ตามหขกทเลยค่ะ แต่เราขอเล่านิดนึงนะคะ เราเป็นเด็กม.ปลายคนนึงที่มีแฟนอยู่ชั้นเดียวกัน กับเพื่อนในกลุ่มอีกคนนึง แฟนของเราทางบ้านค่อยข้างมีปัญหาในการสื่อสารค่ะ แม่กับยายจะชอบคิดไปเองว่าแฟนของเราติดยา ไปมั่วสุม ไม่ตั้งใจเรียน ทั้งๆที่ทุกครั้งที่เขาออกจากบ้านเขาจะไปอ่านหนังสือ ไปเตะบอลกับเพื่อนตามประสาเด็กม.ปลาย ยายพังกรประตูทิ้งเพื่อให้เข้าห้องแฟนง่ายๆ ยายจะเดินเข้ามาปิดแอร์ห้องแฟนเราทุกครั้งที่แฟนเราจะนอน วันไหนที่แฟนเราตื่นสายยายจะโทรฟ้องแม่แฟน แล้วแม่แฟนก็จะโทรมาหาเราค่ะ แล้วดราม่าชีวิตให้ฟัง ซึ่งเราก็พูดอะไรมากไม่ได้นอกจากบอกว่าลูกแม่(แฟนเรา)ตั้งใจเรียนดี ไม่เกเร เขารู้ดีว่าอะไรถูกอะไรผิด เราคอยดูแลตลอด แต่ก็นั่นแหละค่ะ ทุกครั้งที่แฟนเรากลับบ้านแม่กับยานก็จะชอบพูดอะไรไม่เข้าหูแฟน แต่แฟนเราก็จะเลือกที่จะไม่เถียง ไม่พูดด้วย เพราะแฟนเรารู้ดีว่าตัวเองเป็นคนหัวร้อนง่าย ไม่อยากทะเลาะกับแม่กับยายตัวเอง จนกลายเป็นคนเครียด จนตอนนี้เหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้าเลยค่ะ เขาน้ำหนักลงเร็วมาก แล้วก็เพิ่มเร็วมาก บางวันเขาก็นอนไม่หลับ จากที่เคยสดใสกับเราตลอด ก็พูดน้อยลง เหมือนคิดอะไรตลอดเวลา แต่บอกตรงนี้เลยว่าตั้งแต่เขาเริ่มมีปัญหาทางบ้านเราไม่เคยเห็นน้ำตาเขาแม่แต่หยดเดียวเลยจริงๆ จนน่าเป็นห่วง
ต่อมาเพื่อนเราในกลุ่ม พ่อแม่เขาหย่ากันค่ะ แล้วพ่อเขาจะยกเงินก้อนสุดท้ายให้แม่เขาในวันที่เพื่อนเราเรียนจบม.6 เพื่อนเราเป็นคนตั้งใจเรียนมากค่ะ แต่อยู่ในห้องที่สังคมแย่นิดหน่อย(คนละห้องกันตั้งแต่ขึ้นม.ปลาย)ห้องเพื่อนเราแข่งเรียนกันค่ะ กลุ่มในห้องเพื่อนเราก็เหมือนในหน้ากากตลอดเวลา เหมือนจับกลุ่มเพื่อไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันเฉยๆอะค่ะ พอถึงเวลาพักหรือว่างต่างคนต่างอ่านหนังสือ พอถึงเวลาสอบก็จะแข่งกันเอาเป็นเอาตาย ใครคะแนนต่ำสุดในกลุ่ม(ทั้งๆที่คะแนนต่ำสุดคือเต็ม20ได้ประมาณ17-18)ก็จะเหยียดกันแบบแรงๆ ว่าโง่บ้าง ไม่เก่งบ้าง ใครคนนึงไม่ผ่านในห้อง ทั้งๆที่ผ่านตลอด เพื่อนก็จะตบมือกันทั้งห้องด้วยความสะใจ ตอนเราฟังเพื่อนเล่าคือตกใจมาก ต่างจากห้องเราที่ไม่ซีเรียสอะไรทใคนผ่านก็ดีใจด้วย ใครตกก็กอดคอกันไปแก้ เรียนบ้าง เล่นบ้าง ช่วยๆกันไป แล้วเพื่อนเราทำเกรดได้3.8+ ถือว่าเยอะสำหรับเรา แต่น้อยสำหรับแม่เพื่อนเรา แม่เพื่อนเราด่าเพื่อนเราบ้าง ติบ้าง ว่าทำเกรดได้น้อย ทั้งๆที่เพื่อนเราเรียนทั้งวันแต่บังต้องเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนถึง2ทุ่ม กลับมาอ่านหนังสือตี1-2 ตื่นเช้ามาโรงเรียนอีก จนล่าสุดเพื่อนเป็นโรคซึมเศร้าถึงขั้นต้องพบหมอแล้วค่ะ
ส่วนเรามีโรคประจำตัวทุนเดิมคือไฮเปอร์เวนติเลชั่น(โรคเครียดจนชัก) เพราะเป็นคนคิดลบมากๆ แต่หลังๆดีขึ้นเพราะแฟนและเพื่อนเราฮีลเรามาตลอด(จริงๆความเครียดมีสาเหตุมากจากทางครอบครัวของเรา ความสบายใจของเราเลยไม่ใช่บ้าน) เราชอบพูดอะไรที่ติดลบมากๆ แต่พยายามพูดเชิงบวกตลอด คิดก่อนพูดตลอด แต่บางครั้งเราก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับแฟนกับเพื่อนรา ปลอบยังไง ช่วยยังไง การสื่อสารเราแย่มากๆค่ะ เช่นถ้าแฟนเราบอกว่าโมโหแม่ ไม่อยากอยู่บ้าน อยากไปไกลๆ เบื่อทุกอย่าง เราก็ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากใจเย็นๆ อย่าคิดมาก เอาหน่าแค่นี้เอง ซึ่งคำพวกนี้เราเอาแต่บอกตัวเอง แต่พอเราไปพูดกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า มันเป็นคำที่ไม่ควรพูดด้วยอะค่ะ เพราะมันจะทำให้เขารู้สึกแย่ไปอีก เราไม่รู้จะใช้คำพูดแบบไหนที่ทำให้คนเป็นโรคซึมเศร้ารู้สึกดีขึ้น หรือไม่ให้แย่ลงอะค่ะ
มีใครพอจะรู้วิธีพูดกับคนซึมเศร้ายังไงไม่ให้แย่ลงมั้ยคะ เราอยากช่วยแฟนและเพื่อนเรามากๆค่ะ เราพิมพ์หาตามกูเกิ้ลแล้วเราพยายามใช้คำให้ถูกแล้ว แต่บางสถานการณ์เราก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้เขาสบายใจได้อะค่ะ จนบางทีก็ไม่กล้าพูดอะไรเยอะเพราะกลัวไปทำร้ายจิตใจเขา
ทั้งแฟนและเพื่อนเหมือนจะเป็นโรคซึมเศร้า แต่เป็นคนพูดไม่เก่ง มีคำพูดไหนที่ควรพูดและไม่ควรพูดกับคนเป็นโรคนี้มั้ยคะ?
ต่อมาเพื่อนเราในกลุ่ม พ่อแม่เขาหย่ากันค่ะ แล้วพ่อเขาจะยกเงินก้อนสุดท้ายให้แม่เขาในวันที่เพื่อนเราเรียนจบม.6 เพื่อนเราเป็นคนตั้งใจเรียนมากค่ะ แต่อยู่ในห้องที่สังคมแย่นิดหน่อย(คนละห้องกันตั้งแต่ขึ้นม.ปลาย)ห้องเพื่อนเราแข่งเรียนกันค่ะ กลุ่มในห้องเพื่อนเราก็เหมือนในหน้ากากตลอดเวลา เหมือนจับกลุ่มเพื่อไปกินข้าวเที่ยงด้วยกันเฉยๆอะค่ะ พอถึงเวลาพักหรือว่างต่างคนต่างอ่านหนังสือ พอถึงเวลาสอบก็จะแข่งกันเอาเป็นเอาตาย ใครคะแนนต่ำสุดในกลุ่ม(ทั้งๆที่คะแนนต่ำสุดคือเต็ม20ได้ประมาณ17-18)ก็จะเหยียดกันแบบแรงๆ ว่าโง่บ้าง ไม่เก่งบ้าง ใครคนนึงไม่ผ่านในห้อง ทั้งๆที่ผ่านตลอด เพื่อนก็จะตบมือกันทั้งห้องด้วยความสะใจ ตอนเราฟังเพื่อนเล่าคือตกใจมาก ต่างจากห้องเราที่ไม่ซีเรียสอะไรทใคนผ่านก็ดีใจด้วย ใครตกก็กอดคอกันไปแก้ เรียนบ้าง เล่นบ้าง ช่วยๆกันไป แล้วเพื่อนเราทำเกรดได้3.8+ ถือว่าเยอะสำหรับเรา แต่น้อยสำหรับแม่เพื่อนเรา แม่เพื่อนเราด่าเพื่อนเราบ้าง ติบ้าง ว่าทำเกรดได้น้อย ทั้งๆที่เพื่อนเราเรียนทั้งวันแต่บังต้องเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนถึง2ทุ่ม กลับมาอ่านหนังสือตี1-2 ตื่นเช้ามาโรงเรียนอีก จนล่าสุดเพื่อนเป็นโรคซึมเศร้าถึงขั้นต้องพบหมอแล้วค่ะ
ส่วนเรามีโรคประจำตัวทุนเดิมคือไฮเปอร์เวนติเลชั่น(โรคเครียดจนชัก) เพราะเป็นคนคิดลบมากๆ แต่หลังๆดีขึ้นเพราะแฟนและเพื่อนเราฮีลเรามาตลอด(จริงๆความเครียดมีสาเหตุมากจากทางครอบครัวของเรา ความสบายใจของเราเลยไม่ใช่บ้าน) เราชอบพูดอะไรที่ติดลบมากๆ แต่พยายามพูดเชิงบวกตลอด คิดก่อนพูดตลอด แต่บางครั้งเราก็ไม่รู้จะพูดยังไงกับแฟนกับเพื่อนรา ปลอบยังไง ช่วยยังไง การสื่อสารเราแย่มากๆค่ะ เช่นถ้าแฟนเราบอกว่าโมโหแม่ ไม่อยากอยู่บ้าน อยากไปไกลๆ เบื่อทุกอย่าง เราก็ไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากใจเย็นๆ อย่าคิดมาก เอาหน่าแค่นี้เอง ซึ่งคำพวกนี้เราเอาแต่บอกตัวเอง แต่พอเราไปพูดกับคนที่เป็นโรคซึมเศร้า มันเป็นคำที่ไม่ควรพูดด้วยอะค่ะ เพราะมันจะทำให้เขารู้สึกแย่ไปอีก เราไม่รู้จะใช้คำพูดแบบไหนที่ทำให้คนเป็นโรคซึมเศร้ารู้สึกดีขึ้น หรือไม่ให้แย่ลงอะค่ะ
มีใครพอจะรู้วิธีพูดกับคนซึมเศร้ายังไงไม่ให้แย่ลงมั้ยคะ เราอยากช่วยแฟนและเพื่อนเรามากๆค่ะ เราพิมพ์หาตามกูเกิ้ลแล้วเราพยายามใช้คำให้ถูกแล้ว แต่บางสถานการณ์เราก็ไม่รู้จะพูดยังไงให้เขาสบายใจได้อะค่ะ จนบางทีก็ไม่กล้าพูดอะไรเยอะเพราะกลัวไปทำร้ายจิตใจเขา