แฟนเปย์ไปรัสเซีย: 3 วันที่มอสโก

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ต่อมาจากอันแรก "แฟนเปย์ไปรัสเซีย 9 วัน เดือนเมษา 2018: Moscow - Murmansk - St. Petersburg - Moscow" เพื่อนๆ สามารถไปอ่านภาพรวมของทริปและสรุปค่าใช้จ่ายได้จาก link นี้นะคะ https://pantip.com/topic/38840962

ตามแพลนที่วางไว้เราเที่ยวมอสโก 2 วันแรกและกลับมาอีกทีวันสุดท้ายของทริป เพื่อความกระชับเรารวมเอามอสโกทั้งหมดมาอยู่ในกระทู้เดียวกัน ไปเที่ยวกันเลยค่ะ แฮร่...

Day 1: Moscow (Domodedovo) Airport - Hotel Sofi – Red Square - Gum Department Store

เราออกจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 10.15 น. บินตรงใช้เวลาบินประมาณ 11 ชั่วโมง มาถึงสนามบินที่มอสโกก็ประมาณ 16.15 น.แล้วค่ะ กว่าจะต่อคิวตม. รอรับกระเป๋าใช้เวลาอีก 1 ชั่วโมง เราไม่ได้ซื้อซิมมาก่อน เพราะมีออกไปต่างจังหวัดคือ Murmansk ไม่แน่ใจว่าซื้อซิมจากค่ายไทยมา สัญญาณจะครอบคลุมมั๊ย เราเลยมาซื้อซิมที่รัสเซีย คิดเป็นเงินไทยประมาณ 500 บาทตลอดทริปค่ะ แต่ที่อยากจะบอกคือถ้าเราซื้อซิมที่รัสเซียแอพไลน์จะส่งได้แต่ข้อความ ส่งรูปไม่ได้ แล้วก็แชร์ wifi hotspot ไม่ได้ด้วยเป็นข้อเสียที่ทุกคนต้องระวัง ดังนั้นจะส่งรูปผ่านไลน์ได้ต้องกลับไปใช้ wifi ที่โรงแรมอย่างเดียว

ซื้อตั๋วรถไฟ Aeroexpress เลือก Train to city ใช้เวลา 1 ชั่วโมง จะพามาลงสถานี Paveletsky Rail Terminal เปลี่ยนสายรถไฟ 2 ต่อ ไปลงสถานี Kuznetsky Most โดยโรงแรมที่เราจะพักคืนนี้ห่างจากสถานีประมาณ 250 เมตร


 

ภายในรถไฟที่มอสโก อาจดูทึมๆ คนละสไตล์กับญี่ปุ่น แต่สักพักก็ชินค่ะ

*ตั๋วรถไฟ เราซื้อแบบเหมา 20 trip = 520 Rub ข้อดีคือซื้อใบเดียวแล้วแบ่งกันใช้ 2 คนได้ (เฉพาะที่มอสโกเท่านั้น) วิธีการใช้ก็ไม่ยากคนที่ถือบัตรก็แตะบัตรให้เพื่อนเดินผ่านเข้าประตูไปก่อน ถึงทีตัวเองก็แตะบัตรอีกทีแล้วก็เดินผ่านไป...จบ

ออกจากสถานีรถไฟไปตามหาโรงแรม Hotel Sofi เพื่อ check-in ใช้เวลาอยู่ชั่วโมงนึง ทั้งๆ ที่ระยะทางแค่ 250 เมตร เพราะ Google Map ก็บอกว่าถึงแล้วแต่ทำยังไงก็หาไม่เจอ จนต้องถามคนแถวนั้นแล้วเค้าพอเราเดินไป Learning ที่ได้คือตึกของที่นี่เค้าอนุรักษ์ไว้ ดังนั้นทางเข้าทั้งโรงแรมและรถไฟบางทีจะเนียนไปกับตึกจนเราแยกไม่ออกเห็นครั้งแรกไม่นึกว่าคือทางเข้าโรงแรม มันเหมือนทางเข้าบ้านใครสักคนมากกว่า 555 ตอนนั้นมัวแต่ตื่นเต้นเลยลืมถ่ายรูปทางเข้ามาให้ดู แต่สำหรับ Hotel Sofi (ยืมรูปจาก Google)


 

เราว่าดีมากๆ ทั้งราคาและความสะดวก (ถ้าหาทางเข้าเจอ) คุณป้าที่ดูแลก็บริการอำนวยความสะดวกดีทุกอย่าง พอรู้ว่าเราต้องใช้ Taxi ตอนตี 5 ก็ตื่นมาเรียก Taxi และรอส่งเราด้วย รักอ่ะ โดยรวมคือคุณภาพเหมาะสมกับราคา สะอาด เตียงนอนสบาย Location ใกล้สถานีรถไฟและสถานีท่องเที่ยว Highlight ที่แปลกคือที่ฉีดก้นในห้องน้ำ ถูกติดตั้งไว้ระดับเดียวกับอ่างล้างหน้าจนตอนนี้เราก็ยังสงสัยว่าสรุปใช้ฉีดก้นหรือบ้วนปาก


มาๆ เก็บของเสร็จแล้ว ออกไปเดินเล่นหาของกินปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมกรุบกริบ มาที่นี่มองไปทางไหนมันก็ดูสวยใหญ่โตอลังการไปทุกมุม คนที่นี่เค้าคงชิน แต่เรานี่คือแบบ...มันอลังการจนไม่รู้จะมองตึกไหนก่อน เดินเพลินๆ จากโรงแรมมาสักพักก็ถึง Red Square ถึงแม้จะมืดแล้วแต่ไฟก็สวย ทั้งวิหาร St.Basil, พิพิธภัณฑ์ตึกแดง, กำแพง Kremlin และห้าง Gum ซึ่งไฟข้างนอกอลังการตลึงตึงๆ ก็แนะนำให้เข้าไปหาของกินที่ชอบๆ ในนี้ได้เลย แต่ที่แน่ๆ ทุกคนจะเห็นร้านไอติมอยู่ชั้นล่างที่คนต่อคิวยาวอย่าลืมไปกิน มีหลายรสและอร่อย ออกมายืนกินหน้าห้างกับอากาศเย็นๆ จบวันแรกแบบฟินๆ พรุ่งนี้เราจะกลับมาเที่ยวแถวนี้อีกครั้ง ถ่ายรูปเล่นตอนกลางวัน


Day 2:  Grand Kremlin Palace - Armory Chamber - Diamond Fund - St. Basil's Cathedral – Arbat Road

ปกติเวลาเที่ยวมื้อเช้าเราชอบหาร้านที่เป็นทางผ่านไปสถานที่ที่จะไปอยู่แล้ว เพราะประหยัดเวลากับชอบเข้าร้าน local ดังนั้นเช้าวันนี้ระหว่างทางเดินไป Kremlin บังเอิญผ่านคาเฟ่เห็นคนรัสเซียเดินเข้าไปแล้วเราจะรออะไรล่ะ ฮี่ๆ หลังจากเที่ยวมาหลายวันสิ่งที่อยากแนะนำเกี่ยวกับอาหารของรัสเซียคือพวกซุปและ egg benedict ทั้งหลายสำหรับเราคือรสชาติดีนะ โดยเฉพาะ Bouche Soup ซุปท้องถิ่นที่มีทุกร้าน ของโปรดเลย 

คาเฟ่ที่เดินเข้าไป สไตล์อิฐและไม้ Cozy มากๆ 

เลือกที่นั่งริมหน้าต่าง กินไปดูคนเดินไปเดินมา ดีมากๆๆ (ใครรู้วิธีกลับหัวรูปบ้างคะ ทำไงก็ไม่ได้สักทีอ่ะ)

ซุปฟักทองและ Egg Benedict ครีมซอสราดบนแซลมอน Smoke อ่อนๆ กับขนมปังที่ texture ดีมาก อร่อยไม่รู้ลืม 

กลับมา Red Square อีกรอบ ถ้าไม่ได้มาเช้ามาเช้ากว่า 10 โมง แนะนำให้เก็บความดีใจในการถ่ายรูปเล่นตรงนี้ไว้ แล้วพุ่งตัวไปเข้า Grand Kremlin Palace ก่อนเพราะถ้าไปช้า คิวยาวมาก ทั้งต่อคิวซื้อตั๋วและต่อคิวตรวจความปลอดภัย ***คนที่มีเป้สะพายหลังให้เอาไปฝากไว้ตรงจุดรับฝากก่อนเลย เพราะเจ้าหน้าที่ไม่ให้เอาเข้า ดังนั้นคิวที่ต่อมาคือเสียไปเลยจ้าาา (เราเสียเวลาอยู่ตรงนี้ชั่วโมงนึง)*** และถ้าโปรแกรมตรงนี้เสียจะทำให้เราเสียรอบเวลาในการเข้าชม Diamond Fund อีกต่อนึง เพราะ Diamond Fund เปิดให้เข้าเป็นรอบ 

แพลนตรงนี้ก็คือ Grand Kremlin Palace (500 Rub) + Armoury Chamber (500 Rub) + Diamond Fund (500 Rub) ซึ่ง 2 สถานที่หลังเค้าไม่ให้ถ่ายรูปจึงไม่มีรูปมาฝาก แต่ไหนๆ มาแล้วแนะนำให้ไปดูเพราะ Armoury Chamber จะรวมพวกของประวัติศาตร์ ชุดเกราะ ยุทโธปกรณ์และอีกหลายสรรพสิ่ง เดินชมเพลินๆ และ Diamond Fund จะเป็นห้องมืดๆ มีอภิมหาโคตรเพชรเรียงรายเต็มตู้ ตั๋วราคานี้พร้อม audio อธิบายที่ถึงแม้ฟังไปสักพักจะง่วงนอนแต่ก็ตื่นเต้นและแสบตามาก อยากให้ทุกคนเข้าไปดูสักครั้งค่ะ 

Grand Kremlin Palace ก็เดินเล่นถ่ายรูป เก็บทุกจุดอยู่นานพอสมควร ดังนั้นกว่าจะออกจากโซนตรงนี้มาก็บ่ายสองกว่าๆ เราใช้เวลาไปประมาณ 3-4 ชั่วโมง 

โบสถ์ใน Grand Palace เราไม่ได้เข้าทุกโบสถ์ แค่เห็นความอลังการจากข้างนอกก็พอแล้ว เพราะเรายังมีอีกหลาย Highlight โบสถ์ (รูปกลับหัวอีกแล้วอ้ะ งุ้ย)

ปืนใหญ่พระเจ้าซาร์ ใหญ่จริงอ่ะ กระสุนกลมๆ นี้เค้าบอกว่าหนักลูกละ 1 ตัน คุณพระ!!

ระฆังแตกอันเลื่องชื่อลือชา 


มุมแปลๆ ที่ถ่ายจากช่องว่างตรงสะพานที่อยู่ตรงกำแพงด้านหน้า Kremlin มองลงมาเห็นคนเยอะดี

หลักกม. ที่ 0 อย่าลืมแวะมาดูนักท่องเที่ยวโยนเหรียญ มีลุงถือไม้แม่เหล็กคอยเก็บเหรียญ สนุกสนานมาก

ยังไม่ได้กินมื้อเที่ยงเลย ไปหาอะไรกินที่ห้าง Gum ก่อน ตอนกลางวันก็สวยไปอีกแบบนะ 

ความหฤหรรษ์คือเดินเล่น กินไอติม ถ่ายรูปเล่นหน้า Red Square เพลิน รู้ตัวอีกที 16.15 น. จ้า ตายแล้วๆๆ พิพิธภัณฑ์ตึกแดงก็ยังไม่ได้ไป วิหารหัวหอมก็ยังไม่ได้ไป สรุปเลยวิ่งไปวิหารแทนซึ่งปิด 17.00 น. *ถ้าจำไม่ผิดซื้อตั๋วได้ถึง 16.30 น.*  


St. Basil's Cathedral (500 Rub) วิหารที่สถาปนิกผู้ออกแบบถูกควักลูกตาออกไป เพราะเค้าไม่อยากให้ไปสร้างวิหารอื่นที่สวยกว่า ข้างในมีหลายโดมเดินชมได้หมด 30 นาทียังพอเอาอยู่ ไม่ได้ใหญ่โตมาก แต่ทุกคนช่วยบริหารกล้ามเนื้อคอมาดีๆ เพราะจิตรกรรมสวยๆ จะอยู่บนเพดาน ทำให้เราคิดว่าอีกหลายวันที่เหลือเราก็จะต้องแหงนคอกันอย่างหนักหน่วง ตอนเราไปเค้ามีพีธีสรรเสริญพระเจ้าร้องเพลงอยู่ด้วย ได้บรรยากาศมาก 
เราเอารูปด้านในมาให้ดูแค่นี้นะคะ ไม่อยากสปอยล์ อยากให้ทุกคนไปชมความงาม งานดีงานละเอียดกับของจริงค่ะ ^^ 

รูปด้านนอกค่ะ เอาจริงเราว่าวิหาร และสิ่งก่อสร้างต่างๆ รอบจตุรัสนี้ทุกอันเหมือนของปลอมเลย คือสวยมากนะ สวยจนนึกว่าเป็นฉากเอามาตั้งไว้ ยอมใจในความอลังการของสถาปัตยกรรมที่รัสเซีย

เป็นแรงบันดาลใจหลังจากกลับไทย เรากับแฟนไปซื้อโมเดลมาต่อกันเองค่ะ 555 สวยไม่สวยมาคอมเม้นต์บอกกันได้นะคะ ยิ้ม 

พิพิธภัณฑ์ตึกแดงที่ไม่ได้เข้าไป ถ่ายรูปมาเป็นที่ระลึก อลังการมาก

แถมๆ เดินผ่านม้าหมุน ไม่รู้สิ มันมีเพลงออกมาด้วย ให้ความรู้สึกถึงวันเก่าๆ ไม่ติดว่าหิวข้าวก็อยากไปนั่งเล่นนะคะ 

สุดท้ายสำหรับวันที่ 2 ในมอสโกค่ะ กลางคืนวันเสาร์จึงไปเดินเล่นถนน Arbat หาของกินและดูคนมาแสดงความสามารถค่ะ ตัวอย่างอันนี้คือเค้าพ่นสีสเปรย์กระป๋องจนออกมาเป็นงานศิลปะ น่าทึ่งมาก อย่าลืมไปให้กำลังใจหรืออุดหนุนพี่เค้ากันนะคะ 
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่