ใครดูหนัง svaha ใน Netflix แล้วบ้างครับเค้าจะสื่ออะไรครับ

โคตรงง การโดนหลอกและการกลับตัวเหรอครับ ตอนจบแบบหืมไรเนี่ย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
สิ่งที่สรุปข้างล่างนี้ ประมวลมากจากการอ่านและฟังมาจากหลายๆแหล่งนะคะ ผิดถูกประการใดต้องขออภัย

สาเหตุทั้งหมดที่ทำให้เกิดการตามฆ่าเด็กหญิง 81 คน มีจุดเริ่มมาจาก ปี 1985 ที่องค์ลามะจากธิเบตมาพบกับ คิมเจซอก ซึ่งในขณะนั้นได้บรรลุเป็นพระศรีอริยเมตไตรยตามแบบพุทธของญี่ปุ่นแล้วคือ การเป็นอมตะที่จะไม่แก่ร่วงโรยไปตามการเวลา ในขณะนั้นคิมเจซอกเป็นท่านศาสดาทีดีงามค่ะ แต่เมื่อได้ฟังคำทำนายจากท่านลามะแล้วก็บังเกิดความกลัวถูกฆ่าโดยมารที่จะมาเกิดขึ้นมาในปี 1999 และเพื่อป้องกันไม่ให้คำทำนายเป็นไปตามที่ว่า คิมเจซอกก็เลยหายตัวไปเขียนคัมภีร์และก่อตั้งลัทธิใหม่ (เนินกวาง) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการทำลายทุกคนที่เกิดในช่วงเวลาที่ถูกทำนายว่ามารจะมาเกิด โดยได้ทำการสืบแล้วว่าเป็นเด็กหญิงทั้งหมด 81 คนที่เกิดในช่วงเวลานั้น (ระบุในคัมภีร์ไว้เลยว่าเป็นมารทั้ง 81 ตน) และอุปโลกน์เด็กชายจากเรือนจำ 4 คน (ล้างสมอง) ว่าพวกเขาเป็นเทพทั้งสี่ที่มีหน้าที่ทำลายมารเหล่านั้นให้หมดสิ้น

สิ่งที่องค์ลามะทำนายนั้นไม่ผิดค่ะ ท่านทำนายว่ามารจะมาเกิดและมาฆ่าพระศรีอารยเมตไตรย (คิมเจซอก) เพราะในปี 1999 ก็มีมารมาเกิดจริงๆ ที่เป็นแฝดพี่ตัวมีขนและกัดกินขาน้อง ที่บอกว่าเป็นมารจริงๆก็เพราะมีงูเป็นบริวาร และเมื่อไปอยู่ที่ไหนก็จะมีสัตว์เจ็บป่วยล้มตาย  จนครอบครัวต้องย้ายที่อยู่อยู่เรื่อยๆ แต่ด้วยความที่นางโดนขังไปไหนไม่ได้ สิ่งเดียวที่นางสัมผัสได้ก็คือเสียงสวดมนต์ของคุณยายที่ขอไถ่บาปจากพระผู้เป็นเจ้าทุกค่ำคืน เมื่อนางได้ยินมันก็ติดอยู่ในหัวและสวดมนต์เองเป็นไปโดยปริยาย จนกระทั่งได้ขัดเกลานางจนในที่สุดนางได้ผลัดขนออกและกลายเป็นพระศรีอาริยเมตไตรยองค์ใหม่ องค์เดียวกับที่คอยดูแลปกป้องจองนาฮัน (คนที่ถูกสมมติว่าเป็นเทพองค์หนึ่งในจำนวน 4 จตุรเทพ ที่ยังมีชีวิตอยู่) ไม่ให้ถูกผีเด็กๆที่จองนาฮันฆ่าตายไปเป็นจำนวนมากที่คอยตามรังควาญทุกค่ำคืน

แต่สิ่งหนึ่งที่ท่านลามะจากธิเบตนึกไม่ถึงคือ คำทำนายของท่านจะทำให้องค์ศาสดาที่ดีงามกลับกลายเป็นมาร โดยการสั่งฆ่าเด็กทุกคน และมารที่มาเกิดเพื่อทำลายพระศรีอาริยเมตไตรยคิมเจซอก กลับกลายเป็นพระศรีอาริยเมตไตรยองค์ใหม่ที่มาทำลาย องค์เก่าที่กลับกลายเป็นมารนั่นเอง

คำว่า สวาหะที่เป็นชื่อเรื่อง มีความหมายว่า so be it (มันก็เป็นเช่นนั้นแล) เป็นคำลงท้ายบทสวดเมื่อ "Whenever fire sacrifices are made, svāhā is chanted." คัดลอกมาจากวิกิพีเดีย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่