ขอวีซ่าไปอังกฤษให้ลูกน้อย
| ตอน | คัดเอกสารภาษาอังกฤษที่สำนักงานเขตทุกที่ได้แล้ว
.....................................................
สืบเนื่องจากการเตรียมเอกสารเพื่อขอวีซ่าอังกฤษ ที่ขึ้นชื่อว่าต้องใช้เอกสารเยอะและกรอกยุ่งยากมากอันดับต้นๆ >,<
เพราะสถานทูตเปลี่ยนระบบออนไลน์ในการสมัครแบบใหม่
และใน checklist ของสถานทูตต้องใช้เอกสารทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ (ซึ่งจริงๆเราสามารถแปลเองและรับรองเองได้นะคะ แต่เราขี้เกียจ แห่! )
ประกอบกับเมื่อต้นปี ‘62 ทางกรมการปกครองได้ประกาศว่าประชาชนสามารถไปขอรับบริการรับรองเอกสารสองภาษาได้แล้วที่เขต/อำเภอทุกที่
เราเลยขี้เกียจแปลเอง
แต่เพื่อความชัวร์ว่าออกไปแล้วจะไม่วืด เราเลยโทรไปสอบถามกรมการปกครองก่อนอีกรอบที่เบอร์ 1548
จนท.ก็คอนเฟิร์มว่าไปขอคัดเอกสารภาษาอังกฤษได้เลยทุกเขต
เราจะมาสรุปขั้นตอนที่เราไปเจอมาคร่าวๆตามนี้นะคะ เผื่อใครกำลังมองหาข้อมูลอยู่
- ไม่ใช่จนท.ทุกเขตที่รู้เรื่องนี้นะ เพราะเราไปที่เขตนึงมาก่อนหน้านี้ เค้าบอกว่าไม่มีบริการรับรองเอกสารภาษาอังกฤษให้ งงเลย
เลยต้องไปเขตในเมืองอีกรอบ
- ข้อมูลก่อนปี 2540 เช่นพวกทะเบียนสมรสที่จดมาก่อนหน้านั้นนานๆจะไม่มีข้อมูล หรือแม้แต่สูติบัตรของคนวัยเราก็ไม่พบข้อมูลเช่นกัน
ซึ่งปกติสูติบัตรก็ใช้แค่ของเด็กอยู่แล้ว
- ไปทำในเขตในเมืองจะง่ายหน่อยค่ะ เพราะคาดว่าคงมีคนไปขอกันเยอะ จนท.ก็จะเข้าใจเราทันที ^^" ไม่ต้องอธิบายเยอะ แค่บอกว่านำไปขอวีซ่า
- มีค่าใช่จ่ายใบละ 10 บาท
- จนทแจ้งว่าเอกสารรับรองมีอายุแค่ 30 วัน ไม่ต้องขอเผื่อเยอะก็ได้ ใช้เมื่อไหร่ค่อยมาขอ (แต่เราก็ไม่เห็นว่ามันมีเขียนว่า valid แค่30 วันนะ มีแค่ลงวันที่รับรองให้อย่างเดียว)
- ตอนไปขอใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียวค่ะ ขอแทนกันได้ถ้ามีมอบอำนาจมา
เดี๋ยวมารีวิว #การขอวีซ่าอังกฤษ และ #การเตรียมเอกสาร ของลูกน้อยกันต่อครั้งหน้าค่ะ ^^
#อ้างลูกเที่ยว

แชร์ประสบการณ์พกลูกน้อยเที่ยวทุกที่
ฝากกดติดตามด้วยนะคะ youtube :
https://www.youtube.com/channel/UC6nzz_4trvdPAnUdfPRGgeA
เพจ FB
https://www.facebook.com/thefamilytraveller
คัดเอกสารทะเบียนราษฎร์ฉบับแปลเป็นภาษาอังกฤษได้เองแล้วทุกเขตเพื่อไปยื่นขอวีซ่า
| ตอน | คัดเอกสารภาษาอังกฤษที่สำนักงานเขตทุกที่ได้แล้ว
.....................................................
สืบเนื่องจากการเตรียมเอกสารเพื่อขอวีซ่าอังกฤษ ที่ขึ้นชื่อว่าต้องใช้เอกสารเยอะและกรอกยุ่งยากมากอันดับต้นๆ >,<
เพราะสถานทูตเปลี่ยนระบบออนไลน์ในการสมัครแบบใหม่
และใน checklist ของสถานทูตต้องใช้เอกสารทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษ (ซึ่งจริงๆเราสามารถแปลเองและรับรองเองได้นะคะ แต่เราขี้เกียจ แห่! )
ประกอบกับเมื่อต้นปี ‘62 ทางกรมการปกครองได้ประกาศว่าประชาชนสามารถไปขอรับบริการรับรองเอกสารสองภาษาได้แล้วที่เขต/อำเภอทุกที่
เราเลยขี้เกียจแปลเอง
แต่เพื่อความชัวร์ว่าออกไปแล้วจะไม่วืด เราเลยโทรไปสอบถามกรมการปกครองก่อนอีกรอบที่เบอร์ 1548
จนท.ก็คอนเฟิร์มว่าไปขอคัดเอกสารภาษาอังกฤษได้เลยทุกเขต
เราจะมาสรุปขั้นตอนที่เราไปเจอมาคร่าวๆตามนี้นะคะ เผื่อใครกำลังมองหาข้อมูลอยู่
- ไม่ใช่จนท.ทุกเขตที่รู้เรื่องนี้นะ เพราะเราไปที่เขตนึงมาก่อนหน้านี้ เค้าบอกว่าไม่มีบริการรับรองเอกสารภาษาอังกฤษให้ งงเลย
เลยต้องไปเขตในเมืองอีกรอบ
- ข้อมูลก่อนปี 2540 เช่นพวกทะเบียนสมรสที่จดมาก่อนหน้านั้นนานๆจะไม่มีข้อมูล หรือแม้แต่สูติบัตรของคนวัยเราก็ไม่พบข้อมูลเช่นกัน
ซึ่งปกติสูติบัตรก็ใช้แค่ของเด็กอยู่แล้ว
- ไปทำในเขตในเมืองจะง่ายหน่อยค่ะ เพราะคาดว่าคงมีคนไปขอกันเยอะ จนท.ก็จะเข้าใจเราทันที ^^" ไม่ต้องอธิบายเยอะ แค่บอกว่านำไปขอวีซ่า
- มีค่าใช่จ่ายใบละ 10 บาท
- จนทแจ้งว่าเอกสารรับรองมีอายุแค่ 30 วัน ไม่ต้องขอเผื่อเยอะก็ได้ ใช้เมื่อไหร่ค่อยมาขอ (แต่เราก็ไม่เห็นว่ามันมีเขียนว่า valid แค่30 วันนะ มีแค่ลงวันที่รับรองให้อย่างเดียว)
- ตอนไปขอใช้แค่บัตรประชาชนใบเดียวค่ะ ขอแทนกันได้ถ้ามีมอบอำนาจมา
เดี๋ยวมารีวิว #การขอวีซ่าอังกฤษ และ #การเตรียมเอกสาร ของลูกน้อยกันต่อครั้งหน้าค่ะ ^^
#อ้างลูกเที่ยว
ฝากกดติดตามด้วยนะคะ youtube : https://www.youtube.com/channel/UC6nzz_4trvdPAnUdfPRGgeA
เพจ FB https://www.facebook.com/thefamilytraveller