ตามหัวข้อเลยครับ เท่าที่ผมอ่านข่าวมา มีงานฌาปณกิจงานหนึ่ง ซึ่งให้สาวประเภท2ไปรำหน้าไฟ แต่อยู่ๆโฆษก ก็กล่าวขึ้นมาว่า ถ้าไม่เอาสาวบริสุทธิ์ สาวโดยแท้จริง มารำหน้าไฟ จะไม่ได้ขึ้นสวรรค์! ?
สำหรับผมคิดว่า เสรีภาพสำหรับเพศที่ 3 ในไทย นั้นก็ยังมีอยู่ทั่วไป กระจายกันไป แต่มันก็มีส่วนน้อย ที่มีลักษณะ รังเกียจ ขยะแขยง ในเพศที่ 3 แล้วก็จะมีคำเรียกเพศที่ 3 ออกมาบ้าง เช่น อัดถั่วดำ ขุดทอง บลาๆ
ตัวผมเองก็เป็นเพศที่ 3 เหมือนกัน แต่ไม่เคยโดนผู้คนมองว่าผิดเพศ แปลกประหลาด เพราะผมใช้ชีวิต เหมือนคนปกติทั่วไป ไปออกกำลังกาย เล่นกีฬา เต้น Cover กับเพื่อนๆ ผมอยู่โรงเรียนที่อดีตเคยเป็นโรงเรียนชายล้วนในภาคอีสาน ซึ่งตอนนี้โรงเรียนมีหลากหลายทางเพศมาก ไม่ว่าจะเป็น ผู้ชาย ผู้หญิง เกย์ กระเทย ทอม และอื่นๆ
แต่โรงเรียนผมก็อยู่ด้วยกันได้ดีภายใต้กฎระเบียบของโรงเรียน พวกผมรักกัน แพงกัน เพื่อนๆ ในห้อง จากชายแท้ 40คน ก็เหลือ ประมาณ 34คน ใช่ครับ พอผมเริ่มเปิดตัว ก็ค่อยๆมีเพื่อนๆเปิดตัวออกมาทีละคน แล้วเราก็กลายเป็นสนิทกัน
ใจความสำคัญของเรื่องที่ผมศึกษานี้ คือความ เปิดใจ ครับ ถ้าเราทำอะไรก็ตาม แต่ถ้าเราเปิดใจ ที่จะยอมรับมัน เราก็จะสามารถทำในสิ่งที่เราอยากทำได้ เช่น พ่อแม่ที่รับได้กับที่ลูกเป็นกระเทย หรือ พ่อแม่ที่รับไม่ได้ที่ลูกเป็นกระเทย ในความคิดผมนะ ผมมอง ว่ามันเป็นอะไรที่ล้าหลังมากๆ การที่ลูกเป็นกระเทย ไม่ใช่ว่าจะพาครอบครัวล่มจม หรือ อัปยศ แต่ผมคิดว่า ถ้าลูกออกมาเป็นชายแท้ ยิ่งถ้าเลี้ยงดูไม่ดี การกระทำก็จะส่งผลทั้งตัวเอง และ พ่อแม่ อีกด้วย
ส่วนที่ลูกเป็นกระเทยนั้น ผมมองว่า กระเทยก็คือผู้หญิงคนหนึ่งนั้นแหละครับ เขาต้องการที่จะเหมือนผู้หญืงทั่วไป แต่เพศสภาพเขาก็ไม่ให้ เขาเลยพยายามหาทางที่จะเปลี่ยนตัวเองให้ได้ นี่แหละครับ ถ้าเขาจะเปลี่ยนตัวเองได้ เพราะฉะนั้น เขา จึง ต้อง มี
เป้าหมายนะสิครับ สาวประเภท 2 หลายๆคนมีความฝันที่อยากจะเป็น แอร์ เป็น ช่างเสริมสวย เป็น Hair stylist บลาๆ เขาจึงหาทางที่จะพยายามทำตามเป้าหมายให้ได้ครับ
เพราะฉะนั้น ผมจึงโยงเข้ามากับการรำหน้าไฟครับ อย่างที่บอก ถ้าคนเรามีเป้าหมาย =เราก็ต้องหาทางทำให้ success แล้วถ้าเราหาทางทำแล้ว เราเกิดความพยายาม เราเกิดความมี spirit นั้นแหละครับ Action = Reaction ทำสิ่งไหนย่อมได้สิ่งนั้น ถ้าคนที่อยู่ในโรงศพนั้น เตรียมพบกับกองไฟ ถ้าเขาทำดี เขาได้ดี เขาขึ้นสวรรค์ครับ ถ้าเขาทำไม่ดี เขาไม่ได้ดี เขาไม่ขึ้นสวรรค์ครับ
สรุปง่ายๆนะครับ คนเราเกิดมาหนึ่งชีวิตเนี่ย เกิดคนเดียว ตายคนเดียวครับ (ในความคิดผม) ชีวิตก็เหมือนนกพิราบอะครับ บินไปได้อย่างมีอิสระภาพและเสรีภาพ สุดท้ายนี้ผมก็อยากจะบอกว่า เป็นอะไรดีหมดแหละครับ เป็นคนดี มีปัญญา สร้างคุณประโยชน์แก่ส่วนรวม สังคมก็จะดี คนก็จะดี บ้านเมืองก็จะพัฒนาครับ
มีใครคิดอย่างไรบ้าง Comment มาได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ จากนร.ชั้นม.3 โรงเรียนในภาคอีสานโรงเรียนหนึ่ง ^^
คิดอย่างไรกับความเชื่อของเพศที่3 บ้างครับ ?
สำหรับผมคิดว่า เสรีภาพสำหรับเพศที่ 3 ในไทย นั้นก็ยังมีอยู่ทั่วไป กระจายกันไป แต่มันก็มีส่วนน้อย ที่มีลักษณะ รังเกียจ ขยะแขยง ในเพศที่ 3 แล้วก็จะมีคำเรียกเพศที่ 3 ออกมาบ้าง เช่น อัดถั่วดำ ขุดทอง บลาๆ
ตัวผมเองก็เป็นเพศที่ 3 เหมือนกัน แต่ไม่เคยโดนผู้คนมองว่าผิดเพศ แปลกประหลาด เพราะผมใช้ชีวิต เหมือนคนปกติทั่วไป ไปออกกำลังกาย เล่นกีฬา เต้น Cover กับเพื่อนๆ ผมอยู่โรงเรียนที่อดีตเคยเป็นโรงเรียนชายล้วนในภาคอีสาน ซึ่งตอนนี้โรงเรียนมีหลากหลายทางเพศมาก ไม่ว่าจะเป็น ผู้ชาย ผู้หญิง เกย์ กระเทย ทอม และอื่นๆ
แต่โรงเรียนผมก็อยู่ด้วยกันได้ดีภายใต้กฎระเบียบของโรงเรียน พวกผมรักกัน แพงกัน เพื่อนๆ ในห้อง จากชายแท้ 40คน ก็เหลือ ประมาณ 34คน ใช่ครับ พอผมเริ่มเปิดตัว ก็ค่อยๆมีเพื่อนๆเปิดตัวออกมาทีละคน แล้วเราก็กลายเป็นสนิทกัน
ใจความสำคัญของเรื่องที่ผมศึกษานี้ คือความ เปิดใจ ครับ ถ้าเราทำอะไรก็ตาม แต่ถ้าเราเปิดใจ ที่จะยอมรับมัน เราก็จะสามารถทำในสิ่งที่เราอยากทำได้ เช่น พ่อแม่ที่รับได้กับที่ลูกเป็นกระเทย หรือ พ่อแม่ที่รับไม่ได้ที่ลูกเป็นกระเทย ในความคิดผมนะ ผมมอง ว่ามันเป็นอะไรที่ล้าหลังมากๆ การที่ลูกเป็นกระเทย ไม่ใช่ว่าจะพาครอบครัวล่มจม หรือ อัปยศ แต่ผมคิดว่า ถ้าลูกออกมาเป็นชายแท้ ยิ่งถ้าเลี้ยงดูไม่ดี การกระทำก็จะส่งผลทั้งตัวเอง และ พ่อแม่ อีกด้วย
ส่วนที่ลูกเป็นกระเทยนั้น ผมมองว่า กระเทยก็คือผู้หญิงคนหนึ่งนั้นแหละครับ เขาต้องการที่จะเหมือนผู้หญืงทั่วไป แต่เพศสภาพเขาก็ไม่ให้ เขาเลยพยายามหาทางที่จะเปลี่ยนตัวเองให้ได้ นี่แหละครับ ถ้าเขาจะเปลี่ยนตัวเองได้ เพราะฉะนั้น เขา จึง ต้อง มี
เป้าหมายนะสิครับ สาวประเภท 2 หลายๆคนมีความฝันที่อยากจะเป็น แอร์ เป็น ช่างเสริมสวย เป็น Hair stylist บลาๆ เขาจึงหาทางที่จะพยายามทำตามเป้าหมายให้ได้ครับ
เพราะฉะนั้น ผมจึงโยงเข้ามากับการรำหน้าไฟครับ อย่างที่บอก ถ้าคนเรามีเป้าหมาย =เราก็ต้องหาทางทำให้ success แล้วถ้าเราหาทางทำแล้ว เราเกิดความพยายาม เราเกิดความมี spirit นั้นแหละครับ Action = Reaction ทำสิ่งไหนย่อมได้สิ่งนั้น ถ้าคนที่อยู่ในโรงศพนั้น เตรียมพบกับกองไฟ ถ้าเขาทำดี เขาได้ดี เขาขึ้นสวรรค์ครับ ถ้าเขาทำไม่ดี เขาไม่ได้ดี เขาไม่ขึ้นสวรรค์ครับ
สรุปง่ายๆนะครับ คนเราเกิดมาหนึ่งชีวิตเนี่ย เกิดคนเดียว ตายคนเดียวครับ (ในความคิดผม) ชีวิตก็เหมือนนกพิราบอะครับ บินไปได้อย่างมีอิสระภาพและเสรีภาพ สุดท้ายนี้ผมก็อยากจะบอกว่า เป็นอะไรดีหมดแหละครับ เป็นคนดี มีปัญญา สร้างคุณประโยชน์แก่ส่วนรวม สังคมก็จะดี คนก็จะดี บ้านเมืองก็จะพัฒนาครับ
มีใครคิดอย่างไรบ้าง Comment มาได้เลยนะครับ ขอบคุณครับ จากนร.ชั้นม.3 โรงเรียนในภาคอีสานโรงเรียนหนึ่ง ^^