สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 13
เราว่านะคุณสมบัติที่คุณโพสนี่ตรงกับคุณสมบัติของคนที่จะไปโดดทั้งนั้นเลยค่ะ
การจะไปอเมริกาค่าตั่วถูกสุดแบบไม่ต่อไปเมื่ออื่นเลย เฉพาะเมืองที่เป็น HUB ก็สองหมื่นขึ้นเข้าไปแล้ว การที่คุณจะไปอยู่บ้านเพื่อนก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลย อย่างน้องต้องมีติดตัว 100-200 USD นั่งก็หกเจ็ดพันบาทเข้าไปแล้ว
คุณจะไปอยู่จริงๆแค่สามวันกว่าๆ แต่ยอมเสียเงินข้างบนในขณะที่เงินเดือนแค่เดือนละ 18000 บาท
ที่สำคัญมีเพื่อนอยู่ที่นั่น
ครบองค์ประกอบค่ะ
คุณมีสิทธิ์จะลองค่ะ ถ้าไม่เสียดายเงินห้าพันบาทค่าวีซ่า
การจะไปอเมริกาค่าตั่วถูกสุดแบบไม่ต่อไปเมื่ออื่นเลย เฉพาะเมืองที่เป็น HUB ก็สองหมื่นขึ้นเข้าไปแล้ว การที่คุณจะไปอยู่บ้านเพื่อนก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีค่าใช้จ่ายเลย อย่างน้องต้องมีติดตัว 100-200 USD นั่งก็หกเจ็ดพันบาทเข้าไปแล้ว
คุณจะไปอยู่จริงๆแค่สามวันกว่าๆ แต่ยอมเสียเงินข้างบนในขณะที่เงินเดือนแค่เดือนละ 18000 บาท
ที่สำคัญมีเพื่อนอยู่ที่นั่น
ครบองค์ประกอบค่ะ
คุณมีสิทธิ์จะลองค่ะ ถ้าไม่เสียดายเงินห้าพันบาทค่าวีซ่า
ความคิดเห็นที่ 16
บางที่เจ้าของกระทู้อาจจะยังอ่านความเห็นของท่านอื่นๆไม่ชัดเจน
กงสุลดูความผูกพันกับประเทศไทยเป็นหลักค่ะว่าหนาแน่นแค่ไหน
ตรงนี้ล่ะที่เจ้าหน้าที่เขาสามารถใช้ดุลยพินิจได้กว้างขวาง ไม่ใช่แค่เงินในบัญชี เขาพิจารณาหลายๆอย่างประกอบกัน
คุณบินไปอเมริกาวันที่ 31 กว่าจะถึงอเมริกาคือวันที่ 1 คุณบอกว่าบินกลับวันที่ 5 เพราะต้องถึงไทยวันที่ 6 เท่ากับคุณมีเวลาอยุ่ในอเมริกาทั้งสิ้น 3 วันถ้วน
ด้วยค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ อย่างต่ำประมาณ 3 หมื่น ค่าวีซ่าอีก ซึ่งรวมแล้วประมาณ 2 เท่าของเงินเดือนคุณ มีเงินในบัญชี 15,000 บาท
มีเพื่อนชาวอเมริกันที่รู้จักกันอยู่ที่นั่น เชิญคุณไปร่วมงานของเขาจำนวน 3 วัน
เรื่องราวของคุณทั้งหมดทั้งปวงนี้ ประกอบกับเหตุผลในการไปอเมริกาที่บางเบามาก เจ้าหน้าที่เขาอาจจะไม่ดูเอกสารข้อ 1-5 ของคุณเลย คุณต้องเขียนอธิบายลักษณะงานประจำของคุณอย่างดีที่เขาจะเชื่อได้ว่าคุณจะกลับเมืองไทยแน่นอน
เว้นแต่ว่าคุณมีหลักฐานอื่นๆที่ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อได้ว่าคุณมีความผูกพัน มีธุรกิจอื่นใดในประเทศที่คุณยังไงๆก็ต้องกลับประเทศแน่นอน ย้ำอีกที ข้อ 1-4 นี่ไม่หนักแน่นพอครับ
กงสุลดูความผูกพันกับประเทศไทยเป็นหลักค่ะว่าหนาแน่นแค่ไหน
ตรงนี้ล่ะที่เจ้าหน้าที่เขาสามารถใช้ดุลยพินิจได้กว้างขวาง ไม่ใช่แค่เงินในบัญชี เขาพิจารณาหลายๆอย่างประกอบกัน
คุณบินไปอเมริกาวันที่ 31 กว่าจะถึงอเมริกาคือวันที่ 1 คุณบอกว่าบินกลับวันที่ 5 เพราะต้องถึงไทยวันที่ 6 เท่ากับคุณมีเวลาอยุ่ในอเมริกาทั้งสิ้น 3 วันถ้วน
ด้วยค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ อย่างต่ำประมาณ 3 หมื่น ค่าวีซ่าอีก ซึ่งรวมแล้วประมาณ 2 เท่าของเงินเดือนคุณ มีเงินในบัญชี 15,000 บาท
มีเพื่อนชาวอเมริกันที่รู้จักกันอยู่ที่นั่น เชิญคุณไปร่วมงานของเขาจำนวน 3 วัน
เรื่องราวของคุณทั้งหมดทั้งปวงนี้ ประกอบกับเหตุผลในการไปอเมริกาที่บางเบามาก เจ้าหน้าที่เขาอาจจะไม่ดูเอกสารข้อ 1-5 ของคุณเลย คุณต้องเขียนอธิบายลักษณะงานประจำของคุณอย่างดีที่เขาจะเชื่อได้ว่าคุณจะกลับเมืองไทยแน่นอน
เว้นแต่ว่าคุณมีหลักฐานอื่นๆที่ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อได้ว่าคุณมีความผูกพัน มีธุรกิจอื่นใดในประเทศที่คุณยังไงๆก็ต้องกลับประเทศแน่นอน ย้ำอีกที ข้อ 1-4 นี่ไม่หนักแน่นพอครับ
แสดงความคิดเห็น
มีเงินในบัญชี15000 จะขอวีซ่าไปเมกาได้ไหม
พอดีจะต้องบินไปเมกาวันที่ 31 สิงหานี้ แล้วกลับวันที่ 5 กันยา ไปแค่6วันค่ะ เพราะต้องกลับมาทำงานวันที่6กันยา
ไปหาเพื่อนแล้วก็เที่ยวนิดหน่อยแต่หลักๆคือไปหาเพื่อน แต่คือเพื่อนเป็นคนซัพพอทที่พักที่นู้นเท่านั้นคือไปอยู่บ้านเพื่อน
เบื้องต้นกรอกข้อมูลในเว็บDS-160ไปแล้วเรียบร้อย ขอเป็นวีซ่าท่องเที่ยวไป ลงไว้ว่าเราซัพพอร์ทตัวเองไม่ได้ลงว่าเพื่อนซัพพอท แต่ระบุไว้ว่ามีคนรู้จักที่นั้น แล้วก็ตอนนี้ทำใบนัดแล้วรอจ่ายเงินใบนัดอย่างเดียวค่ะ
1.ทำงานเป็นหลักแหล่งฐานเงินเดือน18kไม่รวมค่านู้นนั้นนี้
2.มีใบรับรองบริษัทว่าเราไปแล้วกลับมาทำงานต่อเพราะต้องมีบินไปต่างประเทศเพื่อดูงาน
3.เรามีตั๋วเครื่องบินที่จองแล้วเรียบร้อยรอไปดูงานที่มาเลยเซียเดือนกันยาและตั๋วดูงานอีกทีในไทยที่ภูเก็ตเดือนมีนาปีหน้า
4.ยังเรียนอยู่ด้วยค่ะเรียนรามฯต้องกลับมาเรียนต่อแต่ยังไม่ได้ขอหนังสือจากทางมหาลัยใบรับรองการเป็นนักศึกษา
5.ในพาสปอร์ตเรามีบินที่แสตมป์คือมาเลย์เซียเท่านั้นเพราะบินไปดูงานตลอดมีไปฮ่องกงครั้งนึงแต่ไม่มีสแตมป์
อยากรู้ว่าเค้าจะดูstatementเรามั้ยเพราะบัญชีเราไม่ค่อยสวยเงินเข้าเงินออกตลอดเพราะเล่นหุ้นด้วย(แต่ไม่ได้เล่นหุ้นแบบจริงจังมากก็มีเข้า 600-3000 แบบนี้ 3-4ครั้งต่อเดือน)