คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
เรียน สมาชิกหมายเลข 5303765
ขออนุญาตแจ้งข้อมูลเบื้องต้นค่ะ สำหรับวิธีปฏิบัติในการผ่อนผันนักเรียน นิสิต นักศึกษา จะต้องนำหลักฐานต่าง ๆ ไปแสดงต่อสถานศึกษาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของสถานศึกษาดำเนินการขอผ่อนผันให้ ดังนี้
1.ใบสำคัญทหารกองเกิน (สด.9)
2.หมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (สด.35)
3.บัตรประจำตัวประชาชน
4.ทะเบียนบ้าน
สำหรับผู้ที่ยื่นเอกสารขอผ่อนผันแล้ว ในปีต่อ ๆ ไป ไม่ต้องยื่นเอกสารเหล่านี้กับทางสถานศึกษาอีก สถานศึกษาจะดำเนินการยื่นเรื่องผ่อนผันให้ทุกปีจนสำเร็จการศึกษาหรืออายุครบ 26 ปีบริบูรณ์ โดยสถานศึกษาจะดำเนินการดังนี้
1.กรณีเป็นโรงเรียน ให้แจ้งต่อ กรมหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น และมีฐานะเทียบเท่ากรมซึ่งโรงเรียนนั้นอยู่ในสังกัดหรืออยู่ในความควบคุมแล้วแต่กรณี เพื่อขอผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่ผู้นั้นมีภูมิลำเนาทหารอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจำการ(ปีที่มีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์)
2.กรณีเป็นมหาวิทยาลัย สถาบัน หรือวิทยาลัยของรัฐให้ขอผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งผู้นั้นมีภูมิลำเนาทหารอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจำการ (ปีที่มีอายุครบ 21 ปีปริบูรณ์)
3.กรณีเป็นมหาวิทยาลัย สถาบัน หรือวิทยาลัย ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ให้แจ้งต่อทบวงมหาวิทยาลัย เพื่อขอผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งผู้นั้นมีภูมิลำเนาทหารอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจำการ
- สถานศึกษาจะแจ้งให้ไปตรวจสอบรายชื่อผู้ขอผ่อนผัน หากรายชื่อตกหล่นให้รีบแจ้งสถานศึกษาเพื่อดำเนินการยื่นเรื่องเพิ่มชื่อบุคคลผ่อนผัน
- ผู้ขอผ่อนผันจะต้องไปรายงานตัว ณ สถานที่เกณฑ์ตามวันที่กำหนดในหมายเรียก (สด.35) ทุกปี
- เมื่อไปแสดงตนจะได้รับใบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด.43) ในฐานะคนผ่อนผันไว้เป็นหลักฐาน และเจ้าหน้าที่สัสดี จะออกใบ สด.35 ใบใหม่ เพื่อกำหนดวันรายงานตัวตามหมายเรียกในปีถัดไป
นักเรียน นิสิต นักศึกษา ซึ่งมีสิทธิได้รับการผ่อนผันตลอดเวลาที่อยู่ในระหว่างการศึกษา จะต้องไปแสดงตนต่อคณะกรรมการตรวจเลือก ในวันตรวจเลือกทุกปีตามที่กำหนดไว้ในหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร(แบบ สด.35) เมื่อไปแสดงตนจะได้รับใบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด.43) ในฐานะคนผ่อนผันไว้เป็นหลักฐาน หากไม่ไปแสดงตนต่อคณะกรรมการตรวจเลือกจะมีความผิดตามกฎหมาย และเมื่อสำเร็จการศึกษาหรืออายุครบ 26 ปีบริบูรณ์แล้ว ถือว่าหมดเหตุผ่อนผันให้แจ้งด้วยตน
เองต่อนายอำเภอหรือท้องที่ที่ตนอยู่ หรือทำการประจำภายใน 30 วัน นับแต่วันที่สำเร็จการศึกษาหรือมีอายุครบ 26 ปีบริบูรณ์แล้ว เพื่อที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร(เกณฑ์ทหาร) ต่อไป อย่างไรก็ดี หลังจากทำเรื่องขอผ่อนผันแล้วเพื่อความมรอบคอบ ประมาณเดือนมีนาคมของปีที่สัสดีจังหวัดภูมิลำเนาทหารด้วยตัวเอง หรือให้ผู้ปกครองไปสอบถามแทนก็ได้ว่าเรื่องขอผ่อนผันได้ดำเนินการแล้วหรือยัง หากยังจะได้ดำเนินการแก้ไขได้ทันเวลา ทั้งนี้เพื่อป้องกันการผิดพลาดทางธุรการจนเป็นเหตุให้เสียสิทธิต้องเข้ารับการตรวจเลือกจะอาจถูกเข้ากองประจำการได้
สำหรับการยกเว้นการเกณฑ์ทหารในยามปกติ
หลักเกณฑ์ / คุณสมบัติ
1.พระภิกษุ สามเณร และนักบวชในพระพุทธศาสนา ที่กระทรวงศึกษาธิการออกการรับรอง โดยนำหลักฐานไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สัสดีอำเภอ หรือคณะกรรมการตรวจเลือกเพื่อทำการยกเว้นการเกณฑ์ทหาร แต่หากลาสิกขา (สึก) แล้วให้แจ้งต่อนายอำเภอในท้องที่ที่ตนเองอาศัยอยู่ด้วยตนเองภายใน 30 วัน นับแต่วันที่สึก หากแจ้งเกินกำหนดต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 200 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากอายุยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์ ต้องไปเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารกองเกินด้วย
2.นักบวชศาสนาอื่น (เช่น ศาสนาอิสลาม ) ที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎของกระทรวง และมีหนังสือของผู้ว่าราชการจังหวัดรับรอง โดยนำหนังสือไปขอยกเว้นการเกณฑ์ทหารต่อนายอำเภอท้องที่ แต่ถ้าหมดระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ให้แจ้งต่อนายอำเภอในท้องที่ตนเอง อาศัยอยู่ด้วยตนเองภายใน 30 วัน นับแต่วันที่สึก หากแจ้งเกินกำหนดต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 200 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากอายุยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์ ต้องไปเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารกองเกินด้วย
3.บุคคลที่อยู่ระหว่างการฝึกวิชาทหาร (นศท.) ตามหลักสูตรที่กระทรวงกลาโหมกำหนดหรือนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร
4.ครูที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่การสอนตามกฎกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการท้องถิ่น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะออกใบผ่านการเกณฑ์ทหาร (สด.43) ให้เพื่อขอยกเว้นการเกณฑ์ทหาร
5.นักศึกษาของศูนย์ฝึกการบินพลเรือนของกระทรวงคมนาคม
6.บุคคลที่ได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ และบุคคลที่ได้รับโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป หรือบุคคลที่เคยถูกศาลพิพากษาให้กักกัน
สถานที่ขอรับการยกเว้นการเกณฑ์ทหาร
- สำนักงานเขต ที่มีชื่อตัวอยู่ในทะเบียนบ้าน
- ที่ว่าการอำเภอที่มีชื่อตัวอยู่ในทะเบียนบ้าน
Jintana
ขออนุญาตแจ้งข้อมูลเบื้องต้นค่ะ สำหรับวิธีปฏิบัติในการผ่อนผันนักเรียน นิสิต นักศึกษา จะต้องนำหลักฐานต่าง ๆ ไปแสดงต่อสถานศึกษาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของสถานศึกษาดำเนินการขอผ่อนผันให้ ดังนี้
1.ใบสำคัญทหารกองเกิน (สด.9)
2.หมายเรียกเข้ารับราชการทหาร (สด.35)
3.บัตรประจำตัวประชาชน
4.ทะเบียนบ้าน
สำหรับผู้ที่ยื่นเอกสารขอผ่อนผันแล้ว ในปีต่อ ๆ ไป ไม่ต้องยื่นเอกสารเหล่านี้กับทางสถานศึกษาอีก สถานศึกษาจะดำเนินการยื่นเรื่องผ่อนผันให้ทุกปีจนสำเร็จการศึกษาหรืออายุครบ 26 ปีบริบูรณ์ โดยสถานศึกษาจะดำเนินการดังนี้
1.กรณีเป็นโรงเรียน ให้แจ้งต่อ กรมหรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอื่น และมีฐานะเทียบเท่ากรมซึ่งโรงเรียนนั้นอยู่ในสังกัดหรืออยู่ในความควบคุมแล้วแต่กรณี เพื่อขอผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดที่ผู้นั้นมีภูมิลำเนาทหารอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจำการ(ปีที่มีอายุครบ 21 ปีบริบูรณ์)
2.กรณีเป็นมหาวิทยาลัย สถาบัน หรือวิทยาลัยของรัฐให้ขอผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งผู้นั้นมีภูมิลำเนาทหารอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจำการ (ปีที่มีอายุครบ 21 ปีปริบูรณ์)
3.กรณีเป็นมหาวิทยาลัย สถาบัน หรือวิทยาลัย ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ให้แจ้งต่อทบวงมหาวิทยาลัย เพื่อขอผ่อนผันไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งผู้นั้นมีภูมิลำเนาทหารอยู่ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ของปีที่จะต้องตรวจเลือกเข้ากองประจำการ
- สถานศึกษาจะแจ้งให้ไปตรวจสอบรายชื่อผู้ขอผ่อนผัน หากรายชื่อตกหล่นให้รีบแจ้งสถานศึกษาเพื่อดำเนินการยื่นเรื่องเพิ่มชื่อบุคคลผ่อนผัน
- ผู้ขอผ่อนผันจะต้องไปรายงานตัว ณ สถานที่เกณฑ์ตามวันที่กำหนดในหมายเรียก (สด.35) ทุกปี
- เมื่อไปแสดงตนจะได้รับใบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด.43) ในฐานะคนผ่อนผันไว้เป็นหลักฐาน และเจ้าหน้าที่สัสดี จะออกใบ สด.35 ใบใหม่ เพื่อกำหนดวันรายงานตัวตามหมายเรียกในปีถัดไป
นักเรียน นิสิต นักศึกษา ซึ่งมีสิทธิได้รับการผ่อนผันตลอดเวลาที่อยู่ในระหว่างการศึกษา จะต้องไปแสดงตนต่อคณะกรรมการตรวจเลือก ในวันตรวจเลือกทุกปีตามที่กำหนดไว้ในหมายเรียกเข้ารับราชการทหาร(แบบ สด.35) เมื่อไปแสดงตนจะได้รับใบรับรองผลการตรวจเลือก (แบบ สด.43) ในฐานะคนผ่อนผันไว้เป็นหลักฐาน หากไม่ไปแสดงตนต่อคณะกรรมการตรวจเลือกจะมีความผิดตามกฎหมาย และเมื่อสำเร็จการศึกษาหรืออายุครบ 26 ปีบริบูรณ์แล้ว ถือว่าหมดเหตุผ่อนผันให้แจ้งด้วยตน
เองต่อนายอำเภอหรือท้องที่ที่ตนอยู่ หรือทำการประจำภายใน 30 วัน นับแต่วันที่สำเร็จการศึกษาหรือมีอายุครบ 26 ปีบริบูรณ์แล้ว เพื่อที่จะต้องเข้ารับการตรวจเลือกทหาร(เกณฑ์ทหาร) ต่อไป อย่างไรก็ดี หลังจากทำเรื่องขอผ่อนผันแล้วเพื่อความมรอบคอบ ประมาณเดือนมีนาคมของปีที่สัสดีจังหวัดภูมิลำเนาทหารด้วยตัวเอง หรือให้ผู้ปกครองไปสอบถามแทนก็ได้ว่าเรื่องขอผ่อนผันได้ดำเนินการแล้วหรือยัง หากยังจะได้ดำเนินการแก้ไขได้ทันเวลา ทั้งนี้เพื่อป้องกันการผิดพลาดทางธุรการจนเป็นเหตุให้เสียสิทธิต้องเข้ารับการตรวจเลือกจะอาจถูกเข้ากองประจำการได้
สำหรับการยกเว้นการเกณฑ์ทหารในยามปกติ
หลักเกณฑ์ / คุณสมบัติ
1.พระภิกษุ สามเณร และนักบวชในพระพุทธศาสนา ที่กระทรวงศึกษาธิการออกการรับรอง โดยนำหลักฐานไปแสดงต่อเจ้าหน้าที่สัสดีอำเภอ หรือคณะกรรมการตรวจเลือกเพื่อทำการยกเว้นการเกณฑ์ทหาร แต่หากลาสิกขา (สึก) แล้วให้แจ้งต่อนายอำเภอในท้องที่ที่ตนเองอาศัยอยู่ด้วยตนเองภายใน 30 วัน นับแต่วันที่สึก หากแจ้งเกินกำหนดต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 200 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากอายุยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์ ต้องไปเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารกองเกินด้วย
2.นักบวชศาสนาอื่น (เช่น ศาสนาอิสลาม ) ที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎของกระทรวง และมีหนังสือของผู้ว่าราชการจังหวัดรับรอง โดยนำหนังสือไปขอยกเว้นการเกณฑ์ทหารต่อนายอำเภอท้องที่ แต่ถ้าหมดระยะเวลาในการปฏิบัติหน้าที่ให้แจ้งต่อนายอำเภอในท้องที่ตนเอง อาศัยอยู่ด้วยตนเองภายใน 30 วัน นับแต่วันที่สึก หากแจ้งเกินกำหนดต้องมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 200 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากอายุยังไม่ถึง 30 ปีบริบูรณ์ ต้องไปเข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารกองเกินด้วย
3.บุคคลที่อยู่ระหว่างการฝึกวิชาทหาร (นศท.) ตามหลักสูตรที่กระทรวงกลาโหมกำหนดหรือนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร
4.ครูที่อยู่ระหว่างการปฏิบัติหน้าที่การสอนตามกฎกระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการท้องถิ่น โดยผู้ว่าราชการจังหวัดจะออกใบผ่านการเกณฑ์ทหาร (สด.43) ให้เพื่อขอยกเว้นการเกณฑ์ทหาร
5.นักศึกษาของศูนย์ฝึกการบินพลเรือนของกระทรวงคมนาคม
6.บุคคลที่ได้สัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติ และบุคคลที่ได้รับโทษจำคุกตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป หรือบุคคลที่เคยถูกศาลพิพากษาให้กักกัน
สถานที่ขอรับการยกเว้นการเกณฑ์ทหาร
- สำนักงานเขต ที่มีชื่อตัวอยู่ในทะเบียนบ้าน
- ที่ว่าการอำเภอที่มีชื่อตัวอยู่ในทะเบียนบ้าน
Jintana
แสดงความคิดเห็น
{กฎหมาย} การเกณฑ์ทหาร
ตอนนี้ ผม อายุ16 ปี มัธยมศึกษาปีที่4 สำหรับผม ผมเริ่มที่จะเครียดเรื่องการเกณฑ์ทหารแล้ว และส่วนตัวคือผมลังเลในการเรียน นศท. อีกด้วย <เพราะผมไม่อยากเรียนนศท.ครับ> ผมอ่านในหลายๆกระทู้ จนมีคำถามดังนี้ครับ
1. การผ่อนผันสำหรับทหาร มีกฎ หรือ รายละเอียดยังไงครับ
2.จริงรึป่าวครับ ที่บรรจุข้าราชการได้ ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร <เพราะส่วนตัวผมสนใจในอาชีพครู> ถ้าจริง ข้อคำอธิบาย พร้อมกฎหมาย(หลักฐาน) ด้วยครับ
3.มีวิธีไม่เกณฑ์ทหารมั้ยครับ (การผ่อนผัน*ฝึดน้อยลงอะไรอย่างนี้... ร่นระยะการฝึก)
••••••••••••••
สรุปง่ายๆคือ สมมุติถ้าครูบรรจุ ไม่ต้องเกณฑ์ทหาร ผมก็จะสอบบรรจุครูให้ได้ ,......, แต่วิธีการต้องทำไงครับ
ใครรู้ตอบหน่อยนะครับ (ขอหลักฐาน อ้างอิง กฎหมายอะไรอย่างนี้ด้วยนะครับ )
ขอบคุณครับ