ามกลางเหล่าคู่รักที่หิ้วกันมาเป็นคู่ๆ ... ทำเอารู้สึกหนาวขึ้นกว่าเดิมจากที่หนาวอยู่แล้วกันเลยเชียว
สำหรับความตื่นตาตื่นใจของพลุ ขอเอาคลิปมุมสวยๆ จากใน Youtube มาแปะให้ดูแทน เนื่องจากคลิปที่ผมถ่ายมาไฟล์มีปัญหา เหลือแต่มารูปให้ดูกันเล็กๆ น้อยๆ ถือว่าจบการเตร็ดเตร่วันที่ 4 ในกรุงโซล
การเดินทาง : รถไฟใต้ดินสาย 2 ลงสถานีจัมซิล (Jamsil) ทางออกที่ 2
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้