เราทำงานแล้วค่ะ อายุก็จะเลข 3 แล้ว ทำงานต่างจังหวัดไกลจากกบ้านคนละภาค
แรกเริ่มของการใช้ชีวิตคนทำงานของเรา เราทำงานไกลบ้านค่ะ และอยู่บ้านเช่ามาตลอด ตั้งแต่ตอนนั้นที่บ้านเราเข้าก็ส่งแม่มาอยู่เป็นเพื่อน โดยที่ผู้ใหญ่ภายในบ้านให้มา และคนในบ้านก็เห็นชอบ เราก็โอเค ในตอนนั้นเราว่าแม่มาอยู่ก็ทำให้เราไม่เหงาค่ะ มีคนคุย ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน แฮปปี้มาตลอด เราย้ายไปที่อื่นก็เป็นแบบนี้มาตลอด
เมื่อประมาณปีที่แล้ว เราเริ่มรู้สึกว่าต้องการ อิสระ เวลาที่แม่กลับบ้านหรือไปธุระหลายๆวัน เราจะมีความรู้สึกว่า เราชอบแบบนี้ อยู่คนเดียว เงียบๆ พอแม่กลับมาไม่ใช่ว่าเราไม่มีความสุขนะ มันก็มี มันก็เหมือนเดิม เราเคยลองบอกว่า แม่กลับไปอยู่บ้านก็ได้นะ เราโอเค ไม่ต้องห่วง ช่วงไปเราก็ติดขัดนั่นนี่แต่ไม่ลำบาก มีการโทรหากันปกติ แต่พอเราบอกว่าวันนี้ไม่ได้พาหมา(เราไปรับหมามาเลี้ยงแก้เหงา 1 ตัว) ไปเดินนะกลับเย็นเกินไป, อาทิตย์นี้ยังไม่ได้ทำงานบ้านเลย หรืออะไรทำนองนี้ แม่จะมาทันที โดยที่คนที่บ้านให้เหตุผลว่า เป็นห่วง ถึงเราจะยืนยันหนักแน่นว่า อยู่เองได้ ก็ไม่เป็นผล
จนเราย้ายอีกรอบ แต่รอบนี้เราได้ลงเป็นอำเภอ ไม่ได้ลงตัวเมือง ที่พักหาค่อนข้างยาก เราเลยพาน้องหมาไปฝากไว้ที่บ้าน บอกว่าจะหาบ้านเช่าที่หมาอยู่ได้แล้วจะไปรับกลับมา ตอนนี้เราเลยมาเช่าหออยู่ ซึ่งเราค้นพบว่า เห้ยยยยย การอยู่คนเดียวนี่มันสบาย สะดวก อิสระมากเลยอ่ะ ซึ่งเราไม่เคยมีหลังจากเรียนจบ เราก็บอกกับที่บ้านแบบนี้ตลอด เราบอกชัดเจนค่ะว่าเราอยากอยู่หอต่อ เราก็ประวิงเวลาสุดฤทธิ์ แต่มันมีช่วงที่แม่ขึ้นมาเยี่ยมดั๊นนนน ไปเจอบ้านเข้า ที่บ้านก็ให้เราเลือกว่าจะเอายังไง
แต่ที่เรายังตัดสินใจไม่ได้คือ
1 หมาเป็นปัญหาหลักเป็นตัวแปรสำคัญของเราเลย เพื่อนบ้านรอบๆเขาไม่แฮปปี้กับนางเท่าไหร่ เพราะว่านางดูน่ากลัวแล้วเห่าเสียงดัง มีแรงเยอะพ่อก็ต้องพาไปวิ่งออกกำลังทุกวันเช้าเย็น คือเป็นภาระให้พ่อมาก ถ้าเราพานางมาอยู่ด้วยกันแน่นอนว่า เรามีความสุขแน่นอน มีเพื่อนเล่น แต่ก็จะมาพร้อมความไม่สะดวกหลายอย่าง(คนเลี้ยงหมาคงเข้าใจนะคะ) เราจะห่วงหน้าพะวงหลัง เวลาไปอบรม ไปต่างจังหวัด หรือต้องหาข้าวแต่ละมื้อของหมา ซึ่งตอนนี้เรายอมรับว่าเราเห็นแก่ตัว เพราะพ่อบอกว่าจะให้เลี้ยงให้ตลอดก็ไม่มีปัญหาเลย เราเลยคิดอยากอยู่หอต่อ ทั้งๆที่หมาควรจะเป็นเรารับผิดชอบเพราะเราพาเขามาเอง
2 งานเราหนักขึ้นมากกว่าก่อนเยอะมาก วันๆหัวเราะแทบไม่ออก เราเครียด เราเหนื่อย เราท้อ เราอยู่คนเดียว กลับห้องมาจะร้องไห้ จะอ่อนแอยังไงก็ได้ จะทอดอารมณ์ยังไงก็ได้ ไม่มีใครเห็น แต่ตลอดเวลาที่อยู่กับครอบครัว เราไม่เคยแสดงออกให้เห็น เพราะว่าเรากลัวว่าเขาจะห่วงและมองว่าต้องช่วยคอยซัพพอร์ตเรา แล้วเราเริ่มอารมณ์ไม่คงที บางทีเราอยากนั่งเงียบๆแต่ต้องยิ้มต้องห่วงเราะ เหนื่อยเพิ่ม ที่บ้านชอบพูดว่า เราไม่รู้จักโด ที่ให้แม่มาอยู่ด้วยจะได้ช่วยดูแล อยู่คนเดียวไม่ได้ ปล่อยอยู่คนเดียวทีไรมีปัญหาทุกที แล้วตัดภาพไปที่น้องสาวเรา ใช้ชีวิตอิสระมากในกรุงเทพ พอนึกภาพออกใช่ไหมคะ โอเคเราเข้าใจพ่อแม่ยังไงก็เป็นห่วงแต่ทำแบบนี้ เราไม่ค่อยโอเค เพราะว่าเราทำอะไรๆหลายอย่างที่เขาไม่เคยรู้แต่เขาตัดสินเราตามภาพที่เขาติดมาตลอด เราเลยอยากหลุดพ้นคำนี้ซะที และที่รอบนี้จะให้แม่มาอีกเพราะว่าตอนเขาคุยโทรศัพท์กับเรา เขาได้ยินเสียงเราเหนื่อยๆ นอยด์ๆ เลยจะส่งแม่มาอีก
3 เรามาอยู่อำเภอ เรามาตัวเปล่าค่ะ ทุกวันนี้ปั่นจักรยานไปทำงานไปได้แค่ที่ทำงาน ตลาด แล้วกลับหอ และไม่เคยได้ออกจากอำเภอเลย เพราะเราไม่มียานพานหะอะไร ตรงนี้เรายอมรับว่าลำบาก หากเราเลือกเช่าบ้าน เราจะได้แพ็กเก็ต รถยนต์ 1 คัน แม่ 1 คน และหมา 1 ตัว ได้รถมาจะเข้าเมืองจะไปเที่ยวสบายเลย
4 ถ้าแม่มาอยู่กับเรา พ่อจะอยู่คนเดียวค่ะ ถึงเขาจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่คืออายุก็มากโรคประจำตัวก็มี เราห่วงตรงนี้ด้วย อยากให้แม่ไปอยู่เป็นเพื่อน แต่เขาไม่เคยสนใจตรงนี้เลย คือจะห่วงเรามากกว่าแล้วบอกว่าไม่เป็นไร
5 บ้านเช่าเลี้ยงหมาได้หายากมาก กว่าจะเจอใช้เวลาหลายเดือนมาก เรื่องค่าเช่ารวมค่าไฟค่าน้ำ ก็เท่าๆกันหนีกันไม่กี่บาท
คือเราควรจะทำยังไงดี การตัดสินใจรอบนี้มีผลระยะยาวค่ะ เพราะว่าไม่รู้จะได้ย้ายอีกไหมหรือเมื่อไหร่ เราเลยคิดหนัก เราควรเลือกยังไงดีคะ อ่อ เราไม่มีปัญหาอะไรกับแม่นะคะ รักกันดี ทุกคนในครอบครัวไม่มีปัญหาอะไรเลย อยู่ด้วยกันได้
อยากลองใช้ชีวิตคนเดียว แต่มีทางเลือกกลับตัดสินใจไม่ได้
แรกเริ่มของการใช้ชีวิตคนทำงานของเรา เราทำงานไกลบ้านค่ะ และอยู่บ้านเช่ามาตลอด ตั้งแต่ตอนนั้นที่บ้านเราเข้าก็ส่งแม่มาอยู่เป็นเพื่อน โดยที่ผู้ใหญ่ภายในบ้านให้มา และคนในบ้านก็เห็นชอบ เราก็โอเค ในตอนนั้นเราว่าแม่มาอยู่ก็ทำให้เราไม่เหงาค่ะ มีคนคุย ได้ไปไหนมาไหนด้วยกัน แฮปปี้มาตลอด เราย้ายไปที่อื่นก็เป็นแบบนี้มาตลอด
เมื่อประมาณปีที่แล้ว เราเริ่มรู้สึกว่าต้องการ อิสระ เวลาที่แม่กลับบ้านหรือไปธุระหลายๆวัน เราจะมีความรู้สึกว่า เราชอบแบบนี้ อยู่คนเดียว เงียบๆ พอแม่กลับมาไม่ใช่ว่าเราไม่มีความสุขนะ มันก็มี มันก็เหมือนเดิม เราเคยลองบอกว่า แม่กลับไปอยู่บ้านก็ได้นะ เราโอเค ไม่ต้องห่วง ช่วงไปเราก็ติดขัดนั่นนี่แต่ไม่ลำบาก มีการโทรหากันปกติ แต่พอเราบอกว่าวันนี้ไม่ได้พาหมา(เราไปรับหมามาเลี้ยงแก้เหงา 1 ตัว) ไปเดินนะกลับเย็นเกินไป, อาทิตย์นี้ยังไม่ได้ทำงานบ้านเลย หรืออะไรทำนองนี้ แม่จะมาทันที โดยที่คนที่บ้านให้เหตุผลว่า เป็นห่วง ถึงเราจะยืนยันหนักแน่นว่า อยู่เองได้ ก็ไม่เป็นผล
จนเราย้ายอีกรอบ แต่รอบนี้เราได้ลงเป็นอำเภอ ไม่ได้ลงตัวเมือง ที่พักหาค่อนข้างยาก เราเลยพาน้องหมาไปฝากไว้ที่บ้าน บอกว่าจะหาบ้านเช่าที่หมาอยู่ได้แล้วจะไปรับกลับมา ตอนนี้เราเลยมาเช่าหออยู่ ซึ่งเราค้นพบว่า เห้ยยยยย การอยู่คนเดียวนี่มันสบาย สะดวก อิสระมากเลยอ่ะ ซึ่งเราไม่เคยมีหลังจากเรียนจบ เราก็บอกกับที่บ้านแบบนี้ตลอด เราบอกชัดเจนค่ะว่าเราอยากอยู่หอต่อ เราก็ประวิงเวลาสุดฤทธิ์ แต่มันมีช่วงที่แม่ขึ้นมาเยี่ยมดั๊นนนน ไปเจอบ้านเข้า ที่บ้านก็ให้เราเลือกว่าจะเอายังไง
แต่ที่เรายังตัดสินใจไม่ได้คือ
1 หมาเป็นปัญหาหลักเป็นตัวแปรสำคัญของเราเลย เพื่อนบ้านรอบๆเขาไม่แฮปปี้กับนางเท่าไหร่ เพราะว่านางดูน่ากลัวแล้วเห่าเสียงดัง มีแรงเยอะพ่อก็ต้องพาไปวิ่งออกกำลังทุกวันเช้าเย็น คือเป็นภาระให้พ่อมาก ถ้าเราพานางมาอยู่ด้วยกันแน่นอนว่า เรามีความสุขแน่นอน มีเพื่อนเล่น แต่ก็จะมาพร้อมความไม่สะดวกหลายอย่าง(คนเลี้ยงหมาคงเข้าใจนะคะ) เราจะห่วงหน้าพะวงหลัง เวลาไปอบรม ไปต่างจังหวัด หรือต้องหาข้าวแต่ละมื้อของหมา ซึ่งตอนนี้เรายอมรับว่าเราเห็นแก่ตัว เพราะพ่อบอกว่าจะให้เลี้ยงให้ตลอดก็ไม่มีปัญหาเลย เราเลยคิดอยากอยู่หอต่อ ทั้งๆที่หมาควรจะเป็นเรารับผิดชอบเพราะเราพาเขามาเอง
2 งานเราหนักขึ้นมากกว่าก่อนเยอะมาก วันๆหัวเราะแทบไม่ออก เราเครียด เราเหนื่อย เราท้อ เราอยู่คนเดียว กลับห้องมาจะร้องไห้ จะอ่อนแอยังไงก็ได้ จะทอดอารมณ์ยังไงก็ได้ ไม่มีใครเห็น แต่ตลอดเวลาที่อยู่กับครอบครัว เราไม่เคยแสดงออกให้เห็น เพราะว่าเรากลัวว่าเขาจะห่วงและมองว่าต้องช่วยคอยซัพพอร์ตเรา แล้วเราเริ่มอารมณ์ไม่คงที บางทีเราอยากนั่งเงียบๆแต่ต้องยิ้มต้องห่วงเราะ เหนื่อยเพิ่ม ที่บ้านชอบพูดว่า เราไม่รู้จักโด ที่ให้แม่มาอยู่ด้วยจะได้ช่วยดูแล อยู่คนเดียวไม่ได้ ปล่อยอยู่คนเดียวทีไรมีปัญหาทุกที แล้วตัดภาพไปที่น้องสาวเรา ใช้ชีวิตอิสระมากในกรุงเทพ พอนึกภาพออกใช่ไหมคะ โอเคเราเข้าใจพ่อแม่ยังไงก็เป็นห่วงแต่ทำแบบนี้ เราไม่ค่อยโอเค เพราะว่าเราทำอะไรๆหลายอย่างที่เขาไม่เคยรู้แต่เขาตัดสินเราตามภาพที่เขาติดมาตลอด เราเลยอยากหลุดพ้นคำนี้ซะที และที่รอบนี้จะให้แม่มาอีกเพราะว่าตอนเขาคุยโทรศัพท์กับเรา เขาได้ยินเสียงเราเหนื่อยๆ นอยด์ๆ เลยจะส่งแม่มาอีก
3 เรามาอยู่อำเภอ เรามาตัวเปล่าค่ะ ทุกวันนี้ปั่นจักรยานไปทำงานไปได้แค่ที่ทำงาน ตลาด แล้วกลับหอ และไม่เคยได้ออกจากอำเภอเลย เพราะเราไม่มียานพานหะอะไร ตรงนี้เรายอมรับว่าลำบาก หากเราเลือกเช่าบ้าน เราจะได้แพ็กเก็ต รถยนต์ 1 คัน แม่ 1 คน และหมา 1 ตัว ได้รถมาจะเข้าเมืองจะไปเที่ยวสบายเลย
4 ถ้าแม่มาอยู่กับเรา พ่อจะอยู่คนเดียวค่ะ ถึงเขาจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่คืออายุก็มากโรคประจำตัวก็มี เราห่วงตรงนี้ด้วย อยากให้แม่ไปอยู่เป็นเพื่อน แต่เขาไม่เคยสนใจตรงนี้เลย คือจะห่วงเรามากกว่าแล้วบอกว่าไม่เป็นไร
5 บ้านเช่าเลี้ยงหมาได้หายากมาก กว่าจะเจอใช้เวลาหลายเดือนมาก เรื่องค่าเช่ารวมค่าไฟค่าน้ำ ก็เท่าๆกันหนีกันไม่กี่บาท
คือเราควรจะทำยังไงดี การตัดสินใจรอบนี้มีผลระยะยาวค่ะ เพราะว่าไม่รู้จะได้ย้ายอีกไหมหรือเมื่อไหร่ เราเลยคิดหนัก เราควรเลือกยังไงดีคะ อ่อ เราไม่มีปัญหาอะไรกับแม่นะคะ รักกันดี ทุกคนในครอบครัวไม่มีปัญหาอะไรเลย อยู่ด้วยกันได้