คบกับแฟนมา 7 ปี อยู่ก่อนแต่งแล้วก็ยังไม่มาขอสักที T^T ( ขอให้อ่านรายละเอียดก่อนนะคะ..)

เราคบกับแฟนมา เข้าปีที่ 7 แล้วค่ะ  แฟนเราอายุห่างกับเรา 2 ปีกว่า (4/7ปีอาถรรพ์) ตอนนี้เราอายุ 23 ปี เพิ่งเรียนจบมา.. แฟนรา 25 ทำงานได้ 2ปีแล้ว  แต่ขอย้อนไปตอนอายุ 20 นะคะ เมื่อตอนนั้นเราเรียนปวส.จบพอดี ช่วงปิดเทอม 6 เดือน ก่อนเข้ามหาลัย.. พ่อกับแม่จะให้ เรากับแฟนหมั้นกันไว้ก่อน เพราะตอนนั้นก็คบกันได้ 4 ปีกว่าแล้ว 

ทางบ้านแฟนเรากับเราก็ได้มีการนัดตกลงกันเรื่องหมั้นไว้ก่อน และตกลงกันว่าค่าสินสอดทองหมั้นจะให้เรากับแฟนทั้งหมด เพื่อให้ได้ไปตั้งตัวกัน และได้กำหนดว่าเดือนหน้า.. พอคุยได้ผ่านไป 1 สัปดาห์ แม่แฟนโทรมาขอเลื่อนบอกว่าเร็วเกินไป ตั้งหลักไม่ทัน ทางบ้านเราก็โอเคค่ะ.. แม่แฟนก็บอกว่าปลายปี..ก็คือเราจะเรียนได้1เทอมพอดี จะมาหมั้นช่วงปิดเทอม.. พอไปๆมาๆเขาโทรมาขอลดค่าทองหมั้น แม่เราก็โอเค เดี๋ยวทางบ้านเราโปะให้เอง (ค่าสินสอดทองหมั้นให้เรากับแฟนทั้งหมดเพื่อตั้งตัวกัน) แม่เราก็โอเค ได้หมดเพราะไม่ได้อยากรีบร้อนอะไรแต่ที่อยากให้หมั้นไว้เพราะ แฟนเราก็เข้ามานอนที่บ้านได้ ปี-2ปีแล้วค่ะ จะได้ไม่มีใครเขาว่าได้

ไปๆมา.. แม่แฟนบอกว่าขอให้เราเรียนจบ มีงานทำก่อนได้มั้ย.. และถือเป็นการยืดเวลาให้แฟนกับเราช่วยกันเก็บเงินด้วยค่ะ ทางบ้านเราก็ยอมหมดตอนนี้เราเก็บเงินได้ตอนเรียนได้ 4-5 หมื่นแล้วค่ะ แต่แฟนเราเป็นคนเก็บเงินไม่เป็น เราเลยให้เขาโอนเงินเข้าบช.เราที่ปล่อยว่างเดือนละ 2000 เพื่อเราจะช่วยเก็บ แต่ก็ให้เราได้แค่ 2-4 รอบ ก็ส่งๆหายๆ บอกว่าไม่พอใฃ้ เราก็เข้าใจค่ะ ไม่ได้คะยั้นคะยออะไร ส่วนตัวเขาเป็นคนดีคนนึง รักพ่อแม่เขามาก แต่เค้าดูเป็นคนไม่ค่อยคิดไกล ไม่มองอนาคต เราพยามสร้าง เค้ารักษาความสัมพันธ์ดีนะคะ ไม่นอกใจ และก็รักเรา แต่เค้าดูไม่ค่อยพยายามเหมือนที่เราพยายามเลยค่ะ เราคุยกันเรื่องแต่งงานกันทีไร เราต้องน้ำตาตกในทุกครั้ง บางทีก็พูดไปร้องไห้ไป ด้วยความน้อยใจ ที่เค้าดูไม่พยายาม เราพูดกับเขาว่า "ถ้าเธอรักพ่อแม่เธอมาก เธอต้องช่วยเขาเก็บเงินสิ ไม่ใช่คอยแต่จะพูดว่าไม่มี " แต่เขาก็บอกจะพยายาม แต่ว่าก็ได้ไม่เท่าไร ก็กลับไปเหมือนเดิม .. 

เราสับสนว่าเราต้องทำยังไงต่อดีคะ..เรารู้สึกว่าเฉยเมยเรื่องความสัมพันธ์เรามากเกินไป และเราก็รักพ่อแม่เรามากเหมือนกัน พ่อแม่เราอายุมาก พ่อแม่เขาอายุน้อย ทางบ้านเราเลยอยากให้มีงาน เพื่อจะได้อยู่ร่วมงาน พ่อเรา 62ละค่ะ แม่ 53  อาจจะไม่มากสำหรับบางคนแต่ด้วยสุขภาพเขาไม่ค่อยดีทั้งคู่ และเราอยากเองก็อยากมีน้องให้พ่อแม่อุ้ม เขาอยู่บ้านเราสักพักแล้ว หรือเพราะว่าอยู่ก่อนแล้ว เลยไม่สนใจเรื่องพิธีรีตองคะ แต่เรายังถืออยู่นะคะ ถึงจะข้ามมาแล้วก็เถอะ ยังไงก็ควรทำให้มันถูกต้องอยู่ดี...

จากข้อตกลงเขาบอกรอเราเรียนจบ มีงานทำ.. ตอนนี้ก็เป็นแบบนั้นแล้วค่ะ แต่ก็ยังเงียบๆอยู่ พอพูดกับแฟนไปก็เงียบ

เข้าใจว่าความพร้อมคนเราไม่เท่ากัน.. แต่ถ้ารอให้ "พร้อม" ก็มีคำถามต่อว่า... "แล้วเมื่อไรจะพร้อม"    -*-

แล้วถ้ามีคนดีๆเข้ามา เราควรเปิดใจมั้ยคะ มันก็มีนะคะหลายๆคน แต่เราก็ไม่คุยกับใคร เห้ออ อึดอัดใจที่มันไม่เป็นอย่างที่คิดค่ะ TT
แก้ไขข้อความเมื่อ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 7
ลองสมมุติว่าคุณมีบ้านหลังหนึ่ง อยากแบ่งขายครึ่งนึง แต่อยากได้คนที่อยู่ร่วมดีๆเลยตกลงว่าให้อยู่ฟรีๆไปก่อน จะได้รู้ว่าจะไปกันรอดมั๊ย

อยู่ไปแรกๆก็ทำสัญญาปากเปล่าว่า พอมีเงินก็มาจ่ายค่าบ้านอีกครึ่งนะ จะได้เป็นเจ้าของร่วม ตอนนี้ยังไม่พร้อมก็อยู่ฟรีไปก่อน

ปีที่ 1 ผิดสัญญาคุณก็ให้อยู่ต่อ
ปีที่ 4 ก็ให้อยู่ต่อ
ปีที่ 7 เริ่มคิดได้ว่าควรจะเรียกร้องได้แล้ว คุณว่าคนที่อยู่บ้านจนบ้านเก่า เริ่มเห็นว่าตรงนั้นไม่สวย ตรงนี้น่าเบื่อ สภาพก็มีแต่จะทรุดโทรมลง แล้วอยู่ฟรีมาตลอด จะอยากเสียเงินมาจ่ายค่าบ้านอีกครึ่งที่เหลือมั๊ย ถ้าเขารู้ว่าจ่ายไม่จ่ายเขาก็ได้อยู่เหมือนเดิม
ความคิดเห็นที่ 26
ก็ "ง่าย" ขนาดนี้ แล้วเขาจะทำเรื่อง "ยาก" ทำไมหล่ะครับ

เหนื่อยจะตาย ยังไงก็ได้เอาทุกวันง่ายๆ อยู่แล้ว จะต้องไปหาเงินมาแต่งงานทำไมหล่ะ

หรือไม่จริง?
ความคิดเห็นที่ 5
ผิดขั้นตอนตั้งแต่ให้ผู้ชายเข้าไปนอนค้างที่บ้านแล้ว พ่อแม่คุณก็รับได้เนอะที่ให้ผู้ชายเข้าไปนอนที่บ้าน
ความคิดเห็นที่ 3
เท่าที่เราเห็นมานะ คนที่คบกันนานๆ แบบอยู่ก่อนแต่ง (5 ปีขึ้นไป)
โอกาสที่จะได้แต่งงานจะน้อยลงตามจำนวนปีที่เพิ่มขึ้น เว้นซะแต่ว่าเกิดท้องขึ้นมา นั่นแหละถึงแต่งได้

ยิ่งที่คบหลัก 10 ปี อยู่ด้วยกันนานขนาดนี้ยังไม่ได้แต่งละก็
งานแต่งก็ไม่มีความสำคัญแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่