-- รีวิว MIB : international -- 6/10 คะแนน หน่วยจารชนชุดดำโกอินเตอร์ ! 👽💥🌌

❗ ก็มาถึงภาคสี่กันแล้วนะครับกับ หนังแนวเอเลี่ยนไซไฟ คอมเมดี้สุดวายป่วง อย่าง Men in Black เรื่องราวขององค์กรชายชุดดำที่ึคอยรักษาความสงบเมืองจากภัยคุกคามเอเลี่ยน มีออกมาเรื่อยๆหลายต่อหลายภาค ตั้งแต่ปี 1997 ภาคนี้ก็จะเป็น MIB รุ่นถัดไปหลังคู่หู วิล สมิท/ทอมมี่ ลี โจนส์ เปลี่ยนลุคมาเป็นคู่หูวัยรุ่นใสๆ อย่าง คริส แฮมเวิร์ท/เทสซ่า ทอมสัน กันบ้าง

✳️ [ การดำเนินเรื่อง ] 6/10

มาภาคนี้บอกเลยว่าผิดหวังไม่น้อย จากคนที่ดูมาตั้งแต่ภาคแรก เนื้อเรื่องค่อนข้างเส้นตรงไม่มีอะไรแปลกใหม่ บทอ่อนแบบน่าใจหายในหลายจุด เดาตัวร้ายได้ตั้งแต่ต้นเรื่องด้วยการหลอกล่อที่โจ่งแจ้งเกินไป การพบเจออุปสรรคต่างๆยังดูบังเอิญไม่สมเหตุเท่าไหร่ รวมถึงฉากไคลแมกซ์ที่ไร้พลัง แก้ปมง่ายๆไม่มีความน่าจดจำ กลายเป็นหนังโชว์ชุดดำเท่ๆ และเอเลี่ยนหลายสายพันธุ์เท่านั้น

แต่ก็มีข้อดีตรงที่เนื้อเรื่องยังไหลไปได้เรื่อยๆ ไม่ได้รู้สึกว่าเบื่อหรือชวนง่วง ได้เห็นส่วนขยายของจักวาล MIB ที่นำเสนอได้น่าสนใจ มีเอเลี่ยนแปลกใหม่โผล่มาไม่ขาดสาย

✳️ [ ความฮาเต็มพิกัด ] 6/10

หนังภาคนี้ ความฮาแทบจะแป๊กที่สุดในบรรดา MIB ทุกภาคที่ดูมา โทนหนังเริ่มเบนไปโหมดจริงจังกว่าทุกที แต่ละมุกเชยเหมือนหลุดมาจากยุค 90 พยายามเล่นแล้วเล่นอีกมุก 3 บาท 5 บาท เรียกร้องความสนใจให้คนขำ แต่มันฝืดมากไม่มีเจลหล่อลื่น ไดอะล็อกบทพูดสองคู่หูหยอกล้อกันเหมือนเด็กๆ โยนคำพูดเท่ๆ จากหนังเรื่องอื่นเข้ามาเพราะแค่อยากใส่ ส่วนพอว์นนี่ เอเลี่ยนหมากรุกจิ๋วตัวตบมุก ก็ค่อนข้างพล่ามน่ารำคาญมากกว่าจะฮา

แต่ก็แอบมียิ้มเล็กๆ อยู่กับความเปิ่นของสองคู่หูคนใหม่ที่เคมีเข้ากันใช้ได้ และโมเมนต์จิกกัดหนังชาวบ้าน แถมล้อบทที่คริสเคยเล่นด้วย 555 และถึงขั้นฮาออกเสียงในบางฉากที่ซีจีลอย เดี๋ยวดีเดี๋ยวแย่ คือแบบหนังเกรดนี้เลยนะเว่ย ปล่อยมาได้ยังไงไม่น่าให้อภัย


✳️ [ กลิ่นอายความ MIB ] 6.5/10

ถ้าให้พูดตรงๆ คือน่าเสียดายชื่อของหนังแฟรนไชส์เซ็ทนี้มากที่มาโดนทำลายย่อยยับในภาคนี้ กลิ่นอายขององค์กรนี้มันโดนลดทอนจนไปอยู่แถวๆหนังเกรดบี R.I.P.D สเน่ห์คู่หูรุ่นใหม่ ยังเป็นรองคู่เก๋า วิล สมิท/ทอมมี่ ลี โจนส์ อยู่มากๆ แถมโดนเนิร์ฟสู้ใครไม่ค่อยได้ โดยรวมเลยดูเป็นองค์กรที่จัดการอะไรไม่อยู่หมัดสักอย่าง

จะยังมีดีก็ตรงพวกอาวุธยุทโธปกรณ์ และรถบินไฮเทค จากภาคก่อนที่ยังโผล่มาพอให้เราหายคิดถึง ส่วนฉากแอ็คชั่นหนังก็ใส่มาประมาณนึงแต่ส่วนใหญ่เป็นต่อสู้มือเปล่า ไม่ค่อยให้อุปกรณ์ช่วยแบบภาคก่อนๆ

✳️ [ บทและการแสดง ] 7/10

คริส แฮมเวิร์ท (Agent H) - แสดงเป็นสายลับอารมณ์ดี ดูอินดี้ไม่ค่อยจริงจังกับงาน ไม่อยากเชื่อว่าทำอาชีพนี้มานาน เหมือนเด็กจบใหม่มาสมัคร 555 แต่ต้องคุณขอบคุณพี่ธอร์ที่แกอุตส่าห์มาช่วยแบกหนัง ไม่ให้มันพินาศไปกว่านี้ พี่แกเล่นดีมาก ถึงในใจอาจจะบ่นอุบว่า กูไม่น่ารับงานนี้เล้ย

เทสซ่า ทอมสัน (Agent M) - สาวใหม่ไฟแรงหัวไวคนใหม่ สนใจเรื่องเอเลี่ยนนอกจักรวาลตั้งแต่เด็ก บุคลิกมั่นใจตัวเองสุดๆ แถมยังซึนเดเระ เคมีเข้ากันดี๊ดีกับพี่ธอร์ของเรา ไม่ถึงกับกุ๊กกิ๊กกันมาก แต่แค่นี้กูก็โดดลงเรือละ

เลียม นิสัน (High T) - หัวหน้าหน่วย MIB ลุคเคร่งขรึม พูดน้อยต่อหนัก แต่เอาตรงๆ ไม่ค่อยชอบบทนี้ของลุงเลียมแกเลย มันดูขัดๆ กับหนังแนวนี้ชอบกล เวลามาคู่กับคริสนี่พังไปเลย (โชคดีที่คู่กันไม่เยอะ) ทั้งน้ำเสียงท่าทาง การตัดสินใจ ดูไม่มีอำนาจพอจะเป็นหัวหน้าหน่วย ไปลงสายบู๊น่าจะเหมาะกว่า


===================
🏅คะแนนรวม 6/10
===================
🔻 การรีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวหลังรับชม Please have นานาจิตตัง in mind..

❗ใครไม่เคยดูภาคก่อนๆ ก็ยังมาดูได้ เพราะภาคนี้มีเชื่อมโยงกันไม่มากนัก

❗ไม่สงสัยว่าทำไมภาคนี้มันพัง ก็ดันเล่นเอา F.Gary Gray ผกก. โนเนมมารับงาน แทนที่จะเอา Barry Sonnenfeld คนเก่าที่กำกับทั้งสามภาค

ราคาตั๋วที่คุ้มค่า : วันพุธลดราคา..(เถอะ) จากใจคนจ่ายไป 180 T.T
.
#คนจริงไม่อวยหนัง #รีวิวรัวๆ
#MenInBlack #International


ติดตามรีวิวหนังเปิดอกจัดเต็ม ไม่มีอวย ได้อีกสองช่องทาง

เพจเฟสบุ้ค "คนจริงไม่อวยหนัง"
www.facebook.com/IndyMovieReviewer

และอินตาแกรม "indymoviereviewer"
www.instagram.com/indymoviereviewer