5G อนาคตการสื่อสารภาพและเสียงความคมชัดสูง ในสื่อออนไลน์

กระทู้สนทนา

5G คือ รูปแบบการรับส่งข้อมูลด้วยคลื่นความถี่ ให้บริการได้ใน 3 ลักษณะสำคัญ

1.ความเร็วในการรับส่งข้อมูลที่สูงขึ้นจาก 100 เมกะบิตต่อวินาที (Mbps)
เพิ่มได้ถึง1-10 กิกะบิตต่อวินาที (Gbps) เสมือนมีสายใยแก้วต่อกับโทรศัพท์มือถือ

สามารถแสดงภาพมุมมอง 360 องศา ได้ลื่นไหล

ทั้งAR (Augmented Reality)

และ VR (Virtual Reality)

มีประโยชน์อย่างมากด้านการศึกษาทางไกล การแพทย์

2.สั่งการอุปกรณ์รับสัญญาณไร้สายในภาคอุตสาหกรรม

ใช้สั่งการหุ่นยนต์ไร้สาย รถตัก รถดัมพ์ ในเขตที่มีความเสี่ยงสูง
จากความร้อน วัตถุระเบิด ไอกรด แก๊สพิษ

3.ติดต่อสื่อสารได้ทันที ไม่หน่วงจนล่าช้า สั่งงานได้ตามเวลาจริง(real time)

-

เช่น หุ่นยนต์ผ่าตัดไร้สาย รถไร้คนขับ กล้องวงจรปิด

แต่ปัญหาใหญ่ในการส่งข้อมูลที่รวดเร็วนี้ ต้องใช้สายใยแก้วนำแสงเป็นพื้นฐาน

ใน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ที่ประกาศใช้ 5G ในปี 2563
สามารถใช้ได้เพียงในพื้นที่ ร้อยละ 5 ของทั้งประเทศ

นอกจากนี้ 5G ต้องมีการลงทุนอุปกรณ์ส่งสัญญาณ(cell site)

และเสาส่งสัญญาณใหม่ทั้งหมด เพราะมีขนาดเล็กกว่า4G

คาดว่าในช่วงแรกจะมีการลงทุนใช้ 5G ในเขตเมือง หรือย่านธุรกิจ
แล้วค่อยขยายเครือข่าย ทดแทนระบบสายส่งทองแดงทั่วประเทศ

ปัจจุบันวงการสื่อหันมาทำสื่อออนไลน์กันมาก ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่า ผลิตงานง่ายกว่า

แต่รายได้ที่เกิดในสื่อออนไลน์ปีละกว่าหมื่นล้านบาท
กว่าร้อยละ 70 อยู่กับ เฟซบุ๊ก กูเกิล ยูทูบ ซึ่งเป็นปัญหาระดับโลก

ส่วนการเปิดให้ OTT หรือแพลตฟอร์มบริการสื่อสาร ในแต่ละประเทศ
เพื่อแพร่ภาพและเสียง ผ่านอินเทอร์เน็ต ยังขาดความช่วยเหลือจากภาครัฐ
เอกชนต้องลงทุนสูง คืนทุนช้า ต่างจากฝากรายการกับ เจ้าประจำ ที่กำไรง่ายกว่า

8K พื้นฐานการส่งภาพและเสียงในระบบ 5G

รูปแบบการถ่ายทอดสดสู่ออนไลน์

รูปแบบถ่ายทอดสด ภาพรอบทิศทาง

รูปแบบถ่ายทอดสด และเชื่อมต่อออนไลน์ บนรถไฟ

AV1 มาตรฐานการบีบอัดสายธารวีดีโอความคมชัดสูงตั้งแต่ 4k โดยไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์

กลุ่มมาตรฐานอุตสาหกรรม Alliance for Open Media (AOMedia)

ได้ออกแบบการรหัสวิดีโอความละเอียดสูง 4K UHD ชื่อว่า

AV1 (ย่อมาจาก AOMedia Video Codec 1.0)

จุดเด่นของ AV1

คือใช้เทคโนโลยีบีบอัดข้อมูลแบบใหม่ที่มีประสิทธิภาพดีกว่าคู่แข่งถึง 30%

โดยที่ยังคงฟีเจอร์สำคัญๆ ของการแสดงผลภาพยุคใหม่ไว้ครบถ้วน

ด้วยจุดเด่นนี้มันจึงเหมาะกับการใช้ทำวิดีโอสตรีมมิ่งที่จะกินปริมาณทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตมากขึ้นเรื่อยๆ