แฟนเปย์ไปรัสเซีย: 3 วัน 2 คืนที่ Murmansk

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ต่อมาจากอันแรก "แฟนเปย์ไปรัสเซีย 9 วัน เดือนเมษา 2018: Moscow - Murmansk - St. Petersburg - Moscow" เพื่อนๆ สามารถไปอ่านภาพรวมของทริปและสรุปค่าใช้จ่ายได้จาก link นี้นะคะ https://pantip.com/topic/38840962

ตอนทำแพลนเราคิดว่าไปรัสเซียถ้าดูแต่โบสถ์กับเข้าพระราชวังอย่างเดียวอาจจะเบื่อ ลองทำการบ้านดูจากเพื่อนๆ ในพันทิปเห็นว่ามีไป Murmansk มีกิจกรรมหลากหลายให้ทำจึงตัดสินใจลดวันเที่ยวมอสโกและเซนต์ปีเตอร์ ซึ่งเราเลือกการไปแบบซื้อทัวร์ 3 วัน 2 คืน จากเพจ Visit Murmansk ติดต่อกับคนที่ชื่อ Oleg ซึ่งก็ได้ข้อมูลมาจากเพื่อนๆ หลายคนในพันทิปที่ซื้อทัวร์กับที่นี่ค่ะ 

ภาพรวมคือ ค่อนข้างประทับใจให้คะแนน 7 เต็ม 10 ค่ะ (คะแนนที่ตัดไปจะเล่าให้ฟังในระหว่างรีวิวนะคะ) เริ่มจากการติดต่อผ่านทาง facebook และส่งอีเมลล์ในการคอนเฟิร์มและจ่ายมัดจำก่อน 20% (ราคาเต็มต่อคนอยู่ที่ 22,000 Rub รวมค่าโรงแรมแล้ว) ทางทัวร์ตอบอีเมลล์เร็ว ชัดเจนว่าจะไปไหนวันไหน และตรงเวลา มีรถบัสรับส่งตลอดตั้งแต่สนามบิน ค่อนข้างสะดวกสบายมาก ติดนิดนึงตรงที่ระยะทางของแต่ละสถานที่ค่อนข้างไกล เวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการนั่งรถ เที่ยวจริงๆ วันครึ่ง เพราะวันที่ 3 กลับตอนเช้าค่ะ 

Day 1: Murmansk Airport - Arctic Teriberka - Azimut Hotel - Aurora Hunting

ถ่ายจากบนเครื่องบินค่ะ ก่อนจะ landing ที่ Murmansk เดือนเมษา จะเห็นว่าทะเลสาปยังเป็นน้ำแข็งอยู่เลย สวยตระการตา (นึกถึง White Walker มีใครดูบ้างคะ 555)
เราจองไฟลท์ 9.25 น. บินจากมอสโก ไปลง Murmansk ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งก็ถึงที่หมาย สนามบินที่ Murmansk เป็นสนามบินท้องถิ่นขนาดเล็กมาก เล็กจนถึงขนาดว่าออกจากตม. เราเดินผ่านสายพานรับกระเป๋าไปเลย มันมีแค่ 1-2 สายพานเท่านั้น ที่ตลกคือวันนั้นมองไม่เห็นสายพานจริงๆ ผ่านตม.เสร็จก็เดินๆ นิดเดียวรู้ตัวอีกทีคือออกมานอกสนามบินแล้ว แบบออกมาตรงที่จอดรถข้างนอกเจอหิมะเต็มเลย สรุปคือต้องผ่าน security เดินกลับเข้าไปใหม่ คือจริงๆ ที่รับกระเป๋าก็อยู่ใกล้กับทางออกมาก เดิน 3 ก้าวแบบนั้นอ่ะ 

ตรงที่รับกระเป๋าเราจะเห็นคนยืนถือป้ายอยู่ก็คือทีมงานของ Visit Murmansk เราแค่เดินเข้าไปหาเค้า บอกชื่อ และเค้าจะพาเราไปที่รถที่จอดอยู่ด้านนอก (ตอนแรกก็แอบกลัวว่าจะพาเราไปขายรึเปล่า 555)

เค้าจะขับรถพาเราไปส่งที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตให้เราซื้ออาหารรองท้องสำหรับมื้อเที่ยง เพราะเดี่ยวต้องนั่งรถยาว 3 ชั่วโมงเพื่อไป Arctic Teriberka ซุปเปอร์ค่อนข้างใหญ่ เค้ามีเวลาให้เราประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ก็รีบซื้อเหมือนอยู่ค่าย ออกไปเจอกันที่จุดนัดพบ เราก็ได้พบเจอลูกทัวร์คนอื่นเพิ่มค่ะ สรุปการเดินทางครั้งนี้มีกันทั้งหมด 8 คนรวมไกด์และคนขับรถ 

ครึ่งวันบ่ายนั่งรถหลับไป 3 ตลบผ่านหนทางที่มีทั้งบ้านคน ป่าสน ทะเลสาป หิมะ ในที่สุดเราก็มาถึงจุดหมายที่แรกของเรา ไปดูกันค่ะว่าเราเจออะไรกันบ้าง 

จุดแวะถ่ายรูปค่ะ ตอนนี้สักประมาณบ่ายสามได้ หิมะขาวสุดลูกหูลูกตา 

กลับมาเปิดเจอรูปนี้แบบงงๆ ไม่ได้ตั้งใจถ่าย มุมมันได้มาก

นั่งรถต่อไปอีกสักพักจะพามาจอดพักรถตรงอ่าว Arctic ทะเลนี้เชื่อมไปฟินด์แลนด์ได้ สวยตะลึงพรึงเพริดมากจ้า มีม้านั่งไม้โดดเดี่ยว ไว้นั่งถ่ายรูปเก๋ๆ 

แจกแว่นกันลมให้ยืมใส่คนละอัน นั่ง Snow Mobile ที่ขับซิ่งมาก แต่ก็สนุกตื่นเต้นสุด ต้องเกาะแน่นๆ จะเห็นว่าที่นั่งปูด้วยหนังแกะ นุ่มก้นมาก 555 เป็นจุดนึงที่ตัด 1 คะแนนเพราะมีเก็บเงินเพิ่มค่า Snow Mobile มาถึงตรงนี้ก็ต้องยอมจ่ายโดยปริยาย จำไม่ผิดคนละประมาณ 1,000 Rub

Snow Mobile สัก 5 นาทีก็มาถึงอีกมุมนึงของ Arctic Teriberka ธรรมชาติสวยไปอีกแบบ ตรงนั้นยังเดินลงไปถ่ายรูปได้นะ แต่ความสามารถไม่ถึงอ่ะ ขอยืนเล่นอยู่ข้างบนละกันค่ะ

ลองถ่ายแบบพาโน เก็บความโล่งกว้าง วิวดีจริงๆ 

เสี่ยงตาย snap ไวไวตอนอยู่บน Snow Mobile ตอนนั้นรู้สึกตัวเองเป็นเอลซ่า รอบข้างไม่เห็นอะไรเลยนอกจากหิมะ

กลับมาที่เดิมตรงจุดจอดรถ สักสี่โมงเย็นได้ ฟ้าเริ่มมืดแล้ว มีน้องหมานอนอยู่ สงสัยเหมือนกันว่าน้องเดินเหยียบหิมะทุกวันจะหนาวอุ้งเท้ามั๊ย

หิมะสูงมิดหลังคาเลย เจ้าของบ้านโกยหิมะออกเฉพาะตรงประตูทางเข้า มีน้องหมาอีกตัวโดนผูกโดดเดี่ยวบนหลังคา Hard core เว่อ

ได้เวลานั่งรถกลับยาวๆ อีก 2 ชั่วโมงเพื่อไปเช็คอินที่ Azimut Hotel ค่าโรงแรมรวมอยู่ในค่าทัวร์แล้ว แต่มื้อเย็นต้องหากินเอง โดยรวมห้องค่อนข้างกว้างขวาง สะอาด แต่รอบโรงแรมไม่มีอะไรเลยค่ะ นอกจาก McDonald เป็นมื้อเย็นของเรา รอ 4 ทุ่มไกด์จะกลับมารับเราเพื่อไปล่าแสงเหนือ

ยืมรูปมาจาก Google นะคะ 

ถึงเวลา 4 ทุ่มก็นั่งรถบัสคันเดิมออกไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมง พาเราไปอยู่ไหนไม่รู้ที่มืดและหนาวมาก ขอสรุปรวบยอดสำหรับทั้ง 2 คืนว่า แทบไม่เจอแสงเหนือเลยค่ะ เห็นครั้งเดียวสีเหลือง จางมากในระดับที่นึกว่าคนส่องไฟฉายขึ้นฟ้าอ่ะ มองตาเปล่าไม่เห็น คงเพราะเรามาปลายฤดูแล้วโอกาสเจอแสงเหนือก็ยิ่งน้อยลงไปอีก นี่เป็นสาเหตุนึงที่ทำให้เราตัดไปอีก 2 คะแนน ต้องใช้กล้อง DSLR เท่านั้นถึงจะถ่ายติด ความเห็นส่วนตัวคือเค้าบอกเราตอนจองทัวร์ว่ามีโอกาสได้เจอแสงเหนือ ความพลาดของเราที่มาปลายฤดูด้วย แต่ถ้ามันปลายขนาดนี้และโอกาสเจอแทบไม่มีคิดว่าเค้าไม่ควรคิดราคาเต็มเท่ากับช่วงต้นฤดูที่มีโอกาสเจอมากกว่า เลยรู้สึกเสียดาย พอไปหาข้อมูลเพิ่มจึงพบว่าจริงๆ มาได้อย่างช้าสุดไม่น่าจะเกินมกราคม เพราะรัสเซียยังเป็นหน้าหนาวอยู่ นี่เมษามันไม่ใช่หน้าหนาวและฟ้าไม่มืดสนิทแล้ว เฝ้าอยู่จนถึงเกือบตีหนึ่ง นั่งรถกลับโรงแรม

Day 2: Saami Village - Husky Farm - Aurora Hunting 
เริ่มที่หมู่บ้าน Saami ก่อนนะคะ ก็นั่งรถเป็นชั่วโมงเหมือนเดิม หลับไปยาวๆ ยังดีที่วิวข้างทางค่อนข้างสวยมองเพลิน

ลองปรับแสงดูก็ได้อีกอารมณ์นึง

ถึงแล้วค่ะหมู่บ้าน Saami พี่ไกด์ประจำหมู่บ้านใส่ชุดท้องถิ่นจะมาพาเราไปเที่ยววันนี้ เริ่มแรกพาเราไปนั่งพักในบ้านกระโจมเผ่า Saami กันก่อน ค่อนข้างมืดเลยไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ ฟังพี่เค้าเล่าประวัติวัฒนธรรมหมู่บ้านก็เพลินดี เค้าใช้หนังกวางเรนเดียร์มาบุกำแพงในบ้านทำให้บ้านอุ่น เนื้อกวางกินได้ เขากวางเรนเดียร์ช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศด้วยนะคะ 

เดินต่อไปตามทางนี้ ตามมาดูกันค่ะว่าเราจะไปเจออะไรบ้าง

เสาไม้เรียงรายตลอดทาง เป็นเทพเจ้าที่เผ่า Saami นับถือแต่ละต้นมีหน้าตาต่างกัน ให้พรแตกต่างกัน เช่น สุขภาพ การงาน 

ด่านแรกโดนดักด้วยกองทัพน้องกระต่าย น่ารัก ขนปุยมาก กรีดร้องงงง

จิ้งจอกน้อยขี้อาย น่าเอ็นดูววววววว

ออเดิร์ฟฮัสกี้ (มีฟาร์มใหญ่รออยู่ตอนท้ายนะ) น้องน่ารักทุกตัวเลย เล่นสนุกสนานมาก เล่นไปเล่นมาก็กระโดดขี่บนหัวเราเลยจ้า แต่เกิดเป็นฮัสกี้ทำอะไรก็น่ารักอ่ะ 

มาล้าวววว น้องเรนเดียร์น่ารักขนาดนี้ทำไมกินกันลง เค้ามีอาหารให้เราป้อนน้องด้วยนะ 

ตัวนี้กวางมูสใหญ่โตขนาดนี้อายุยังไม่ขวบนึงเลยนะ ใหญ่ได้อีกเยอะ สู้เค้าลูก

มาๆ ลองนั่งลากเลื่อนที่ลากโดยกวางเรนเดียร์ ทุกตัวจะมีกระดิ่งผูกที่คอ วิ่งไปก็นึกว่าซานตาคลอสมาอ่ะ กุ๊งกิ๊งกิงก่องแก้ว

เราจะกินมื้อเที่ยงกันที่นี่เลยนะคะ ตอนนั้นเราได้กินเป็นข้าวกับกะหรี่เนื้อกวางมั๊งถ้าจำไม่ผิด เค้าให้ไรมาก็กิน อร่อยหมด 555 จากนั้นก็นั่งรถต่อไปอีกเป็นชั่วโมงถึงฟาร์มฮัสกี้ อากาศตอนนี้ 13 องศา เค้าบอกเป็นหน้าร้อนของสุนัขลากเลื่อน สุนัขเหล่านี้พลังงานเยอะมาก มันต้องได้วิ่งทุกวันถึงสบายใจ ทุกตัวถูกเทรนด์มาเพื่อแข่งกีฬาลากเลื่อนและเอาไว้ช่วยเหลือคนเวลาเดินทางในอาร์คติก 

ไกด์ประจำฟาร์ม เซเลบขวัญใจน้องๆ 

เป็นผู้หญิงค่ะ อายุ 10 ปีละยังดู active เป็นจ่าฝูงตัวสำคัญของฟาร์ม 

น้องปุกปุยหางน้องน่าเอ็นดูจริงๆ คึกมาก วิ่งตลอดเวลา 
*ต่อในคอมเม้นนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่