ขอเกริ่นเลยนะคะ คือเราเป็นผญ.นะ เราเกิดปี42 ส่วนแฟนเราเกิดปี36 เรากับแฟนตอนนี้คบกันได้6เดือนแล้วค่ะ(เราทั้งคู่เรียนอยู่นะคะแต่แฟนใกล้จบแล้ว) ช่วงระยะเวลาที่คบกันมามีดีบ้างทะเลาะบ้างตามประสาคู่รักปกติ ส่วนใหญ่ที่ทะเลาะกันจะเป็นเรื่องที่เราหึงเขากับรุ่นน้อง เราจะพูดซ้ำๆบ่อยๆ แล้วทุกครั้งที่พูดก็ทำให้ทะเลาะกัน ตอนนั้นคือหึงหวงไม่พยายามที่จะเข้าใจอะไรเขาเลย ยิ่งช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาทะเลาะกันหนัก ทะเลาะทุกวัน ซึ่งคนผิดครั้งนั้นคือเราที่งี่เง่าเอาแต่ใจเอง แต่ก็ง้อก็กลับมาคุยกันปกติ จนเมื่อวันที่30เมษาตอนกลางคืนเราก็พูดเรื่องเดิม ขอเขา เพราะเราไปเห็นเขาเม้นในFBของรุ่นน้องผญ.คนนั้น ขอให้เลิกยุ่งเกี่ยวกัน ซึ่งเรารู้นะว่ามันเป็นไปไม่ได้ เรารู้ว่าเราขอมากไปแต่ก็ยังดันทุรังขอเขาเพราะจริงๆเขาก็มีธุระจำเป็นที่ต้องติดต่อกันกับรุ่นน้อง เขาก็อธิบายมาแต่ด้วยความเป็นเราอะก็ยังงี่เง่าใส่
เช้าวันที่1พ.ค.เราก็ส่งข้อความไปเชิงน้อยใจ เขาก็ถามกลับมาว่า 'เหนื่อยมั้ย กับเรื่องแบบนี้' เราก็ตอบไปว่าเหนื่อยนะ เขาเลยถามว่า 'หยุดไหม พี่ก็เหนื่อยแล้วว่ะ พี่เครียดงานก็มากพอแล้ว พี่ไม่อยากทะเลาะอะไรแบบนี้อีกแล้ว'(ช่วงนี้ปิดเทอมเราสองคนทำงานด้วยเรียนซัมเมอร์ด้วย) เราเลยตอบว่าเราไม่ได้อยากทะเลาะ แล้วก็ไม่ได้อยากหยุด แล้วเขาก็บอกว่าเขาเหนื่อยกับอะไรหลายๆอย่าง เราเลยยื้อเขา ขอให้เขาอยู่ก่อน เพราะเราอยู่ไม่ได้ อยู่ไม่ไหว เขาก็ตอบกลับมาว่า
'มันจะไม่เหนื่อยหรอ ทั้งพี่และเธอเราก็ต่างคนต่างเหนื่อย พี่ก็ยังรักเรา แต่ปัญหาที่มันเข้ามาในชีวิตพี่ตอนนี้มันก็เยอะ พี่ไม่อยากจะต้องทะเลาะอะไรแบบนี้อีกแล้ว'
เราอ่านก็ได้แต่นั่งร้องไห้ในstoreเก็บของ เพราะเราต้องทำงาน ต้องเปิดร้านในวันนั้น เราก็ยื้อเขา ขอเขาให้อยู่กับเรา เขาก็ตอบกลับมาว่า 'ดูไปล่ะกัน' เราก็บอกว่าเรารักเขา เราอยู่ไม่ไหว เขาก็บอกว่า
'แต่บางที ที่เราอยู่กันแบบนี้มันคือความสุขจริงๆรึป่าว' เราก็ทำได้แค่ยื้อเขา ขอให้เขาอยู่ เขาก็ได้แต่บอกว่า 'ดูๆไปล่ะกัน'
วันนั้นคือเราทำงานแบบทำไปเช็ดน้ำตาไป ไม่มีสติ เบลอ งง ทั้งวันจนเลิกงาน
วันที่1พ.ค.ตอนกลางคืนเราก็ส่งไลน์ไปหาเขาเพราะเห็นออนFB แต่เขาก็ไม่อ่านไม่ตอบจนผ่านไปเกือบ2ชม.เขาตอบกลับมาว่านอนนานแล้ว ฝันดีนะ
วันที่2พ.ค.เราก็คุยปกติ ชวนคุย ถามไถ่เป็นห่วงปกติ จนช่วง4ทุ่มกว่า เป็นช่วงที่เขาเลิกงาน เราก็ไลน์ไป
'พี่ เค้าอยู่ไม่ไหว'
'เป็นไร'
'เค้าอยากให้พี่กลับมา'
'พี่ขอโทษ'
'ให้โอกาสเค้านะ เค้าอยู่ไม่ไหวจริงๆ'
'พี่ขออยู่คนเดียวสักระยะนึงนะ ขอดูแลแม่ ขอทำงาน'
(คือพี่เขาพึ่งทำงานได้ไม่นาน แต่ปัญหาค่อนข้างเยอะ เขาก็ทั้งเครียดทั้งเหนื่อยงาน เครียดเรียนอีก) เราก็เลยขอเขาว่ายังไม่เลิกได้ไหม
'เราไม่เหนื่อยหรอ ทุกเรื่องที่ผ่านมา'
'ถ้าเค้าเหนื่อยเค้าไปตั้งนานแล้ว ทุกคู่มันต้องมีทะเลาะกัน'
'แต่มันเยอะมากเลยอ่ะ แทบจะทุกวัน พี่เหนื่อย'
(ตั้งแต่ที่เขาขอเลิก เราก็ลองมองย้อนกลับไปที่ตัวเอง ใช่ เรางี่เง่า เราชวนเขาทะเลาะบ่อย ทะเลาะเรื่องเดิมๆทั้งที่เขาก็อธิบายไปแล้วเรื่องรุ่นน้องผู้หญิงของเขา ซึ่งเอาจริงๆเราอะรู้ว่ามันไม่มีอะไรหรอกกับรุ่นน้องอะ แต่เรานิสัยเด็กน้อย อยากให้เขาสนใจแต่เรา เลยพูดซ้ำๆ พูดบ่อยๆพูดทุกครั้งก็ทะเลาะทุกครั้ง จนในตอนนี้เราคิดได้แล้วว่าเราไม่ควรหึงจนไม่ลืมหูลืมตาขนาดนั้น เพราะจริงๆเราก็มีรุ่นพี่ผู้ชายเหมือนกัน เขาก็หึงก็หวงนะแต่ไม่แสดงอาการไม่ชวนทะเลาะเหมือนเรา เราเลยโอเค คนผิดคือเรานี่แหละ ที่ผ่านมาอะเราก็ผิดทั้งนั้นแต่ด้วยความเด็กน้อยอยากให้เขายอมอยากเอาชนะอยากให้เขาสนใจแค่เรา ผลที่ได้เลยออกมาแย่แบบนี้)
พอคุยไปคุยมาในวันที่2พ.ค. เราก็ยังยื้อยังง้อ พิมพ์ไปแต่ว่ายังไม่เลิกได้ไหม ยังไม่เลิกกันนะ เขาเลยพิมพ์กลับมาว่า
'แม่พี่ไม่อยากให้เราคุยกัน แม่บอกเธอเด็กเกินไป'
(ก่อนหน้านั้นที่ทะเลาะช่วงสงกรานต์เราเปลี่ยนโพสต์ในFBเป็น Only me พอกลับมาดีกันเราก็เปลี่ยนกลับแล้วเหมือนมันไปขึ้นหน้าฟีดแม่เขาหมดเลย เขาก็ไลน์มาบอกเราว่าเลิกแท็กได้แล้ว แม่ไม่ชอบ แม่ด่า เราก็เลยแบบขอโทษ คือเราก็ไม่คิดว่ามันจะไปขึ้นหน้าฟีดแม่เขา เพราะโพสต์มันก็นานมาสักระยะแล้ว)
เราเลยบอกเขาว่า 'ให้โอกาสนะ จะปรับปรุงตัว'
'ดูๆไปล่ะกัน ไม่ต้องรีบหรอก ไม่ต้องมาคิดเรื่องพี่หรอก ตั้งใจเรียน'
'เค้ารักพี่นะ ถ้าไม่มีพี่ก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง'
'ครับ'
'อยู่กับเค้าก่อนนะ'
'พี่ก็อยู่นี่แหละ'
(พอเราคุยกับแฟนเสร็จเราก็ทักไปคุยกับเพื่อนสนิทเขา พี่เขาก็บอกว่าแม่เขาก็ส่วนนึงแต่ที่สำคัญคือคนสองคนคือเรากับเขา ถ้าไม่โอเคจริงๆก็คงต้องถอย แต่เรารักเขามาก เราเลยจะเปลี่ยนตัวเองให้โตขึ้นได้ในสายตาแม่เขา เลิกงี่เง่า ไม่ชวนทะเลาะ คอยซัพพอร์ต คอยให้กำลังใจตลอด เพื่อนเขาเลยบอกถ้างั้นก็ยื้อให้สุดๆ ถ้ายื้อจนสุดแล้วไม่ไหวก็คงต้องปล่อยจริงๆ)
หลังจากนั้นเราก็ชวนเขาคุยปกติเหมือนเขาไม่เคยขอเราเลิก เราคอยไลน์ถามเป็นห่วงเป็นใย ให้กำลังใจเขา เขาเลิกงานมาเราก็ถามว่าเหนื่อยไหม ตอนเช้าเราก็บอกเขาอย่าลืมกินข้าวนะ ด้วยความเป็นห่วงอะ 30เม.ย.เช้าเขากับเราไปเรียนพร้อมกัน พอตกเย็นทะเลาะกันมาเรากับเขาก็ไม่ได้นอนด้วยกันอีก ไม่ได้เจอกันอีก มีแค่เราที่โทรไปวันละครั้ง(แต่แค่2ครั้ง) เราก็แค่ถามว่านอนไหนแต่ก็ไม่ได้ยื้อให้เขานอนด้วยแบบเมื่อก่อน เขาก็รับสาย คุยปกติ ไลน์ไปเขาก็ตอบปกติเพียงแค่จะมีสรรพนามแทนตัวเองที่เปลี่ยนไป เราเลยรู้สึกแปลกๆแต่ก็คุยปกติ ตอนนี้เราให้ระยะห่างเขา ให้เวลาเขา ให้พื้นที่ส่วนตัวเขา เผื่ออะไรจะดีขึ้น แต่เราก็ยังคงทักไปหาเขา ไปไหนมาไหนก็บอกเขา เขาไปไหนเขาก็บอกบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเราที่ทำเป็นทักไปถามว่าเลิกงานยัง นอนที่ไหน ทั้งๆที่ก็รู้นะว่าเขานอนที่บ้าน ทั้งๆที่รู้ว่าเขาเลิกงานแล้ว แต่เขาก็ตอบกลับนะก็บอกว่านอนบ้าน พึ่งถึงบ้าน เราก็โอเคก็หายเป็นห่วง แต่ก็จะมีช่วงดึกๆที่ทั้งเราและเขายังไม่นอน เราก็ไลน์ไปบอกห่วงสุขภาพนะ อยากให้นอนเร็วๆทำนองนี้ เพราะตั้งแต่ที่เขาขอเราเลิก เราก็เห็นเขานอนเกือบเช้าทุกวัน (ที่เรานอนดึกเหมือนเขาเพราะเรานอนไม่หลับมาสักพักแต่ไม่ได้เกี่ยวกับเขา เป็นสุขภาพเราเอง แล้วยิ่งช่วงที่เขาขอเลิกเราตอนนอนเราเอาแหวนมาใส่ไว้ที่นิ้วเพราะปกติใส่เป็นสร้อย เราเอาตุ๊กตาที่เขาให้มานอนกอด เราไม่ค่อยออกจากห้อง ออกแค่ไปกินข้าวแล้วรีบกลับแล้วเราก็หลับๆตื่นเพราะกลัวเขาเข้ามาตอนเราหลับหรือตอนเราไม่อยู่แล้วขนของทุกอย่างกลับบ้าน วันที่3พ.ค.เราก็บอกเขาว่าถ้าพรุ่งนี้ว่างก็อยากเจอก่อนไปค่ายนะ เขาก็บอกว่าไม่ว่าง เราก็โอเค ไม่เป็นไร เพราะวันที่5-11พ.ค.นี้เราต้องไปเข้าค่าย เราก็ยังคงกลัว กลัวตอนกลับมาจากค่ายแล้วของของเขาจะไม่เหลืออะไรเลย อย่างน้อยตอนนี้มีของของเขาก็ทำให้เรารู้สึกว่าเขาอาจจะกลับมา) เราอยากเจอเขามาก เราอยากกอดเขามาก แต่เราก็ไม่ได้ขอเขาไม่ได้งอแงง้องแง้งแบบเมื่อก่อนว่าให้มาหาหน่อยว่าให้มานอนด้วย เขาคงอยากอยู่คนเดียวสักระยะจริงๆ คงต้องใช้เวลากับเขาหน่อย แต่เราก็ยังเศร้าๆและจิตตกอยู่ที่มันรู้สึกแปลกๆไม่เหมือนเดิม เพราะการที่เขาขอเลิกและแม่เขาไม่อยากให้คุยต่อ มันทำให้เปอร์เซ็นการเลิกกันของเรามีมากขึ้นและเราก็รู้สึกว่าเขาพร้อมจะไปได้ง่ายๆเลย แต่หลายๆคนบอกกับเราว่า 'ถ้าเขารักเรายังไงเขาก็จะกลับมา'
ถ้าเขายังรักเราอยู่จริงๆ เราก็อยากให้เขากลับมาสู้ด้วยกัน ช่วยกันทำให้แม่เขายอมรับ 😔
เกริ่นมายาวมากจนจบแล้ว คือเราแค่อยากรู้ว่าเราจะยื้อเขาง้อเขายังไงให้เขาไม่รำคาญ มันพอจะมีเปอร์เซ็นต์ไหมที่เขาจะกลับมารักเราจากที่เราเล่ามา แล้วการเป็นผู้ใหญ่ในสายตาแม่เขาเราควรเริ่มยังไง(บ้านทางพ่อเขามีเชื้อจีน แล้วแม่เขาก็เป็นครูด้วย) เขายังไม่เคยพาเราไปหาที่บ้านนะคะ แต่ก็วางแผนไว้ เขารออะไรๆลงตัวแล้วจะพาไปหาพ่อแม่ คุยวางแผนอนาคตไว้เยอะพอสมควรเพราะเขาก็อายุเริ่มเยอะแล้ว ซึ่งเราก็ไม่อยากให้แผนที่วางกันไว้ต้องล่มเพราะนิสัยเด็กน้อยและนิยแย่ๆของเรา เราเลยอยากปรับปรุงตัว อยากเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ทั้งเพื่อตัวเราและในสายตาผู้ใหญ่ ใครมีคำแนะนำหรือจะมาแชร์ประสบการณ์กันก็ได้นะคะ
ทำยังไงดี แฟนขอเลิกเพราะเหนื่อยที่ทะเลาะบ่อยและแม่เขาอยากให้เลิกคุยเพราะเราเด็กเกินไป
เช้าวันที่1พ.ค.เราก็ส่งข้อความไปเชิงน้อยใจ เขาก็ถามกลับมาว่า 'เหนื่อยมั้ย กับเรื่องแบบนี้' เราก็ตอบไปว่าเหนื่อยนะ เขาเลยถามว่า 'หยุดไหม พี่ก็เหนื่อยแล้วว่ะ พี่เครียดงานก็มากพอแล้ว พี่ไม่อยากทะเลาะอะไรแบบนี้อีกแล้ว'(ช่วงนี้ปิดเทอมเราสองคนทำงานด้วยเรียนซัมเมอร์ด้วย) เราเลยตอบว่าเราไม่ได้อยากทะเลาะ แล้วก็ไม่ได้อยากหยุด แล้วเขาก็บอกว่าเขาเหนื่อยกับอะไรหลายๆอย่าง เราเลยยื้อเขา ขอให้เขาอยู่ก่อน เพราะเราอยู่ไม่ได้ อยู่ไม่ไหว เขาก็ตอบกลับมาว่า
'มันจะไม่เหนื่อยหรอ ทั้งพี่และเธอเราก็ต่างคนต่างเหนื่อย พี่ก็ยังรักเรา แต่ปัญหาที่มันเข้ามาในชีวิตพี่ตอนนี้มันก็เยอะ พี่ไม่อยากจะต้องทะเลาะอะไรแบบนี้อีกแล้ว'
เราอ่านก็ได้แต่นั่งร้องไห้ในstoreเก็บของ เพราะเราต้องทำงาน ต้องเปิดร้านในวันนั้น เราก็ยื้อเขา ขอเขาให้อยู่กับเรา เขาก็ตอบกลับมาว่า 'ดูไปล่ะกัน' เราก็บอกว่าเรารักเขา เราอยู่ไม่ไหว เขาก็บอกว่า
'แต่บางที ที่เราอยู่กันแบบนี้มันคือความสุขจริงๆรึป่าว' เราก็ทำได้แค่ยื้อเขา ขอให้เขาอยู่ เขาก็ได้แต่บอกว่า 'ดูๆไปล่ะกัน'
วันนั้นคือเราทำงานแบบทำไปเช็ดน้ำตาไป ไม่มีสติ เบลอ งง ทั้งวันจนเลิกงาน
วันที่1พ.ค.ตอนกลางคืนเราก็ส่งไลน์ไปหาเขาเพราะเห็นออนFB แต่เขาก็ไม่อ่านไม่ตอบจนผ่านไปเกือบ2ชม.เขาตอบกลับมาว่านอนนานแล้ว ฝันดีนะ
วันที่2พ.ค.เราก็คุยปกติ ชวนคุย ถามไถ่เป็นห่วงปกติ จนช่วง4ทุ่มกว่า เป็นช่วงที่เขาเลิกงาน เราก็ไลน์ไป
'พี่ เค้าอยู่ไม่ไหว'
'เป็นไร'
'เค้าอยากให้พี่กลับมา'
'พี่ขอโทษ'
'ให้โอกาสเค้านะ เค้าอยู่ไม่ไหวจริงๆ'
'พี่ขออยู่คนเดียวสักระยะนึงนะ ขอดูแลแม่ ขอทำงาน'
(คือพี่เขาพึ่งทำงานได้ไม่นาน แต่ปัญหาค่อนข้างเยอะ เขาก็ทั้งเครียดทั้งเหนื่อยงาน เครียดเรียนอีก) เราก็เลยขอเขาว่ายังไม่เลิกได้ไหม
'เราไม่เหนื่อยหรอ ทุกเรื่องที่ผ่านมา'
'ถ้าเค้าเหนื่อยเค้าไปตั้งนานแล้ว ทุกคู่มันต้องมีทะเลาะกัน'
'แต่มันเยอะมากเลยอ่ะ แทบจะทุกวัน พี่เหนื่อย'
(ตั้งแต่ที่เขาขอเลิก เราก็ลองมองย้อนกลับไปที่ตัวเอง ใช่ เรางี่เง่า เราชวนเขาทะเลาะบ่อย ทะเลาะเรื่องเดิมๆทั้งที่เขาก็อธิบายไปแล้วเรื่องรุ่นน้องผู้หญิงของเขา ซึ่งเอาจริงๆเราอะรู้ว่ามันไม่มีอะไรหรอกกับรุ่นน้องอะ แต่เรานิสัยเด็กน้อย อยากให้เขาสนใจแต่เรา เลยพูดซ้ำๆ พูดบ่อยๆพูดทุกครั้งก็ทะเลาะทุกครั้ง จนในตอนนี้เราคิดได้แล้วว่าเราไม่ควรหึงจนไม่ลืมหูลืมตาขนาดนั้น เพราะจริงๆเราก็มีรุ่นพี่ผู้ชายเหมือนกัน เขาก็หึงก็หวงนะแต่ไม่แสดงอาการไม่ชวนทะเลาะเหมือนเรา เราเลยโอเค คนผิดคือเรานี่แหละ ที่ผ่านมาอะเราก็ผิดทั้งนั้นแต่ด้วยความเด็กน้อยอยากให้เขายอมอยากเอาชนะอยากให้เขาสนใจแค่เรา ผลที่ได้เลยออกมาแย่แบบนี้)
พอคุยไปคุยมาในวันที่2พ.ค. เราก็ยังยื้อยังง้อ พิมพ์ไปแต่ว่ายังไม่เลิกได้ไหม ยังไม่เลิกกันนะ เขาเลยพิมพ์กลับมาว่า
'แม่พี่ไม่อยากให้เราคุยกัน แม่บอกเธอเด็กเกินไป'
(ก่อนหน้านั้นที่ทะเลาะช่วงสงกรานต์เราเปลี่ยนโพสต์ในFBเป็น Only me พอกลับมาดีกันเราก็เปลี่ยนกลับแล้วเหมือนมันไปขึ้นหน้าฟีดแม่เขาหมดเลย เขาก็ไลน์มาบอกเราว่าเลิกแท็กได้แล้ว แม่ไม่ชอบ แม่ด่า เราก็เลยแบบขอโทษ คือเราก็ไม่คิดว่ามันจะไปขึ้นหน้าฟีดแม่เขา เพราะโพสต์มันก็นานมาสักระยะแล้ว)
เราเลยบอกเขาว่า 'ให้โอกาสนะ จะปรับปรุงตัว'
'ดูๆไปล่ะกัน ไม่ต้องรีบหรอก ไม่ต้องมาคิดเรื่องพี่หรอก ตั้งใจเรียน'
'เค้ารักพี่นะ ถ้าไม่มีพี่ก็ไม่รู้จะอยู่ยังไง'
'ครับ'
'อยู่กับเค้าก่อนนะ'
'พี่ก็อยู่นี่แหละ'
(พอเราคุยกับแฟนเสร็จเราก็ทักไปคุยกับเพื่อนสนิทเขา พี่เขาก็บอกว่าแม่เขาก็ส่วนนึงแต่ที่สำคัญคือคนสองคนคือเรากับเขา ถ้าไม่โอเคจริงๆก็คงต้องถอย แต่เรารักเขามาก เราเลยจะเปลี่ยนตัวเองให้โตขึ้นได้ในสายตาแม่เขา เลิกงี่เง่า ไม่ชวนทะเลาะ คอยซัพพอร์ต คอยให้กำลังใจตลอด เพื่อนเขาเลยบอกถ้างั้นก็ยื้อให้สุดๆ ถ้ายื้อจนสุดแล้วไม่ไหวก็คงต้องปล่อยจริงๆ)
หลังจากนั้นเราก็ชวนเขาคุยปกติเหมือนเขาไม่เคยขอเราเลิก เราคอยไลน์ถามเป็นห่วงเป็นใย ให้กำลังใจเขา เขาเลิกงานมาเราก็ถามว่าเหนื่อยไหม ตอนเช้าเราก็บอกเขาอย่าลืมกินข้าวนะ ด้วยความเป็นห่วงอะ 30เม.ย.เช้าเขากับเราไปเรียนพร้อมกัน พอตกเย็นทะเลาะกันมาเรากับเขาก็ไม่ได้นอนด้วยกันอีก ไม่ได้เจอกันอีก มีแค่เราที่โทรไปวันละครั้ง(แต่แค่2ครั้ง) เราก็แค่ถามว่านอนไหนแต่ก็ไม่ได้ยื้อให้เขานอนด้วยแบบเมื่อก่อน เขาก็รับสาย คุยปกติ ไลน์ไปเขาก็ตอบปกติเพียงแค่จะมีสรรพนามแทนตัวเองที่เปลี่ยนไป เราเลยรู้สึกแปลกๆแต่ก็คุยปกติ ตอนนี้เราให้ระยะห่างเขา ให้เวลาเขา ให้พื้นที่ส่วนตัวเขา เผื่ออะไรจะดีขึ้น แต่เราก็ยังคงทักไปหาเขา ไปไหนมาไหนก็บอกเขา เขาไปไหนเขาก็บอกบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเราที่ทำเป็นทักไปถามว่าเลิกงานยัง นอนที่ไหน ทั้งๆที่ก็รู้นะว่าเขานอนที่บ้าน ทั้งๆที่รู้ว่าเขาเลิกงานแล้ว แต่เขาก็ตอบกลับนะก็บอกว่านอนบ้าน พึ่งถึงบ้าน เราก็โอเคก็หายเป็นห่วง แต่ก็จะมีช่วงดึกๆที่ทั้งเราและเขายังไม่นอน เราก็ไลน์ไปบอกห่วงสุขภาพนะ อยากให้นอนเร็วๆทำนองนี้ เพราะตั้งแต่ที่เขาขอเราเลิก เราก็เห็นเขานอนเกือบเช้าทุกวัน (ที่เรานอนดึกเหมือนเขาเพราะเรานอนไม่หลับมาสักพักแต่ไม่ได้เกี่ยวกับเขา เป็นสุขภาพเราเอง แล้วยิ่งช่วงที่เขาขอเลิกเราตอนนอนเราเอาแหวนมาใส่ไว้ที่นิ้วเพราะปกติใส่เป็นสร้อย เราเอาตุ๊กตาที่เขาให้มานอนกอด เราไม่ค่อยออกจากห้อง ออกแค่ไปกินข้าวแล้วรีบกลับแล้วเราก็หลับๆตื่นเพราะกลัวเขาเข้ามาตอนเราหลับหรือตอนเราไม่อยู่แล้วขนของทุกอย่างกลับบ้าน วันที่3พ.ค.เราก็บอกเขาว่าถ้าพรุ่งนี้ว่างก็อยากเจอก่อนไปค่ายนะ เขาก็บอกว่าไม่ว่าง เราก็โอเค ไม่เป็นไร เพราะวันที่5-11พ.ค.นี้เราต้องไปเข้าค่าย เราก็ยังคงกลัว กลัวตอนกลับมาจากค่ายแล้วของของเขาจะไม่เหลืออะไรเลย อย่างน้อยตอนนี้มีของของเขาก็ทำให้เรารู้สึกว่าเขาอาจจะกลับมา) เราอยากเจอเขามาก เราอยากกอดเขามาก แต่เราก็ไม่ได้ขอเขาไม่ได้งอแงง้องแง้งแบบเมื่อก่อนว่าให้มาหาหน่อยว่าให้มานอนด้วย เขาคงอยากอยู่คนเดียวสักระยะจริงๆ คงต้องใช้เวลากับเขาหน่อย แต่เราก็ยังเศร้าๆและจิตตกอยู่ที่มันรู้สึกแปลกๆไม่เหมือนเดิม เพราะการที่เขาขอเลิกและแม่เขาไม่อยากให้คุยต่อ มันทำให้เปอร์เซ็นการเลิกกันของเรามีมากขึ้นและเราก็รู้สึกว่าเขาพร้อมจะไปได้ง่ายๆเลย แต่หลายๆคนบอกกับเราว่า 'ถ้าเขารักเรายังไงเขาก็จะกลับมา'
ถ้าเขายังรักเราอยู่จริงๆ เราก็อยากให้เขากลับมาสู้ด้วยกัน ช่วยกันทำให้แม่เขายอมรับ 😔
เกริ่นมายาวมากจนจบแล้ว คือเราแค่อยากรู้ว่าเราจะยื้อเขาง้อเขายังไงให้เขาไม่รำคาญ มันพอจะมีเปอร์เซ็นต์ไหมที่เขาจะกลับมารักเราจากที่เราเล่ามา แล้วการเป็นผู้ใหญ่ในสายตาแม่เขาเราควรเริ่มยังไง(บ้านทางพ่อเขามีเชื้อจีน แล้วแม่เขาก็เป็นครูด้วย) เขายังไม่เคยพาเราไปหาที่บ้านนะคะ แต่ก็วางแผนไว้ เขารออะไรๆลงตัวแล้วจะพาไปหาพ่อแม่ คุยวางแผนอนาคตไว้เยอะพอสมควรเพราะเขาก็อายุเริ่มเยอะแล้ว ซึ่งเราก็ไม่อยากให้แผนที่วางกันไว้ต้องล่มเพราะนิสัยเด็กน้อยและนิยแย่ๆของเรา เราเลยอยากปรับปรุงตัว อยากเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ทั้งเพื่อตัวเราและในสายตาผู้ใหญ่ ใครมีคำแนะนำหรือจะมาแชร์ประสบการณ์กันก็ได้นะคะ