ประเด็นหลังเกม ลิเวอร์พูล บาร์ซ่า ครับ

จบไปแล้วสำหรับการแข่งขันที่แอนฟิลด์ ซึ่งเป็นนัดที่ลิเวอร์พูลสร้างปาฏิหารย์อีกครั้ง มันเป็นนัดที่ผมไม่สามารถกลับไปหลับตานอนได้เพราะรู้ตัวว่ายังไงก็ไม่หลับ เลยมานั่งเขียนโพสท์เลยดีกว่า สำหรับประเด็นต่างๆที่เกิดขึ้นมีดังนี้

1.สิ้นเสียงนกหวีดปุ๊บลิเวอร์พูลก็ไล่เพรสอย่างหนักทีเดียว เป็นนัดที่ลิเวอร์พูลเพิ่มความทุ่มเทและจังหวะการวิ่งไล่หนนักขึ้น ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำให้การเข้าบอลหนักขึ้นไปด้วย แต่ก็ส่งผลให้บาร์ซ่าผิดพลาดกันเองจนเสียประตูอย่างรวดเร็ว ประตูแรกนี้ถือว่าสำคัญมาก ทำให้โมเมนตัมของเกมและบรรยากาศเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ถ้าบาร์ซ่าไม่เสียลูกนี้เกมก็อาจจะไม่ใช่แบบนี้ก็เป็นได้

2.บาร์ซ่าต่อบอลกันอย่างยากลำบากในนัดนี้ มีเพียงคนเดียวที่สามารถเอาตัวรอดได้จากการเพรสคือเมสซี่ ซึ่งยอมรับว่ามีความอันตรายจริงๆ

3.นักเตะสำรองที่ได้ลงตัวจริงในนัดนี้ถือเป็นปัจจัยสำคัญเช่นกันต่อรูปแบบการเข้าทำซึ่งมันเปลี่ยนแปลงไปนิดหน่อยในรายละเอียด ทำให้บาร์ซ่ามีความยากลำบากในสกัดการบุกของทั้งชากิรี่และโอริกิ เพราะไม่ใช่ไสตล์ที่จะวางแผนรับมือมา

4.จริงๆวันนี้ผมมองว่าชากิรี่ยังมีผิดพลาดเล็กน้อยๆในจังหวะได้เสีย มีส่งเบาไปประมาณ3ลูก ซึ่งทั้ง3ลูกนำไปสู่การโดนโต้กลับจนหวุดหวิดจะเสียประตู

5.รูปเกมในครึ่งแรกถือว่าลิเวอร์พูลเปิดหน้าแรกเลย ซึ่งบาร์ซ่าก็เล่นตามแผน ซึ่งไม่ได้รับมาก เพราะบาร์ซ่ายังเชื่อใจในการเพรสและตัดบอลของตัวเองเช่นกัน ซึ่งก็ทำได้ดีเพราะได้สวนเป็นระยะๆและส่วนใหญ่จบที่การยิงตลอด แต่มันก็ได้กระตุ้นความกระตือรือร้นแก่นักเตะหงส์แดงให้มีความทุ่มเท และช่วยกันรับมากขึ้น กลายเป็นว่าลิเวอร์พูลเปิดหน้าสู้แบบนี้ดันไม่เสียประตู เพราะนักเตะหงส์วิ่งกันให้พล่านกันให้ทั่ว

6.ปกติให้เจอเกมบุกของบาร์ซ่ามักจะต้องเคลียร์กันแบบลนลาน แต่นักเตะลิเวอร์พูลถือว่าเบสิคดีรองๆจากแมนซิตี้ ดังนั้นเวลาจะเคลียร์บอลก็ค่อนข้างใจเย็น และพยายามหาช่องต่อบอลออกมา เว้นแต่บางจังหวะที่มันต้องสาดจริงๆ

7.เทรนต์ นับวันทางบอลและเบสิคยิ่งน่ากลัว ผมเคยดูนัดนึงที่ลูกนั้นเทรนต์โดนกองหน้าบีบใส่แล้วมันยากที่จะเคลียร์ให้สวยๆ ปรากฎว่าแกทำท่าจะง้างเตะ แล้วกองหน้าก็กระโดดจะบล็อค แต่แกล็อคหลบซะงั้น แล้วส่งให้เพื่อน เป็นคนที่เล่นบอลฉลาดมากๆ มีไอเดียในการโจมตี ลูกที่2ที่หงส์แดงได้เป็นลูกที่เทรนต์อ่านทางส่งของบาร์ซ่าได้แล้วเหยียดขายาวๆไปสกัดบอลแล้วลากไปเปิดเรียดให้ดุมยิง ส่วนลูกที่4ก็ต้องบอกว่าโคตรไหวพริบมากๆ จริงๆลูกที่4เริ่มจากเทรนต์ทำท่าจะโยนแต่ไม่โยนซักทีจนบอลไปใกล้เส้นหลังก็เตะอัดกองหลังบาร์ซ่าเอามุม ตรงนี้ก็ถือว่าฉลาดมากแล้ว แต่ลูกที่จะหลอกว่าให้ชากิรี่เตะมุมแล้ววิ่งกลับมาเปิดเรียดให้ชากิรี่ยิงนี่ทำเอานักเตะบาร์ซ่าเหวอทั้งทีม จริงๆลูกเล่นทีเผลอแบบนี้พวกสเปนโดยเฉพาะบาร์เซโลน่าจะถนัดมาก เพราะทำให้คู่ต่อสู้ตั้งตัวไม่ทัน แต่นัดนี้กับโดนเสียเอง

8.อย่างที่ผมเคยบอกไปก่อนหน้านี้ ว่าดุมมีสัญชาตญาณการยิงอยู่ ซึ่งก็มีคนแย้งผมก็ถืเป็นเรื่องปกติ แต่นัดนี้เขาก็แสดงให้เห็นอีกครั้ง หลังจากที่เขายิงได้ในลูกที่2 และบาร์ซ่ากำลังเป๋ ก็เป็นชากิรี่เปิดให้ดุมกระโดดโหม่งเข้าไปอีกลูก นับเป็นประตูที่ทำให้กลับมาเสมอกัน 3-3

9.วันนี้บาร์เซโลน่าก็ถือว่าเล่นตามแท็คติคตัวเอง ต่อบอลเข้าทำและมีจังหวะยิงเป็นระยะๆ แต่นักเตะหงส์ก็ช่วยกันเคลียร์ได้หมด แต่ตัวที่เอาไม่ค่อยจะอยู่จริงๆก็เป็นเมสซี่นี่แหละที่พยายามยังไงก็หนีได้ตลอด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นอีกครั้งนึงกับเมสซี่คือ แกเป็นกัปตันสายเงียบไปหน่อย ไม่ค่อยกระตุ้นเพื่อน

10. เป็นอีกนัดที่กับดักล้ำหน้าของลิเวอร์พูลแทบไม่ทำงาน เพราะยาร์ซ่าเหมือนตั้งใจให้แถวหน้าโดนเช็ค แต่นักเตะจี๊ดๆเล่นซัวเรสหรือเมสซี่จะวิ่งทะลุมาจากแถวสองตลอด นับว่าโชคดีที่วันนี้ลิเวอร์พูลไม่เสียประตู เพราะว่านักเตะช่วยกันไล่บอลไวทำให้ซัวเรส คูตินโญ่และเมสซี่มีเวลายิงน้อย ทิศทางและน้ำหนักมันเลยไม่100เปอร์เซ็นต์อย่างที่ตั้งใจ

11. ไวจ์นัลดุมเป็นอีกคนที่ถือว่าลงมาเปลี่ยนเกมให้บาร์ซ่าช็อตไป เป็นคนที่ครองบอลเหนียวเรียกว่าไปรุมกินโต๊ะแกไม่ได้ง่ายๆเพราะแกจะพยายามหนีออกมาได้แน่นอน ผมมองว่าดุมครองบอลและหนีการบีบได้เก่งกว่าเกอิต้า เพียงแต่ว่าการส่งบอลบุกอาจสู้ไม่ได้เท่านั้นเอง

12. โอริกิก็เช่นเดียวกันกับไวนัลดุมที่นัดนี้ซัดกันไปคนละ2 เรียกว่าแทบลืมซาล่าห์กับฟีร์มิโน่ไปได้เลย จะเห็นได้ว่าการถูกยืมตัวไปเล่นทีโวล์ฟบวร์กทำให้โอริกิอัพเกรดตัวเองขึ้นมา วิ่งหาช่องมากขึ้น สัญชาตญาณการเข้าทำยอดเยี่ยม แถมเอาตัวรอดเก่งอีกด้วยทั้งๆที่ดูหุ่นแล้วไม่น่าหนีการบีบได้ มีจังหวะนึงที่โดนผู้เล่นบาร์ซ่าบีบ3ก็ยังหลุดออกมาได้ ตอนนี้โอริกิกลายเป็นคนมีของซะงั้น

13. ช่วงท้ายเกม ลิเวอร์พูลเล่นลูกแท็คติกกับบาร์ซ่าสุดฤทธิ์เหมือนกันโดยการลงไปนอนเล่นถ่วงเวลาบ้าง เรียกว่าต่างคนต่างเอาคืนเพราะนัดที่แล้วบาร์ซ่าก็ทำแบบนี้เช่นกัน

14.นัดนี้ลิเวอร์พูลมีวิ่งโดยรวมที่มากกว่าบาร์เซโลน่าอยู่ประมาณ6กิโล ณ ช่วงนาทีที่80กว่าๆ ทำให้เห็นว่าลิเวอร์พูลไม่หมดจริงๆ ทั้งๆที่บาร์เซโลน่าถือว่าเป็นทีมที่ฟิตเพราะผู้เล่นต้องมีการเคลื่อนที่รับบอลส่งบอลตลอด ในมุมมองของผม ผมสังเกตเห็นนักเตะของบาร์ซ่าเหมือนเริ่มจะวิ่งไม่ไหวและออกอาการเดินเล่นช่วงนาทีที่70กว่าๆก่อนจะเสียประตูที่4 นี่ก็น่าะเป็นอีกสาเหตุนึงที่บาร์ซ่าแพ้คือความฟิต ของลิเวอร์พูลที่ไม่หมดจริงๆ

15. จังหวะฟรีคิกของบาร์ซ่าช่วงหงส์นำ3-0ขนั้น หากเมสซี่ยิงเข้าน่าจะดับความหวังของลิเวอร์พูลเลย แต่ก็โชคดีที่เมสซี่พลาดไป

16.ช่วงทดเวลาเจ็บลิเวอร์พูลใช้แผนวิ่งไล่เพรสหนักอีกครั้งหลังจากผ่อนไปนิดนึง เพราะหากตั้งเกมรับในช่วงแบบนีก็อาจจะเสียประตูได้ ทำให้บาร์เซโลน่าที่ต้องการประตู เปิดเกมบุกได้ลำบาก และเกมก็จบในแดนบาร์เซโลน่าไป

17. นัดนี้เป็นนัดปาฏิหารย์อีกนัดของลิเวอร์พูลที่สามารถพลิกนรกเอาชนะได้อย่างสุดยอด จริงๆไม่ควรเกิดกับบาร์เซโลน่าอีกครั้ง เพราะบาร์ซ่าเคยเจอแบบนี้ตอนที่ตกรอบด้วยฝีมือโรม่ามาแล้ว ซึ่งก็น่าจะเป็นบทเรียนราคาแพง จบนัดนี้ บาร์เซโลน่าคงได้รับบทเรียนว่า พวกเขายิงลิเวอร์พูลเท่าไหร่ ลิเวอร์พูลก็ยิงคืนเท่านั้น และจะเป็นประสบการณ์ของบาร์เซโลน่าว่าอย่าเปิดเกมบุกกับลิเวอร์พูล เพราะลิเวอร์พูลก็มีเกมบุกที่น่ากลัวเช่นกัน เหมือนดังที่แมนเชสเตอร์วิตี้ของเป๊ปโดนแบบเละเทะเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และไม่กล้าเปิดเกมแลกกับลิเวอร์พูลอีกเลย และนัดนี้ก็ยังเป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดีว่า แอนฟิลด์เป็นนรกของทีมเยือนจริงๆเช่นเดียวกับคัมป์นู ฤดูกาลหน้าหากบาร์เซโลน่าต้องมาเจอกับลิเวอร์พูลอีกครั้งคงไม่กล้าเล่นแบบฤดูกาลนี้แน่นอน

18.เป็นปีที่2ติดต่อกันที่ลิเวอร์พูลเข้าชิงยูซีแอลได้ ซึ่งผมมองว่าคล็อปป์ต้องละเอียดขึ้นแน่นอนในรอบชิงที่จะถึง ซึ่งฤดูกาลนี้มีความต่างจากฤดูกาลที่แล้วคือ ฤดูกาลที่แล้วลิเวอร์พูลต้องพึ่งซาล่าห์มากๆ แต่จบนัดนี้กลายเป็นว่าตัวสำรองลิเวอร์พูลดันอัพเกรดตัวเองกะทันหันจนน่าจะสามารถทดแทนตัวจริงได้ในรูปแบบการเข้าทำที่แตกต่างกัน จะว่าไปแล้ว ถ้าลิเวอร์พูลไม่แพ้เละเทะมาในนัดแรก เราอาจจะไม่ได้เห็นของดีในนัดนี้ก็ได้ เพราะนัดสองนี้ สถานการณ์มันบังคับให้ลิเวอร์พูลต้องบุก และตัวที่ลงสนามก็ต้องทุ่มเท่เต็มที่จนทำให่ตัวสำรองได้มีโอกาสปล่อยของจนกลายเป็นเทพเลยทีเดียว

เราก็มาติดตามกันต่อไปว่าจะมีเรื่องอะไรเหลือเชื่ออีกมั้ยในนัดชิง ซึ่งไม่ว่าจะเจอ อาแจ๊กซ์ หรือสเปอร์ก็รับรองได้ว่าเป็นนัดที่มันส์แน่นอน

Cr หงส์แดงรุ่นลุง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่