JJNY : เรืองไกรยื่นกกต.สอบบิ๊กตู่หลังตอบสื่อจัดตั้งรบ.ฯ/ชาวไร่อ้อยหนีปลูกพืชอื่นหลังราคาดิ่ง-ภัยแล้งจัด/ส่งออกเม.ย.หดตัว

"เรืองไกร" ยื่นกกต. สอบ “บิ๊กตู่” หลังตอบสื่อจัดตั้งรัฐบาล เข้าข่ายครอบงำพปชร.หรือไม่
https://www.matichon.co.th/politics/news_1504962

“เรืองไกร” ยื่นกกต. สอบ “บิ๊กตู่” หลังตอบคำถามสื่อจัดตั้งรัฐบาล ชี้ เข้าข่ายครอบงำพปชร.หรือไม่

เมื่อเวลา 10.00น. วันที่ 22 พฤษภาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค ไทยรักษาชาติ เดินทางมายื่นหนังสือถึงกกต.เพื่อขอให้ตรวจสอบพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ ตอบข้อซักถามระหว่างเลี้ยงอาหารกลางวันสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงการจัดตั้งรัฐบาล เช่น กรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ใช้คำว่า “เป็นเรื่องที่แต่ละพรรคเสนอขึ้นมา” เลยสงสัยว่า ท่านเป็นใคร แล้วทำไมแต่ละพรรคต้องเสนอให้ท่าน รวมถึงกรณีที่บอกว่า “ไม่ได้พูดคุยกับพรรคอื่น เป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ” อันนี้หมายความว่า ท่านเข้าไปยุ่งกับพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ และที่บอกว่า “เรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุข เรื่องกัญชาเสรี เป็นเรื่องที่ต้องคุยกัน” จึงสงสัยว่า จะไปคุยกับใคร เพราะยังไม่ได้ถูกโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี   พล.อ.ประยุทธ์ เป็น แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ แต่เข้าไปควบคุมครอบงำชี้นำพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมใช่หรือไม่ จึงขอให้กกต.ตรวจสอบและส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพราะคำสัมภาษณ์ค่อนข้างชัดเจน

และถ้ามีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าก็สามารถส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคการเมืองได้ตามมาตรา 92 ของพ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง และเป็นความผิดตามมาตรา 28 ที่ห้ามให้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่สมาชิกครอบงำพรรค พร้อมขอให้ดำเนินคดีตามมาตรา 29 กับพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีโทษ ตามมาด้วยมาตรา
108 มีโทษจำคุก 5 -10 ปี ปรับตั้งแต่1-2 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 5ปี

นายเรืองไกร กล่าวว่า นอกจากนี้ตนยังมาให้ถ้อยคำกรณีที่ยื่นสอบ 25 ส.ส.ถือหุ้นสื่อ และกรณีร้องม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรครวมพลังประชาชาติไทยที่เป็นกรรมการกฤษฎีกา เข้าข่ายเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ อาจเข้าข่ายขาดคุณสมบัติส.ส.



ชาวไร่อ้อยหนีปลูกพืชอื่นหลังราคาดิ่ง-ภัยแล้งจัด ลุ้นผลผลิตใหม่ลดดันราคาเด้งอีกครั้ง
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_1504794

นางวรวรรณ ชิตอรุณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(สอน.) เปิดเผยถึงแนวโน้มผลผลิตน้ำตาลทรายฤดูการผลิต 2562/63 ว่า สอน.ได้ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งและราคาน้ำตลาดโลกใกล้ชิดเนื่องจากนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ภาวะภัยแล้งจะรุนแรงขึ้น ประกอบกับราคาอ้อยที่ตกต่ำต่อเนื่องมา 3-4 ปีส่งผลให้เกษตรกรหันไปปลูกพืชอื่นที่ราคาดีกว่า จึงคาดว่าผลผลิตน้ำตาลทรายของโลกฤดูหีบปี 2562/63 จะต่ำกว่าฤดูหีบที่ผ่านมา จากนั้นจะทำให้โลกเข้าสู่จุดสมดุลของการผลิตและการบริโภคน้ำตาล และจะทำให้ระดับราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดโลกกลับมาสู่ระดับราคา 15 เซนต์ต่อปอนด์เป็นต้นทุนที่ทำให้ประเทศผลิตอ้อยและน้ำตาลทรายอยู่ได้

นางวรวรรณกล่าวว่า สำหรับฤดูหีบปี 2561/62 ที่ปิดหีบล่าสุดของไทย มีปริมาณอ้อยเข้าหีบ 130 ล้านตัน มีปริมาณน้ำตาลทรายผลิตได้ 14.5 ล้านตัน แม้ว่าปริมาณอ้อยจะลดลงกว่าฤดูหีบที่ผ่านมา 4 ล้านตัน แต่ปริมาณน้ำตาลใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาเพราะค่าความหวานที่สูงจากประสิทธิภาพโรงงานที่เพิ่ม โดยราคาน้ำตาลทรายดิบตลาดนิวเยอร์ค ส่งมอบเดือนกรกฎาคม 2563 อยู่ที่ประมาณ 13.06 เซนต์ต่อปอนด์ ปรับขึ้นเล็กน้อย ซึ่งทางบริษัทอ้อยและน้ำตาลไทย(อนท.) พยายามทำราคาขายน้ำตาลล่วงหน้าในระดับราคาไม่ให้ต่ำกว่า 13 เซนต์ต่อปอนด์ เพื่อไม่ให้ราคาอ้อยที่คำนวณขั้นต้นฤดูปี 2562/63 ตกต่ำ อย่างไรก็ตามยอมรับว่าราคาน้ำตาลทรายที่ยังไม่ดีนักช่วงที่ผ่านมาประกอบกับผลผลิตที่สูงกว่าประเมินไว้ขณะนี้สต็อกน้ำตาลหลายโรงงานเกิดภาวะล้นโกดังทำให้ต้องจัดหาที่จัดเก็บเพิ่มเติมมากขึ้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่