อี๊ (圆) ขนมบัวลอย กับเทศกาล "ตังโจ่ย"
อีกหนึ่งเดือนเต็มๆ (21 ธค.) จะถึงเทศกาล "ตังโจ่ย" แล้ว วันนี้แม่นันจะชวนมาต้มอี๊ (ขนมบัวลอย) ใส่น้ำเชื่อมสีแดงๆไว้ทานกันให้หายคิดถึง
ถึงแม้ว่าขนมอี๊จะมีกรรมวิธีที่ง่ายดายไม่ซับซ้อนเหมือนขนมแบบฉบับแต้จิ๋วยอดฮิตชนิดอื่น ๆ แต่ก็แฝงไปด้วยคุณค่าทางจิตใจและความใส่ใจในทุกรายละเอียดของชาวจีนแต้จิ๋วที่มักจะมีคำสอนเรื่องความกตัญญูปรากฏอยู่บ่อย ๆ ในส่วนของขนมอี๊สิ่งที่สะท้อนคำสอนเรื่องความกตัญญูไม่ใช่เพียงแค่การที่นำขนมไปเซ่นไหว้บรรพบุรุษเท่านั้น แต่การปั้นอี๊ก็สามารถสะท้อนให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อความกตัญญูรู้คุณและการมีสัมมาคารวะได้ด้วย
ก่อนต้มอี๊ ขอพูดเรื่อง "ซออี๊" ที่เขียนไปเมื่อวันก่อนอีกสักหน่อยค่ะ แม่นันอยากขอบคุณแฟนๆที่ช่วยกันรำลึกวีรกรรมปั้นแป้งขนมบัวลอยในวัยเด็กน้อยมาให้ได้หัวเราะกัน บางคอมเมนต์เป็นความรู้ใหม่ของแม่นันเลยค่ะ จึงขออนุญาตหยิบยกมาแบ่งปันกัน ที่แน่ๆไม่มีใครอยากแก่กันเลยเพราะการ "ซออี๊" ในเทศกาล "ตังโจ่ย" หมายถึงการเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ ทำให้พวกเราแก่ขึ้นเหี่ยวลงกันอีกปี หลีกเลี่ยงคำว่า "แก่" เป็น "ภูมิฐาน" ขึ้นดีกว่าค่ะ
"ซออี๊" ซอไล้ซอขื่อบ่วยเหยี่ยงอี๊ ปั้นไปปั้นมาสัตว์ประหลาดเต็มตั่งปั๊วเลย มีคอมเมนต์ว่า "นอกจากตัวประหลาดแล้ว ยังมีเครื่องบิน รถ ฯลฯ อีกหลายๆอย่าง ที่บ้านตอนเราเด็กๆก็ทำ อาม่าไม่ว่าแถมยังต้มให้กินด้วย 5555"
คอมเมนต์: ตอนเด็กๆปั้นเท่าขนาดลูกชิ้น น้องปั้นเป็นงู สนุกมากเลย คิดแล้วก็เอ็นดูแม่เหมือนกันนะคะ
คอมเมนต์:: ตอนเด็กๆ จะเอาไส่ชามวิ่งติดตามต้นมะม่วง ต้นละ 1 เม็ดรอบสวน
คอมเมนต์:: คิดถึงตอนมีแม่ล้อมวงซออี้สมัยนี้เด็กกินบัวลอยไข่ใส่กะทิขนมโบราณมีแต่แป้งกับน้ำตาลเขาบอกจะเป็นเบาหวานเหมือนอาม่าคะ
คอมเมนต์: เคยปั้นเป็นรูปดาว 4แฉก เต่า งู พอต้มออกมางูกลายเป็นเชือก เต่ากลายเป็นอะไรไม่รู้ ส่วนดาวยังพอดูออก ที่แน่ ๆ หวานเจี๊ยบ
คอมเมนต์:: ปั้นไปปั้นมา ลูกก็ใหญ่ขึ้น ๆ เพราะอยากให้เสร็จเร็ว ๆ
และที่เป็นความรู้ใหม่ของแม่นัน คือ "สมัยอาม่าจะปั้นตัวยาวหัวท้ายแหลมเรียกเก๋าโก๊ยอี๊" แม่นันว่าน่าจะปั้นคล้ายขนม "โบ๊กเกี้ย" ใช่มั้ยคะ ของที่บ้านแม่นันจะปั้นกลมๆ แอบแฝงสัตว์ประหลาดสองสามตัว
คอมเมนต์: "วันไหว้ไมค่อยสนใจบัวลอยเท่าไหร จะสนใจนับวันจะเก็บบัวลอยที่ติดตามวงกบหรือโอ่งน้ำและตามที่ต่างๆ เหมือนให้เราค้นหาที่ผู้ใหญ่ติดไว้แล้วเก็บมาทอดและนำมาเคลือบน้ำตาล กินเป็นขนมอีกแบบกรอบหวานนอกนุ่มใน เราอายุหกสิบสี่ทันจ้าคิดถึงตอนแย่งกันเก็บว่าใครจะได้มากกว่า" อันนี้แม่นันไม่เคยรู้เลยว่านำมาทอดกินได้ เห็นบอกว่ามันจะหนุบหนุบกรอบๆ ตามประสาเด็กสมัยนั้นกินอะไรก็อร่อย แม้จะอาบด้วยฝุ่นเล็กน้อย
คอมเมนต์: "ที่บ้านจะเสียบไม้ไหว้มึ่งซิ้ง เสียบไว้ในกรวยที่ปักธูป พอหลายๆวันอี้แห้ง แข็งโป๊ก แม่จะเอามาทอดให้กิน กรอบอร่อยมาก แต้เดี๋ยวนี้ไม่ได้ทำแล้ว ซื้อที่เขาต้มที่ตลาดมาไหว้เป็นถ้วยใส่น้ำเชื่อม คิดถึงบบรรยากาศตอนเด็กเหมือนกันค่ะ"
เห็นทีปีนี้ไหว้เสร็จแม่นันต้องลองเก็บมาทอดกินดูค่ะ อยากลองดูว่าจากที่โดนแดดโดนลมอาบฝุ่นแล้ว ทอดออกมาจะกรอบอร่อยเหมือนสมัยก่อนรึเปล่า คริคริ
มีคอมเมนต์หนึ่งบอกว่า "ที่บ้านต้องไหว้ไช้ก้วยด้วย ไหว้เป็ดไก่ด้วย เพราะถือเป็นเทศกาลแรกของปีใหม่จีน อาม่าบอกว่าไหว้แล้วลื้อจะฮวกใช้ บรรพบุรุษก็ต้องมีกับข้าวด้วยถือว่าเป็นการขอบคุนเค้าไปในตัว" อันนี้เห็นด้วยค่ะ เพราะสมัยก่อนเทศกาลนี้ถือเป็นเทศกาลแรกใหญ่กว่าตรุษจีนก็ว่าได้
ได้ความรู้ได้เสียงหัวเราะกันแล้ว ทีนี้เรามาทำ "ขนมบัวลอย" แบบโบราณกันค่ะ
ขั้นตอนการทำ แบ่งเป็นสองส่วน น้ำเชื่อมและแป้งบัวลอย
น้ำเชื่อม: น้ำ 750 กรัม น้ำตาลทราย 105 กรัม
-ต้มน้ำจนเดือดจัด ใส่น้ำตาลทราย คนจนน้ำตาลละลาย หยดสีแดงเล็กน้อย คนให้เข้ากัน ก็จะได้น้ำเชื่อมแดงหวานน้อยๆ
แป้งบัวลอย: แป้งข้าวเหนียว 200 กรัม น้ำ 170 กรัม สีผสมอาหารเล็กน้อย
- ผสมแป้งข้าวเหนียวและน้ำ นวดจนเข้าเนื้อเนียนดี แบ่งแป้งเป็น 2 ส่วนๆหนึ่งผสมสีแดง อีกส่วนสีขาว ปั้นเป็นเม็ดกลมๆใส่ถาดไว้
- นำแป้งบัวลอยลงต้มในน้ำเดือด เมื่อแป้งเริ่มสุกจะลอยสู่ผิวน้ำ คอยช้อนฟองออก
- เมื่อแป้งบัวลอยสุกได้ที่แล้ว นำมาผ่านน้ำเย็นสักรอบ เพื่อล้างแป้งเหนียวๆออก และกันตัวแป้งติดกัน
วิธีเสิร์ฟ
- ตักบัวลอยใส่ชาม ราดด้วยน้ำเชื่อมสีแดง
เพียงเท่านี้ก็จะได้เจียะอี๊ (ขนมบัวลอย) ฝีมือตัวเอง นอกจากกินเพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองแล้ว ยังแก่ขึ้นอีกปีด้วย
แชร์ ส่งต่อ วัฒนธรรมประเพณี อาหารจีนแต้จิ๋ว เพื่อรำลึกถึงบรรพบุรุษกันค่ะ
.
อี๊ (圆) ขนมบัวลอย กับเทศกาล "ตังโจ่ย"