สวัสดีค่ะ แรงบันดาลใจในการตั้งกระทู้นี้มาจาก จขกท.ไปอ่านเพจมนุษย์กรุงเทพ และได้อ่านเรื่องของน้องคนหนึ่งที่เป็นคนเจาะไอร้อง จ.นราธิวาส น้องได้เล่ามุมมองของคนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และสะท้อนมุมที่คนนอกมอง อ่านแล้วรู้สึกเข้าใจน้องเค้า จึงอยากเสนอบ้างในฐานะคนที่เพิ่งไปเยือนและได้รับประสบการณ์ดีๆมา จึงอยากช่วยโปรโมทค่ะ
เล่าก่อนว่า ล่าสุดเรามีโอกาสได้เดินทางไปงานแต่งงานเพื่อนสนิทที่ยะลาและมีโอกาสได้แวะไปจังหวัดปัตตานี เดินทางเมื่อ 5 พ.ค. 62ค่ะ....ตามความรู้สึกคนในครอบครัวและคนรู้จัก จะกลัว 3 จังหวัดภาคใต้ ตอนที่เราบอกว่าจะเดินทางมาครอบครัวยังไม่ค่อยอยากให้มา และโทรถามเป็นระยะ แต่ด้วยความที่เรามีเพื่อนสนิทเป็นคนปัตตานีและคนยะลา เราจึงเฉยๆนะ แล้วยิ่งได้ข้อมูลมาว่าจริงๆแล้ว 2 จังหวัดนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพียงแต่ต้องรู้ที่รู้เวลา ก็จะไม่มีอะไร......เราไม่ได้บอกว่าปลอดภัย 100% นะคะ เหตุการณ์ก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ อาจจะต้องวัดดวง.....แต่สำหรับเราครั้งนี้เราว่าเราโชคดีนะ และอยากจะแชร์ประสบการณ์อีกด้านเผื่อเป็นข้อมูลสำหรับใครที่สนใจไปเยือนจังหวัดนี้ค่ะ
จุดเริ่มต้นคือ ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาค่ะ โดยเดินทางด้วยเครื่องบินมาลงที่หาดใหญ่ และใช้วิธีการเช่ารถขับค่ะ
ก่อนที่จะตัดสินใจแวะไปปัตตานี เราโทรสอบถามเพื่อนสนิทที่เป็นเด็กปัตตานี เพื่อนบอกว่าเที่ยวได้ ไม่น่ากลัว สำหรับคนนอกก็หลีกเลี่ยงเส้นทางที่เปลี่ยวๆ หรือเข้าตามหมู่บ้านลึกๆ และก็ให้กลับออกมาก่อนค่ำค่ะ
เมื่อได้ข้อมูลจึงออกเดินทางค่ะ เปิด Google map เลยจร้า....ทริปนี้เราปักหมุดไปร่วมงานแต่งงานเพื่อนที่ยะลาก่อน โดยใช้ถนนสายหลักที่ไปปัตตานีค่ะเป็นเส้นหลักเดียวกันและใช้เส้นยะรังต่อไปยังยะลา ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่า ถนน 4 เลนส์ ขับง่าย มีรถไม่มาก มีปั๊มน้ำมันเป็นระยะ และระหว่างทางช่วงอำเภอจะนะ จะได้วิ่งเลียบริมทะเล สวยงามไปอีกแบบค่ะ
ไปถึงยะลา เราก็ขับรถชมวงเวียนกลางเมือง ซึ่งดูจาก Google map จะเห็นการวางผังเมืองส่วนนี้เป็นรูปวงกลม เก๋ไปอีกแบบค่ะ ออกจากยะลาประมาณ บ่าย 2 ก็มุ่งสู่ปัตตานีค่ะ

ระหว่างทางแวะวัดช้างให้เพื่อนมัสการหลวงปู่ทวด ขามาจากยะลาเราเข้าผิดทาง เราเข้าทางด้านหลังวัดซึ่งต้องผ่านหมู่บ้าน (ทางนี้เราว่าแอบน่ากลัวไม่แนะนำค่ะ) หากใครจะมาขอแนะนำให้ใช้เส้นโคกโพธิ์จะถึงวัดได้ง่ายกว่าและไม่น่ากลัวค่ะ ตอนเดินทางเราไปนั้นฝนตกด้วยก็เลยยิ่งเพิ่มความกลัวไปอีก (ไปกับแฟนขับรถไปกัน 2 คนค่ะ) + กับได้ข้อมูลจากเพื่อนว่า เพิ่งมีเหตุที่หน้าวัดเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนก็เลยรู้สึกหวิวๆ แต่พอถึงวัดไม่น่ากลัวเลย วัดใหญ่ริมทางรถไฟ มีรถบัสพาทัวร์มาลงด้วยค่ะ (เช่าพระมาด้วย ลุงคนเช่าเล่าว่า 2 อาทิตย์ก่อนมียิงกันหน้าวัด แต่ลุงไม่กลัวนะ อะไรจะเกิดก็เกิด)

ถัดจากวัดช้างให้เราก็ใช้เส้นโคกโพธิ์มุ่งตรงเข้าสู่จังหวัดปัตตานีค่ะ (ออกจากวัดนิดเดียวก็เจอถนนใหญ่ ต่างจากตอนขาเข้าริบลับ) ระหว่างทางเจอไก่ทอดข้างทาง ย้ำว่าร้านเพิงๆข้างทางค่ะ เลยแวะซื้อมา อร่อยอย่างไม่น่าเชื่อเลย
สถานที่แรกที่ไปเยือนคือ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวค่ะ (ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนที่เป็นคนปัตตานีบอกว่าต้องห้ามพลาด!)

ในเมืองก็เจอด้าน เจอพี่ทหารตำรวจเป็นระยะค่ะ

จากนั้นก็ขับวนไปมัสยิดกลางประจำจังหวัด ได้คุยกับน้องที่เป็นคนท้องถิ่นหน้ามัสยิด น้องแนะนำให้เราไปกรือเซะ ไปเที่ยวหาดตะโละกาโป แหลมตาชี เขาว่ามีรีสอร์ทเปิดใหม่หลายที่ แต่เราดูใน map กลัวจะกลับไม่ทัน จึงไปแค่มัสยิดกรือเซะ

มามัสยิดกรือเซะ ขับรถออกมาจากเมืองไม่ไกลค่ะ ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ บริเวณรอบนอกดูสวยงาม เหมาะเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ด้านข้างเป็นสุสานของเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวค่ะ

จากนั้นเราก็ยูเทิร์นรถมาเที่ยวตรงสะพานไม้บ้านบานา ที่นี่จะมีให้ลงเรือชมวิวด้วยนะคะ มองไกลๆจะเห็นแหลมตาชีด้วย มีนักท่องเที่ยวมาชมเรื่อยๆเลยค่ะ


เห็นแหลมตชีด้วยนะ
ถัดมาเรามาเที่ยวหาดรูสะมีแลที่อยู่หลังสวนสมเด็จ ที่นี่สวยค่ะ คนมาปิกนิคกันยามเย็น ใกล้ๆกันมี Sky walk ปัตตานีค่ะ (เราขี้เกียจเลยไม่ลงไปเดินค่ะ)


เวลาผ่านไปจนถึงประมาณ 18.30 น. เพื่อนเราก็โทรมาบอกให้เดินทางกลับค่ะ แต่ขากลับเราเลือกใช้เส้นทางที่ทะลุมอ.ปัตตานีและตรงมายังถนนเส้นหนึ่งที่ค่อนข้างเงียบโดยไม่ได้ปรึกษาเพื่อนก่อน มารู้ทีหลังว่าเส้นนี้ควรเลี่ยงเพราะ เกิดเหตุบ่อย ดังนั้น ใครไปปัตตานีพยายามเลือกวิ่งถนนเส้นหลักไว้ก็ดีค่ะ เพื่อความปลอดภัย
ขากลับจากปัตตานีมาหาดใหญ่เราออกมาตอนพระอาทิตย์ตกดินแล้ว ความลำบากคือ ไม่มีไฟทางเลยค่ะ ถนนมืด แถมมีมอเตอร์ไซต์ออกมาตามซอยควรขับรถด้วยความระมัดระวังค่ะ จะมามีไฟทางประปรายก็ตอนเข้าสู่เขตจังหวัดสงขลา ดังนั้น เดินทางก่อนพระอาทิตย์ตกดินน่าจะชัวร์สุดค่ะ
สรุป : ปัตตานี จังหวัดนี้คึกคัก รถวิ่งเต็มถนน วันเสาร์ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยกันตามปกติ รถต่อคิวยาวเข้าห้าง มีตลาดนัดหลายแห่ง มีป้อมทหาร ตำรวจเป็นระยะ แต่ไม่น่ากลัว ผู้คนอัธยาศัยดี เย็นๆคนออกมาปิคนิกตามสวนสาธารณะ และริมทะเล ไม่เงียบ ไม่น่ากลัว เดินทางง่าย เที่ยวเช้า เย็นกลับได้สบายๆเสียดายครั้งนี้เวลาน้อยจึงได้ไปไม่กี่ที่ แต่ไว้มีโอกาสจะมาอีกค่ะ
เที่ยวตัวเมืองปัตตานีไป เช้า - เย็นกลับตามประสาคนรักสบาย
เล่าก่อนว่า ล่าสุดเรามีโอกาสได้เดินทางไปงานแต่งงานเพื่อนสนิทที่ยะลาและมีโอกาสได้แวะไปจังหวัดปัตตานี เดินทางเมื่อ 5 พ.ค. 62ค่ะ....ตามความรู้สึกคนในครอบครัวและคนรู้จัก จะกลัว 3 จังหวัดภาคใต้ ตอนที่เราบอกว่าจะเดินทางมาครอบครัวยังไม่ค่อยอยากให้มา และโทรถามเป็นระยะ แต่ด้วยความที่เรามีเพื่อนสนิทเป็นคนปัตตานีและคนยะลา เราจึงเฉยๆนะ แล้วยิ่งได้ข้อมูลมาว่าจริงๆแล้ว 2 จังหวัดนี้ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เพียงแต่ต้องรู้ที่รู้เวลา ก็จะไม่มีอะไร......เราไม่ได้บอกว่าปลอดภัย 100% นะคะ เหตุการณ์ก็ยังมีอยู่เรื่อยๆ อาจจะต้องวัดดวง.....แต่สำหรับเราครั้งนี้เราว่าเราโชคดีนะ และอยากจะแชร์ประสบการณ์อีกด้านเผื่อเป็นข้อมูลสำหรับใครที่สนใจไปเยือนจังหวัดนี้ค่ะ
จุดเริ่มต้นคือ ที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาค่ะ โดยเดินทางด้วยเครื่องบินมาลงที่หาดใหญ่ และใช้วิธีการเช่ารถขับค่ะ
ก่อนที่จะตัดสินใจแวะไปปัตตานี เราโทรสอบถามเพื่อนสนิทที่เป็นเด็กปัตตานี เพื่อนบอกว่าเที่ยวได้ ไม่น่ากลัว สำหรับคนนอกก็หลีกเลี่ยงเส้นทางที่เปลี่ยวๆ หรือเข้าตามหมู่บ้านลึกๆ และก็ให้กลับออกมาก่อนค่ำค่ะ
เมื่อได้ข้อมูลจึงออกเดินทางค่ะ เปิด Google map เลยจร้า....ทริปนี้เราปักหมุดไปร่วมงานแต่งงานเพื่อนที่ยะลาก่อน โดยใช้ถนนสายหลักที่ไปปัตตานีค่ะเป็นเส้นหลักเดียวกันและใช้เส้นยะรังต่อไปยังยะลา ใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่า ถนน 4 เลนส์ ขับง่าย มีรถไม่มาก มีปั๊มน้ำมันเป็นระยะ และระหว่างทางช่วงอำเภอจะนะ จะได้วิ่งเลียบริมทะเล สวยงามไปอีกแบบค่ะ
ไปถึงยะลา เราก็ขับรถชมวงเวียนกลางเมือง ซึ่งดูจาก Google map จะเห็นการวางผังเมืองส่วนนี้เป็นรูปวงกลม เก๋ไปอีกแบบค่ะ ออกจากยะลาประมาณ บ่าย 2 ก็มุ่งสู่ปัตตานีค่ะ
สถานที่แรกที่ไปเยือนคือ ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวค่ะ (ศักดิ์สิทธิ์ เพื่อนที่เป็นคนปัตตานีบอกว่าต้องห้ามพลาด!)
จากนั้นก็ขับวนไปมัสยิดกลางประจำจังหวัด ได้คุยกับน้องที่เป็นคนท้องถิ่นหน้ามัสยิด น้องแนะนำให้เราไปกรือเซะ ไปเที่ยวหาดตะโละกาโป แหลมตาชี เขาว่ามีรีสอร์ทเปิดใหม่หลายที่ แต่เราดูใน map กลัวจะกลับไม่ทัน จึงไปแค่มัสยิดกรือเซะ
ถัดมาเรามาเที่ยวหาดรูสะมีแลที่อยู่หลังสวนสมเด็จ ที่นี่สวยค่ะ คนมาปิกนิคกันยามเย็น ใกล้ๆกันมี Sky walk ปัตตานีค่ะ (เราขี้เกียจเลยไม่ลงไปเดินค่ะ)
ขากลับจากปัตตานีมาหาดใหญ่เราออกมาตอนพระอาทิตย์ตกดินแล้ว ความลำบากคือ ไม่มีไฟทางเลยค่ะ ถนนมืด แถมมีมอเตอร์ไซต์ออกมาตามซอยควรขับรถด้วยความระมัดระวังค่ะ จะมามีไฟทางประปรายก็ตอนเข้าสู่เขตจังหวัดสงขลา ดังนั้น เดินทางก่อนพระอาทิตย์ตกดินน่าจะชัวร์สุดค่ะ
สรุป : ปัตตานี จังหวัดนี้คึกคัก รถวิ่งเต็มถนน วันเสาร์ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยกันตามปกติ รถต่อคิวยาวเข้าห้าง มีตลาดนัดหลายแห่ง มีป้อมทหาร ตำรวจเป็นระยะ แต่ไม่น่ากลัว ผู้คนอัธยาศัยดี เย็นๆคนออกมาปิคนิกตามสวนสาธารณะ และริมทะเล ไม่เงียบ ไม่น่ากลัว เดินทางง่าย เที่ยวเช้า เย็นกลับได้สบายๆเสียดายครั้งนี้เวลาน้อยจึงได้ไปไม่กี่ที่ แต่ไว้มีโอกาสจะมาอีกค่ะ