เรามีคำถามมากมายที่ต้องการคำตอบ

สวัสดีค่ะ ชาวพันทิปทุกท่าน นี่เป็นกระทู้แรกของเรา หากมีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย

เรามีข้อสงสัยในชีวิตมากมายที่ไม่เข้าใจค่ะ
กระทู้นี้ยาวมากๆค่ะ เราถือโอกาสตั้งคำถามและระบายไปในตัว ถ้าหากว่าไม่ถูกใจก็ต้องขอโทษอีกเช่นกันค่ะ
เรื่องที่ 1 เมื่อสองถึงสามปีก่อน เราเป็นคนพูดมากและปากเสียมากค่ะ เวลาเราพูดอะไรก็เป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนเสียใจไปหมด เพื่อนของเราเคยร้องไห้เพราะคำพูดของเราหลายคน เพื่อนๆเตือนเรานะคะ ว่าเราพูดจาไม่ดี ปากหมาบ้างหล่ะ หรือแม้แต่ พูดมากอ่ะรำคาญ(สะเทือนใจมาก T_T) ตอนนั้นก็เริ่มรู้สึกไม่ดีแล้ว แต่สันดานมันก็คือสันดานค่ะจะแก้ก็ยาก ยิ่งเป็นคนมีความมั่นใจที่มากเกินไป เราก็ใช้ตรรกะที่ว่า "เราพูดความจริงนี่ ทำไมพวกเธอยอมรับมันไม่ได้?" "ก็แค่พูดแซวขำๆอ่ะ จริงจังอะไร"หรือว่า "ก็เราเป็นคนตรงๆ"  เข้ามาปกปิดความรู้สึกผิดเอาไว้ ซึ่งมันผิดมากเลยค่ะที่เราคิดแบบนั้น หนักข้อเข้าคือ เราเคยพูดกับอาจารย์ คือเราแค่พูดขำๆในความคิดของเรา แต่สำหรับผู้ฟังมันกลับกลายเป็นฝันร้าย อาจารย์คนนั้นไม่เข้าสอนอีกเลยค่ะ แล้วส่งอาจารย์ท่านอื่นมาสอนแทน ความรู้สึกผิดก็เกาะกุมจิตใจเรามาก เราเริ่มหมกมุ่นอยู่กับความคิดของเราแล้วค่ะตอนนั้น เพื่อนๆหลายคนก็ด่าเราว่าทำไมพูดแบบนั้น มันเป็นความผิดของเธอนะ ที่อาจารย์เขาเสียใจแบบนี้(ซึ่งตอนนั้นไม่ได้มีแค่เรานะคะที่พูด #แหนะมีการโยนความผิดให้คนอื่นอีก เพียงแต่ว่าเราค่อนข้างเป็นคนเฮฮา และเป็นที่รู้จัก จึงถูกมองเป็นอันดับแรก แต่นั่นแหละค่ะ เราก็ผิดอยู่ดี) เราจึงเริ่มลุกขึ้นมาแก้นิสัยนี้จากเหตุการณ์นั้นค่ะ ที่จริงเราแก้ร่วมกับนิสัยชอบโยนความผิดใส่คนอื่นด้วย เรามองเห็นนิสัยนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าวเช่นกัน แต่นิสัยนี้แก้ยากกว่าอันแรกมากๆ เคยได้ยินประโยคที่ว่า "เห็นความผิดคนอื่นเท่าภูเขา ความผิดเราเป็นเส้นผม" ไหมคะ?นั่นแหละค่ะ เฮ้อ...ท้อแท้ค่ะ
        กลับมาที่นิสัยแรกก่อนค่ะ 555 เริ่มออกทะเล เราก็เริ่มเข้าหาลุงกู เราตัดสินใจที่จะไม่ปรึกษาใครมากนัก เพราะเราค่อนข้างเป็นคนที่ไม่ยอมรับความคิดผู้อื่น(นั่นๆ นิสัยเสียๆมาอีกแล้ว+1) เราเข้ายูทูปบ้าง เสิร์ชพวกคำว่า "เราปากเสียทำไงดี?" หรือว่า "เป็นคนพูดมากแก้ยังไง?" ไม่ก็หาหนังสือห้องสมุดมาอ่านด้วยค่ะ แต่ก็อ่านได้แค่หน้าสองหน้า(ขี้เกียจ +1 555) เราเริ่มจากพูดมากก่อนเลย เพราะสะเทือนใจมากที่เพื่อนบอกว่ารำคาญ เราไปอ่านเจอที่ไหนก็ไม่รู้ค่ะ จำไม่ได้แล้ว ในนั้นเขียนประมาณว่า การถาม ให้ถามเพียงครั้งเดียวให้ชัดเจนแล้วเงียบรอฟังคำตอบ คุณจะพบว่าเขาจะหันมาตอบคำถามคุณอย่างจริงจัง อะไรประมาณนี้แหละค่ะ ก็จำแบบคร่าวๆ แล้วเราก็ลองนำไปใช้
        สมมุติเพื่อนนั่งเขียนอะไรบ้างอย่างอยู่ แบบจดจ่อหรืออาจไม่ได้มองเรา เราก็ถามว่าทำอะไรอยู่หรอ แบบที่เราคิดว่าเพื่อนได้ยินเราแน่ๆแล้ว ก็ให้เรามองหน้าเขา ถึงแม้เขาจะไม่มองเราและเงียบรอฟังคำตอบอย่าถามซ้ำ (ปกติเราพูดมาก ใจร้อน เราก็จะถามซ้ำๆ บางคนอาจไม่เป็นนะคะแต่เราเป็น) ซึ่งมันเป็นอะไรที่มหัศจรรย์มากค่ะกับผลลัพธ์ ปกติเพื่อนเราก็จะไม่เงยหน้าขึ้นมานะคะ แล้วพูดติดน้ำเสียงรำคาญว่า "ก็ทำการบ้านไง ถามอยู่ได้" หรือไม่ก็ "ตามีก้ดูเอาเอง"แรงส์ พอเราลองวิธีพูดแบบใหม่ เพื่อนเราเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเราแล้วพูดแบบเรียบๆว่า อ่อ การบ้านวิชา...ไง เป็นอะไรที่แบบ ตามที่ได้อ่านมาเป๊ะ! โอ้ สวรรค์ 555 อุทานแบบจีนๆ ตอนนั้นเราก็เลยมีกำลังใจในการปรับแก้นิสัยตัวเองทันทีค่ะ โดยเอาเพื่อนในกลุ่มนั่นแหละค่ะเป็นหนูทดลอง555 บ้างข้อก็เห็นผลทันทีเหมือนตัวอย่างเลยค่ะ แต่บ้างอย่างก็ต้องใช้เวลา เราใช้เวลายาวนานในการแก้นิสัยข้อนี้รวมกับนิสัยชอบโยนความผิดใส่คนอื่น จนผ่านมาหลายปีเรามั่นใจค่ะว่าเราไม่ได้เป็นคนปากร้ายแล้ว(ที่จริงเราเริ่มไม่มั่นใจก็หลังๆมานี้แหละค่ะ) เราพูดก่อนจะคิด เราฟังให้มากขึ้น เราไม่ได้เอาแต่พูดเรื่องของตัวเอง เราถามคำถามเกี่ยวกับคนอื่นมากขึ้น(อันนี้เราก็อ่านเจอมาค่ะว่า เราอาจไม่รู้ตัวว่าเราเอาแต่เล่าเรื่องของตัวเองจนผู้อื่นรู้สึกรำคาญอะไรประมาณนี้) เราอาจจะมีล้อเล่นกับเพื่อนบ้าง แต่เราก็คิดดีแล้วว่า เราไม่ได้ล้อเลียนปมด้อยของเพื่อน เราพูดคำว่าขอบคุณ กับขอโทษได้ทันทีที่รู้สึกว่าตนเองทำผิด เราไม่ได้ดีร้อยเปอร์เซ็นค่ะ เรารู้ เราแค่พยายามที่จะเป็นคนที่ดีขึ้น แต่ปัญหาใหม่มันเริ่มเข้ามาค่ะ
        เพื่อนหลายๆคนที่เคยบอกเราว่า "เราปากไม่ดีนะ" "เราพูดมาก" เริ่มเปลี่ยนไปในสายตาเราค่ะ หรือว่าเขาเป็นแบบนี้แต่แรกเราก็ไม่รู้ค่ะ เพราะตอนนั้นเราฟังน้อยพูดมาก แต่ตอนนี้พอเราฟังมาก เราจึงได้ยินอะไรที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนมั้งคะ? (เดี๋ยวก่อนนะคะ พักแปปนึง ความคิดเห็นตรงนี้เป็นความคิดเห็นที่สำคัญมากต่อชีวิตเราจริงๆค่ะ เราคิดแบบนี้จริงๆจึงเขียนมันขึ้น เราอยากให้ทุกคนวางความเป็นตัวเองลงแล้วมองโลกให้กว้างหน่อยนะคะ)
        เพื่อนของเราในกลุ่มมีค่อนข้างมากค่ะ มีตั้งแต่ระดับเด็กเนิร์ด จนถึงแนวชอบปาร์ตี้สังสรรค์(กินเหล้า บ้าผู้ชายนิดๆหน่อยๆ) เราบอกตรงนี้เลยนะคะ เรามองเพื่อนทุกคนเท่าเทียมนะคะ ที่เปรียบเปรยนั่นหมายถึงไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตค่ะ แต่เราก็อยู่ด้วยกันนะคะ ถึงแม้จะทะเลาะกันบ้างก็ตาม(เราว่าเราออกทะเลไปเยอะมากเลยค่ะ เขียนครั้งแรกอะไรๆก็อยากเล่า เรียบเรียงคำพูดยังไม่เป็นต้องขออภัย)
        เพื่อนๆเริ่มล้อเลียนเรากลับค่ะ(เวรกรรมตามทันในชาตินี้) คำพูดและการกระทำของเพื่อนๆเริ่มทำร้ายเรา ในขณะที่เราเงียบ ไม่โต้ตอบกลับกลายเป็นว่าเราถูกเพื่อนโจมตีป้อมปราการอย่างหนักหน่วงค่ะ ยกตัวอย่างนะคะ
       -เพื่อนตบหัวเราค่ะ (เดี๋ยวนะคะ อย่าเพิ่งพูดว่าใครๆก็ทำกัน เป็นเพื่อนกัน) ไม่ค่ะพวกเราไม่เคยตบหัวกัน ประการแรกนะคะ ยอมรับนะคะว่าตอนเด็กๆเราเคยตบหัวเพื่อน แล้วหลายๆคนที่ทำแบบนั้นเราเชื่อค่ะว่าตอนนั้นเราคิดว่า เรามีอำนาจ ยัยนี่อ่อน ยัยเด็กนี่ไม่กล้าเล่นเราคืนอะไรประมาณนี้แน่ๆ(บางคนอาจไม่ได้คิดเหมือนเรา) แต่ตอนนี้เราโตแล้วค่ะ เรามองเพื่อนเท่าเทียมกับเรา เขามีศักดิ์ศรี เขามีคนที่รักเขา และเขารักตัวเขาเอง เราคิดแบบนี้และไม่เคยตบหัวเพื่อนอีกเลย แต่เขาตบหัวเราค่ะ เราพูดแบบไม่ให้เพื่อนเสียน้ำใจไปแล้วค่ะ ว่า "เห้ยย เล่นไรเนี่ยเราไม่ชอบนะ" ไปแล้วนะคะ มีอยู่สองคนค่ะที่ทำแบบนี้ คนแรกก็ไม่ทำแล้วค่ะ แต่อีกคนยังทำอยู่ เคยโดนหนังสือครั้งหนึ่ง แล้วก็โดนพลักหัวค่ะ (อย่าดราม่านะคะเรารักเพื่อนเราค่ะ และเราก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเขามีข้อดีมากมายค่ะ แต่ตรงนี้คือสิ่งที่เราไม่เข้าใจ ใครจะบอกเราโลกสวยก็ตามที หรือคำถามปัญญาอ่อนอะไรก็ตาม)
คำถามนะคะ เราไม่เคยตบหัวเขา ทำไมเขาต้องทำแบบนี้กับเราคะ เขาไม่คิดว่าเราเท่าเทียม หรือว่าเราทำตัวไม่มีความน่าเกรงขามหรือเปล่าคะ เราไม่ต้องการให้เพื่อนมาไหว้เคารพเรานะคะ แต่กับคนอื่นๆเขาไม่ได้ทำแบบนี้ค่ะ เป็นเราคนเดียวที่โดน มันทำให้เราอยากรู้ว่า เพื่อนมองเรายังไง คือคนที่ตบหัวเพื่อนคุณมองว่าเพื่อนเป็นคนยังไงหรอคะถึงกล้าตบหัวเขา แล้วคนแบบไหนคะที่คุณคิดว่าไม่กล้าตบหัว เราจะได้นำมาปรับให้เข้ากับตัวเราค่ะ

       -เราเป็นคนตลก บ่อยครั้งที่เรามักจะมีมุกฮาๆ มาเล่นกับเพื่อน(นี่ก็เป็นข้อหนึ่งที่ตอนแรกเราคิดว่า เพื่อนคงเห็นเราเป็นคนตลกมั้งเลยอยากแกล้งตบหัว แหนะพูดเหมือนตัวเองดีอีกแล้ว มองให้กว้างนะคะ คนเราก็ต้องคิดให้ได้หลายๆมุม) เราเริ่มโดนล้อปมด้อยหลายๆข้อ คืออย่างที่เราบอกนะคะว่าเราค่อนข้างมั่นใจแล้วว่าเราไม่ได้ปากหมา หลายๆคนที่เคยพูดว่าเราปากหมาตอนนี้ก็ไม่ได้ว่าแล้ว แต่เหมือนเพื่อนๆของเรามีความฝังใจเลยค่ะ (มันคงเป็นเวรกรรม...) คืออยู่ๆเพื่อนก็ล้อเราหนักๆแล้ว เราก็ถามว่าล้อเราทำไมหรอ เราไม่ชอบนะ แล้วเค้าก็บอกว่า ก็เธอล้อเราก่อน และเราก็ถามว่า เราล้อว่าอะไร แล้วเค้าก็ตอบไม่ได้ค่ะ เห็นไหมคะเราไม่ได้ล้อ แต่เพื่อนยังฝังใจว่าเราเป็นคนแบบนั้น เราอยากถามว่า เรามาถูกทางหรือเปล่า ทำไมเพื่อนๆยังมองเราเหมือนเดิม ทั้งที่เราเคิดว่าเราเปลี่ยน หรือจริงๆแล้วเราแค่คิด แต่เราไม่ได้เปลี่ยน คือเรื่องล้อเราไม่ได้ถือเพราะมันก็เป็นปกติดี เราแค่เพียงอยากให้เหตุผลของการล้อเล่นของเพื่อนเราเปลี่ยนไป เช่น ถ้าเราถามว่าล้อเราทำไม เราอยากให้เพื่อนคิดและตอบออกมาว่า เป็นเพราะเขาเองที่อยากล้อมนัสนุกดี ไม่ใช่เพราะว่าเป็นเพราะเราเคยล้อเขาก่อน หรือเราไม่สามารถทำได้หรอคะ ก็คือสรุป เราอยากให้ทัศนะคติของเพื่อนที่มีต่อเราเปลี่ยน แต่มันไม่เปลี่ยนเลย เป็นเพราะเรายังพยายามไม่มากพอหรือว่าเพื่อนเราฝังใจจริงๆ แล้วเราควรจะทำยังไงดี

ขอถามเพียงเท่านี้ก่อนค่ะ ปล.จขกท.ยังคงเป็นเด็กคนหนึ่งค่ะ วัยของจขกท.ยังอยู่ในวัยที่ต้องการเป็นที่ยอมรับของสังคม คำถามจึงเป็นคำถามของคนที่ยังไม่มีวุฒิภาวะเพียงพอ หากมีคำแนะนำดีๆ จขกท.ยินดีรับฟังคำชี้แนะจากทุกเพศทุกวัยค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่