แฟนฝรั่งเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้มันหมายความว่ายังไง?

สวัสดีค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า...
ตอนนี้คบกับหนุ่มอังกฤษอยู่คนหนึ่งค่ะ คบกันได้จะ 6 เดือนแล้ว คือเรารู้จักกันผ่านแอพค่ะ หนูไลฟ์สดผ่าแอพๆหนึ่ง เเล้วมีเค้าเข้ามาดู แล้วก็คุยกันมาเรื่อยๆ เดือนแรกๆ เค้าโทรหาตลอด ส่งข้อความให้ตลอดถึงแม้ว่าเค้าจะยุ่งเรื่องทำไงก็ตาม พอเลิกงานเค้าก็โทรหาตลอดค่ะ พอเข้าเดือนที่ 2 เค้าก็เริ่มบอกรักค่ะ และบอกว่าอยากให้อยู่ด้วยกัน เค้าซื้อตุ๊กตาหมีตามที่เราขอในวันวาเลนไทน์ด้วยน้ะ บอกว่าเป็นตัวแทนตัวเราไม่ไม่สามารถอยู่กับเค้า ณ ตอนนั้นได้ พอเข้าเดือนที่สาม เราเริ่มถามข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น ว่าเค้าทำงานอะไร ครอบครัวเผ็นอย่างไร แต่เค้าก็เปิดเผยดีนะคะ มีแค่บางเรื่องที่ยังเก็บไว้เช่น เคยถามเค้าว่า มีใรรู้ไหมว่า เราคบกัน เค้าก็บอกว่า แค่เพื้อนของเค้า เค้าบอกกับเพื้อนของเค้าแค่ว่า กำลังคบกับผู้หญิงคนหนึ่ง เข้าเดือนที่4 เราเริ่มถามเค้าว่า อยากเจอกัน อยากให้มาไทย เค้าก็บอกกันเราว่า ขอเค้าเก็บตังให้ได้เยอะๆก่อน เค้าต้องซื้อบ้านเป็นของตัวเองก่อนไรงี้ เเล้วเค้าก็ถามเรากลับว่า อยากไปอังกฤษไหม 4 เดือนที่ผ่านมารู้สึกเค้าห่วงใยเรามากค่ะ พอเข้าเดือนที่ 5 เริ่มจะมีปัญหาเรื่องขอเวลาเข้ามา เพราะเวลาเค้ากับเรามันไม่ตรงกัน เค้าเริ่มเปลี่ยนไป จากที่ส่งข้อความหาเราทุกๆยี่สิบนาทีถึงแม้จะติดงาน ตอนนี้เป็น ชม. กว่าจะตอบ เลิกงานก็ยังคงโทรมาหาเหมือนเดิมค่ะ แต่คุยกันน้อยลง เค้าบอกงานยุ่ง ต้องไปทำโน่นนั่นนี่ เราก็เข้าใจนะคะว่า เราไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ตลอดเวลา เพราะเวลาของเราห่างกัน 6 ชม. ช่วงนี้เราทะเลาะกันบ่อยมากค่ะ เค้าบอกว่าเค้าไม่ค่อยมีเวลาว่างเลย เช้าทำงาน ถึง 4 โมงเย็น หลังเลิกงานก็โทรหา (ประมาณ 4ทุ่ม บ้านเรา) หลังจากนั้นก็ไปยิม กลับบ้าน กินข้าว นอน เค้าบอกกับเราว่า เค้าไม่มีเวล่ไปหาเพื้อน อยู่กับครอบครัวไรงี้เลย อีกอย่างเค้าบอกว่า เราไม่เข้าใจเค้า มันก็จริงนะคะ เราไม่เค้าใจ พอเราบอกเค้าว่ายูเปลี่ยนไปน้ะ เค้าก็หงุดหงิดใส่ นี่เป็นเรื่องคร่าวๆนะคะ ถึง ณ ตอนนี้ก็อยากกลับไปเป็นเหมือนเดิน ให้เค้าแคร์เราเหมือนเดิม ควรทำยังไงดีค่ะ อีกอย่าง ทำยังไงให้เราได้เจอกันสักทีค่ะ เค้าบอกว่า มันเจ็บนะ ที่เราสองคนอยู่ไกลกันมาก เค้าพูดเหมือนจะร้องให้ .... ต้องทำยังไงดีคะ ถึงจะเก็บรักษาความสัมพันธ์นี้ไว้ต่อไปได้ ต้องทำยังไงดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่