ตรวจสายตาสั้น โรงพบาบาลกรุงเทพ ราคา 2,590 บาท เหมาะสมหรือไม่?

ขออภัยนะครับ อาจจะยาวหน่อย

มื่อปีก่อนผมไปขูดหินปูนที่สมิติเวชสุขุมวิทพร้อมแฟน ค่าขูดของผมออกมา 3,000 กว่าบาท ของแฟน 2,000 กว่าบาท (ของแฟนก็แพงมากแล้ว) เลยถามว่าทำไมของผมแพงขนาดนี้ พยาบาลตอบว่าคุณหมอแจ้งว่าหินปูนของผมเยอะ.... ตอนนั้นรู้สึกว่าโดนเอาเปรียบมาก แต่ก็ไม่ได้ติดใจเอาความเพราะมีธุระต่อ แต่เก็บไว้ในใจตลอดว่าถ้าเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ครั้งถัดไปจะไม่ยอมปล่อยผ่าน

จนกระทั่งเมื่อต้นเดือนเมษา ผมไปตรวจสายตาสั้นที่ รพ กรุงเทพ แล้วบิลออกมา 2,590 บาท

1. วันที่ 4 เมษา 62 ผมไปตรวจสายสั้นที่ รพ กรุงเทพ ใช้เวลาคุยกับหมอทั้งหมดไม่เกิน 10 นาที

2. ค่าการรักษาออกมา 2,590 บาท (สิ่งที่ได้กลับบ้านอย่างเดียวคือรู้ว่าสายตาสั้น และ เอียง นิดหน่อย - ไม่มียา)

3. พยาบาลบอกถ้าติดใจเรื่องราคาให้กลับเข้าไปเคลียร์กับหมอในห้องเอง

4. จึงตัดสินใจกลับบ้าน และ ส่งอีเมลเข้า CS เพื่อให้ตรวจสอบความถูกต้องของค่าพยาบาลแทน

5. วันที่ 5 เมษา 62 CS ติดต่อกลับมาเพื่อขอโทษ และ แจ้งว่าจะทำการตรวจสอบค่าบริการให้

6. วันที่ 10 เมษา 62 CS ติดต่อกลับ และ แจ้งว่าคิดค่าบริการเกินไปจริง ๆ โดยจะทำการโอนคืนให้เป็นยอด “100 บาท” ถ้วน เนื่องจาก “กฏระเบียบของคนไข้ใหม่นั้น เพดานค่าแพทย์สูงสุดจริง ๆ แล้วต้องไม่เกิน 1,300 บาท (ของผมโดนไป 1,400 บาท) ทางทีมงานจึงสอบถามไปยังแพทย์ว่าจะลดราคาให้เท่าไร และ "100 บาท" คือคำตอบที่แพทย์ท่านนี้ยืนยันว่าจะทำการลดให้ผม

7. ผมจึงบอกว่าไม่ต้องโอนกลับมาครับ แต่ให้ช่วยไปหาคำตอบในโครงสร้างราคามาอธิบายให้ผมฟังว่าคุณมีมาตรฐานในการคำนวนราคาการรักษาในแต่ละรอบอย่างไร

8. วันที่ 15 เมษา 62 CS โทรมาสารภาพว่าแพทย์ท่านนี้ไม่ได้พูดความจริง  โดยแพทย์ได้แจ้งกับทางทีม CS ว่าใช้เวลาอยู่ในห้องตรวจกับผมนานกว่า 20 นาที (เวลาคือหนึ่งใน factor ที่เค้านำมาใช้คำนวนค่าบริการ)

9. ทาง รพ ตรวจสอบจากพยาบาลที่อยู่ในห้องตรวจพร้อมผม ได้ความสอดคล้องกับที่ผมแจ้ง (แพทย์อยู่กับผมไม่เกิน 10 นาที)

10. CS บอกว่าขอเวลาตรวจสอบอีกครั้ง สำหรับการคิดค่าบริการใหม่ว่าควรจะลดมากกว่านี้เท่าไร

11. วันที่ 29 เมษา 62 (ผ่านไป 25 วัน นับจากวันเกิดเหตุ) ทาง CS โทรติดต่อกลับมาบอกว่าจริงๆแล้วค่าแพทย์ของผมต้องไม่เกิน 750 บาท (จากเดิม 1,400) 

12. ด้วยความที่เรื่องนี้กินเวลาชีวิตผมยาวนานมาเกือบเดือน ผมจึงแจ้งให้ปิดเคสนี้ไปเลยละกัน จะโอนคืนเท่าไรก็โอนมา

13. ผ่านไป 14 วัน (จาก 29 เมษา) ผมยังไม่ได้รับยอดการคืนเงินใด ๆ จากทางโรงพยาบาลกรุงเทพเลย เบ็ดเสร็จแล้ว 39 วัน นับจากวันที่เค้าคิดค่าบริการผมเกินไป

ถึงแม้ว่ายอดเงินอาจจะไม่ได้สูงมากแต่อยากจะถามจะฝากคำถามไว้ว่า 

1. มาตรฐานของค่ารักษาพยาบาลคุณอยู่ที่ไหน?

2. การผลักภาระให้คนไข้เป็นคนตรวจสอบ ติดตาม และ ต่อรอง เป็นสิ่งที่เหมาะสม?

3. มาตรการควบคุม และ บทลงโทษบุคลลากรในเคสลักษณะนี้ควรจะเป็นย่างไร?

4. โรงพยาบาลได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานคุ้มคองผู้บริโภคบ้างหรือไม่?

5. คิดค่าบริการแบบไม่มีมาตรฐาน กำไรเพิ่มพิเศษ เคสละนิดหน่อย ผลประโยชน์ตกที่ใคร และ ควรมีบทลงโทษให้กับคน ๆ นั้นหรือไม่ หากตรวจสอบแล้วพบว่าดำเนินการในลักษณะนี้ด้วยความตั้งใจ

6. วันๆนึงมีคนไข้กี่คนที่โดนเอาเปรียบในลักษณะนี้?

ผมค่อนข้างมั่นใจว่าหลายคนคงเคยเจอเคสในลักษณะนี้ แต่เนื่องด้วยยอดเงินไม่ได้สูงมากนัก เราจึงปล่อยมันผ่านไป

ทั้งที่ในความเป็นจริงเรื่องเหล่านี้ผมว่าเป็นเรื่องที่ซีเรียส และ มองข้ามไม่ได้ รัฐควรทำหน้าที่เป็นคนสอดส่อง ช่วยเหลือ และ regulate มาตรฐานการคิดค่าบริการ ไม่ใช่ผลักภาระให้ประชาชนอย่างเราๆ เป็นคนดำเนินการทุกสิ่งอย่างด้วยตัวเอง

หมายเหตุ: CS ที่โทรมาอธิบายเรื่องสุภาพทุกคนครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่