ก็ขอแสดงความเสียใจกับชาวเรานกลิเวอร์หรือหงส์แดงนะครับ ที่อกหักในการลุ้นแชมป์ในรอบ 29 ปี คงต้องลุ้นกันในปีที่ 30 ต่อไปครับ
ซึ่งจากผลงานโดยรวมลิเวอร์พูลก็สมควรได้ตำแหน่งรองแชมป์ มีศักดิ์คือเหรียญเงิน และแมนซิตี้ก็คู่ควรกับตำแหน่งแชมป์ ซึ่งก็ขอแสดงความยินดีกับแมนซิตี้ครับ
ลิเวอร์พูลทำได้ 97 แต้ม ซึ่งเป็นรองแชมป์ที่ได้คะแนนมากกว่าทีมแชมป์ในอดีต ไม่ว่าจะเป็นเชลซี ที่มูรินโญ่ทำไว้ 95 แต้ม และแมนยูที่เฟอร์กี้ทำไว้ 91 แต้ม รวมทั้งอาร์เซนอลซึ่งเป็นทีมเดียวที่ทำสถิติไร้พ่าย ก็ทำได้เพียง 90 แต้ม ส่วนเลสเตอร์และแบล็คเบิร์นที่โผล่มาได้แชมป์บ้าง แต้มยิ่งต่ำลงไปอีก
ถือว่าชีวิตหงส์นั้นโหดมากครับ ถ้าเป็นที่ผ่านมา 97 แต้มต้องได้แชมป์ไปแล้ว แต่ดันมารุ่งในยุคที่มีอีกทีมรุ่งกว่าคือแมนซิตี้
ถ้าย้อนกลับไปดู ลิเวอร์พูลมีนัดโกงตายมาหลายเกม ถือว่ามีโชคมาก ในขณะที่ซิตี้ก็โกงตายมาหลายเกมเช่นกัน เรียกว่ามีโชคที่มากเหมือนกัน ทั้งสองทีมผงาดมาด้วยกับความเก่งและเฮ็ง
ไม่เคยเกิดขึ้นนะครับ ทีมที่แพ้ครั้งเดียวแล้วได้รองแชมป์ แต่แฟนบอลก็จะโทษทีมไม่ได้ซะทีเดียวว่าพลาดแชมป์เพราะเสมอเยอะไป เพราะอย่างอาร์เซนอลที่ทำสถิติไร้พ่ายไว้ เขาก็เสมอเยอะกว่าลิเวอร์พูลปีนี้ซะอีก แต่โชคของปืนจะได้แชมป์ แล้วโชคที่หงส์จะได้รองแชมป์
สถิติอีกข้อคือ ลิเวอร์พูลไม่แพ้ใครในบ้านมา 2 ฤดูกาลติด
สำหรับสถิติอื่นๆ แมนซิตี้เกมรุกดีถล่มทลาย ประตูได้เสีย 72 ลิเวอร์พูล 67 (ต่างกัน 5 ประตู)
คลีนชีท เป็นลิเวอร์พูลที่ทำได้ดีที่สุด คือ 21 เกม
และจะเป็นสถิติเครดิตของตำแหน่งผู้รักษาประตูครับคืออลิซซอน เบ็คเกอร์ มือหนึ่งบราซิล ส่วนอันดับ 2 คือเอดิซอน มือสองบราซิล ของแมนซิตี้
เกมรุกแมนซิตี้ทำได้อันดับหนึ่งคือยิงไป 95 ประตู ส่วนลิเวอร์พูล 89 (ห่างกัน 6 ประตู)
ปีนี้ได้ดาวซัลโวร่วมกัน 3 คนคือ โอบาเมยัง, ซาลาห์, และมาเน่
เรื่องการจ่ายบอลต่อบอลไปมา เป็นสไตล์การเล่นของแมนซิ ซึ่งเหมือนที่เป๊ปเคยทำไว้กับบาเยิร์น แต่ยังไม่สุดเหมือนตอนทำไว้กับบาร์ซ่า ตอนนั้นเป็นยุคที่บาร์ซ่ามีนักเตะต่าวดาวทั้งทีม เป็นสไตล์การเล่นที่เหนือชั้น แต่แมนซิตี้คลาสนักเตะยังคนละชั้นกับบาร์เซโลน่าชุดนั้น แต่ถือว่าทีมเวิร์คและการเข้าทำดีสุดในพรีเมียร์
สถิตการแอสซิสเป็นของ อาซาร์ เพลเมกเกอร์ที่เก่งที่สุดของปีนี้ แต่ปรากฏว่ามีฟูลแบ็คของลิเวอร์พูลครับ ที่ติดท็อป 5 ซึ่งอเล็กซานเดอร์อาโนลด์ เป็นฟูลแบ็คที่แอสซิสต์มากที่สุดของพรีเมียร์ 12 ประตู รองมาคือโรเบอร์ตสัน 11 ประตู
เป็นฟูลแบ็คเพียงสองคนที่มาติดท็อป 5 ร่วมกับเพลเมกเกอร์ ทั้งนี้เพราะลิเวอร์พูลเล่นสไตล์ครอสบอลจากด้านข้างเป็นหลัก (เหมือนแมนยูปี 1999 ที่ใช้กิ๊กส์ เบ็คแฮม และพี่น้องเนวิล เป็นตัวครอสบอล)
ดราม่ากับความเฮ็งโกงตาย
ของลิเวอร์พูลนี่ก็เป็นที่เข้าใจว่ามี 14 นัดด้วยกัน
ส่วนแมนซิตี้เองในช่วงกดดันนัดที่ผ่านๆมา ก็มีการโกงตายมาได้ ไม่ว่าจะรอดจากจุดโทษนัดเจอสเปอร์ส หรือลูกยิงสุดดราม่าของก็อมปานีที่เชือดเลสเตอร์มาได้ ทั้งที่เป๊ปสั่งห้ามยิงไกล หรือไม่ว่าจะเป็นความปราชัยนัดเดียวของลิเวอร์พูล ที่แพ้ให้กับทีมแชมป์ นัดนั้นแมนซิตี้ก็รอดความพ่ายแพ้มาได้จากลูกดราม่าประจำฤดูกาล แค่เพียง 11 มิลลิเมตรหรือ 1 เซ็นต์ ที่ทำให้ลิเวอร์พูลต้องเสีย 3 แต้มนัดแรกและนัดเดียว ขณะที่แมนซิตี้ก็ได้แต้มจากเบิร์นลี่ย์ ประตูหนึ่งเดียวเกือบ 3 เซ็นต์เท่านั้น ทำให้ได้ 3 แต้ม
ในหลายๆนัดก็มีที่กรรมการเป่าผิดเป่าถูก เรื่องไหนที่เป็นดุลพินิจยังพอทำเนา เช่นลูกฟาวล์ หรือบอลทูแฮนด์ แต่เรื่องการล้ำหน้าอันนี้เป็นเรื่องของสายตา
ลิเวอร์พูลเองก็เคยมีลูกล้ำหน้า 1 เมตร และมีอีกหลายๆจังหวะ ส่วนแมนซิตี้ซึ่งเล่นบอลสไตล์จ่ายทะลุหรือจ่ายตัดเข้ากรอบเขตโทษ ก็มีหลายจังหวะที่ล้ำหน้าแล้วเป็นประตู รวมทั้งมีลูกที่ยิงเข้าด้วยมือก็มี กุนทำแฮ็ตทริกด้วยมือ แต่ก็ย้ำว่า ทีมอื่นๆก็มีที่กรรมการเป่าผิด ต้องบอกแบบนี้ว่าอย่าไปคิดว่า สองทีมนี้ได้มา 97-98 แต้มเพราะกรรมการเป่าผิดอย่างเดียว ถ้าไม่ใช่เพราะฝีมือจริง ทำมาขนาดนี้ไม่ได้
เช่นเดียวกันครับ ดราม่า 11 มิลลิเมตร เป็นแค่สีสันฟุตบอล แต่เหตุที่ซิตี้ได้แชมป์เพราะแมนซิตี้ทำได้ดีกว่า เสมอน้อยกว่า นิ่งกว่าในเกมที่กดดัน ส่วนลิเวอร์พูลก็ทำได้ดีกว่าทุกทีมที่ผ่านมาที่ได้แชมป์ ยกเว้นทีมเดียวคือแมนซิตี้นี่ล่ะครับ ที่ทำได้ทะลุ 100 แต้ม และปีนี้ก็ 98 แต้ม
ก็เป็นกำลังใจให้ทีมกันครับ ประสบการณ์ที่แสนโหด มันสอนให้เราพัฒนาตัวเองว่า ถ้าไม่คิดเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น ต่อไปเรายิ่งอยู่ยาก (นี่ใช้ได้กับชีวิตคนจริงนะครับ)
ลิเวอร์พูลอยากได้แชมป์ลีก ต้องพัฒนาให้ดีกว่าแมนซิตี้ อยากครองเจ้ายุโรป ต้องพัฒนาให้เท่าบาร์ซ่ากับแมดริดในปีที่เขารุ่งเรือง ถ้าไม่เป็นทีมใหญ่อย่างเขา ต่อไปอยู่ยากครับ
ขนาดแมนยูเคยอัพเกรดให้ทันโลกแล้วยังดิ่งลงเพราะผู้บริหารไม่ดี สเปอร์สก็อัพเกรดสนามแล้ว ลิเวอร์พูลจะไม่อัพเกรดสนาม ไม่อัพเกรดทีม จะอยู่กับวันเก่าๆ วัฒนธรรมเดิมๆ ต่อไปลุ้นแชมป์ยากครับ
ต้องพัฒนาเปลี่ยนแปลง
ลิเวอร์พูล กับรองแชมป์ ในฤดูกาลสุดหฤโหดของพรีเมียร์ (กับสถิติใหม่ๆที่น่าสนใจ)