การเลือกซื้อ แหวนเพชรให้ได้ “ของดี” และราคาโดนใจ

คงมีเพื่อนๆหลายคนกำลังจะหาซื้อ แหวนเพชร แต่งงาน ซื้อเป็นของขวัญ หรือซื้อให้ตัวเอง จขกท ก็กำลังหาซื้อแหวนเพชร เลยอยากเม้าท์มอยเรื่องการเลือกซื้อแหวนเพชรกับเพื่อนๆซะหน่อย กำลังร้อนวิชา55

การเลือกซื้อแหวนเพชรแต่งงานนั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิด แต่ถ้าไม่ศึกษาให้ดีก่อน อาจได้เพชรคุณภาพต่ำในราคาสูงอีกด้วย

วันนี้จึงสรุปการเลือกซื้อแหวนเพชรมาให้เพื่อนๆได้ลองอ่านดู เผื่อเวลาไปซื้อเพ จะได้คุยกะร้านเพชรรู้เรื่อง ไม่โดนเชือดกลางร้าน อิอิ

#6 ขั้นตอน การเลือกซื้อแหวนเพชร ให้ได้ของดีราคาโดนใจ #หมอหมีเม้าท์มอย

ขั้นที่ 1 กำหนดงบประมาณของตนเองก่อน ว่าจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ เพื่อไม่ให้งบบานปลาย

ขั้นที่ 2 ใช้หลักการ 4C คือ Color Clarity Cut Carat

Color หรือ ความขาวของเพชร โดยปกติเรามักจะได้ยินร้านเพชรพูดกันว่า "เพชรเม็ดนี้ น้ำ 100 เลยนะน้อง" โดยค่าที่ใช้กำหนดความขาวของเพชร คือตัวอักษรภาษาอังกฤษ ถ้าขาวสุดไม่มีที่ติ คือ D หรือ น้ำ100 ถ้าขาวลดลงมา คือ E หรือ น้ำ99 ซึ่งความขาวจะค่อยๆลดหลั่นกันลงมา ถ้าออกเหลืองๆแบบในรูป ก็จะต่ำสุด คือ Z ดังนั้นยิ่งขาวมาก เพชรก็จะมีประกายสวยมาก แต่ราคาจะสูงตามความขาวด้วยเช่นกัน
Clarity หรือ ความสะอาดของเพชร หรือพูดกันง่ายๆคือตำหนิของเพชร โดยถ้าเพชรมีตำหนิน้อยมากๆหรือแทบไม่มีเลย จะใช้คำว่า IF (Internally flawless) ถ้ามีตำหนิมากขึ้นก็จะเป็น VVS1,VVS2 ถ้ามีตำหนิเยอะขึ้น ก็จะแทนด้วยสัญลักณ์ดังรูป ซึ่งถ้ามีตำหนิน้อยราคาจะสูง ตำหนิมากราคาก็จะถูกลงมาครับ

Cut หรือ การเจียระไน อันนี้ก็มีความสำคัญมาก แม้ว่าเพชรจะขาวใน แต่ถ้าเจียระไนไม่ดี ไม่ได้มุมที่แสงตกกระทบแล้วหักเหได้ถูกต้องแบบรูปแรก จะทำให้เพชรไม่วิ้งๆไม่ระยิบระยับ ดังนั้นแนะนำว่า ควรซื้อเพชร ที่ได้คะแนนการเจียระไน Excellent จะดีที่สุดครับ
Carat หรือ น้ำหนักของเพชร ที่คนมักจะถามอยู่เสมอ "ไปขอสาวซื้อแหวนกี่กะรัตวะ" 100ตังค์ เท่ากับ 1 กะรัต เช่นในรูป 0.5 กะรัต ก็คือ 50 ตังค์นั่นเอง ยิ่งเพชรหลายกะรัต เพชรก็จะยิ่งมีขนาดใหญ่ ราคาขึ้นตามน้ำหนักเพชร อิอิ
ขั้นตอนที่ 3 ใบรับรองมาตรฐานเพชรจากสถาบันเพชรชั้นนำ GIA หรือ Gemological institute of America เป็นสถาบันหนึ่งที่ค้นคว้าวิจัยและศึกษาอัญมณีศาสตร์ของอเมริกา ที่ได้รับความน่าเชื่อถือและความนิยมมากที่สุดในอุตสาหกรรมเพชร โดยทั่วไปจะเรียกใบรับรองนี้ติดปากกันว่า “ใบเซอร์” นั่นเอง ใบนี้จะบอกคุณสมบัติเพชรชิ้นนั้นว่ามีอะไรบ้าง ขาวเท่าไหร่ มีตำหนิมั้ย เจียระไนได้excellentรึป่าว ซึ่งทำให้เรามั่นใจได้ว่าเพชรที่เราซื้อได้คุณสมบัติตรงตามความต้องการและได้มาตรฐาน
แต่ต้องบอกไว้ก่อนครับ ใบเซอร์จะให้ในเพชรที่น้ำหนัก 0.3 กะรัตขึ้นไปนะครับ
ขั้นตอนที่ 4 เลือกร้านเพชร ร้านเพชรแต่ละร้านมีราคาที่แตกต่างกันพอสมควร ร้านที่ชื่อดังมักจะราคาแพงซึ่งด้วยมาตรฐานและขายแบรนด์ด้วย สำหรับร้านราคาถูกแต่เพชรคุณภาพดีก็มีครับ แนะนำรีวิวจากในเนตดู มีให้อ่านเยอะมาก หรือถามเพื่อนๆที่เคยซื้อแหวนแล้ว ว่าร้านไหนดีราคาไม่แรงครับ ส่วนผมซื้อร้านเพชรที่เสาชิงช้า เพชรสวยคุ้มราคา คนขายบริการดีครับ ลองไปหากันดู อิอิ

ขั้นตอนที่ 5 เลือกแบบแหวนที่ชอบ แบบแหวนมีหลายแบบมาก แนะนำว่าอย่าดูทางเนตให้ไปลองเองที่ร้าน เพราะบางคนนิ้วใหญ่นิ้วเล็ก ก็จะเหมาะกับแหวนกันคนละแบบ ข้อห่วงใยถ้าต้องขึ้นวงใหม่ต้องใช้เวลา2-3เดือน ดังนั้นเพื่อนๆควรไปเลือกซื้อตั้งแต่เนิ่นๆนะครับ ระวังไม่ทันงานแต่งคร้าบบ

ขั้นตอนที่ 6 สุดท้าย ตอนรับแหวน ให้ลองใส่ดูว่าได้size ที่พอเหมาะกับนิ้วเราหรือยัง และควรตรวจสอบตัวเลขบนขอบเพชรว่าตรงกับใบเซอร์ของเพชรนั้นรึป่าว เพื่อให้มั่นใจว่าเราได้เพชรที่ถูกต้องครับ ปล. ถ้าอนาคตอ้วนขึ้นหรือผอมลงสามารถนำแหวนมาปรับไซด์ได้จ้า

เพื่อนๆคนไหนมีความรู้หรือความเห็นอะไรเพิ่มเติม commment กันได้เลยนะครับ

พูดคุยและดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ facebook page “หมอหมี เม้าท์มอย” นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่