หลังเรียนจบ ถ้าอยากจะหางานในประเทศเนเธอร์แลนด์ต่อเพื่อเอาประสบการณ์ก่อนกลับไทย ควรหาช่วงเดือนไหน หายังไง วันนี้จะมาแชร์ให้ฟังว่า timeline ประมาณไหนค่ะ
มหาวิทยาลัยที่นี่จะเริ่มภาคการศึกษาอยู่สองช่วง คือ Sep หรือ Jan/Feb ส่วนมากแล้วจะเป็นแบบแรก ซึ่งเปิดเทอมหลังจากหยุด summer ในเดือน Jun-Aug แต่บางหลักสูตรก็เป็นแบบสอง คือจะเปิดหลังหยุดปีใหม่ไปเลย
ระยะเวลาเรียน โดยเฉลี่ยหลักสูตรปริญญาตรี 3 ปี ปริญญาโท 1 ปี
ส่วนปริญญาโทเนี่ย จากประสบการณ์จริง เรียนจริงๆแค่ 9 เดือน + 3 เดือน thesis / internship เริ่มเรียน Sep ก็จะไปจบปลาย Aug ปีถัดไป แล้วรับปริญญาเดือน Dec ค่ะ ช่วงหิมะตกพอดี
มาเข้าเรื่องสมัครงาน ข้อแม้มีอยู่ว่า การทำงานที่นี่สำหรับคนจากประเทศนอก European Union ต้องมีวีซ่าสำหรับทำงาน ถ้าเรายังมีสถานะนักเรียนอยู่ เราจะทำได้แค่ internship นั่นเอง
ตอนนั้นพอส่ง thesis จบ ผ่านเรียบร้อย รู้ผลเดือน Sep พร้อม transcript ที่ดูออนไลน์ได้ทันที มหาวิทยาลัยรับรองสถานะว่าเราเรียนจบหลักสูตรแล้ว แต่เนื่องจากในขณะนั้นเรากำลังถือ Student visa อยู่ ซึ่งจะมีอายุถึง Mar ปีถัดไป ก็คืออยู่เที่ยวได้แต่ทำงานไม่ได้ค่ะ
ในช่วง Oct-Dec นี่แหละที่เราจะดำเนินการสมัคร Orientation year visa เพื่อเอาไว้สมัครงาน วีซ่านี้มีอายุ 1 ปี หลังจากนั้น บริษัทจะต้องเป็นผู้สมัคร Highly-skilled Migrant visa ถ้าเค้ายังอยากให้เราทำงานต่อ ถ้าไม่ เราก็ต้องหางานใหม่ หรือลากกระเป๋ากลับบ้านจ้าา
การสมัครงาน ใช้ LinkedIn เป็นหลักเลย แล้วก็มีเว็บไซต์บริษัท อย่ารอจนเรียนจบ เริ่มๆหาแต่เนิ่นๆเลยค่ะ เตรียมอัพเดท profile ดีๆ เพราะพวก recruiter จะชอบมาส่อง นอกจากนั้น CV & Motivation letter ก็ต้องเริ่มเตรียมตั้งแต่ช่วงเรียนเลยค่ะ
ที่สังเกตมานะ บริษัทจะรับพนักงานใหม่เยอะๆหน่อยช่วง Jan-Feb, May-Jun และ Oct เพราะ summer (Jul-Sep) เป็นช่วงที่คนยุโรปหยุดพักผ่อนกัน บริษัทก็ค่อนข้างเงียบ พอหลัง Nov ไปแล้วก็เตรียมเที่ยว winter กันอีก การรับคนทำงานก็จะเริ่มชะลอๆลงหน่อย
การหาคนเข้าทำงาน ระยะเวลาเฉลี่ย 2-3 เดือน นับจากวันที่ตำแหน่งนั้นเริ่ม post ใน LinkedIn ถ้าส่งไปนานกว่านี้แล้วยังไม่ได้เรียกสัมภาษณ์ ก็เริ่มทำใจ move on เพราะบริษัทไม่ค่อยรอนานไปกว่านี้ น่าจะได้คนไปแล้วแหละ
ยกเว้นแต่ว่า เค้าได้คนในตำแหน่งนั้นแล้ว แต่เค้าเห็นประวัติเราอาจจะเหมาะกับอีกงานนึง ก็มีสิทธิ์ที่เค้าจะเรียกเราหลังจากเวลาผ่านไป 6 เดือนก็มี บางบริษัทจะส่ง rejection email ก็ทำให้รู้แน่ๆละ ไม่ต้องไปหวังกับสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้
งั้นก็ลองถอยหลังดูนะคะ สมมติถ้าเริ่มงาน Jan/Feb เราก็ควร submit ทุกอย่างภายใน Oct แล้ว สมัครไปเลย 5 ที่อย่างต่ำ แต่ควรจำให้ได้ด้วยนะคะว่าสมัครอะไรไปบ้าง เพราะที่นี่จะชอบโทรมาก่อน แล้วก็ทดสอบดูว่าเรารู้เกี่ยวกับงานมากน้อยแค่ไหน มันลืมจริงๆนะเวลาสมัครไปหลายที่ ชื่อตำแหน่งบางทีจำสลับกันก็มี มันก็จะพีคมากตอนนั้น
ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม จดใส่กระดาษไว้ว่าสมัครอะไรไป ถ้าปุบปับได้ phone interview ขึ้นมาจะได้ไม่พลาดจ้า
แชร์ประสบการณ์หางานทำต่อที่เนเธอร์แลนด์หลังเรียนจบ
มหาวิทยาลัยที่นี่จะเริ่มภาคการศึกษาอยู่สองช่วง คือ Sep หรือ Jan/Feb ส่วนมากแล้วจะเป็นแบบแรก ซึ่งเปิดเทอมหลังจากหยุด summer ในเดือน Jun-Aug แต่บางหลักสูตรก็เป็นแบบสอง คือจะเปิดหลังหยุดปีใหม่ไปเลย
ระยะเวลาเรียน โดยเฉลี่ยหลักสูตรปริญญาตรี 3 ปี ปริญญาโท 1 ปี
ส่วนปริญญาโทเนี่ย จากประสบการณ์จริง เรียนจริงๆแค่ 9 เดือน + 3 เดือน thesis / internship เริ่มเรียน Sep ก็จะไปจบปลาย Aug ปีถัดไป แล้วรับปริญญาเดือน Dec ค่ะ ช่วงหิมะตกพอดี
มาเข้าเรื่องสมัครงาน ข้อแม้มีอยู่ว่า การทำงานที่นี่สำหรับคนจากประเทศนอก European Union ต้องมีวีซ่าสำหรับทำงาน ถ้าเรายังมีสถานะนักเรียนอยู่ เราจะทำได้แค่ internship นั่นเอง
ตอนนั้นพอส่ง thesis จบ ผ่านเรียบร้อย รู้ผลเดือน Sep พร้อม transcript ที่ดูออนไลน์ได้ทันที มหาวิทยาลัยรับรองสถานะว่าเราเรียนจบหลักสูตรแล้ว แต่เนื่องจากในขณะนั้นเรากำลังถือ Student visa อยู่ ซึ่งจะมีอายุถึง Mar ปีถัดไป ก็คืออยู่เที่ยวได้แต่ทำงานไม่ได้ค่ะ
ในช่วง Oct-Dec นี่แหละที่เราจะดำเนินการสมัคร Orientation year visa เพื่อเอาไว้สมัครงาน วีซ่านี้มีอายุ 1 ปี หลังจากนั้น บริษัทจะต้องเป็นผู้สมัคร Highly-skilled Migrant visa ถ้าเค้ายังอยากให้เราทำงานต่อ ถ้าไม่ เราก็ต้องหางานใหม่ หรือลากกระเป๋ากลับบ้านจ้าา
การสมัครงาน ใช้ LinkedIn เป็นหลักเลย แล้วก็มีเว็บไซต์บริษัท อย่ารอจนเรียนจบ เริ่มๆหาแต่เนิ่นๆเลยค่ะ เตรียมอัพเดท profile ดีๆ เพราะพวก recruiter จะชอบมาส่อง นอกจากนั้น CV & Motivation letter ก็ต้องเริ่มเตรียมตั้งแต่ช่วงเรียนเลยค่ะ
ที่สังเกตมานะ บริษัทจะรับพนักงานใหม่เยอะๆหน่อยช่วง Jan-Feb, May-Jun และ Oct เพราะ summer (Jul-Sep) เป็นช่วงที่คนยุโรปหยุดพักผ่อนกัน บริษัทก็ค่อนข้างเงียบ พอหลัง Nov ไปแล้วก็เตรียมเที่ยว winter กันอีก การรับคนทำงานก็จะเริ่มชะลอๆลงหน่อย
การหาคนเข้าทำงาน ระยะเวลาเฉลี่ย 2-3 เดือน นับจากวันที่ตำแหน่งนั้นเริ่ม post ใน LinkedIn ถ้าส่งไปนานกว่านี้แล้วยังไม่ได้เรียกสัมภาษณ์ ก็เริ่มทำใจ move on เพราะบริษัทไม่ค่อยรอนานไปกว่านี้ น่าจะได้คนไปแล้วแหละ
ยกเว้นแต่ว่า เค้าได้คนในตำแหน่งนั้นแล้ว แต่เค้าเห็นประวัติเราอาจจะเหมาะกับอีกงานนึง ก็มีสิทธิ์ที่เค้าจะเรียกเราหลังจากเวลาผ่านไป 6 เดือนก็มี บางบริษัทจะส่ง rejection email ก็ทำให้รู้แน่ๆละ ไม่ต้องไปหวังกับสิ่งที่มันเป็นไปไม่ได้
งั้นก็ลองถอยหลังดูนะคะ สมมติถ้าเริ่มงาน Jan/Feb เราก็ควร submit ทุกอย่างภายใน Oct แล้ว สมัครไปเลย 5 ที่อย่างต่ำ แต่ควรจำให้ได้ด้วยนะคะว่าสมัครอะไรไปบ้าง เพราะที่นี่จะชอบโทรมาก่อน แล้วก็ทดสอบดูว่าเรารู้เกี่ยวกับงานมากน้อยแค่ไหน มันลืมจริงๆนะเวลาสมัครไปหลายที่ ชื่อตำแหน่งบางทีจำสลับกันก็มี มันก็จะพีคมากตอนนั้น
ดังนั้น เตรียมตัวให้พร้อม จดใส่กระดาษไว้ว่าสมัครอะไรไป ถ้าปุบปับได้ phone interview ขึ้นมาจะได้ไม่พลาดจ้า