แก้ไขกระทู้: เพิ่มคำชี้แจงจากมูลนิธิ
### มีคำชี้แจงจากมูลนิธิด้านล่างครับ ###
ทั้งคำชี้แจงและแนวทาง ผมเห็นด้วยที่จะทำให้ชัดเจน และขอบคุณที่รีบดำเนินการครับ
เดี๋ยวไว้จะแวะไปเร็วๆ นี้ครับ
--------------
สรุปคำชี้แจงจากมูลนิธิ
ขอเรียนชี้แจงดังนี้ครับ รับแจ้งจากผู้ดูแลสนง.ว่า ผู้ที่ขายอยู่เป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูครับ อธิบายเพิ่มเติมคือ มีหลายครั้งที่มูลนิธิให้การช่วยเหลืออาสาสมัครร่วมกตัญญู ที่ประสบความเดือดร้อน โดยให้ใช้พื้นที่ด้านข้างหรือด้านหน้าสนง. สำหรับค้าขายเล็กๆ น้อยเพื่อเยียวยาครอบครัว ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของสถานที่ด้วยด้วย
จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดตามที่ท่านกล่าว มูลนิธิฯ ได้ตำหนิ และให้ออกไปตั้งด้านนอกพร้อมอธิบายให้ประชาชนทราบชัดเจนว่าไม่ใช่ของมูลนิธิฯ แต่อย่างใด หวังว่าท่านจะเข้าใจและขออภัยเป็นอย่างสูงที่ทำให้ท่านเกิดความรู้สึกที่ไม่ดี หวังว่าท่านจะยังคงร่วมทำบุญกับมูลนิธิต่อไป หากท่านมีข้อสงสัยหรือข้อซักถามเพิ่มเติม รบกวนขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้อธิบายให้ท่านสบายใจครับ
ขอบคุณครับ
************************************************
#Blueplanet เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ และเป็นหนึ่งในที่ที่คนไทยนิยมไปไหว้กันมาก
#สีลม เพราะผมเห็นคนทำงานแวะมาไหว้ที่นี่กันเยอะ
#ศาสนา เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการไหว้เจ้า
วันนี้ 14 พ.ค. 2562 - เวลาประมาณ 20:00 น.
ผมเดินทางไปมูลนิธิร่วมกตัญญูตามปกติ ครั้งล่าสุดที่แวะมาคือก่อนตรุษจีน
ผมทำบุญโลงศพที่นี่มาสิบกว่าปี ปีนึงอย่างน้อยต้องมี 6-12 ครั้ง
วันนี้ฝนตกพรำๆ คนไม่เยอะมาก หลังจากบริจาคเงินที่โต๊ะ ได้รับใบอนุโมทนาเสร็จเรียบร้อย ก็เดินตรงเข้าไปด้านหลังเพื่อแปะกระดาษที่โลงศพ
นับตั้งแต่มีปัญหา PM2.5 หลายวัดยกเลิกการจุดธูป ซึ่งผมไม่ติดขัดอะไร แม้จะรู้สึกมันขาดเสน่ห์บางอย่างไปก็ตาม
(สมัยยังเป็นเด็กน้อย จำได้ว่า เข้าวัดเล่งไนยี่ทีไรต้องน้ำตาไหลเพราะควันธูป ดังนั้นจึงรู้สึกผูกพันกับควันธูปพอสมควร)
(แต่ในเมื่อปัญหาสุขภาพสำคัญกว่า นักวิชาการว่าอย่างไร ผมก็เห็นพ้องตามนั้น เพราะไม่ได้ศึกษาและเชี่ยวชาญด้านนี้)
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าพื้นที่หลัก เด็กน้อยผมเกรียนรูปร่างผอมบอกกับผมว่า ให้ไปเอาเทียนได้ (เอะใจนิดหน่อย)
หันไปมองบนโต๊ะกลาง ก็เห็นเทียนคู่วางเรียงรายกันนับไม่ถ้วน ดูสวยงามดี และมีคนไปถ่ายรูปเทียนกันพอสมควร
ผมเดินตรงไปทางฝั่งที่จะเดินไปวัดหัวลำโพง หยอดเงินใส่ตู้ทำบุญค่าเทียนไป 20 บาท (ปกติตอนมีธูปก็หยอดเท่านี้ - ไม่นับรวมที่ทำบุญด้วยใบอนุโมทนา)
มาถึงซุ้มเทียน กำลังจะหยิบเทียน
... พนักงานแจ้งว่าค่าเทียน 50 บาท
ผมควักเงินให้โดยลังเลเล็กน้อย เพราะเข้าใจว่าน่าจะเป็นเทียนที่ทางมูลนิธิจัดไว้
เงิน 50 บาท ไม่มากสำหรับการทำบุญ เพราะผมบริจาคมากกว่านี้ในแต่ละครั้ง ... แต่มากหากไม่ใช่การทำบุญ
จัดแจงไหว้จนเสร็จ พร้อมเก็บความไม่สบายใจเอาไว้ครู่หนึ่ง
จากนั้นจึงเดินออกมาถามพนักงานรับเงินบริจาค ซึ่งเป็นหญิงวัยกลางคนผิวขาวค่อนข้างท้วม นั่งอยู่ริมสุด
ผม: เทียนคู่ที่ขาย เป็นของมูลนิธิรึเปล่าครับ?
พนักงาน: เป็นของพนักงานมูลนิธิค่ะ
ผม: งั้นไม่ใช่ของมูลนิธิถูกมั้ยครับ
พนักงาน: อ้ำอึ้งสักครู่ ก่อนตอบเบาๆ ว่า ไม่ใช่ค่ะ
----------
ข้อสังเกต:
1. หากไม่ใช่นำเงินเข้ามูลนิธิ คุณก็ไม่ควรให้พนักงานหรือใครมาตั้งร้านอยู่ติดมูลนิธิ
2. ถ้าจะให้พนักงานหารายได้ คุณควรติดป้ายให้ชัดเจนว่า เงินไม่ได้เข้ามูลนิธิ
3. หรือถ้าจะยกเลิกธูป (ฟรี - แต่ผมหยอดเงินทุกครั้ง 20 บาท) แล้วเปลี่ยนมาเป็นเทียนคู่ 50 บาท มูลนิธิควรทำเองหรือไม่
4. หากจะแก้ตัวว่า เทียนเป็นของมูลนิธิ คุณก็ควรหากล่องมูลนิธิมาใส่ให้เรียบร้อย และให้คนหยอดเงินเองเหมือนกับวัดอื่นทั่วไป แต่นี่มีพนักงานนั่งจัดเทียน นั่งนับเงินเป็นปึก และพนักงานขายก็ไม่ได้แต่งกายชุดมูลนิธิ (แต่กลับขายเทียนคู่ได้ติดมูลนิธิ และมีเด็กเชียร์เทียนยืนอยู่ในบริเวณทางเข้าจุดไหว้ ซึ่งอยู่ในพื้นที่มูลนิธิ)
ผมมั่นใจว่า ไม่ใช่ผมเพียงคนเดียวที่สงสัย และเชื่อว่ายังมีคนอีกจำนวนมากเข้าใจว่าเป็นของมูลนิธิ
* ผมไม่กล้าประเมินต้นทุนของเทียนคู่ ว่าคู่ละกี่บาท และขายที่ราคา 50 บาท จะได้กำไรกี่บาท
* ผมไม่แน่ใจว่า การจำหน่ายสินค้าแบบนี้ ได้กำไรแบบนี้ ขายให้กับคนจำนวนมหาศาลแบบนี้ วันนึงพวกคุณทำรายได้เท่าไร
* หากเป็นการจำหน่ายเพื่อนำเงินเข้ากระเป๋าตนเอง อยากเชิญสรรพากรให้เข้ามาช่วยตรวจสอบรายได้สักนิดครับ เพราะเท่าที่ประเมินจากภาพถ่าย ณ ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น (คงเก็บออกเพื่อเคลียร์พื้นที่ตลอดทั้งวัน) ผมนับได้ราว 60-70 อัน ลองคิดว่า ชม. ละ 100 อันก็พอ เปิด 24 ชม. -- ตีไป 20 ชม. ก็พอ วันนึงก็ 2000 อันแล้วหรือไม่ แค่นี้ก็เงิน 100,000 บาทต่อวันแล้วหรือไม่ ผมประเมินคร่าวๆ ว่าประมาณนี้ แต่ไม่ทราบจำนวนการจำหน่ายที่แท้จริงในแต่ละวัน ใครแวะไป ฝากถ่ายรูปมาช่วยกันนับก็ดีครับ
ผมทำบุญกับมูลนิธิมาตลอด -- เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ศรัทธา ; ทำบุญมาตั้งแต่ยุคอากง คุณพ่อ และยุคผม
การให้พนักงานมาหารายได้โดยจำหน่ายเทียนคู่ราคา 50 บาท ผมไม่คิดว่าเหมาะสม (หากเป็นจริง)
และไม่เคยเจอกรณีแบบนี้มาก่อน เคยอ่านข่าวเกี่ยวกับมูลนิธิที่ผมไม่ค่อยถูกใจบ้าง แต่ก็ปล่อยผ่าน
ครั้งนี้เจอกับตัวเอง ... ยอมรับว่า เป็นการทำบุญที่เกิดความไม่สบายใจอย่างมาก
และเสียใจแทนอาสาฯ ที่ทำงานให้มูลนิธิ ซึ่งบางคนต้องซื้ออุปกรณ์เอง และทำงานด้วยใจ
หรือถ้าคิดว่าเหมาะสมแล้ว ก็รบกวนติดป้ายบอกสักนิดว่า "รายได้เข้ากระเป๋าตัวเอง" หรือให้ย้ายร้านไปอยู่ด้านนอกครับ
หากปรับเปลี่ยนไม่ได้ ก็ถือว่าผมตั้งกระทู้นี้แจ้งให้เพื่อนๆ ในนี้ทราบ
ส่วนจะอุดหนุนหรือไม่อุดหนุน ก็ตามสะดวกครับ
มูลนิธิร่วมกตัญญู - ชุดเทียน 50 บาท เข้ากระเป๋าใคร ?
### มีคำชี้แจงจากมูลนิธิด้านล่างครับ ###
ทั้งคำชี้แจงและแนวทาง ผมเห็นด้วยที่จะทำให้ชัดเจน และขอบคุณที่รีบดำเนินการครับ
เดี๋ยวไว้จะแวะไปเร็วๆ นี้ครับ
--------------
สรุปคำชี้แจงจากมูลนิธิ
ขอเรียนชี้แจงดังนี้ครับ รับแจ้งจากผู้ดูแลสนง.ว่า ผู้ที่ขายอยู่เป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูครับ อธิบายเพิ่มเติมคือ มีหลายครั้งที่มูลนิธิให้การช่วยเหลืออาสาสมัครร่วมกตัญญู ที่ประสบความเดือดร้อน โดยให้ใช้พื้นที่ด้านข้างหรือด้านหน้าสนง. สำหรับค้าขายเล็กๆ น้อยเพื่อเยียวยาครอบครัว ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของสถานที่ด้วยด้วย
จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าวที่อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดตามที่ท่านกล่าว มูลนิธิฯ ได้ตำหนิ และให้ออกไปตั้งด้านนอกพร้อมอธิบายให้ประชาชนทราบชัดเจนว่าไม่ใช่ของมูลนิธิฯ แต่อย่างใด หวังว่าท่านจะเข้าใจและขออภัยเป็นอย่างสูงที่ทำให้ท่านเกิดความรู้สึกที่ไม่ดี หวังว่าท่านจะยังคงร่วมทำบุญกับมูลนิธิต่อไป หากท่านมีข้อสงสัยหรือข้อซักถามเพิ่มเติม รบกวนขอเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้อธิบายให้ท่านสบายใจครับ
ขอบคุณครับ
************************************************
#Blueplanet เพราะเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ และเป็นหนึ่งในที่ที่คนไทยนิยมไปไหว้กันมาก
#สีลม เพราะผมเห็นคนทำงานแวะมาไหว้ที่นี่กันเยอะ
#ศาสนา เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการไหว้เจ้า
วันนี้ 14 พ.ค. 2562 - เวลาประมาณ 20:00 น.
ผมเดินทางไปมูลนิธิร่วมกตัญญูตามปกติ ครั้งล่าสุดที่แวะมาคือก่อนตรุษจีน
ผมทำบุญโลงศพที่นี่มาสิบกว่าปี ปีนึงอย่างน้อยต้องมี 6-12 ครั้ง
วันนี้ฝนตกพรำๆ คนไม่เยอะมาก หลังจากบริจาคเงินที่โต๊ะ ได้รับใบอนุโมทนาเสร็จเรียบร้อย ก็เดินตรงเข้าไปด้านหลังเพื่อแปะกระดาษที่โลงศพ
นับตั้งแต่มีปัญหา PM2.5 หลายวัดยกเลิกการจุดธูป ซึ่งผมไม่ติดขัดอะไร แม้จะรู้สึกมันขาดเสน่ห์บางอย่างไปก็ตาม
(สมัยยังเป็นเด็กน้อย จำได้ว่า เข้าวัดเล่งไนยี่ทีไรต้องน้ำตาไหลเพราะควันธูป ดังนั้นจึงรู้สึกผูกพันกับควันธูปพอสมควร)
(แต่ในเมื่อปัญหาสุขภาพสำคัญกว่า นักวิชาการว่าอย่างไร ผมก็เห็นพ้องตามนั้น เพราะไม่ได้ศึกษาและเชี่ยวชาญด้านนี้)
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้าพื้นที่หลัก เด็กน้อยผมเกรียนรูปร่างผอมบอกกับผมว่า ให้ไปเอาเทียนได้ (เอะใจนิดหน่อย)
หันไปมองบนโต๊ะกลาง ก็เห็นเทียนคู่วางเรียงรายกันนับไม่ถ้วน ดูสวยงามดี และมีคนไปถ่ายรูปเทียนกันพอสมควร
ผมเดินตรงไปทางฝั่งที่จะเดินไปวัดหัวลำโพง หยอดเงินใส่ตู้ทำบุญค่าเทียนไป 20 บาท (ปกติตอนมีธูปก็หยอดเท่านี้ - ไม่นับรวมที่ทำบุญด้วยใบอนุโมทนา)
มาถึงซุ้มเทียน กำลังจะหยิบเทียน
... พนักงานแจ้งว่าค่าเทียน 50 บาท
ผมควักเงินให้โดยลังเลเล็กน้อย เพราะเข้าใจว่าน่าจะเป็นเทียนที่ทางมูลนิธิจัดไว้
เงิน 50 บาท ไม่มากสำหรับการทำบุญ เพราะผมบริจาคมากกว่านี้ในแต่ละครั้ง ... แต่มากหากไม่ใช่การทำบุญ
จัดแจงไหว้จนเสร็จ พร้อมเก็บความไม่สบายใจเอาไว้ครู่หนึ่ง
จากนั้นจึงเดินออกมาถามพนักงานรับเงินบริจาค ซึ่งเป็นหญิงวัยกลางคนผิวขาวค่อนข้างท้วม นั่งอยู่ริมสุด
ผม: เทียนคู่ที่ขาย เป็นของมูลนิธิรึเปล่าครับ?
พนักงาน: เป็นของพนักงานมูลนิธิค่ะ
ผม: งั้นไม่ใช่ของมูลนิธิถูกมั้ยครับ
พนักงาน: อ้ำอึ้งสักครู่ ก่อนตอบเบาๆ ว่า ไม่ใช่ค่ะ
----------
ข้อสังเกต:
1. หากไม่ใช่นำเงินเข้ามูลนิธิ คุณก็ไม่ควรให้พนักงานหรือใครมาตั้งร้านอยู่ติดมูลนิธิ
2. ถ้าจะให้พนักงานหารายได้ คุณควรติดป้ายให้ชัดเจนว่า เงินไม่ได้เข้ามูลนิธิ
3. หรือถ้าจะยกเลิกธูป (ฟรี - แต่ผมหยอดเงินทุกครั้ง 20 บาท) แล้วเปลี่ยนมาเป็นเทียนคู่ 50 บาท มูลนิธิควรทำเองหรือไม่
4. หากจะแก้ตัวว่า เทียนเป็นของมูลนิธิ คุณก็ควรหากล่องมูลนิธิมาใส่ให้เรียบร้อย และให้คนหยอดเงินเองเหมือนกับวัดอื่นทั่วไป แต่นี่มีพนักงานนั่งจัดเทียน นั่งนับเงินเป็นปึก และพนักงานขายก็ไม่ได้แต่งกายชุดมูลนิธิ (แต่กลับขายเทียนคู่ได้ติดมูลนิธิ และมีเด็กเชียร์เทียนยืนอยู่ในบริเวณทางเข้าจุดไหว้ ซึ่งอยู่ในพื้นที่มูลนิธิ)
ผมมั่นใจว่า ไม่ใช่ผมเพียงคนเดียวที่สงสัย และเชื่อว่ายังมีคนอีกจำนวนมากเข้าใจว่าเป็นของมูลนิธิ
* ผมไม่กล้าประเมินต้นทุนของเทียนคู่ ว่าคู่ละกี่บาท และขายที่ราคา 50 บาท จะได้กำไรกี่บาท
* ผมไม่แน่ใจว่า การจำหน่ายสินค้าแบบนี้ ได้กำไรแบบนี้ ขายให้กับคนจำนวนมหาศาลแบบนี้ วันนึงพวกคุณทำรายได้เท่าไร
* หากเป็นการจำหน่ายเพื่อนำเงินเข้ากระเป๋าตนเอง อยากเชิญสรรพากรให้เข้ามาช่วยตรวจสอบรายได้สักนิดครับ เพราะเท่าที่ประเมินจากภาพถ่าย ณ ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น (คงเก็บออกเพื่อเคลียร์พื้นที่ตลอดทั้งวัน) ผมนับได้ราว 60-70 อัน ลองคิดว่า ชม. ละ 100 อันก็พอ เปิด 24 ชม. -- ตีไป 20 ชม. ก็พอ วันนึงก็ 2000 อันแล้วหรือไม่ แค่นี้ก็เงิน 100,000 บาทต่อวันแล้วหรือไม่ ผมประเมินคร่าวๆ ว่าประมาณนี้ แต่ไม่ทราบจำนวนการจำหน่ายที่แท้จริงในแต่ละวัน ใครแวะไป ฝากถ่ายรูปมาช่วยกันนับก็ดีครับ
ผมทำบุญกับมูลนิธิมาตลอด -- เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่ศรัทธา ; ทำบุญมาตั้งแต่ยุคอากง คุณพ่อ และยุคผม
การให้พนักงานมาหารายได้โดยจำหน่ายเทียนคู่ราคา 50 บาท ผมไม่คิดว่าเหมาะสม (หากเป็นจริง)
และไม่เคยเจอกรณีแบบนี้มาก่อน เคยอ่านข่าวเกี่ยวกับมูลนิธิที่ผมไม่ค่อยถูกใจบ้าง แต่ก็ปล่อยผ่าน
ครั้งนี้เจอกับตัวเอง ... ยอมรับว่า เป็นการทำบุญที่เกิดความไม่สบายใจอย่างมาก
และเสียใจแทนอาสาฯ ที่ทำงานให้มูลนิธิ ซึ่งบางคนต้องซื้ออุปกรณ์เอง และทำงานด้วยใจ
หรือถ้าคิดว่าเหมาะสมแล้ว ก็รบกวนติดป้ายบอกสักนิดว่า "รายได้เข้ากระเป๋าตัวเอง" หรือให้ย้ายร้านไปอยู่ด้านนอกครับ
หากปรับเปลี่ยนไม่ได้ ก็ถือว่าผมตั้งกระทู้นี้แจ้งให้เพื่อนๆ ในนี้ทราบ
ส่วนจะอุดหนุนหรือไม่อุดหนุน ก็ตามสะดวกครับ