สวัสดีค่ะทุกคนน
นี่ก็คือ เที่ยวโคเปนให้คุ้ม 11,027 กิโลเมตรที่บินมาแล้วมีเวลาแค่ 3 วัน! หลายคนอาจจะคิดว่าอ้ะ เที่ยวแสกนไมถูกจัง คำตอบคือลืมกินข้าวจ้าาา มัวแต่เดินนน ฮืออ งบนี้ไม่รวมตั๋วนะคะ มายุโรปรอบนี้ตั้งใจเก็บความ Scan + ความยุคกลางยุคคลาสสิคมาผสมกัน ปรากฏว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ ติดตามกันต่อได้ที่เดินคนเดียววกลางกรุงปรากนะ! ไว้เล่าต่อ
ในสปอยจะสรุปสั้นๆสำหรับคนไม่มีเวลาอ่านยาวๆ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้ใครที่กำลังเดินทางไปนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- แลกตังค์ที่สถานีรถไฟ แลกจากยูโรเป็น DKK
- การเดินทาง: ซื้อตั๋วแบบ 48 ชม. 150 DKK นั่งทั้งรถไฟรถเมล์ แต่ส่วนใหญ่เดิน
- ที่พักคืนละ 700 ใกล้สถานีรถไฟมาก: http://www.booking.com/Share-IBvTEg
- ที่เที่ยวที่ไปมา: Strøget street (shopping street), Round tower, Rosenborg castle, Design Museum Denmark, Nyhavn, The little mermiad, St. Alban Church, Gefion fountain, Amalienborg palace, Botanic garden
เริ่มกันเลย ทริปนี้จับเครื่องบินมาลง Copenhagen แบบเที่ยวคนเดียวครั้งแรกในชีวิตก็ยิงตัวเองมาลงคาบสมุทรตอนเหนือของโลกที่ครูสอนสังคมบังคับให้ท่องชื่อในแอตลาส ผ่านตม. ออกมายืนงง ลมจะจับอยู่กลางสนามบินที่อุดมไปด้วยเครื่อง kiosk ช่วยเหลือตนเองเต็มไปหมดด ไหนเคาท์เตอร์ซื้อตั๋วรถไฟที่ทำการบ้านมา ไม่มีจ้า หาไม่เจอ
ดูจากสถานการณ์แล้ว คิดว่าแผงเครื่องสีแดงๆพร้อมมนุษย์สนามบินใส่เสื้อกั๊กนั้นต้องใช่แน่ๆ (ขออภัยไม่ได้ถ่ายรูปมา ด้วยความลน) เลยพุ่งเข้าไปซื้อตั๋ว ความจริงก็คือง่ายมาก เรากดตั๋วเลือกแบบ tourist ticket และซื้อตั๋วแบบ 48 ชั่วโมงที่ใช้โดยสารได้ตามโซน 1-4 ราคา 150 DKK คือที่โคเปนเค้าจะแบ่งเมืองเป็นตามเขตเป็นตัวเลขเพื่อใช้คำนวนค่าโดยสาร ซึ่งหลักๆแล้วที่เที่ยวก็จะอยู่ในโซน 1-4 เราไม่ได้ใช้ Copenhagen card เพราะไม่แน่ใจว่าเราจะเที่ยวได้กี่ที่ในเวลา 48 ชม.กว่าๆ นับจากนี้ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะพร้อมจะลุยพร้อมจะหลงอยู่แล้น ตอนอยู่สนามบินเราใช้เงินยูโรไปซื้อของนะคะ เค้าจะทอนเป็น DKK เอาไปกดตั๋ว
ลงจากสนามบินมาชั้นใต้ดิน ใช้ลิฟต์ตัวที่อยู่ใกล้เครื่องซื้อตั๋วนะคะ
เจ้าหน้าที่บอกว่านั่งขบวนไหนก็ได้ เราก็ลงมารอรถไฟ ใช้เวลาแค่แป๊ปเดียวมากจริงๆ เราก็เดินทางมาถึง Kobenhavn station สถานีรถไฟขนาดใหญ่ มากๆๆ บรรยากาศเหมือนลงจากรถไฟด่วนฮอกวอตส์ (คิดเอาเอง)



เดินตามชาวบ้านจากชานชาลามาบนสถานีที่เต็มไปด้วยร้านอาหาร และ convenient store และสิ่งที่อิชั้นต้องการมากที่สุดตอนนี้ก็คืออร้านแลกตังงง Forex ที่เจอรีวิวมากมายว่าเรทดี แต่ทำไมคะ หาไม่เจอจ่ะ (ความจริงมารู้ทีหลังว่าอยู่อีกฝั่งจากที่เราขึ้นชานชาลามา ถ้าทุกคนมาจากทางเข้าสวนสนุก Trivoli ก็จะเจออย่างแน่นอน) แต่ก็มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นคือเจออีกร้านที่เรทดีกว่า Forex อยู่ฝั่งที่เราขึ้นมาพอดี

และอันนี้ๆ เครื่องขายตั๋วที่เราซื้อจากสนามบิน จะเป็นตู้แดงๆแบบนี้ค่ะ

หลังจากที่แลกตังเสร็จก็ออกจากสถานีไปหาที่พักที่จองมาจากในบุ๊คกิ้ง เดินออกมาจากสถานีนิดเดียวก็เจอ hostel ที่จองไว้ ซึ่งปรากฎว่าเป็น hostel ที่ใหญ่มากกก ตึกทั้งซอยนี่เรียกได้ว่าเป็นห้องพักหมดเลยยดูจากภายนอกมองไม่ออกเลย
http://www.booking.com/Share-IBvTEg
พอเข้าไปพนักงานก็แนะนำเล็กน้อย แต่ที่นี่เป็นระบบช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง เพราะเราสามารถเช็คอินเองจากใน kiosk เพื่อรับรหัสเข้าห้อง แต่ถ้ามีอะไรพนักงานก็จะช่วยเหลือเต็มที่มากๆ (ขอความช่วยเหลือเพราะความเด๋อมาแล้ว ขอเปลี่ยนห้องเอย ที่ล็อคกระเป๋าพังเอย)
สรุปโฮสเทล
- คืนละ 700 นอนห้อง 6 คนหญิงล้วน มีห้องน้ำในตัว
- ทุกคนจะได้รหัสเข้าห้องไม่เหมือนกัน ความปลอดภัยสูงมาก
- มีครัว, locker ฝากกระเป๋า, movie night, ห้องซักผ้า, common area ผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอนปูเอง
ส่วนนึงของ common area ในโฮสเทล

วันนี้กว่าจะเคลียอะไรเสร็จ + เหนื่อยและฝนตก เลยมีเวลาแค่ออกไปเดินเล่นถนนช้อปปิ้ง เดินจากโรงแรมได้ไม่ไกลมาก วันแรกไม่ได้ถ่ายรูปเลยเพราะฝนตกและมืดแล้ว
Strøget street ก็จะอุดมไปด้วยร้านรวงแฟชั่นของที่ระลึก zara h&m ครบถ้วนรวมถึงแบรนด์ไฮเอนด์ตั่งๆ ร้านของตกแต่งของใช้น่ารักก็เต็มไปหมด เดินตรงไปเรื่อยๆๆแหละ แวะกินไอติมกับ hotdog เดินกินเป็นข้าวเย็น จะบอกว่าช่วงที่ไปของเซลเยอะมากๆๆ แต่ไม่ได้แอ้มฉันหรอก!
รวมค่าใช้จ่ายวันแรก
บัตรโดยสาร 150 dkk
โรงแรม 700 thb
ฮอทดอก 30 dkk
น้ำเปล่า 2 ขวด 50 dkk
- วันที่ 2 -
วันนี้ตั้งใจว่าจะต้องได้เที่ยวแบบเต็มที่ พยากรณ์ฝนตกแค่ถึงเที่ยง เราตื่นมานั่งรถไฟจากสถานี Konenhavn ไปที่ Norreport คือง่ายมาก สถานีเดียว ขึ้นมาโผล่ช่วงกลางๆของ Strøget street ที่เดินเมื่อคืน วันนี้ที่แรกก็คือ Round tower ที่นี่เป็น อาคารศึกษาดาราศาสตร์ในศตวรรษที่ 17 ระหว่างทางขึ้นไปด้านบนจะมีห้องสมุดที่ปัจจุบันเป็นใช้เป็นที่แสดง exhibition เท่าที่อ่านมาแต่ก่อนคือเป็นห้องสมุดที่คุณฮันคริสเตียนแอนเดอสันมาใช้!! ถ้าใครสงสัยว่าคุณฮันส์เป็นใคร คุณฮันส์ก็คือผู้ที่แต่งนิทานเรื่อง The little mermaid นั่นเองค่ะ ข้างๆห้องสมุดเป็นส้วมโบราณด้วยแหละ ถ้าไม่ได้สังเกตก็คือเดินผ่านไปเลย ใครมาก็อย่าลืมแอบแวะดูกันล่ะ อิอิ




เดินบนมาถึงชั้นบนสุดก็พบกับวิวเมืองโคเปนฮาเกนทั้งเมือง บอกตัวเองได้คำเดียวว่าสวย จนยอมเอาน้องมือถือมาตากฝนถ่าย
.
.
.

ออกจาก Round tower ก็ยังตกอยู่ เอาหน่ะ มีความหวังไว้ มาตั้งไกลคงไม่โชคร้ายตกทั้งวัน (สวรรค์ลงโทษ) จริงๆข้างๆมี Trinity church นะ แต่เราไม่ได้เข้า กลัวจะไปรบกวนเค้า อีกอย่างเค้าติดป้ายว่าไม่อนุญาตให้ sight seeing
เดินมาอีกไม่ไกลก็จะถึง Rosenborg castle ที่นี่สร้างโดย King Christian ที่ 4 ในช่วงศตวรรษที่ 17 เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรเนอซองส์ ค่าตั๋ว 150 dkk ถ้าเพิ่มอีก 10 dkk ก็จะเข้า Amalienborg palace ได้อีกแต่ด้วยความงกหรืออะไรไม่ทราบ ไม่ได้ซื้อ - -
สำหรับที่ Rosenborg นี่เหมาะมากสำหรับเราเพราะขนาดปราสาทไม่ใหญ่มาก สำหรับคนเวลาน้อยและชอบดูของเก่า (เราใช้เวลาเดินเกือบ 3 ชม.) ของใช้และห้องหับต่างๆอยู่ในสภาพดีขั้นสุด ทุกๆห้องมีเรื่องราว รู้สึกอยู่หน่อยๆว่ามาบุกรุกพื้นที่เองเค้า นอกจากเฟอร์นิเจอร์ของใช้ต่างๆที่สวยมากๆ ยังมีเครื่องประดับ Kings and queens crown ยังมาถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่เยอะมากๆ เอาจริงๆนี่ไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าเค้าให้ถ่ายรูปรึเปล่าาา เพราะมันดูศักดิ์สิทธิ์มากเลย




การเดินเข้าชมจะมีในส่วนของปราสาทและห้องใต้ดิน ซึ่งจะจัดแสดงอาวุธและที่สำคัญเลยก็คือสมบัติพัสสถานนของราชวงศ์ สวยมากจริงๆห้ามพลาดเลย
อยู่ในนี้นานมาก ยืนจับจ้องความปราณีต (และคาดหวังว่าออกไปแล้วฝนจะหยุดตก)


ออกจากปราสาทแล้วอากาศแจ่มใสมากค่าาาา น้ำตาจะไหลล



ดีใจไม่ถึง 5 นาทีมันตกอีกแล้วววว บอกเลยค่ะทุกคน มันทรมาณมาก เพราะทั้งหนาวทั้งลมทั้งฝน กล้องก็เอาออกมาถ่ายไม่ได้ ฮือ โชคดีเพิ่งถอยยูนิโคล่มาในราคาลดคุณภาพดีประทับจิตประทับใจ (ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่อย่างใด)
ออกมาจาก Rosenborg ก็พยายามหาทางไป Botanic garden
จากทางเข้าปราสาททางเดิมเลี้ยวซ้ายข้ามถนนเดินตรงไปหน่อยนึงจะเจอทางเข้า
สิ่งที่เกิดขึ้น: เดินงงวนหลงตากฝนเป็นชั่วโมงเพราะออกจากปราสาทผิดทาง แล้ว botanic garden คือใหญ่มาก กูเกิ้ลมันก็ไม่รู้ว่าทางเข้าไหนปิดไม่ปิดบ้างเพราะฉะนั้น ขอจิ้มให้ทุกคนดูเป็นวิทยาทาน จะได้ไม่เดินหลงเหมือนเรา

กว่าจะหาทางเข้าเจอคือแย่มาก แล้วสุดท้ายคือพอเข้าไปได้ฝนตกลงมาหนักมาก (มันเลยเที่ยงแล้วนะโว้ยยย)
ตรงทางเข้าจะมีร้านที่ดูแลโดยคุณป้าขายต้นไม้เมล็ดพันธุ์ของน่ารักจุกจิกตั่งๆ ไม่ได้ควักตังซื้อแต่อย่างใด แต่หลังร้านมีห้องน้ำสะอาดที่ทำหน้าที่เป็นที่หลบฝนได้อย่างดีและฟรี ประทับใจมาก

ถามว่าเหนื่อยรึยังสำหรับวันนี้ ตอบเลยว่าเหนื่อยมากกกกกก เหนื่อยตากฝนน แต่ ไม่ได้จ่ะ พรุ่งนี้ต้องออกจากโคเปนเที่ยง เราเดินเรื่อยๆออกมา หาป้ายรถเมล์นั่งสาย 26 ไปลงตาม google map เดินต่อตามทางแวะซุปเปอร์หาไรกิน


และแล้วก็มาถึง Design Museum Denmark
ค่าเข้า 115 DKK แต่ถ้าอายุไม่เกิน 25 เข้าฟรี ล้องไห้ เพิ่งผ่านวันเกิดไปครึ่งปี ตอนแรกพนักงานย้ำหลายทีเพราะหน้าเอเชี่ยนคงเหมือนยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่ก็บอกตามความจริงไป 555






เดินเสร็จเราก็รีบออกมาเพราะกลัวว่าจะมืด จุดมุ่งหมายต่อไปก็คือต้องไป Nyhavn ช่วง twilight ให้ทัน
เริ่มสลัวๆ เดินไปเรื่อยๆก็เจอมุมลับน่ารัก

มาตึ๋งแล้วน้าโคเปนน

เดินจนสุดถนนฟ้าก็เริ่มมืด ภาพที่เห็นก็เริ่มสวยขึ้นเรื่อยๆ



ส่งท้ายคืนนี้เดินเล่นซักพักทานอาหารจีนอร่อยมากๆ นั่งสาย 26 ย้อนกลับไปตรงถนนช้อปปิ้ง กะว่าจะเดินเล่นถลุงตังซักหน่อยฝนมันก็ตกอีกอะแหละ เฮ่อ!
ค่าใช้จ่ายวันที่ 2
Round tower 25
Rosenborg castle 150
Design Museum 115
อาหาร 31
อาหารจีนร้าน Diamond rice 73
ไอติม 38
ของฝาก 67
ขอพักไว้ก่อนเท่านี้แล้วจะมาต่ออีกครึ่งวันสุดท้ายแน่นๆ ในโคเปนเฮเกนก่อนจะพานั่งรถไฟข้ามประเทศไปแอ่วสวีเดนแบบแตะๆกันนะคะ
--------------------
Copenhagen เดินคนเดียวเที่ยว 3 วัน 6,500 บาท
นี่ก็คือ เที่ยวโคเปนให้คุ้ม 11,027 กิโลเมตรที่บินมาแล้วมีเวลาแค่ 3 วัน! หลายคนอาจจะคิดว่าอ้ะ เที่ยวแสกนไมถูกจัง คำตอบคือลืมกินข้าวจ้าาา มัวแต่เดินนน ฮืออ งบนี้ไม่รวมตั๋วนะคะ มายุโรปรอบนี้ตั้งใจเก็บความ Scan + ความยุคกลางยุคคลาสสิคมาผสมกัน ปรากฏว่าเป็นส่วนผสมที่ลงตัวมากๆ ติดตามกันต่อได้ที่เดินคนเดียววกลางกรุงปรากนะ! ไว้เล่าต่อ
ในสปอยจะสรุปสั้นๆสำหรับคนไม่มีเวลาอ่านยาวๆ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ให้ใครที่กำลังเดินทางไปนะคะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เริ่มกันเลย ทริปนี้จับเครื่องบินมาลง Copenhagen แบบเที่ยวคนเดียวครั้งแรกในชีวิตก็ยิงตัวเองมาลงคาบสมุทรตอนเหนือของโลกที่ครูสอนสังคมบังคับให้ท่องชื่อในแอตลาส ผ่านตม. ออกมายืนงง ลมจะจับอยู่กลางสนามบินที่อุดมไปด้วยเครื่อง kiosk ช่วยเหลือตนเองเต็มไปหมดด ไหนเคาท์เตอร์ซื้อตั๋วรถไฟที่ทำการบ้านมา ไม่มีจ้า หาไม่เจอ
ดูจากสถานการณ์แล้ว คิดว่าแผงเครื่องสีแดงๆพร้อมมนุษย์สนามบินใส่เสื้อกั๊กนั้นต้องใช่แน่ๆ (ขออภัยไม่ได้ถ่ายรูปมา ด้วยความลน) เลยพุ่งเข้าไปซื้อตั๋ว ความจริงก็คือง่ายมาก เรากดตั๋วเลือกแบบ tourist ticket และซื้อตั๋วแบบ 48 ชั่วโมงที่ใช้โดยสารได้ตามโซน 1-4 ราคา 150 DKK คือที่โคเปนเค้าจะแบ่งเมืองเป็นตามเขตเป็นตัวเลขเพื่อใช้คำนวนค่าโดยสาร ซึ่งหลักๆแล้วที่เที่ยวก็จะอยู่ในโซน 1-4 เราไม่ได้ใช้ Copenhagen card เพราะไม่แน่ใจว่าเราจะเที่ยวได้กี่ที่ในเวลา 48 ชม.กว่าๆ นับจากนี้ ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะพร้อมจะลุยพร้อมจะหลงอยู่แล้น ตอนอยู่สนามบินเราใช้เงินยูโรไปซื้อของนะคะ เค้าจะทอนเป็น DKK เอาไปกดตั๋ว
ลงจากสนามบินมาชั้นใต้ดิน ใช้ลิฟต์ตัวที่อยู่ใกล้เครื่องซื้อตั๋วนะคะ
เจ้าหน้าที่บอกว่านั่งขบวนไหนก็ได้ เราก็ลงมารอรถไฟ ใช้เวลาแค่แป๊ปเดียวมากจริงๆ เราก็เดินทางมาถึง Kobenhavn station สถานีรถไฟขนาดใหญ่ มากๆๆ บรรยากาศเหมือนลงจากรถไฟด่วนฮอกวอตส์ (คิดเอาเอง)
http://www.booking.com/Share-IBvTEg
พอเข้าไปพนักงานก็แนะนำเล็กน้อย แต่ที่นี่เป็นระบบช่วยเหลือตัวเองทุกอย่าง เพราะเราสามารถเช็คอินเองจากใน kiosk เพื่อรับรหัสเข้าห้อง แต่ถ้ามีอะไรพนักงานก็จะช่วยเหลือเต็มที่มากๆ (ขอความช่วยเหลือเพราะความเด๋อมาแล้ว ขอเปลี่ยนห้องเอย ที่ล็อคกระเป๋าพังเอย)
สรุปโฮสเทล
- คืนละ 700 นอนห้อง 6 คนหญิงล้วน มีห้องน้ำในตัว
- ทุกคนจะได้รหัสเข้าห้องไม่เหมือนกัน ความปลอดภัยสูงมาก
- มีครัว, locker ฝากกระเป๋า, movie night, ห้องซักผ้า, common area ผ้าขนหนู ผ้าปูที่นอนปูเอง
ส่วนนึงของ common area ในโฮสเทล
Strøget street ก็จะอุดมไปด้วยร้านรวงแฟชั่นของที่ระลึก zara h&m ครบถ้วนรวมถึงแบรนด์ไฮเอนด์ตั่งๆ ร้านของตกแต่งของใช้น่ารักก็เต็มไปหมด เดินตรงไปเรื่อยๆๆแหละ แวะกินไอติมกับ hotdog เดินกินเป็นข้าวเย็น จะบอกว่าช่วงที่ไปของเซลเยอะมากๆๆ แต่ไม่ได้แอ้มฉันหรอก!
รวมค่าใช้จ่ายวันแรก
บัตรโดยสาร 150 dkk
โรงแรม 700 thb
ฮอทดอก 30 dkk
น้ำเปล่า 2 ขวด 50 dkk
- วันที่ 2 -
วันนี้ตั้งใจว่าจะต้องได้เที่ยวแบบเต็มที่ พยากรณ์ฝนตกแค่ถึงเที่ยง เราตื่นมานั่งรถไฟจากสถานี Konenhavn ไปที่ Norreport คือง่ายมาก สถานีเดียว ขึ้นมาโผล่ช่วงกลางๆของ Strøget street ที่เดินเมื่อคืน วันนี้ที่แรกก็คือ Round tower ที่นี่เป็น อาคารศึกษาดาราศาสตร์ในศตวรรษที่ 17 ระหว่างทางขึ้นไปด้านบนจะมีห้องสมุดที่ปัจจุบันเป็นใช้เป็นที่แสดง exhibition เท่าที่อ่านมาแต่ก่อนคือเป็นห้องสมุดที่คุณฮันคริสเตียนแอนเดอสันมาใช้!! ถ้าใครสงสัยว่าคุณฮันส์เป็นใคร คุณฮันส์ก็คือผู้ที่แต่งนิทานเรื่อง The little mermaid นั่นเองค่ะ ข้างๆห้องสมุดเป็นส้วมโบราณด้วยแหละ ถ้าไม่ได้สังเกตก็คือเดินผ่านไปเลย ใครมาก็อย่าลืมแอบแวะดูกันล่ะ อิอิ
.
.
.
เดินมาอีกไม่ไกลก็จะถึง Rosenborg castle ที่นี่สร้างโดย King Christian ที่ 4 ในช่วงศตวรรษที่ 17 เป็นสถาปัตยกรรมแบบเรเนอซองส์ ค่าตั๋ว 150 dkk ถ้าเพิ่มอีก 10 dkk ก็จะเข้า Amalienborg palace ได้อีกแต่ด้วยความงกหรืออะไรไม่ทราบ ไม่ได้ซื้อ - -
สำหรับที่ Rosenborg นี่เหมาะมากสำหรับเราเพราะขนาดปราสาทไม่ใหญ่มาก สำหรับคนเวลาน้อยและชอบดูของเก่า (เราใช้เวลาเดินเกือบ 3 ชม.) ของใช้และห้องหับต่างๆอยู่ในสภาพดีขั้นสุด ทุกๆห้องมีเรื่องราว รู้สึกอยู่หน่อยๆว่ามาบุกรุกพื้นที่เองเค้า นอกจากเฟอร์นิเจอร์ของใช้ต่างๆที่สวยมากๆ ยังมีเครื่องประดับ Kings and queens crown ยังมาถูกเก็บรักษาไว้ที่นี่เยอะมากๆ เอาจริงๆนี่ไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าเค้าให้ถ่ายรูปรึเปล่าาา เพราะมันดูศักดิ์สิทธิ์มากเลย
อยู่ในนี้นานมาก ยืนจับจ้องความปราณีต (และคาดหวังว่าออกไปแล้วฝนจะหยุดตก)
ออกจากปราสาทแล้วอากาศแจ่มใสมากค่าาาา น้ำตาจะไหลล
ออกมาจาก Rosenborg ก็พยายามหาทางไป Botanic garden
จากทางเข้าปราสาททางเดิมเลี้ยวซ้ายข้ามถนนเดินตรงไปหน่อยนึงจะเจอทางเข้า
สิ่งที่เกิดขึ้น: เดินงงวนหลงตากฝนเป็นชั่วโมงเพราะออกจากปราสาทผิดทาง แล้ว botanic garden คือใหญ่มาก กูเกิ้ลมันก็ไม่รู้ว่าทางเข้าไหนปิดไม่ปิดบ้างเพราะฉะนั้น ขอจิ้มให้ทุกคนดูเป็นวิทยาทาน จะได้ไม่เดินหลงเหมือนเรา
ตรงทางเข้าจะมีร้านที่ดูแลโดยคุณป้าขายต้นไม้เมล็ดพันธุ์ของน่ารักจุกจิกตั่งๆ ไม่ได้ควักตังซื้อแต่อย่างใด แต่หลังร้านมีห้องน้ำสะอาดที่ทำหน้าที่เป็นที่หลบฝนได้อย่างดีและฟรี ประทับใจมาก
ค่าเข้า 115 DKK แต่ถ้าอายุไม่เกิน 25 เข้าฟรี ล้องไห้ เพิ่งผ่านวันเกิดไปครึ่งปี ตอนแรกพนักงานย้ำหลายทีเพราะหน้าเอเชี่ยนคงเหมือนยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่ก็บอกตามความจริงไป 555
เริ่มสลัวๆ เดินไปเรื่อยๆก็เจอมุมลับน่ารัก
ค่าใช้จ่ายวันที่ 2
Round tower 25
Rosenborg castle 150
Design Museum 115
อาหาร 31
อาหารจีนร้าน Diamond rice 73
ไอติม 38
ของฝาก 67
ขอพักไว้ก่อนเท่านี้แล้วจะมาต่ออีกครึ่งวันสุดท้ายแน่นๆ ในโคเปนเฮเกนก่อนจะพานั่งรถไฟข้ามประเทศไปแอ่วสวีเดนแบบแตะๆกันนะคะ
--------------------