สวัสดีค่าาาาา สมายเองนะคะ จากเพจ
SMILE MULTI STORIES
การเดินทางครั้งนี้ที่อยากมาแชร์ประสบการณ์เหมือนได้พาเพื่อนๆไปเที่ยวกับมายด้วยในครั้งนี้ ทริปนี้เป็นทริปให้รางวัลตนเอง หลังจากเรียนจบที่ POLIMODA คิดอยู่นานว่าจะไปไหนดี คิดวนไปวนมา เลยตัดสินใจ ไปญี่ปุ่นจ้าาาา 5555
เหมือนจะใกล้นะ แต่จริงๆ ไกลมากกกกกก
เพราะมันไม่ใช่ กรุงเทพ-โตเกียวนาจา มันคือมาจาก ฟลอเรนซ์-อิตาลี ฝั่งยุโรป เข้าสู่ โตเกียว-ญี่ปุ่น โซนเอเชียค่าาา
ในครั้งนี้พาหนะที่มายใช้ในการเดินทางทั้งหมด คือ รถไฟ และเครื่องบิน เพื่อที่จะเอาตัวเองมาถึงเมืองหลวงโตเกียวให้ได้
ระยะเวลาเดินทางตั้งแต่ตื่น จนเหยียบโตเกียว รวมทั้งหมด 27 ชั่วโมงเด้อค่า 5555
ถ้าไม่รวมการตื่นเอิงเอย ระยะเวลาทั้งหมดคือ 24 ชั่วโมง คือหนึ่งวันพอดี ปั๊วะปัง!!
เริ่มนะคะ มาย ตื่นตีห้า เพื่อมาเตรียมตัวและยกของกระเป๋าหนักมาก เพราะจะเอาของบ้านส่วนเริ่มกลับไทย และขายของมือสองของมายเอง ติดตามได้ใน อินสตาแกรม @mss.sunsun รัวๆ มายจะขายตามโอกาสในการเดินทางและความอยากได้ค่าขนม 5555 ฉะนั้น ไม่ต้องสงสัยนะคะว่าทำไมไม่ได้ขายต่อเนื่อง
มายตื่น ตี5 และมาถึงสถานีรถไฟ SMN Firenze เป็นสถานีเดียวที่วิ่งตรงเข้าเมืองทุกที่ เลยแวะเข้าคาเฟ่ในสถานี รอวนไปถึง 7โมงค่ะ
รถไฟ มายซื้อที่สถานีเอาค่ะ ส่วนตั๋วรถไฟจากมิลานเข้าสู่ แอร์พอรต เพิ่งรู้ว่าถ้าซื้อที่สถานี บัตรมันไม่ระบุเวลา คือดีมาก แปลว่าถ้าเราเปลี่ยนตั๋วกระทันหัน ก็ยังใช้ได้จนกว่าเราจะให้เจ้าหน้าที่เค้าตรวจ ถ้าซื้ออนไลน์มันระบุเวลาเลย และถ้าเราต้องเปลี่ยนจริงๆ หรือไปสาย ก็เปลี่ยนเวลาได้แค่ภายในสามชั่วโมงหลังจากเวลาที่เราเริ่มตั้งต้นที่ตั้งใจจะเดินทาง
รถไฟที่ใช้ คือ trenitalia มายเป็นพวก loyalty คือใช้ยี่ห้อนี้ก็ยี่ห้อนี้ตลอด
แนะนำใครเดินทางคนเดียว ให้เลือกที่นั่ง 18A เป๊ะเวอร์ 555 เก้าอี้คนเดียว พร้อมหันหน้าตามรถไฟวิ่ง ไม่มึนหัว และมีพื้นที่วางกระเป๋าข้างๆเราเลย มันไม่ไหลหลอกจะได้ลดการถูกขโมยกระเป๋าเดินทางด้วยค่ะ
ส่วน การวิ่งจาก Milan เข้าสู่สนามบินใหญ่ Malpensa การบินไทย International flight is in Terminal 1
มายใช้รถไฟ Trenord ประมาณ 50 นาทีในการเดินทาง รถไฟนี้ไม่มีการจองที่นั่ง และขอให้ระวังการวางหระเป๋าให้ดี เพราะมายรอบนี้พี้คมากกกก
เกือบโดนขโมยกระเป๋าเดินทาง!!!
พูดแล้วขึ้นนน และอยากจะมาแชร์ด้วยค่ะ
คือมายไปถึง รถไฟจะออกแล้ว แปลว่าขบวนนั้นคนเยอะละ เพราะเราไปสาย
ก็รีบไง ไม่อยากรอรอบใหม่ อีกยี่สิบนาที
เลยหาทางเข้าไปก็รู้ละว่าจะได้ที่นั่งที่มีที่ให้วางกระเป๋าเดินทางใกล้ๆมันยาก
มายเลยไปวางกระเป๋าใกล้ประตูทางออก (นี้ละ คีย์พอยท์) เพราะเห็นคนวางเหมือนกัน เลยไปวางตามเค้า!!
ต่อมา มีเจ้าหน้าที่มาเดินตรวจ (คุณพระช่วยให้รอดมาก) นางถามว่านี้กระเป๋ามายมั้ย มายบอกใช้ นางเลยพยายามหาที่วางให้ และยังอยู่ในสายตาของมาย นี้คือโอเค แต่มีอีกใบ ที่ยังวางใกล้ทางออก แต่มายยังเห็นอยู่นะ ก็ไม่ได้คิดอะไร
สถานีต่อไปเท่านั้นละ ได้ยินกลุ่มคนพูดเสียงดังโวยวาย ทำเดินเข้าออก และหางตามายเห็นกระเป๋ามายโดนลากออกไป!!! มายแบบ เห้ยกระเป๋ากู!!!
มายวิ่งเลยอ่ะ วิ่งตามออกไป และก็เจอคนกลุ่มนี้ มายจำได้ว่าเค้าอยู่เป็นกลุ่มเล่นละครเป็นครอบครัว
และคนตัวเล็ก เหมือนเด็กแบบ 20กว่าๆคือคนจับกระเป๋ามาย
มายแบบ เห้ย!! “This ismy bag!!!”
เสียงดัง ชัดเจน โผ่งผ่าง และมายก็จับกระเป๋าเดินทางแย่งออกมาแล้ววิ่งเข้ารถไฟ
แม่เจ้าโว้ยมาก คือช้อคคค
พอกลับเข้ามาเลยขอสลับที่นั่งกับคนตรงข้าม ซึ่งเข้าก็เห็นว่ามายเกือบโดนขโมยกระเป๋า มายเลยบอกว่าขอสลับที่ได้มั้ย มายมีอีกใบอยู่ตรงข้าม จะได้มองให้ชัด
นี่คือเท้าสามีภรรยาที่ให้สลับที่นั่งกับมาย ขอบคุณมากกกค่ะ ฮือ
สุดท้ายคือ อย่าเล่นมือถือนะ เดินทางคนเดียวพร้อมกระเป๋าเดินทาง
คอยวางกระเป๋าให้ใกล้ตัวเองที่สุด
สติต้องมี
ต้อมาเมื่อเข้าถึง Malpensa มายก็เช้คอินกับการบินไทยตามเวลาค่ะ
คิดว่า airport lounge ที่มิลานไม่ดี ส่วนตัวคืออาหารไม่สด มีแซนวิชแต่แบบไม่ wellmade อ่ะ
และผลไม้ก็ดูไม่สดเหมือนหั่นๆแล้วเอามายำกัน ไม่ประทับใจ ไวน์เหล้าพร้อมถือว่าโอเค 5555
และก็มีชา มีน้ำ โยเกิรต์ทั่วไปครบ แต่มายไป lounge ประเทศอื่นที่การบินไทย star alliance โคด้วยคือดีกว่านี่เยอะ
ต่อไป จะ on board เป็นการเข้าประเทศไทยแบบเร้วๆ คือไม่ได้ออกจากไทยค่ะ อยู่ในสนามบิน และ transfer ต่อเครื่องภายใน 1 ชั่วโมง!!! พี้คมาก พี้คอีกละ 5555
สาเหตุไม่แวะไทยเพราะตอนแรกมายซื้อตั๋วแบบไม่ stop over เลยค่ะ ไม่คิดจะกลับไทยด้วยตอนแรก ตอนหลังเปลี่ยนใจ รู้ตัวว่าต้องทำงานที่อิตาลีต่อนาน เลยกลับดีกว่า เจอเพื่อนเจอครอบครัวเจอคนรัก
#ใจนักเลงหรา #หัวใจบางๆ
55555
ฝากติดตามกันต่อไปนะคะ การกลับไปญี่ปุ่นในครั้งนี้คือรอบแรกกกของมายใน3ปี หลังจากลาออกจากยูนิโคล่ไทยแลนด์ก็ไม่ได้บินเลย เพราะมาเรียนต่ออิตาลีรัวๆ มายจะมาแชร์เรื่องราวที่มายเลือกสิ่งที่มายคิดถึงญี่ปุ่นทั้งหมด ที่มายกลับไปตำ ไม่ว่าจะอาหาร หรือ ขนม มิวเซียม แบรนด์เสื้อผ้า จะกลับไปตำให้หมด!!!!
ตอนนี้ on board ละคะ ไว้เจอกันค่า!!
Smile SMS
การเดินทางที่ยาวนานที่สุด 27 ชั่วโมงจากเมืองฟลอเรนซ์ อิตาลีสู่เมืองหลวงโตเกียว เกือบโดนขโมยกระเป๋าเดินทาง!!! EP.1
SMILE MULTI STORIES
การเดินทางครั้งนี้ที่อยากมาแชร์ประสบการณ์เหมือนได้พาเพื่อนๆไปเที่ยวกับมายด้วยในครั้งนี้ ทริปนี้เป็นทริปให้รางวัลตนเอง หลังจากเรียนจบที่ POLIMODA คิดอยู่นานว่าจะไปไหนดี คิดวนไปวนมา เลยตัดสินใจ ไปญี่ปุ่นจ้าาาา 5555
เหมือนจะใกล้นะ แต่จริงๆ ไกลมากกกกกก
เพราะมันไม่ใช่ กรุงเทพ-โตเกียวนาจา มันคือมาจาก ฟลอเรนซ์-อิตาลี ฝั่งยุโรป เข้าสู่ โตเกียว-ญี่ปุ่น โซนเอเชียค่าาา
ในครั้งนี้พาหนะที่มายใช้ในการเดินทางทั้งหมด คือ รถไฟ และเครื่องบิน เพื่อที่จะเอาตัวเองมาถึงเมืองหลวงโตเกียวให้ได้
ระยะเวลาเดินทางตั้งแต่ตื่น จนเหยียบโตเกียว รวมทั้งหมด 27 ชั่วโมงเด้อค่า 5555
ถ้าไม่รวมการตื่นเอิงเอย ระยะเวลาทั้งหมดคือ 24 ชั่วโมง คือหนึ่งวันพอดี ปั๊วะปัง!!
เริ่มนะคะ มาย ตื่นตีห้า เพื่อมาเตรียมตัวและยกของกระเป๋าหนักมาก เพราะจะเอาของบ้านส่วนเริ่มกลับไทย และขายของมือสองของมายเอง ติดตามได้ใน อินสตาแกรม @mss.sunsun รัวๆ มายจะขายตามโอกาสในการเดินทางและความอยากได้ค่าขนม 5555 ฉะนั้น ไม่ต้องสงสัยนะคะว่าทำไมไม่ได้ขายต่อเนื่อง
มายตื่น ตี5 และมาถึงสถานีรถไฟ SMN Firenze เป็นสถานีเดียวที่วิ่งตรงเข้าเมืองทุกที่ เลยแวะเข้าคาเฟ่ในสถานี รอวนไปถึง 7โมงค่ะ
รถไฟ มายซื้อที่สถานีเอาค่ะ ส่วนตั๋วรถไฟจากมิลานเข้าสู่ แอร์พอรต เพิ่งรู้ว่าถ้าซื้อที่สถานี บัตรมันไม่ระบุเวลา คือดีมาก แปลว่าถ้าเราเปลี่ยนตั๋วกระทันหัน ก็ยังใช้ได้จนกว่าเราจะให้เจ้าหน้าที่เค้าตรวจ ถ้าซื้ออนไลน์มันระบุเวลาเลย และถ้าเราต้องเปลี่ยนจริงๆ หรือไปสาย ก็เปลี่ยนเวลาได้แค่ภายในสามชั่วโมงหลังจากเวลาที่เราเริ่มตั้งต้นที่ตั้งใจจะเดินทาง
รถไฟที่ใช้ คือ trenitalia มายเป็นพวก loyalty คือใช้ยี่ห้อนี้ก็ยี่ห้อนี้ตลอด
แนะนำใครเดินทางคนเดียว ให้เลือกที่นั่ง 18A เป๊ะเวอร์ 555 เก้าอี้คนเดียว พร้อมหันหน้าตามรถไฟวิ่ง ไม่มึนหัว และมีพื้นที่วางกระเป๋าข้างๆเราเลย มันไม่ไหลหลอกจะได้ลดการถูกขโมยกระเป๋าเดินทางด้วยค่ะ
ส่วน การวิ่งจาก Milan เข้าสู่สนามบินใหญ่ Malpensa การบินไทย International flight is in Terminal 1
มายใช้รถไฟ Trenord ประมาณ 50 นาทีในการเดินทาง รถไฟนี้ไม่มีการจองที่นั่ง และขอให้ระวังการวางหระเป๋าให้ดี เพราะมายรอบนี้พี้คมากกกก
เกือบโดนขโมยกระเป๋าเดินทาง!!!
พูดแล้วขึ้นนน และอยากจะมาแชร์ด้วยค่ะ
คือมายไปถึง รถไฟจะออกแล้ว แปลว่าขบวนนั้นคนเยอะละ เพราะเราไปสาย
ก็รีบไง ไม่อยากรอรอบใหม่ อีกยี่สิบนาที
เลยหาทางเข้าไปก็รู้ละว่าจะได้ที่นั่งที่มีที่ให้วางกระเป๋าเดินทางใกล้ๆมันยาก
มายเลยไปวางกระเป๋าใกล้ประตูทางออก (นี้ละ คีย์พอยท์) เพราะเห็นคนวางเหมือนกัน เลยไปวางตามเค้า!!
ต่อมา มีเจ้าหน้าที่มาเดินตรวจ (คุณพระช่วยให้รอดมาก) นางถามว่านี้กระเป๋ามายมั้ย มายบอกใช้ นางเลยพยายามหาที่วางให้ และยังอยู่ในสายตาของมาย นี้คือโอเค แต่มีอีกใบ ที่ยังวางใกล้ทางออก แต่มายยังเห็นอยู่นะ ก็ไม่ได้คิดอะไร
สถานีต่อไปเท่านั้นละ ได้ยินกลุ่มคนพูดเสียงดังโวยวาย ทำเดินเข้าออก และหางตามายเห็นกระเป๋ามายโดนลากออกไป!!! มายแบบ เห้ยกระเป๋ากู!!!
มายวิ่งเลยอ่ะ วิ่งตามออกไป และก็เจอคนกลุ่มนี้ มายจำได้ว่าเค้าอยู่เป็นกลุ่มเล่นละครเป็นครอบครัว
และคนตัวเล็ก เหมือนเด็กแบบ 20กว่าๆคือคนจับกระเป๋ามาย
มายแบบ เห้ย!! “This ismy bag!!!”
เสียงดัง ชัดเจน โผ่งผ่าง และมายก็จับกระเป๋าเดินทางแย่งออกมาแล้ววิ่งเข้ารถไฟ
แม่เจ้าโว้ยมาก คือช้อคคค
พอกลับเข้ามาเลยขอสลับที่นั่งกับคนตรงข้าม ซึ่งเข้าก็เห็นว่ามายเกือบโดนขโมยกระเป๋า มายเลยบอกว่าขอสลับที่ได้มั้ย มายมีอีกใบอยู่ตรงข้าม จะได้มองให้ชัด
นี่คือเท้าสามีภรรยาที่ให้สลับที่นั่งกับมาย ขอบคุณมากกกค่ะ ฮือ
สุดท้ายคือ อย่าเล่นมือถือนะ เดินทางคนเดียวพร้อมกระเป๋าเดินทาง
คอยวางกระเป๋าให้ใกล้ตัวเองที่สุด
สติต้องมี
ต้อมาเมื่อเข้าถึง Malpensa มายก็เช้คอินกับการบินไทยตามเวลาค่ะ
คิดว่า airport lounge ที่มิลานไม่ดี ส่วนตัวคืออาหารไม่สด มีแซนวิชแต่แบบไม่ wellmade อ่ะ
และผลไม้ก็ดูไม่สดเหมือนหั่นๆแล้วเอามายำกัน ไม่ประทับใจ ไวน์เหล้าพร้อมถือว่าโอเค 5555
และก็มีชา มีน้ำ โยเกิรต์ทั่วไปครบ แต่มายไป lounge ประเทศอื่นที่การบินไทย star alliance โคด้วยคือดีกว่านี่เยอะ
ต่อไป จะ on board เป็นการเข้าประเทศไทยแบบเร้วๆ คือไม่ได้ออกจากไทยค่ะ อยู่ในสนามบิน และ transfer ต่อเครื่องภายใน 1 ชั่วโมง!!! พี้คมาก พี้คอีกละ 5555
สาเหตุไม่แวะไทยเพราะตอนแรกมายซื้อตั๋วแบบไม่ stop over เลยค่ะ ไม่คิดจะกลับไทยด้วยตอนแรก ตอนหลังเปลี่ยนใจ รู้ตัวว่าต้องทำงานที่อิตาลีต่อนาน เลยกลับดีกว่า เจอเพื่อนเจอครอบครัวเจอคนรัก
#ใจนักเลงหรา #หัวใจบางๆ
55555
ฝากติดตามกันต่อไปนะคะ การกลับไปญี่ปุ่นในครั้งนี้คือรอบแรกกกของมายใน3ปี หลังจากลาออกจากยูนิโคล่ไทยแลนด์ก็ไม่ได้บินเลย เพราะมาเรียนต่ออิตาลีรัวๆ มายจะมาแชร์เรื่องราวที่มายเลือกสิ่งที่มายคิดถึงญี่ปุ่นทั้งหมด ที่มายกลับไปตำ ไม่ว่าจะอาหาร หรือ ขนม มิวเซียม แบรนด์เสื้อผ้า จะกลับไปตำให้หมด!!!!
ตอนนี้ on board ละคะ ไว้เจอกันค่า!!
Smile SMS