อยากเปิดใจคุยกับเพื่อนนักเขียนน่ะค่ะ
เคยไหมคะ ที่ลังเลใจ ว่าจะส่งต้นฉบับให้สำนักพิมพ์ดีไหม?
หรือ จะเอาไปขายทางเว็บ?
ประเด็นเริ่มต้นของเราคือ ความใฝ่ฝัน อยากจะเห็นนิยายที่ตัวเองพากเพียรเขียนมาสี่ร้อยหน้า
ขัดเกลาสำนวนมาแล้วหลายสิบตลบ ได้ไปอยู่บนหิ้งขายหนังสือในร้านหนังสือ
พอมีแฟนคลับเข้ามาเยอะ เราก็ยิ่งอยากจะให้นิยายเรา ได้ถูกวางบนชั้นหนังสือบ้าง
อีกอย่าง...แฟนคลับกลุ่ม สว. ก็เรียกร้องด้วย "สายตาไม่ดี อยากอ่านเป้นเล่มหนังสือ...อ่านอีบุคไม่สะดวก"
มันจึงเป็นที่มา ที่ตัดสินใจส่ง บก. สนพ.
แต่ว่า...หลังจากส่ง สนพ.ไปแล้ว นานเกินสามเดือนแล้ว ก็ยังคงเฝ้าแต่รอคำตอบ
รับ หรือ ปฏิเสธ อยากรู้ทั้งนั้น บอกมาเถอะ
รับ ก็ดี เราอาจได้เห็นนิยายถูกวางบนชั้นหนังสือสักวัน
(แต่ลังเลว่า กว่าจะถึงวันนั้น แฟนคลับนักอ่าน จะหายไปกันหมดไหม? ใช่ว่า เขาจะติดตามเราคนเดียวสักหน่อย)
แต่ถ้า สนพ.ปฏิเสธ ก็ไม่เป็นไร เราจะได้เอากลับมาลงเว็บ ให้แฟนคลับที่ไม่มีปัญหาอ่านทางเว็บ ได้อ่านกันสักที
และ ในช่วงเวลาที่รอ รอ รอ และรอ....
ทุกๆครั้งที่เดินเล่นในห้างสรรพสินค้า เราจะแวะเข้าร้านหนังสือ แล้วก็...จะทอดถอนใจเฮือกใหญ่ๆ
ร้านหนังสือสมัยนี้ ทำไมจึงเหงาเช่นนี้? ต่อให้เป็นร้านดังๆ ก็ยังดูเหงาอยู่ดี นิยายบางเล่มน่าอ่านมาก...แต่ไม่มีใครมาแตะ
สามารถนับจำนวนคนยืนในร้านได้เลย บางแห่ง...จำนวนพนักงาน ยังมีมากกว่าลูกค้าเสียอีก
ซบเซาแบบนี้ สำนักพิมพ์เขาเป็นยังไงกันบ้างนะ? แน่นอน มันก็คงมีกระทบกันบ้าง น่าเห็นใจ ใจเรา..ใจเขา
หรือว่า เขาไปขายออกที่งานมหกรรมหนังสือ? (ถ้าขายดีที่นั่น มันน่าจะมีงานบ่อยๆนะ)
จริงๆ ก็ไม่มีคำถามตรงๆหรอกค่ะ แต่นักเขียนท่านอื่น รู้สึกถึงผลกระทบของเศรษฐกิจร้านขายหนังสือ
ที่น่าจะกระทบตรงกับสำนักพิมพ์ และพลอยสะเทือนมาถึงนักเขียนอย่างเราๆ มากแค่ไหนคะ?
ส่งต้นฉบับนานหลายเดือนแล้ว ตอนนี้ลังเลใจมาก
เคยไหมคะ ที่ลังเลใจ ว่าจะส่งต้นฉบับให้สำนักพิมพ์ดีไหม?
หรือ จะเอาไปขายทางเว็บ?
ประเด็นเริ่มต้นของเราคือ ความใฝ่ฝัน อยากจะเห็นนิยายที่ตัวเองพากเพียรเขียนมาสี่ร้อยหน้า
ขัดเกลาสำนวนมาแล้วหลายสิบตลบ ได้ไปอยู่บนหิ้งขายหนังสือในร้านหนังสือ
พอมีแฟนคลับเข้ามาเยอะ เราก็ยิ่งอยากจะให้นิยายเรา ได้ถูกวางบนชั้นหนังสือบ้าง
อีกอย่าง...แฟนคลับกลุ่ม สว. ก็เรียกร้องด้วย "สายตาไม่ดี อยากอ่านเป้นเล่มหนังสือ...อ่านอีบุคไม่สะดวก"
มันจึงเป็นที่มา ที่ตัดสินใจส่ง บก. สนพ.
แต่ว่า...หลังจากส่ง สนพ.ไปแล้ว นานเกินสามเดือนแล้ว ก็ยังคงเฝ้าแต่รอคำตอบ
รับ หรือ ปฏิเสธ อยากรู้ทั้งนั้น บอกมาเถอะ
รับ ก็ดี เราอาจได้เห็นนิยายถูกวางบนชั้นหนังสือสักวัน
(แต่ลังเลว่า กว่าจะถึงวันนั้น แฟนคลับนักอ่าน จะหายไปกันหมดไหม? ใช่ว่า เขาจะติดตามเราคนเดียวสักหน่อย)
แต่ถ้า สนพ.ปฏิเสธ ก็ไม่เป็นไร เราจะได้เอากลับมาลงเว็บ ให้แฟนคลับที่ไม่มีปัญหาอ่านทางเว็บ ได้อ่านกันสักที
และ ในช่วงเวลาที่รอ รอ รอ และรอ....
ทุกๆครั้งที่เดินเล่นในห้างสรรพสินค้า เราจะแวะเข้าร้านหนังสือ แล้วก็...จะทอดถอนใจเฮือกใหญ่ๆ
ร้านหนังสือสมัยนี้ ทำไมจึงเหงาเช่นนี้? ต่อให้เป็นร้านดังๆ ก็ยังดูเหงาอยู่ดี นิยายบางเล่มน่าอ่านมาก...แต่ไม่มีใครมาแตะ
สามารถนับจำนวนคนยืนในร้านได้เลย บางแห่ง...จำนวนพนักงาน ยังมีมากกว่าลูกค้าเสียอีก
ซบเซาแบบนี้ สำนักพิมพ์เขาเป็นยังไงกันบ้างนะ? แน่นอน มันก็คงมีกระทบกันบ้าง น่าเห็นใจ ใจเรา..ใจเขา
หรือว่า เขาไปขายออกที่งานมหกรรมหนังสือ? (ถ้าขายดีที่นั่น มันน่าจะมีงานบ่อยๆนะ)
จริงๆ ก็ไม่มีคำถามตรงๆหรอกค่ะ แต่นักเขียนท่านอื่น รู้สึกถึงผลกระทบของเศรษฐกิจร้านขายหนังสือ
ที่น่าจะกระทบตรงกับสำนักพิมพ์ และพลอยสะเทือนมาถึงนักเขียนอย่างเราๆ มากแค่ไหนคะ?