เราคิดว่าพ่อเรามีปัญหาด้านสุขภาพจิต เดี๋ยวเราจะชี้แจงเหตุผลให้ทราบว่าทำไมถึงคิดแบบนี้ แล้วอยากขอคำแนะนำว่าเราจะรับมือยังไง และมีทางที่จะทำให้เค้าหายจากอาการพวกนี้ไหมคะ
คือพ่อเป็นคนขี้ระแวงมากค่ะ ไม่ไว้ใจใคร และคิดตลอด ว่าเรา พี่ชาย และแม่คอยกลั่นแกล้งเค้า
เมื่อก่อนตอนเราเด็กๆ พ่อกับแม่ยังอยู่ห้องเดียวกัน พ่อก็คิดว่าตอนหลับโดนแม่เรารมยาพิษใส่ เพราะเค้าตื่นเช้ามาแล้วมีอาการใจสั่น ซึ่งปัจจุบัน แม่นอนกับเรา พ่อนอนคนเดียว แยกห้องกันค่ะ ปัญหาก็เลยจบไป
เมื่อก่อน แม่เป็นคนทำกับข้าวให้คนทั้งบ้านกิน พ่อก็คิดว่าแม่ใส่ยาพิษลงในกับข้าวตั้งใจให้เค้าตาย พอเราแย้งว่าถ้าแม่ใส่จริง ทำไมเรา แม่ และพี่ชายไม่เป็นอะไร เค้าก็บอกว่า เรา 3 คน มียาแก้พิษ แม่ให้กินยาแก้พิษไปแล้ว หลังจากนั้นแม่ก็ไม่ทำกับข้าวให้พ่อกินอีกค่ะ ให้เค้าหาข้าวกินเอง
เราเอาน้ำประปาใส่กระบอกน้ำ เพื่อเอามาเติมเตารีดตอนรีดชุดนักเรียน แล้วเราไม่ได้เททิ้ง พออีกวันเราก็ถามแม่ว่า น้ำกระบอกไหนกินได้ เค้าก็คิดอีกว่าแม่เอายาพิษใส่น้ำเอาไว้ แล้วให้เค้ากิน โดยเรากับพี่ รู้เห็นด้วย
ช่วงที่โตมา บ้านเราแทบจะแยกกันอยู่โดยสมบูรณ์ค่ะ คือยังอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แต่ไม่ยุ่งเกี่ยว ปีนึงคุยกันนับคำได้ ถ้าไม่นับวันที่มีปากเสียงกัน
หลายปีผ่านมา มันมีปัญหายิบๆย่อยๆอีกเยอะมากแต่ขอเล่าเอาเท่าที่จำเหตุการณ์หลักๆได้นะคะ
ช่วงที่เราโตแล้ว เค้าก็คิดว่า พี่ชาย กับเรา ไปแฮ็คคอมเค้าทำให้คอมเค้ามีปัญหา ทั้งๆที่เรากับพี่ชายไม่เคยไปแตะคอมเค้าเลย เค้าก็ยังคิดว่า เราทำโดยผ่านคอมตัวเอง
เค้าป่วยหนัก พี่ชายก็อยากจะดูแลเค้า ทำกับข้าวไปให้กิน ก็โดนเค้าปัดข้าวตกกระเด็นหมดค่ะ แล้วด่ามาว่า "เอายาอะไรมาให้กูกิน กะจะให้กูตายใช่มั้ย"
พี่เราเรียนช่าง จบ ปวส. เค้าก็คิดว่า พี่ไปแกล้งไขน๊อตที่รถเค้า ตั้งใจจะให้รถเค้าเสีย หรือไปเกิดอุบัติเหตุตายค่ะ ซึ่งปัญหานี้มันไม่เคยจบค่ะ แม้ว่าพี่เราจะทนไม่ได้ จนต้องย้ายออกไปเช่าอยู่ข้างนอก บ้านแทบจะไม่เคยกลับ เพราะไม่อยากมาเจอหน้าเค้า เค้าก็ยังคิดว่า พี่แอบมาทำตอนเค้าไม่เห็น เอารถเข้ามาจาดในบ้าน ล๊อคบ้านทั้งหมด(บ้านเป็นอาคารพาณิชย์) เค้าก็ยังคิดว่าเรากับแม่แอบเปิดประตูให้พี่เข้ามาไขน๊อตรถเค้า ทั้งๆที่พี่เราอยู่ไกลจากบ้านออกไปอีกเกือบ 40 กิโลเมตร และทำงานตลอด แทบไม่มีวันหยุด
เราบอกเค้าว่า เค้าต้องไปหาหมอ จะได้เลิกคิดมากเรื่องแบบนี้ ไปปรึกษาหมอซะ เค้าตอบว่า ไม่ต้องมาพูด ข้าไม่ได้บ้า ข้ารู้ว่าพวกเอ็งทำอะไร ไม่ต้องมาหาว่าข้าบ้า
พ่อเราไม่ได้มีอาการคุ้มคลั่ง หรือเหม่อลอยอะไรเหมือนที่ในละครชอบทำนะคะ เค้าก็เป็นคนปกติทั่วไปที่คนนอกมอง ไม่ได้มาเจอปัญหาอย่างพวกเรา ไม่มีทางรู้แน่ค่ะ ว่าเค้าจะมีอาการ หรือมีความคืดแบบนี้
นี่เป็นสาเหตุที่เราคิดว่าพ่อมีปัญหาสุขภาพจิตค่ะ
ขอบอกไว้ว่า ความสัมพันธ์ในบ้านระหว่างเรา แม่ พี่ชาย กับพ่อ ไม่ดีค่ะ ไม่เคยดี พ่อไม่เคยรับผิดชอบอะไรพวกเราเลย ไม่เลี้ยงดู ไม่ส่งเรียน ตอนเด็กๆไม่ใยดี เพิ่งจะมาอยู่บ้านเดียวกันช่วง 10 กว่าปีมานี้ ซึ่งมันก็มีปัญหาที่เล่าให้ฟังข้างต้นมาโดยตลอด แถมยังมีปัญหาอื่นๆยิบย่อยอีกมาก เรา แม่ และพี่ชาย ก็พยายามต่างคนต่างอยู่กับเค้า ไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยเพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาอีก แต่มันก็มีปัญหามาตลอดค่ะ
ที่ผ่านมาเรากับแม่ รับมือโดยการตอบโต้เค้าให้น้อยที่สุดค่ะ เพราะพยายามอธิบายว่าไม่มีใครไปทำอะไรเค้า เค้าก็ไม่เคยฟัง ปักใจเชื่อสิ่งที่ตัวเองคิดอย่างเดียว แต่อย่างที่บอกค่ะว่าทำแบบนี้ปัญหามันก็ไม่จบ เพราะเค้าคิดตลอดว่าเราคอยกลั่นแกล้งเค้า เลยอยากปรึกษาวิธีรับมือกับคนแบบนี้หน่อยค่ะ
และถ้ามีวิธีทางไหน ที่จะทำให้เค้าเลิกความคิดแบบนี้ได้ ก็จะดีมากค่ะ แต่เราเข้าใจว่า คนที่มีปัญหาสุขภาพจิต ขั้นแรกคือต้องยอมรับก่อน ว่าตัวเองมีปัญหาค่ะ
ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำปรึกษานะคะ
เหมือนพ่อจะมีปัญหาทางจิต เราทำอะไรได้บ้างคะ?
คือพ่อเป็นคนขี้ระแวงมากค่ะ ไม่ไว้ใจใคร และคิดตลอด ว่าเรา พี่ชาย และแม่คอยกลั่นแกล้งเค้า
เมื่อก่อนตอนเราเด็กๆ พ่อกับแม่ยังอยู่ห้องเดียวกัน พ่อก็คิดว่าตอนหลับโดนแม่เรารมยาพิษใส่ เพราะเค้าตื่นเช้ามาแล้วมีอาการใจสั่น ซึ่งปัจจุบัน แม่นอนกับเรา พ่อนอนคนเดียว แยกห้องกันค่ะ ปัญหาก็เลยจบไป
เมื่อก่อน แม่เป็นคนทำกับข้าวให้คนทั้งบ้านกิน พ่อก็คิดว่าแม่ใส่ยาพิษลงในกับข้าวตั้งใจให้เค้าตาย พอเราแย้งว่าถ้าแม่ใส่จริง ทำไมเรา แม่ และพี่ชายไม่เป็นอะไร เค้าก็บอกว่า เรา 3 คน มียาแก้พิษ แม่ให้กินยาแก้พิษไปแล้ว หลังจากนั้นแม่ก็ไม่ทำกับข้าวให้พ่อกินอีกค่ะ ให้เค้าหาข้าวกินเอง
เราเอาน้ำประปาใส่กระบอกน้ำ เพื่อเอามาเติมเตารีดตอนรีดชุดนักเรียน แล้วเราไม่ได้เททิ้ง พออีกวันเราก็ถามแม่ว่า น้ำกระบอกไหนกินได้ เค้าก็คิดอีกว่าแม่เอายาพิษใส่น้ำเอาไว้ แล้วให้เค้ากิน โดยเรากับพี่ รู้เห็นด้วย
ช่วงที่โตมา บ้านเราแทบจะแยกกันอยู่โดยสมบูรณ์ค่ะ คือยังอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน แต่ไม่ยุ่งเกี่ยว ปีนึงคุยกันนับคำได้ ถ้าไม่นับวันที่มีปากเสียงกัน
หลายปีผ่านมา มันมีปัญหายิบๆย่อยๆอีกเยอะมากแต่ขอเล่าเอาเท่าที่จำเหตุการณ์หลักๆได้นะคะ
ช่วงที่เราโตแล้ว เค้าก็คิดว่า พี่ชาย กับเรา ไปแฮ็คคอมเค้าทำให้คอมเค้ามีปัญหา ทั้งๆที่เรากับพี่ชายไม่เคยไปแตะคอมเค้าเลย เค้าก็ยังคิดว่า เราทำโดยผ่านคอมตัวเอง
เค้าป่วยหนัก พี่ชายก็อยากจะดูแลเค้า ทำกับข้าวไปให้กิน ก็โดนเค้าปัดข้าวตกกระเด็นหมดค่ะ แล้วด่ามาว่า "เอายาอะไรมาให้กูกิน กะจะให้กูตายใช่มั้ย"
พี่เราเรียนช่าง จบ ปวส. เค้าก็คิดว่า พี่ไปแกล้งไขน๊อตที่รถเค้า ตั้งใจจะให้รถเค้าเสีย หรือไปเกิดอุบัติเหตุตายค่ะ ซึ่งปัญหานี้มันไม่เคยจบค่ะ แม้ว่าพี่เราจะทนไม่ได้ จนต้องย้ายออกไปเช่าอยู่ข้างนอก บ้านแทบจะไม่เคยกลับ เพราะไม่อยากมาเจอหน้าเค้า เค้าก็ยังคิดว่า พี่แอบมาทำตอนเค้าไม่เห็น เอารถเข้ามาจาดในบ้าน ล๊อคบ้านทั้งหมด(บ้านเป็นอาคารพาณิชย์) เค้าก็ยังคิดว่าเรากับแม่แอบเปิดประตูให้พี่เข้ามาไขน๊อตรถเค้า ทั้งๆที่พี่เราอยู่ไกลจากบ้านออกไปอีกเกือบ 40 กิโลเมตร และทำงานตลอด แทบไม่มีวันหยุด
เราบอกเค้าว่า เค้าต้องไปหาหมอ จะได้เลิกคิดมากเรื่องแบบนี้ ไปปรึกษาหมอซะ เค้าตอบว่า ไม่ต้องมาพูด ข้าไม่ได้บ้า ข้ารู้ว่าพวกเอ็งทำอะไร ไม่ต้องมาหาว่าข้าบ้า
พ่อเราไม่ได้มีอาการคุ้มคลั่ง หรือเหม่อลอยอะไรเหมือนที่ในละครชอบทำนะคะ เค้าก็เป็นคนปกติทั่วไปที่คนนอกมอง ไม่ได้มาเจอปัญหาอย่างพวกเรา ไม่มีทางรู้แน่ค่ะ ว่าเค้าจะมีอาการ หรือมีความคืดแบบนี้
นี่เป็นสาเหตุที่เราคิดว่าพ่อมีปัญหาสุขภาพจิตค่ะ
ขอบอกไว้ว่า ความสัมพันธ์ในบ้านระหว่างเรา แม่ พี่ชาย กับพ่อ ไม่ดีค่ะ ไม่เคยดี พ่อไม่เคยรับผิดชอบอะไรพวกเราเลย ไม่เลี้ยงดู ไม่ส่งเรียน ตอนเด็กๆไม่ใยดี เพิ่งจะมาอยู่บ้านเดียวกันช่วง 10 กว่าปีมานี้ ซึ่งมันก็มีปัญหาที่เล่าให้ฟังข้างต้นมาโดยตลอด แถมยังมีปัญหาอื่นๆยิบย่อยอีกมาก เรา แม่ และพี่ชาย ก็พยายามต่างคนต่างอยู่กับเค้า ไม่ยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยเพราะไม่อยากให้เกิดปัญหาอีก แต่มันก็มีปัญหามาตลอดค่ะ
ที่ผ่านมาเรากับแม่ รับมือโดยการตอบโต้เค้าให้น้อยที่สุดค่ะ เพราะพยายามอธิบายว่าไม่มีใครไปทำอะไรเค้า เค้าก็ไม่เคยฟัง ปักใจเชื่อสิ่งที่ตัวเองคิดอย่างเดียว แต่อย่างที่บอกค่ะว่าทำแบบนี้ปัญหามันก็ไม่จบ เพราะเค้าคิดตลอดว่าเราคอยกลั่นแกล้งเค้า เลยอยากปรึกษาวิธีรับมือกับคนแบบนี้หน่อยค่ะ
และถ้ามีวิธีทางไหน ที่จะทำให้เค้าเลิกความคิดแบบนี้ได้ ก็จะดีมากค่ะ แต่เราเข้าใจว่า คนที่มีปัญหาสุขภาพจิต ขั้นแรกคือต้องยอมรับก่อน ว่าตัวเองมีปัญหาค่ะ
ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำปรึกษานะคะ