ความรัก 7 ปี เสียไปเพราะผู้หญิงชอบแย่งที่รู้จักไม่ถึงเดือน

กระทู้คำถาม
       กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม  ถ้าผมtagผิด  หรือทำอะไรไม่ถูกต้อง  ต้องขอโทษด้วยนะครับ
       เรื่องมีอยู่ว่า น้องผมคบกับผู้ชายคนหนึ่งมาเกือบ  7 ปี  คบกันตั้งแต่ผู้ชายเรียนวิศวะอยู่ปี 1 น้องผมอยู่ ม.6 จนน้องผมเข้ามหาวิทยาลัย  ก็เลือกไปเรียนใก้ลๆกัน  อยู่มาวันหนึ่งทะเลาะกัน  น้องผมร้องไห้จนหายใจไม่ออกจนต้องเรียกรถกู้ชีพ  ผู้ชายโทรมาขอโทษแม่ผม  และบอกว่าจะไม่ทำให้น้องผมเสียน้ำตาอีก  หลังจากนั้น  เขาพาน้องผมไปบ้านเขาแนะนำให้ทุกคนรู้จักว่าเป็นแฟน  พ่อแม่ผู้ชายดีมากครับ  แต่พี่สาวของผู้ชายใช้คำว่าน้องชายเขา " หิ้วผู้หญิงมา "
 อ่อ !! ลืมบอกครับ ว่าตอนที่น้องผมทะเลาะกับแฟน ก็เพราะผู้ชายไปคุยกับผู้หญิงคนหนึ่ง  น้องผมบังเอิญเห็นในเฟส  น้องผมเลยถามผู้หญิงคนนั้นไปว่าเป็นอะไรกันกับผู้ชาย  เขาบอกให้ไปถามผู้ชายดู  แล้วผู้หญิงคนนั้นก็เฟสไปบอกพี่สาวของผู้ชายว่าน้องผมพูดจาไม่ดีกับเขาทั้งที่เขาอายุมากกว่า ซึ่งน้องผมถามไปแค่นั้น  ไม่ได้พูดไม่ดีด้วยเลย  น้องผมถามเพราะถ้าเขาเป็นแฟนกัน  น้องผมจะไม่คบ ( เพราะแม่ผมสอนว่า  อย่าให้แม้แต่เงาของหัวแม่เท้าเรา  ไปทับบนเงาของหัวแม่เท้าผู้ชายที่มีแฟนอยู่แล้ว  เพราะแฟนเขาจะไม่สบายใจเสียใจ  ซึ่งผู้หญิงที่เสียใจก็เป็นผู้หญิงเหมือนลูก และพ่อแม่เขาก็จะเสียใจเวลาที่ลูกเขาเสียใจ เหมือนกับแม่ที่ต้องเสียใจถ้าลูกเสียใจ ) และเมื่อผู้หญิงคนนั้นเฟสไปบอกพี่สาวผู้ชาย  พี่สาวเขาก็ไปบอกพ่อกับแม่ผู้ชายและบอกผู้ชาย  ผู้ชายโทรมาว่าน้องสาวว่าไปพูดไม่ดีไปดูถูกผู้หญิงคนนั้นเขา  น้องสาวผมบอกว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย  เขาไม่เชื่อน้องผมเสียใจมากจนหายใจไม่ได้  น้องผมไม่เคยดูถูกใครเพื่อนในห้องที่จนปลูกบ้านด้วยสังกะสี  ไม่มีใครคบ  แต่น้องผมคบ  ที่บ้านเพื่อนไม่มีเงินซื้อข้าว  เพราะแม่ไม่ได้ออกไปทำงาน  น้องผมเอาเงินที่เก็บไว้ให้หมดเลยบอกเอาไว้ซื้อข้าว  จนผู้ชายรู้เรื่องเหล่านี้จากแม่ผมถึงได้ขอโทษแม่และน้องผม  และนี่คือสาเหตุที่พี่สาวผู้ชายไม่ค่อยชอบน้องผม ทั้งๆที่น้องผมไม่ได้ทำอะไรเลย  
         พอไปบ้านเขาถึงได้รู้ว่าพี่เขาทำอะไรหลายอย่างที่ทำให้พ่อแม่ของเขาเสียใจ  และแสดงกิริยาที่ไม่ดีต่อน้องสาวผม  แต่น้องผมก็ไม่ใส่ใจ  ที่บ้านผมพอที่จะมีสตางค์  แต่บ้านผู้ชายไม่ค่อยมีเท่าไร  เวลามีก็กินด้วยกัน  เวลาอดมาม่าถ้วยเดียวก็กินด้วยกันมาแล้ว เวลาเรียนถ้าเป็นวิชาภาษาอังกฤษน้องผมจะช่วยเกือบทุกครั้ง ตอนผู้ชายจะจบยืมnotebookน้องผมไปใช้ในการทำโปรเจค  เขาทำโปรเจคไม่มีเวลาให้  น้องผมก็ไม่ว่าอะไรเพราะเข้าใจ  พอเขาเรียนจบได้เป็นวิศวกรของบริษัทหนึ่ง  ต้องไปอบรมที่ชลบุรี  น้องผมอยู่ปีสุดท้ายก็ต้องทำรายงานขอจบเหมือนกัน  ต่างก็ไม่มีเวลา เขาโทรมาฟ้องแม่ผม  โทรไปด่าน้องผม  จนในวันที่เขารับปริญญา  น้องผมยอมไม่ควิชในวิชาหนึ่ง  เพื่อมางานรับปริญญาของเขา  น้องผมเพียงแค่อยากให้เขาสบายใจว่าน้องผมไม่มีใคร  อยากเห็นเขามีความสุขในวันสำคัญของเขา  เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้น้องผมจบช้าไป 1 ปี  ผมถามน้องว่าเสียใจไหม  เขาบอกไม่เสียใจเขาเรียนเร็วกว่าอายุ  เขาโอเค  
        หลังจากนั้นผู้ชายมาคุยกับแม่กับตาเรื่องน้องผม  ว่ารักและจะดูแลน้องและจะแต่งานด้วย  วันนี้ที่มาคือมาเจรจาขอไว้ก่อน  เพราะไม่มีเงินพอที่จะหมั้นหรือแต่ง  เพราะต้องช่วยที่บ้านชำระหนี้ที่กู้มา  โดยที่ตัวผู้ชายเป็นคนพูดเองกับแม่กับตา ต่อหน้าพ่อแม่ พี่สาวของผู้ชาย  ยังถ่ายรูปไว้เลยครับ  ต่อมาตาไม่สบายเป็นมะเร็งตับระยะสุดท้าย  ผู้ชายก็มาหาตาอีกบอกตาว่าไม่ต้องเป็นห่วงะดูแลแม่กับน้องเอง  หลังจากนั้นตาเริ่มไม่รู้เรื่องจำใครไม่ได้  มองว่าแม่กับน้องเป็นโจร  บางครั้งจะเอามีดฟัน  บางครั้งจะเอาชะแลงฟาด ทำให้น้องผมต้องช่วยแม่เฝ้าตา  แม้แต่รับปริญญาของตัวเองก็ไม่ได้ไปเข้ารับพระราชทาน  ต้องไปรับที่มหาวิทยาลัยเอง  เพราะต้องช่วยเฝ้าตา  หลังจากตาแย่ลงต้องส่งเข้าโรงพยาบาล  น้องผมเฝ้าตาทุกวันทุกคืนแม่ไปเปลี่ยนให้น้องกลับมานอนบ้านบ้างในเวลาที่ว่างจากทำงาน  น้องดูแลตาได้ดีมากทั้งหมอและพยาบาลทุกคนชม  เพราะตาไม่มีแผลกดทับเลย  ในช่วงนี้มีหมอท่านหนึ่งมาสนใจน้องผม  เพราะเห็นถึงความมีน้ำใจและความกตัญญู  น้องผมได้ตอบหมอไปว่ามีแฟนแล้ว คุณหมอก็ไม่ได้มาวุ่นวายกับน้องผมอีก  ตอนดูคุณตาน้องผมต้องกิน นอน อยู่ที่เตียงคุณตาไม่ได้ไปไหน  ทำให้อ้วนขึ้น  พอคุณตาเสียครอบครัวแฟนน้องก็มางาน  ตอนลอยอังคารผู้ชายก็ลงมาทำหน้าที่ส่งตา  น้องผมยังไม่ทำงานอยู่เป็นเพื่อนแม่ให้แม่สบายใจ  พาแม่ไปกินของอร่อยที่นู้นที่นี่  น้ำหนักเลยไม่ลงง่ายทั้งๆที่ออกกำลัง  จนแม่พอจะเริ่มทำใจได้ก็ให้น้องไปทำงาน  น้องผมขึ้นไปทำงานที่กรุงเทพอยู่ไม่ห่างจากผู้ชายเท่าไร  แต่กลับไม่ค่อยได้เจอกัน  ตอนสงกรานต์ที่ผ่านมาน้องกลับมาเยี่ยมแม่กับผู้ชาย  ก็ยังคุยกับแม่ว่าจะแต่งงานตอน 30 น้องผม 28 บอกแม่ผมว่าไม่ต้องห่วงน้องผมรักน้อง  แต่หลังจากกลับไปไม่นาน  ผู้ชายก็เปลี่ยนไปทะเลาะกับน้องบ่อยขึ้น  จนน้องทะเลาะกับแม่จนแม่เข้าโรงพยาบาล  หลังจากนั้นน้องเอาฟันที่เหลือจากการเผาของตามาขอ  ว่าถ้าผู้ชายมีผู้หญิงคนอื่น  ขอให้แม่รู้แม่เห็นด้วยตัวแม่เอง  แม่จะได้เชื่อ  หลังจากที่น้องขอ  วันรุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ที่ 19 พฤกษภาคมที่ผ่านมา  แม่ก็รู้ความจริงในตอนบ่าย  แม่บอกน้องผม  ที่จริงวันนั้นเขาจะมาหาน้องผม  แต่น้องผมบอกไม่ต้องมาเพื่อนจะมานอนด้วย  แต่ความจริงน้องกลัวว่าถ้ามาแล้วน้องควบคุมใจไม่ได้จะฆ่าเขาตายเสียเปล่าๆ  น้องเลยโทรกลับไปถามเขาว่ามีอะไรจะบอกหรือเปล่า  เขาเลยรู้ว่าแม่บอกแล้วเขาถึงยอมรับ  ตอนแรกแม่จะให้เขาแต่งงาน  เขาไม่ยอมแต่ง  โทรบอกน้องผมว่าขอโทษแต่ไม่ขอแต่ง  น้องผมขอเบอร์โทรผู้หญฺิง  ผู้ชายไม่ให้แต่ประชุมสายแทน  แม่บอกน้องว่าประชุมให้แม่ด้วย  น้องก็ประชุม  ตอนแรกที่คุยเขานึกว่ามีกันแค่ 3 คน  น้องผมก็นึกว่ามี 4 คน  แต่จริงๆที่อยู่ข้างแม่หลายคนมาก  เราทุกคนได้ยินที่คุยกัน  เพราะแม่เปิดลำโพง
              น้องผมถามผู้หญิงคนนั้นไปว่า  ไม่รู้หรอว่าผู้ชายมีแฟนแล้ว  เขาบอกรู้แต่ก็ทำเขาชอบเลยเข้าหาตลอด  เขาบอกน้องผมพูดกับเขาดี  เขาเลยพูดดีด้วย  ถ้าน้องผมพูดกับเขาไม่ดี  เขาก็พูดไม่ดี  เท่านั้นล่ะแม่ผมเบรคแตกพูดใส่ทันที ว่า หนูที่บ้านหนูไม่สอนหรือคะ  ว่าถ้าผู้ชายมีแฟนอยู่แล้วห้ามไปยุ่งแม้แต่เงาหัวแม่เท้าก็ห้ามซ้อนทับ  เขาตอบแม่ผมว่าเขานับถือศาสนาพุทธ  แม่ผมเลยถามว่าไม่รู้จักศีลข้อ 3 หรือ  ผู้ชายบอกเขาผิดเองให้ว่าเขา  ผู้หญิงก็บอกว่าเธอผิดเองอย่าว่าผู้ชาย  แม่ผมเลยบอกไม่ต้องเถียงกันผิดทั้งคู่  แม่ผมบอกว่าถภ้ารู้ว่าผิดขอโทษกลับตัวแก้ไฃให้ถูกเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม  ผมได้ยินคำขอโทษแบบขอไปทีจากผู้ชาย  แต่ไม่ได้ยินคำขอโทษจากผู้หญิงเลย  แม่ผมถามผู้หญิงว่าทำงานที่ไหน  เธอบอกว่าขายเสื่อผ้าที่ตลาดนัดรันเวย์  แม่ผมถามว่าเจอกันที่ไหน  เธอบอกว่าเจอกันที่ร้านเหล้านั่งชิว  แม่ผมถามว่าผู้หญิงเริ่มก่อนใช่ไหมเหมือนที่บอก  เธอบอกว่าใช่เพราะนั่งโต๊ะใก้ลกัน  แล้วเพื่อนของผู้ชายก็เชียร์  แม่ผมถามซ้ำว่าในเมื่อรู้ว่าผู้ชายเขามีแฟนแล้วไปยุ่งอีกทำไม  เขาไม่ตอบ  แม่ผมถามรู้ไหมว่าผู้ชายมีหนี้สินที่ต้องจ่ายเขาบอกรู้  ต่อให้ผู้ชายเหลือแต่ตัวก็จะเอา แม่ผมก็เลยบอกว่าคนเราต่างจากสัตว์ตรงที่มนุษย์มีสติใช้ยั้งคิด  รู้ว่าอะไรผิดอะไรถูกอะไรดีอะไรไม่ดี อะไรควรอะไรไม่ควร  แต่ถ้าไม่มีสติแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากสัตว์
                ผู้ชายบอกน้องผมว่าชอบผู้หญิงคนนั้นตรงดูแลตัวเองดี  โดยที่เขาไม่เห็นน้องผมมาเป็นเดือน  ตอนที่เขาไม่เห็นน้องผมไปฟิตเนสควบคุมอาหาร  เขาถามน้องผมว่าลดไปกี่กิโลน้องผมบอก กิโลเดียว เขาว่าน้องผมว่าลดอะไรได้แค่กิโลเดียว  เขาได้ฟังจากปากน้องผมนะไม่ได้เห็นด้วยตา  55555 
             อ่อ!!!! ตอนเขาจะเลิกกับน้องผม  เขาปรึกษากับพี่สาวเขาซึ่งไม่ชอบน้องผม  พี่เขายุให้น้องเขาเลิกกับน้องผม  โพสต์เฟสเหน็บน้องผมด้วย  แต่ผมแค็บหน้าจอไม่ทันลบไปเสียก่อน  กล้าโพสต์แต่ไม่กล้าเก็บไว้  แล้วโพสต์เหน็บให้ตัดใจให้หาตัวเลือกใหม่  โดยวิธีการ  อ่อย  ครับ  พอดีผมใส่ภาพไม่ได้  ไม่งั้นจะได้เห็น  เป็นพี่โตกว่าน้อง 5 ปี แต่ไม่มีสมองคิดเลยว่าจะพูดจะเตือนจะให้คำแนะนำน้องยังไงไม่มีสมองคิดเลย  
            ตอนนี้น้องสาวผมคุยกับหมอคนนั้นอยู่ครับ  ครอบครัวผมไม่เอาเขาแล้วครับผู้ชายคนนี้และที่ผมเล่ามาทั้งหมดผมแค่อยากจะถามว่า
           1. น้องผมผิดหรอครับที่น้ำหนักขึ้นเพราะเฝ้าตากับอยู่เป็นเพื่อนแม่ด้วยความกตัญญู
           2. ทำไมสมัยนี้ผู้หญิงสมัยนี้ชอบแย่งเอาของคนอื่นครับ
           3. แล้วสองคนนั้นเขาไม่สำนึกว่าที่ทำอยู่ผิดหรือถูกเลยหรือครับ
           4. เพื่อนที่ยุยงสนับสนุนไม่ละอายเลยหรือไงครับว่าทำร้ายใครบ้าง
           5. ผมโกรธที่สุดคือผู้หญิง  เป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจมาก
           6. ผมโกรธมากที่คำขอโทษของผู้ชายไม่มีแม้แต่ความจริงใจและสำนึกผิด
           7. คำขอโทษจากผู้หญิงไม่เคยได้ยิน  และน้ำเสียงที่เธอพูดกับแม่และน้องผมเหมือนไม่ผิดไม่สะทกสะท้าน
           8. ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณๆ ๆๆๆ  แล้วจะทำยังไง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่