[ขอวีซ่าอเมริกา รอบ 2] แม่ผ่าน-เราไม่ผ่าน, 2 มิ.ย.62 (2019)

สวัสดีค่ะ คราวที่แล้วไปขอวีซ่าไม่ผ่านเพราะอะไรจะเล่าให้ฟัง
สตอรี่ขอวีซ่าครั้งแรก (22 มิถุนายน 2018 (2561))

เจ้าหน้าที่เกาหลี: มาทำอะไรครับ (สัมภาษณ์อังกฤษกันหมด)
เรา: ไปเยี่ยมญาติ อเมริกาค่ะ
เจ้าหน้าที่เกาหลี: ที่ไหนครับ
เรา: แคลิฟอเนีย ค่ะ (พร้อมยื่นจดหมายเชิญของป้าคนเล็กที่แต่งงานอยู่อเมริกา และเงินสปอนเซอร์ 20 ล้าน)
เจ้าหน้าที่เกาหลี: ญาติคุณ หมายถึงคุณนภา ทำงานอะไรครับ
เรา: Foresters ค่ะ
เจ้าหน้าที่เกาหลี: พวกคุณทำงานอะไรบ้างครับ
เรา: เจ้าของกิจการร้านสกรีนเสื้อ
แม่: เจ้าของกิจการร้านมือถือ
ป้าคนโต: เจ้าของสวนค่ะ
เจ้าหน้าที่เกาหลี: (พิมพ์คอม ก๊อกๆ แก๊กๆ)
---สักพัก----
ขออภัยด้วยครับวีซ่าคุณไม่ผ่าน
เรา: เพราะอะไรคะ บอกเหตุผลได้ไหม
เจ้าหน้าที่เกาหลี: อ่านในใบเลยครับ

เราเปิดอ่านจับใจความประมาณว่า ไม่มีความสัมพันธ์ในเมืองไทยมากพอ

**สรุป**

สาเหตุไม่ผ่านเพราะ สภาพการเงิน สเตทเม้นยังไม่แน่นพอ เงินไม่หนาพอ แล้วก็มีคุณป้าเป็นสปอนเซอร์ค่าใช้จ่าย 20ล้าน เลยทำให้ไม่ผ่านค่ะ เพราะอเมริกา มองว่าเราไม่มีความมั่นคงในการเงิน ไปเที่ยวอเมริกา เลยไม่ให้ผ่านค่ะ ทั้งแม่ ทั้งเรา และป้าคนโตของครอบครัว

----------------------------------------------------------------------------------------------------

สตอรี่ของแม่ สัมภาษณ์เมื่อ 12 พฤษภาคม 2019 (2562)
แม่ไปสัมภาษณ์วีซ่ากับเหล่าข้าราขการระดับสูง ตั้งแต่60 - 72 ปี เจ้านวน 6 คน (รวมแม่แล้ว)

เจ้าหน้าที่หญิงผิวสี: สวัสดีค่ะ มาทำอะไรคะ (สัมภาษณ์ไทย)
ป้าข้าราชการ60ปี: (พูดอีสาน) ป้าก็อยากมาพ้ออเมริกาสักครั้งน้อ แม่แก่แล้ว
เจ้าหน้าที่หญิงผิวสี: (หัวเราะ) จะไปที่ไหนของอเมริกาคะ
ป้าข้าราชการ60ปี: ไปหาคุณ นภาค่ะ อยากไปเยี่ยมเจอกันอีกสักครั้ง
เจ้าหน้าผู้หญิงผิวสี: (หันไปถามแม่) คุณณรา เป็นอะไรกับคุณ นภาคะ
แม่: เป็นน้องสาวแท้ๆในสายเลือดเลยค่ะ
เจ้าหน้าผู้หญิงผิวสี: คุณนภาทำงานอะไรคะ
แม่: Foresters ค่ะ
เจ้าหน้าที่ผู้หญิงผิวสี: ทุกคนวีซ่าผ่านค่ะ ยินดีด้วยนะคะ
(เหล่าข้าราชการทุกคน เป็นลมหมด)

ถามแม่ว่าทำไมผ่าน แม่บอกว่าเขาเดินสเตทเม้นไปเดือนละล้าน แล้วก็มีเงินติดบัญชี 5 แสน ส่วนเขาถามอะไร ก็ตอบปกติ ตอบตรงๆ ไม่ต้องไปแสดงออกว่าอยากไปมาก

---------------------------------------------------------------------------------------------------

สตอรี่ของเรา สัมภาษณ์เมื่อ 27 มิถุนายน 2019 (2562)
เราตั้งใจไปงาน Blizzcon มาก เลยทำการรวบรวมเอกสารดังนี้

- ซื้อตั๋วงาน 6000 บาท
- จองโรงแรมหน้างาน Blizzcon 5 วัน 6 หมื่นบาท เพื่อเป็นหลักฐานในการไปจริงๆ
- สเตทเม้นเงินราวๆ 3 แสน
- ใบที่ดินชื่อเรา และรูปบ้านที่กำลังสร้าง (ค่อยๆสร้างด้วยเงินสดทุกเดือน)
- หนี้บัตรใบนึง กู้มาเล่นๆ 3 หมื่นบาท เพื่อให้ประวัติมีหนี้และเครดิตมั่ง (ไม่เคยมีหนี้เลยสักครั้ง)
- ใบส่งสินค้าของร้านค้าเรา
- รูปโรงงาน เครื่องจักร
และอื่นๆอีกมากค่ะ

พอไปถึงสถานที่สัมภาษณ์ ท่องคำสัมภาษณ์ไปงานเกมไว้อย่างดิบดี
เจ้าหน้าที่ฝรั่งตัวใหญ่บิ๊กเบิ้ม สัมภาษณ์คนข้างหน้าเรา เฮฮายิ่มตลกมาก พอมาถึงหน้าเราปุ๊บ อ่านประวัติเราแปปนึงทำสีหน้าดุ เคร่งขรึมใส่เลย
(สัมภาษณ์ภาษาไทย)

เจ้าหน้าที่ฝรั่งชาย: สวัสดีครับ
เรา: สวัสดีค่ะ
เจ้าหน้าที่ฝรั่งชาย: คุณมีญาติอยู่อเมริกาใช่มั๊ยครับ
เรา: ใช่ค่ะ
[อะไรวะ มาถึงถามเรื่องป้าเลย ไม่ถามหน่อยเนอะว่าเราจะไปไหนของเมกา]
เจ้าหน้าที่ฝรั่งชาย: คุณเป็นอะไรกับคุณ นภา ครับ
เรา: เป็นป้าแท้ๆค่ะ
เจ้าหน้าที่ฝรั่งชาย: คุณนภาทำงานอะไรครับ
เรา: Foresters ค่ะ
เจ้าหน้าที่ฝรั่งชาย: หา Foresters?? หมายถึงคุณนภานะครับ
เรา: เป็น ภรรยาของForesters อ่ะค่ะ
เจ้าหน้าที่ฝรั่งชาย: อู้ว (ทำหน้าเซอร์ไพร์ส)
เจ้าหน้าที่ฝรั่งชาย: แล้วคุณ นภาอยู่อเมริกานานเท่าไหร่แล้วครับ
[ถามจัง กูยิ่งไม่รู้เรื่องป้าเยอะซะด้วย ไม่ได้สนิทกัน]
เรา: 10 กว่าปีค่ะ ได้ กรีนการ์ด
เจ้าหน้าที่ฝรั่งชาย: ขอดูพาสปอร์ตเล่มเก่าหน่อยครับ (เปิดๆส่องๆ พอเห็นประเทศที่เราไป สิงคโปร มาเลเซีย ส่องนานมาก)
เจ้าหน้าที่ฝรั่งชาย: เสียใจด้วยนะครับ วีซ่าคุณไม่ผ่าน
เรา: เราไม่ได้ขอเพื่อไปพบญาตินะคะ เราขอเพื่อไปงานเกม
เจ้าหน้าที่ฝรั่งชาย: ผมไม่สนว่าคุณจะขอเพื่อเดินทางไปที่ไหน แต่วีซ่าของคุณคือไม่ผ่านครับ
เรา: เฮ้อ

(โทรเล่าให้ป้าฟัง)
ป้าบอกว่า "ป้าไม่ใช่กรีนการ์ด ป้าเป็น Ciziten แล้วก็ป้ามีกิจการเป็นของตัวเอง มีอพาร์ทเม้นให้คนเช่า มีอาคารให้เช่าทำร้านอาหาร มีโฮมสเตย์พวก บีบี ให้เช่าอีก คราวหน้าขอใหม่ มาถามข้อมูลป้าเยอะๆเลย คิดว่ามันคงถามแต่เรื่องป้าอีก"

ปรึกษาเอเจนซี่มา เขาบอกว่า
1. อายุน้อยเกินไปที่จะขอวีซ่า อายุ28เอง (ต้องมากกว่า 30)
2. ยังไม่เคยแต่งงานหรือมีบุตร ผ่านยากมาก
3. ที่สำคัญ เงินในบัญชีไม่ถึงล้าน (จริงๆมันไม่ดูเงินในบัญชีหรอก แต่มีเวอร์ไว้ก่อน)
4. ไม่ได้เป็นข้าราชการ โอกาสไม่ผ่านสูง
5. ต้องเสียภาษี (ตรงนี้เราไม่ได้เสียเลย สารภาพตรงๆ)
6. อายุเกิน 23 ปี ให้ญาติเป็นสปอนเซอร์เงินค่าใช้จ่ายไม่ได้ ถ้าญาติเป็นสปอนเซอร์ให้ วีซ่าไม่ผ่านทันที
7. จ่ายประกันสังคมให้ครบทุกเดือนด้วย
8. ถ้ามีญาติอยู๋ที่นู่น ไปถามญาติให้ละเอียด ว่าเขาเป็นอะไร ใคร ที่ไหน ยังไง ไปหาเขาต้องรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขา

เอเจนซี่บอกว่า "แม่ค้าขายผัก เขายังทำให้วีซ่าผ่านเลย เพราะฉะนั้นหน้าที่การงาน เขาไม่ได้อะไรเท่าไหร่ น่าจะสนใจเรื่องเงินบัญชีสเตทเม้น กับ อายุ และสถานะมากกว่า แต่กรณีของคุณ ผมไม่กล้าทำเรื่องขอวีซ่าให้ ผ่านยาก"
(ขนาดเอเจนซี่ยังไม่ทำให้ ชีวิตขอวีซ่าเราคงจบสิ้นแล้วค่ะ 555)

สำหรับใครอ่านแล้ว คิดว่ามีข้อแนะนำอะไร หรือมีอะไรอยากบอกเพิ่มเติมบอกได้นะคะ กระทู้นี้ขอเป็นกรณีศึกษาให้แก่ทุกคนค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่