หลังจากที่เข้าตลาดหุ้นมาได้สามปี หุ้นตัวแรกที่ซื้อคือ True ที่ 7.1 บาท นั่งดูกระพิบๆตลอดเวลาตอนนั้นถือได้สามวันหัวใจจะวาย ขายที่ 7.2 บาท นึกแล้วก็ตลกตัวเอง ทำไมปอดจัง 55555 แต่ดีแล้วที่ไม่ถือมาจนวันนี้ 55555
ปัจจุบันผมอายุ 25 ปี ทำงานมาแล้ว 4 ปีกว่าๆ ผมทำธุรกิจครอบครัว เป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตโรงงานอุตสาหกรรมส่งออก
อยากฝึกลงทุนหารายได้จากทางอื่นบ้าง อยากสร้างตัวเองด้วยฝีมือของตัวเอง
เพื่อลบคำสบประมาทของผู้ใหญ่หลายๆคนที่ชอบพูดว่า "ทำธุรกิจครอบครัวสบายแล้ว เริ่มก็เป็นเจ้านายเลยมีคนสร้างให้ไม่ต้องสร้างเอง"
แต่หารู้ไม่ว่าการที่เราไม่ได้สร้างมันขึ้นมาเอง ทำให้มันยากต่อการดูแลรักษามันให้ยั่งยืนเหมือนกันเพราะเราไม่ได้รู้รอบด้านเหมือนคนที่สร้างขึ้นมา การทำงานกับครอบครัวมันต้องมีวิธีและสไตล์ของมันที่ทำให้ธุรกิจมันเวิค มันเต็มไปด้วยการเคารพดูแลจิตใจซึ่งกันและกัน การประนีประนอม การแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว การจัดการเพื่อให้ชีวิตครอบครัวและการงานสำเร็จทั้งสองด้าน
ตลาดหุ้นเลยเป็นทางออกที่ดีที่สุดในความคิดผม ไม่ใช้เวลาเยอะ ไม่ทำให้เราเสียงาน ทำให้เรามีแรงบัลดาลใจในการหาข้อมูลและเข้าใจเศรษฐกิจ
สิ่งที่ผมได้รับจากตลาดหุ้น
1. ความกล้า
ส่วนตัวผมเป็นคนขี้กังวล ย้ำคิดย้ำทำไม่ชัวไม่ทำ เรียกง่ายๆว่าปอด 5555 เงินเก็บ90%ของผม อยู่ในพอร์ต ทั้งหมด เพราะฉะนั้นเวลาซื้อหุ้นแต่ล่ะตัวมันทำให้ผมมีเดิมพันที่ใหญ่มากหวิวกันเลยทีเดียว
2. แรงบัลดาลใจ
การที่เห็นคนหลายคนประสบความสำเร็จในพื้นที่นี้มันทำให้ผมมีแรงบัลดาลใจมาก ผมมองว่า เดี้ยววันของเราก็จะต้องมาขอแค่เรามุ่งมั่นตั้งใจไปกับมันลม10ครั้งต้องลุก11ครั้ง แต่ดีที่สุดคือล้มทีเดียวพอให้พอรู้รสชาติเยอะไปมันเครียด 55555
3. ความใฝ่รู้รอบด้าน
แน่นอนครับผมทำงานเป็นนักธุรกิจ เดินทางติดต่อลูกค้าต่างประเทศดูโรงงานคู่ค้าตลอดเวลาผมได้เห็นอะไรหลายๆอย่างๆ ความรู้สำคัญมาก แต่ถ้าผมไม่ได้นำตัวเองเข้ามาในตลาดหุ้นไฟในการอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจจะไม่เยอะขนาดนี้ เพราะผมก็แค่จะรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ผมทำ เวลาศึกษาก็จะลึกลงไปในงานแต่จะไม่กว้างออกไปขนาดนี้
4. ความอดทน
รู้เลยครับว่าเวลาหุ้นเราลงเราจะใจหายขนาดไหน ผมใช้เงินเดินล่ะไม่ถึงหมื่น (สวัสดิการบริษัทเยอะ) กินข้าวนอกบ้านยังคิด พอหุ้นลงลบที่เป็นแสนๆ ผมนี้ไปไม่เป็นเลยครับ 5555 แต่ก็นะ เงินเย็นใจก็ต้องเย็นด้วย ในหัวคิดเสมอ เราพึ่ง 25 เงินหายเดี้ยวหาใหม่ให้มันเป็นประสบการณ์มั้ง 555555
5. ความเป็นนักลงทุน
ผมเป็นนักธุรกิจก็จริง แต่ธุรกิจที่ผมทำอยู่ผมไม่ได้สร้างมันขึ้นมา มันอยู่ได้ใหญ่ได้ โดยพ่อผม ผมไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ลงแต่แรงบู๊อดหลับอดนอนอย่างเดียวผิดผลาดก็มีพ่อที่คอยดูแลคอยสอนคอยตีกรอบให้ผม แล้วก็รอรับเงินเดือน โบนัส ปันผล แต่ตลาดหุ้นมันต่างกัน เราต้องรับผิดชอบเอง 100% ทุก Decision
สำหรับผม ตลาดหุ้นให้สิ่งดีและนิสัยดีๆกับผมเยอะมากทำให้ผมสามารถเอาไปต่อยอดชีวิตผมได้ ปัจจุบันผมแต่งงานแล้วมีบ้านแล้วไม่มีหนี้ มีแผนชีวิตกับภรรยาชัดเจน ไม่มีความกดดันจากภายนอกอะไรมากมาย มีความสุขมาก แต่ชีวิตก็ต้องไปต่อ ต้องทะเยอทะยาน เพื่อชีวิตที่ยอดเยี่ยมของครอบครัวของเรา ผมตั้งเป้าหมายว่าภายใน 5 ปี ครอบครัวผมสามารถอยู่ได้โดยปันผลจากหุ้นของผม โดยที่ไม่ต้องใช้เงินที่ได้จากธุรกิจของผมเลย แล้วเงินส่วนนี้ผมจะเอาไปใช้กับสิ่งที่พิเศษๆให้กับครอบครัวของผม หลักๆคือให้ภรรยาเก็บไว้เลย เที่ยวต่างประเทศของหรูหราต่างๆ ไม่รู้จะทำได้ยากง่ายขนาดไหนเพราะถ้ามันง่ายคงมีแต่คนทำได้กันหมด ผมอยากจะแชร์ให้กับพี่ๆเพื่อนๆครับ
ผมอยากรู้ว่าสำหรับพี่ๆเพื่อนๆ ตลาดหุ้นให้อะไรกับคุณบ้าง ?
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ครับผมมมม
!!
ตลาดหุ้นให้อะไรกับคุณบ้าง ?
ปัจจุบันผมอายุ 25 ปี ทำงานมาแล้ว 4 ปีกว่าๆ ผมทำธุรกิจครอบครัว เป็นผู้จัดการฝ่ายผลิตโรงงานอุตสาหกรรมส่งออก
อยากฝึกลงทุนหารายได้จากทางอื่นบ้าง อยากสร้างตัวเองด้วยฝีมือของตัวเอง
เพื่อลบคำสบประมาทของผู้ใหญ่หลายๆคนที่ชอบพูดว่า "ทำธุรกิจครอบครัวสบายแล้ว เริ่มก็เป็นเจ้านายเลยมีคนสร้างให้ไม่ต้องสร้างเอง"
แต่หารู้ไม่ว่าการที่เราไม่ได้สร้างมันขึ้นมาเอง ทำให้มันยากต่อการดูแลรักษามันให้ยั่งยืนเหมือนกันเพราะเราไม่ได้รู้รอบด้านเหมือนคนที่สร้างขึ้นมา การทำงานกับครอบครัวมันต้องมีวิธีและสไตล์ของมันที่ทำให้ธุรกิจมันเวิค มันเต็มไปด้วยการเคารพดูแลจิตใจซึ่งกันและกัน การประนีประนอม การแยกแยะระหว่างเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัว การจัดการเพื่อให้ชีวิตครอบครัวและการงานสำเร็จทั้งสองด้าน
ตลาดหุ้นเลยเป็นทางออกที่ดีที่สุดในความคิดผม ไม่ใช้เวลาเยอะ ไม่ทำให้เราเสียงาน ทำให้เรามีแรงบัลดาลใจในการหาข้อมูลและเข้าใจเศรษฐกิจ
สิ่งที่ผมได้รับจากตลาดหุ้น
1. ความกล้า
ส่วนตัวผมเป็นคนขี้กังวล ย้ำคิดย้ำทำไม่ชัวไม่ทำ เรียกง่ายๆว่าปอด 5555 เงินเก็บ90%ของผม อยู่ในพอร์ต ทั้งหมด เพราะฉะนั้นเวลาซื้อหุ้นแต่ล่ะตัวมันทำให้ผมมีเดิมพันที่ใหญ่มากหวิวกันเลยทีเดียว
2. แรงบัลดาลใจ
การที่เห็นคนหลายคนประสบความสำเร็จในพื้นที่นี้มันทำให้ผมมีแรงบัลดาลใจมาก ผมมองว่า เดี้ยววันของเราก็จะต้องมาขอแค่เรามุ่งมั่นตั้งใจไปกับมันลม10ครั้งต้องลุก11ครั้ง แต่ดีที่สุดคือล้มทีเดียวพอให้พอรู้รสชาติเยอะไปมันเครียด 55555
3. ความใฝ่รู้รอบด้าน
แน่นอนครับผมทำงานเป็นนักธุรกิจ เดินทางติดต่อลูกค้าต่างประเทศดูโรงงานคู่ค้าตลอดเวลาผมได้เห็นอะไรหลายๆอย่างๆ ความรู้สำคัญมาก แต่ถ้าผมไม่ได้นำตัวเองเข้ามาในตลาดหุ้นไฟในการอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจจะไม่เยอะขนาดนี้ เพราะผมก็แค่จะรู้เกี่ยวกับสิ่งที่ผมทำ เวลาศึกษาก็จะลึกลงไปในงานแต่จะไม่กว้างออกไปขนาดนี้
4. ความอดทน
รู้เลยครับว่าเวลาหุ้นเราลงเราจะใจหายขนาดไหน ผมใช้เงินเดินล่ะไม่ถึงหมื่น (สวัสดิการบริษัทเยอะ) กินข้าวนอกบ้านยังคิด พอหุ้นลงลบที่เป็นแสนๆ ผมนี้ไปไม่เป็นเลยครับ 5555 แต่ก็นะ เงินเย็นใจก็ต้องเย็นด้วย ในหัวคิดเสมอ เราพึ่ง 25 เงินหายเดี้ยวหาใหม่ให้มันเป็นประสบการณ์มั้ง 555555
5. ความเป็นนักลงทุน
ผมเป็นนักธุรกิจก็จริง แต่ธุรกิจที่ผมทำอยู่ผมไม่ได้สร้างมันขึ้นมา มันอยู่ได้ใหญ่ได้ โดยพ่อผม ผมไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ลงแต่แรงบู๊อดหลับอดนอนอย่างเดียวผิดผลาดก็มีพ่อที่คอยดูแลคอยสอนคอยตีกรอบให้ผม แล้วก็รอรับเงินเดือน โบนัส ปันผล แต่ตลาดหุ้นมันต่างกัน เราต้องรับผิดชอบเอง 100% ทุก Decision
สำหรับผม ตลาดหุ้นให้สิ่งดีและนิสัยดีๆกับผมเยอะมากทำให้ผมสามารถเอาไปต่อยอดชีวิตผมได้ ปัจจุบันผมแต่งงานแล้วมีบ้านแล้วไม่มีหนี้ มีแผนชีวิตกับภรรยาชัดเจน ไม่มีความกดดันจากภายนอกอะไรมากมาย มีความสุขมาก แต่ชีวิตก็ต้องไปต่อ ต้องทะเยอทะยาน เพื่อชีวิตที่ยอดเยี่ยมของครอบครัวของเรา ผมตั้งเป้าหมายว่าภายใน 5 ปี ครอบครัวผมสามารถอยู่ได้โดยปันผลจากหุ้นของผม โดยที่ไม่ต้องใช้เงินที่ได้จากธุรกิจของผมเลย แล้วเงินส่วนนี้ผมจะเอาไปใช้กับสิ่งที่พิเศษๆให้กับครอบครัวของผม หลักๆคือให้ภรรยาเก็บไว้เลย เที่ยวต่างประเทศของหรูหราต่างๆ ไม่รู้จะทำได้ยากง่ายขนาดไหนเพราะถ้ามันง่ายคงมีแต่คนทำได้กันหมด ผมอยากจะแชร์ให้กับพี่ๆเพื่อนๆครับ
ผมอยากรู้ว่าสำหรับพี่ๆเพื่อนๆ ตลาดหุ้นให้อะไรกับคุณบ้าง ?
ขอบคุณสำหรับพื้นที่ครับผมมมม