ย้อนรอยประวัติศาสตร์ไปพร้อมซุป’ตาร์สาวสวยแห่งยุค เมื่อเธอคืนสู่อดีตไปใช้ชีวิตในดินแดนล้านนาภายใต้การปกครองของพระเจ้าแผ่นดินผู้ถูกขนานนาม “เจ้าชีวิตอ้าว”
เป็นเรื่องราวน่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นกับ“กลินท์” เมื่อเธอสามารถเดินทางผ่านมิติเวลาสู่ยุคอดีตอันรุ่งเรืองของแผ่นดินล้านนาซึ่งเต็มไปด้วยตำนานและความเชื่อ และที่แห่งนี้เธอได้พบ“หลุยส์” มิชชันนารีหนุ่มจิตใจดี ผู้ไขข้อข้องใจว่าเธอข้ามมาในแผ่นดินของ “พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์” ผู้ครองนครเชียงใหม่ ซึ่งผู้คนเล่าขานถึงความเป็น “เจ้าชีวิต” เด็ดขาดชนิดที่รู้กันดีว่า หากพระองค์ตรัสคำว่า “อ้าว”ขึ้นมาคราใด หมายความว่าต้องมีใครถูกปลิดชีวิตแน่นอน!
“พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์” เป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ ซึ่งตอนนั้นอยู่ในฐานะประเทศราชของสยาม ตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระอัจฉริยภาพด้านการเมืองและการปกครองเป็นที่เลื่องลือ ทั้งยังทรงเป็นเจ้าเมืองที่มีพระนิสัยเด็ดขาดจนเป็นที่เคารพยำเกรงในหมู่ข้าราชบริพารและพสกนิกร ว่ากันว่า... เมื่อมีการพิจารณาคดีแล้วตรัสคำว่า“อ้าว” ขึ้นมา หมายถึงการต้องโทษตัดศีรษะประหารชีวิต จนผู้คนต่างพากันเรียกพระองค์ว่า“เจ้าชีวิตอ้าว”
เหตุการณ์ความเด็ดขาดของพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้คณะมิชชันนารีเข้ามาเผยแพร่ความรู้และวิทยาการต่างๆ รวมทั้งศาสนาคริสต์ซึ่งต่อมาพระองค์ทรงรู้สึกว่าการเผยแผ่ศาสนาของคณะมิชชันนารีเริ่มสั่นสะเทือนความมั่นคง ความเชื่อ และการปกครองของพระองค์จนวันหนึ่งถึงขั้นสั่งประหารชีวิตคริสต์ศาสนิกชนสองคน เพราะพวกเขาไม่ยอมมาทำงานในวันอาทิตย์ซึ่งถือเป็นวันที่พระผู้เป็นเจ้าหยุดทำงาน กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้สยามต้องยื่นมือเข้าช่วย
อีกเหตุการณ์หนึ่งคือพระองค์ทรงได้รับช้างเผือกมาสองเชือก ฝ่ายกรุงอังวะรู้ข่าวก็ส่งเจ้านายมาขอซื้อช้าง แต่พระองค์บอกว่า “แค่ช้างสองเชือก จะคิดเป็นเงินเป็นทองอะไรกัน เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน ยกให้เปล่าๆ ไปเลย” ด้านอังวะก็มอบแก้วแหวนเงินทองให้เป็นการตอบแทน ฝ่ายสยามรู้เข้าก็เรียกมาสอบข้อเท็จจริง ก่อนไปพระองค์ก็ตรัสสั่งพระญาติสนิทว่า หากพระองค์เป็นอะไรไปขอให้หันหลังให้สยามแล้วไปขอกำลังจากกรุงอังวะ ฝรั่งเศส หรืออินเดียแทน!แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นสยามตัดสินว่าพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ไม่มีความผิด จึงให้กลับมาครองเมืองเชียงใหม่ตามเดิม
ติดตามเกร็ดประวัติศาสตร์ต่างๆ และเรื่องราวของ “กลินท์” เมื่อเธอข้ามมิติไปเหยียบแผ่นดินล้านนาสมัยพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ครองเมือง ใน “เพลิงพรางเทียน”
อีก3ตอนสุดท้ายแล้ว!!
ที่มา : www.ch3thailand.com
ไขคำตอบ ย้อนอดีตสู่ยุคกษัตริย์องค์ใดครองเชียงใหม่ #เพลิงพรางเทียน
เป็นเรื่องราวน่าเหลือเชื่อที่เกิดขึ้นกับ“กลินท์” เมื่อเธอสามารถเดินทางผ่านมิติเวลาสู่ยุคอดีตอันรุ่งเรืองของแผ่นดินล้านนาซึ่งเต็มไปด้วยตำนานและความเชื่อ และที่แห่งนี้เธอได้พบ“หลุยส์” มิชชันนารีหนุ่มจิตใจดี ผู้ไขข้อข้องใจว่าเธอข้ามมาในแผ่นดินของ “พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์” ผู้ครองนครเชียงใหม่ ซึ่งผู้คนเล่าขานถึงความเป็น “เจ้าชีวิต” เด็ดขาดชนิดที่รู้กันดีว่า หากพระองค์ตรัสคำว่า “อ้าว”ขึ้นมาคราใด หมายความว่าต้องมีใครถูกปลิดชีวิตแน่นอน!
“พระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์” เป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ 6 แห่งราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ ซึ่งตอนนั้นอยู่ในฐานะประเทศราชของสยาม ตรงกับสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พระอัจฉริยภาพด้านการเมืองและการปกครองเป็นที่เลื่องลือ ทั้งยังทรงเป็นเจ้าเมืองที่มีพระนิสัยเด็ดขาดจนเป็นที่เคารพยำเกรงในหมู่ข้าราชบริพารและพสกนิกร ว่ากันว่า... เมื่อมีการพิจารณาคดีแล้วตรัสคำว่า“อ้าว” ขึ้นมา หมายถึงการต้องโทษตัดศีรษะประหารชีวิต จนผู้คนต่างพากันเรียกพระองค์ว่า“เจ้าชีวิตอ้าว”
เหตุการณ์ความเด็ดขาดของพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้คณะมิชชันนารีเข้ามาเผยแพร่ความรู้และวิทยาการต่างๆ รวมทั้งศาสนาคริสต์ซึ่งต่อมาพระองค์ทรงรู้สึกว่าการเผยแผ่ศาสนาของคณะมิชชันนารีเริ่มสั่นสะเทือนความมั่นคง ความเชื่อ และการปกครองของพระองค์จนวันหนึ่งถึงขั้นสั่งประหารชีวิตคริสต์ศาสนิกชนสองคน เพราะพวกเขาไม่ยอมมาทำงานในวันอาทิตย์ซึ่งถือเป็นวันที่พระผู้เป็นเจ้าหยุดทำงาน กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้สยามต้องยื่นมือเข้าช่วย
อีกเหตุการณ์หนึ่งคือพระองค์ทรงได้รับช้างเผือกมาสองเชือก ฝ่ายกรุงอังวะรู้ข่าวก็ส่งเจ้านายมาขอซื้อช้าง แต่พระองค์บอกว่า “แค่ช้างสองเชือก จะคิดเป็นเงินเป็นทองอะไรกัน เพื่อความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนบ้าน ยกให้เปล่าๆ ไปเลย” ด้านอังวะก็มอบแก้วแหวนเงินทองให้เป็นการตอบแทน ฝ่ายสยามรู้เข้าก็เรียกมาสอบข้อเท็จจริง ก่อนไปพระองค์ก็ตรัสสั่งพระญาติสนิทว่า หากพระองค์เป็นอะไรไปขอให้หันหลังให้สยามแล้วไปขอกำลังจากกรุงอังวะ ฝรั่งเศส หรืออินเดียแทน!แต่เหตุการณ์ครั้งนั้นสยามตัดสินว่าพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ไม่มีความผิด จึงให้กลับมาครองเมืองเชียงใหม่ตามเดิม
ติดตามเกร็ดประวัติศาสตร์ต่างๆ และเรื่องราวของ “กลินท์” เมื่อเธอข้ามมิติไปเหยียบแผ่นดินล้านนาสมัยพระเจ้ากาวิโลรสสุริยวงศ์ครองเมือง ใน “เพลิงพรางเทียน”
อีก3ตอนสุดท้ายแล้ว!!
ที่มา : www.ch3thailand.com