ขาแว้นสะอื้น! ครม. ไฟเขียวเก็บภาษีจักรยานยนต์ใหม่ คาดจ่าย 200-1,500 บาทต่อคัน เริ่มปีหน้า

กระทู้คำถาม
เว็บไซต์ thebangkokinsight รายงานว่า นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ เผยที่ประชุม ครม.เห็นชอบการปรับโครงสร้างการจัดเก็บภาษี โดยปรับรูปแบบจากการจัดเก็บภาษีตามความจุของกระบอกสูบ เป็นการจัดเก็บตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

สำหรับอัตราภาษีใหม่ มีรายละเอียดดังนี้

รถจักรยานยนต์แบบพลังงานไฟฟ้า จะคิดอัตราภาษีอยู่ที่ 1%  รถจักรยานยนต์ทั้งแบบที่ใช้น้ำมัน และแบบไฮบริด ที่ใช้ได้ทั้งน้ำมันและใช้ไฟฟ้า แยกเป็นการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ไม่เกิน 10 กรัมต่อกิโลเมตร คิดภาษี 1%,ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 10 กรัมต่อกิโลเมตร แต่ไม่เกิน 50 กรัมต่อกิโลเมตร คิดภาษี 3%ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 50 กรัมต่อกิโลเมตรแต่ไม่เกิน 90 กรัมต่อกิโลเมตร คิดภาษี 5%ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 90 กรัมต่อกิโลเมตรแต่ไม่เกิน 130กรัมต่อกิโลเมตร คิดภาษี 9%ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เกิน 130 กรัมต่อกิโลเมตรคิดภาษี 18%

รถจักรยานยนต์ต้นแบบที่ผลิต หรือนำเข้ามาเพื่อนำไปวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะ ที่ไม่เคยขายในท้องตลาดเป็นการทั่วไปในประเทศ  และไม่เคยได้รับการยกเว้นภาษีสรรพสามิตมาก่อน หรือเคยได้รับยกเว้นภาษีสรรพสามิตมาแล้วแต่ได้เลิกการวิจัย พัฒนา หรือทดสอบสมรรถนะ จะไม่เสียภาษี

4.รถจักรยานยนต์อื่นๆ นอกเหนือจากนี้ คิดอัตราภาษีที่ 20%

สำหรับขนาดรถจักรยานยนต์จะมีอัตราการเก็บภาษีดังนี้

รถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก หรือรถครอบครัว จะมีภาระภาษีเพิ่มขึ้นประมาณคันละ 200 บาทรถจักรยานยนต์ขนาดกลาง หรือรถครอบครัว กึ่งสปอร์ต และรถจักรยานยนต์ ประเภทอ๊อฟโรด มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นคันละ 1,500 บาทรถจักรยานยนต์ ประเภทอื่นๆ มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นตามปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

ทั้งนี้ จะทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้น ประมาณปีละ 709 ล้านบาท

https://www.sanook.com/money/655957/

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ใจเย็นๆ ครับ

ภาษีที่ว่า คือภาษีสรรพสามิต ซึ่งจะเก็บกับผู้ผลิต ไม่ได้มาเก็บกับคนซื้อ โอเคอาจจะทำให้ราคารถสูงขึ้น แต่คงไม่ได้มากมายอะไรเมื่อเทียบกับราคารถ ดอกเบี้ยเงินผ่อนยังเยอะกว่าซะอีก

จุดประสงค์ของการขึ้นภาษี ก็เพื่อบังคับทางอ้อมให้ผู้ผลิตสร้างรถที่ปล่อยมลพิษน้อยลง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมและตัวเราด้วยครับ

เนื้อข่าวฉบับเต็ม
https://www.thairath.co.th/news/business/1562623
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่