[SR] รีวิว Ringer Hut ร้านราเมงต้นตำหรับแบรนดังจากญี่ปุ่น พร้อมเมนู จัมปง สุดพิเศษเหนียวหนึบนุ่มไม่เหมือนใคร

รีวิว Ringer Hut ร้านราเมงต้นตำหรับแบรนดังจากญี่ปุ่น พร้อมเมนู จัมปง สุดพิเศษเหนียวหนึบนุ่มไม่เหมือนใคร

รีวิวโดยทีมกินแหลกจาก Japanese Club Thailand Facebook Group

วันนี้ผมได้ไปลองรับประทานราเมงจากร้าน Ringer Hut ซึ่งร้านนี้มีอยู่หลายสาขาในไทยครับ วันนี้มารีวิวที่สาขาพร้อมพงษ์ แบรนนี้เค้าจะเด่นเรื่องราเมงโดยเฉพาะครับ และมีเมนูพิเศษที่ไม่ซ้ำกับที่อื่น และหากินยากในไทยชื่อว่า จัมปง ถ้าหากพูดถึง Ringer Hut คนญี่ปุ่นจะร้องอ๋อทันที เพราะร้านนี้เค้าดังมากๆ ดังนั้นเราจะพลาดได้อย่างไรครับ มีให้ชิมที่ไทยแล้ว วันนี้เลยมารีวิวให้ชมกันครับ

ก่อนจะไปชมรีวิวขอฝากกลุ่ม Japanese Club Thailand สำหรับเพื่อน ๆ ที่สนใจและชอบท่องเทียวแบบญี่ปุ่นในประเทศไทย สามารถเข้ามาชมกลุ่มกันได้ครับ https://www.facebook.com/groups/onsenthailand


ก่อนอื่นมาชมประวัติของร้านนี้คร่าวๆกันก่อนครับ Ringer Hut Group เริ่มก่อตั้งขึ้นที่จังหวัดนางาซากิในปี ค.ศ. 1963 ที่ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันได้รับความนิยมมากและมีสาขาที่ญี่ปุ่นกว่า 600 สาขา ส่วนในเมืองไทยมีทั้งหมด 6 สาขา

ผมได้พูดคุยกับทางผู้จัดการของทางร้าน และเค้าแจ้งว่า ริงเกอร์ฮัท ทุกสาขาใส่ใจในการใช้วัตถุดิบที่สดใหม่ เน้นอาหารที่มีคุณภาพ และมีคุณค่าต่อร่างกาย และที่สำคัญคือทางร้านตั้งใจที่จะแนะนำ นางาซากิจัมปง ซาราอุด้ง ที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบ มาให้ลูกค้าสาขาต่างประเทศได้อิ่มอร่อยโดยคงไว้ซึ่งมาตรฐานเดียวกับที่ญี่ปุ่น

ทางร้านได้กล่าวว่า เป้าหมายของ Ringer Hut ก็คือการส่งต่อความอร่อยที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการของ “นางาซากิจัมปง” ไปสู่ชาวโลก! ซึ่งฟังเสร็จรู้สึกยิ่งใหญ่อลังการครับ ดังนั้นวันนี้เราต้องมารีวิวเมนูนี้ให้ชมกันแน่นอน

สาขาที่เรามารีวิวอยู่ที่พร้อมพงษ์ครับ สุขุมวิท ฝั่ง The Emporium (ข้างบันไดขึ้นสถานีบีทีเอส พร้อมพงษ์ ทางออก 4) เดินทางสะดวกมากครับใช้รถไฟฟ้า Bts ก็ถึงเลย


หน้าร้านป้ายใหญ่มากๆครับ เดินผ่านก็สะดุดสายตาไม่เข้าผิดร้านแน่นอนครับ มีเมนูขนาดใหญ่ให้อ่านที่หน้าร้านด้วยครับ


เข้ามาชมด้านในกันครับ ตกแต่งส่วนใหญ่ด้วยวัสดุสีธรรมชาติ เน้นพวกม้ ซึ่งดูสบายตาและออกไปในแนวญี่ปุ่นครับ



ใครมาคนเดียวก็มีที่นั่งแบบเคาท์เตอร์บาร์ให้นั่งด้วยครับ บนโต๊ะมีปลักไฟ สามารถเสียบชาร์ทมือถือได้ และมีเครื่องปรุงรสให้อย่างครบถ้วนครับ


โซนโต๊ะที่นั่งแบบปกติครับ เรียงกัน อาจจะแคบนิดแต่ก็นั่งสบายครับ


ร้านนี้มีชั้น 2 ด้วยนะครับ ก็จะได้มุมที่ส่วนตัวมากขึ้น


เมนูจะแยกเล่มกันระหว่างมื้อกลางวัน และเย็น ความต่างมีแค่มื้อเย็นจะเพิ่มอาหารแบบชุดเข้ามาครับ ส่วนเมนูหลักๆไม่ต่างกัน


วันนี้จะถ่ายรูปเมนูมื้อเย็นมาให้ชมกันนะครับ เพราะจะครอบคลุมเมนูอาหารทั้งหมดครบถ้วนที่สุด






เครื่องดื่มที่นี่จะมีน้ำผลไม้ น้ำพันซ์ น้ำชาเขียวก็มีครับ ที่นี่ชาเขียวดีมาก สไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ไม่หวานครับ สาเกก็มีให้สั่งได้ครับ แต่ผมคงไม่ได้สั่งสาเกมารีวิวนะครับ 55



เครื่องปรุงรสที่มีให้ก็เช่น พริกไทย น้ำตาล พริกเผาไทย น้ำมันพริกเผา น้ำส้มสายชู ซอสต่างๆครับ


ชาเขียวดีงามมากครับ ตามแบบร้านญี่ปุ่นแท้ๆ ไม่หวานเลย


สั่งอาหารเสร็จไม่นานเมนูแรกก็มาเสริฟครับ ขอเริ่มด้วยเมนูแนะนำสุดพิเศษละกันครับ นางาซากิจัมปง

ก่อนอื่นขอเล่าให้ฟังเกี่ยวกับจัมปงก่อนนะครับว่าคืออะไร

จัมปง เป็นอาหารประเภทเส้น ที่มีต้นกำเนิดมาจากจังหวัดนางาซากิที่อยู่ทางภาคใต้ของประเทศญี่ปุ่น "จัมปง" นั้นมีความหมายว่า "ผสมรวมกัน" ก็คือจะเป็นการผสมกันของซุปกระดูกหมู เส้นจัมปง และผักนานาชนิด

สิ่งที่ทำให้จัมปงแตกต่างจากอาหารประเภทเส้นอื่น ๆ ก็คือ น้าซุปจะมีความเข้มข้นแต่ไม่มัน เส้นจัมปงก็มีกรรมวิธีผลิตโดยเฉพาะทาให้มีความเหนียวหนึบมากกว่าราเมงปกติ และที่สำคัญคือ healthy เพราะมีส่วนผสมของผักเยอะครับ

เมนูจานแรกนี้คือ นางาซากิจัมปง

เส้นมีความเหนียวนุ่มและหนึบมากๆ ซุปมีความหอมน้ำต้มกระดูกเข้มข้นเแต่ไม่เลี่ยน ทางร้านบอกว่าเส้นและซุปรวมทั้งกะหล่ำปลี นำเข้ามาจากญี่ปุ่นครับดังนั้นเราจะได้ทานจัมปงที่รสชาติเหมือนริงเกอร์ฮัทที่ญี่ปุ่นแน่นอน กะหล่ำปลีกินแล้วมีความหวานในเนื้อผักเลยครับ รสชาติดีกว่าที่ปลูกในไทยพอสมควรเลยครับ บอกเลยว่าใครมารับประทานร้านนี้ เมนูนี้ต้องสั่งครับ เพราะเด็ดมากๆและคือ Signature ของร้านเลยครับ




จานต่อมาเป็นเมนูขายดีเช่นกันครับ นางาซากิซาราอุด้ง

เครื่องเหมือนนางาซากิจัมปงเป๊ะๆ แต่ซุปจะเคี่ยวกับแป้งจนมีความหนืดคล้ายๆราดหน้าของไทยและราดลงบนเส้นซาราอุด้งทอดกรอบ สามารถทานคู่กับมัสตาทญี่ปุ่นเพื่อตัดเลี่ยน หรือจะใส่ซาราอุด้งซอสก็ได้

มีความคล้ายหมี่กรอบราดหน้าของไทยหรือฮ่องกง แต่จะมีความหอมอบอวลมากกว่า และตัวเส้นจะมีขนาดเล็กกว่าเส้นราเมงปกติ และความกรอบนานจนคำสุดท้าย เมนูนี้อร่อยมากๆแบบไม่น่าเชื่อครับ เด็กๆน่าจะชอบด้วยครับ ผมเองยังชอบมากๆเลย นึกถึงเมนูบะหมี่กรอบราดหน้า ที่ได้น้ำซุปอร่อยๆของราเมงมาทำน้ำราดครับ ฟินมากๆเมนูนี้ห้ามพลาดเลยครับ ใครที่ชอบรสชาติแบบมีมิติมากขึ้นแนะนำให้ใส่มัสตาร์ทเข้าไปนิดครับ จะได้รสชาติแบบใหม่ที่อร่อยไปในอีกแบบหนึ่งครับ




เมนูต่อมาต้องสั่งมาชิมเพื่อให้ได้ชิมรสชาติแบบมาตรฐานเปรียบเทียบกับร้านอื่นๆครับ ชื่อว่า Special Chashu Ramen เป็นราเมงซุปกระดูกหมูเข้มข้น น้ำซุปหอมมันหวานอร่อยมาก ตามสไตล์ญี่ปุ่น ผู้จัดการบอกว่าเค้านำเข้าหัวน้ำซุปมาจากทางญี่ปุ่นเลย ดังนั้นจะได้รสชาติเหมือนต้นตำหรับครับ มาพร้อมกับ ชาชู ปริมาณพอสมควร ซึ่งชาชูมีไขมันอยู่เยอะในระดับหนึ่ง ทำให้นุ่มลิ้นมากๆ แต่ต้องแลกมาด้วยแคลลอรี่นะครับ55

เมนูนี้จะใช้เส้นราเมงแบบธรรมดาเหมือนร้านราเมงทั่วไป สั่งเกตุได้ว่าความหนึบจะน้อยกว่าเส้น จัมปง เล็กน้อย และขนาดของเส้นก็จะเล็กน้อยกว่าเช่นกัน ถ้าให้เปรียบเทียบแล้วผมแนะนำว่าจัมปง อร่อยและหนึบน่ากินกว่าเส้นปกติครับ และมีไข่ต้มยางมะตูมมาให้ด้วยในชาม โดยภาพรวมเมนูนี้อร่อยอยู่ในระดับมาตรฐานตามที่ราเมงญี่ปุ่นควรจะเป็น ถือว่าทำได้ดีครับ



ร้านนี้ไม่ได้มีแต่เมนูราเมงนะครับ เมนูข้าวก็มี ชุดนี้สั่งแบบเซต ซึ่งประกอบด้วยเมนูต่างๆมาจัดชุดกันครับ


Mini Sohoro Don ข้าวหน้าหมูสับผัดสไตล์ญี่ปุ่นแบบเข้มข้น พร้อมด้วยออมเล็ต รสชาติของหมูทำได้เข้มข้น หนักแน่นถ้ากินเดี่ยวอาจจะเค็มไปนิด แต่รับประทานกับข้าวญี่ปุ่นกำลังดีครับ และมีไข่ให้ตัดความเข้มข้นลง ถือว่าเมนูนี้ออกแบบมาได้ลงตัวและอร่อยเลยครับ ทั้งหมูและไข่และข้าว

รับประทานพร้อมกันทั้ง หมู ไข่ ข้าว แล้วรสชาติลงตัวมากครับ


Mini Kake Udon เมนูนี้ใช้เส้นอูด้งมาใส่ในน้ำซุปใสที่เคี่ยวน้ำซุปให้ออกรสชาติของปลาแห้งครับ มีการใส่สาหร่ายลงไปด้วย เมนูนี้รสชาติอ่อนๆ กินสบายๆ รสชาติอยู่ในระดับมาตรฐานครับ


เนื่องจากจัมปงอร่อยมากๆ ทีมงานเลยขอเบิ้ลอีกชามครับ แต่รอบนี้เลือกเป็นแบบที่มีไก่คาราอาเกะด้วย รสชาติยอดเยี่ยมเหมือนชามแรกเลยครับ เส้นจัมปงที่นี่เค้าเด็ดมากๆ และอีกอย่างที่ต้องชมคือกะหล่ำปลีดีมากครับ มีรสหวานนิดๆ เพราะเป็นกะหล่ำปลีนำเข้า ซึ่งถ้าปลูกในไทยไม่มีรสหวานอยู่ในกะหล่ำแน่ๆครับ



ข้ามไปที่เมนูทานเล่นกันบ้างครับ เมนูที่ผมมักจะสั่งสำหรับร้านญี่ปุ่นแทบทุกร้านเลยก็คือ เกี๊ยวซ่า ที่นี่ใช้เป็นเกี๊ยวซ่าหมูครับ ขนาดเล็กพอดีคำไม่ใหญ่มากนัก แป้งบาง ใส้ปริมาณปานกลาง ไม่แน่นจนทะลัก และก็ไม่น้อยจนมองไม่เห็นแต่อย่างใดครับ ถือว่าปริมาณใส้ทำมาอย่างลงตัว ที่นี่ใช้การทอดแบบญี่ปุ่นครับคือทอดบนกระทะแบน ให้เกรียมเพียงข้างเดียวแบบต้นตำหรับ และไม่ได้ใช้การ Deep-fried แต่อย่างใด

รสชาติทำได้ดีในระดับภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นครับ และอร่อยกว่าร้านทั่วๆไปแน่นอน ทั้งเนื้อสัมผัสของแป้งที่มีความกรอบเล็กๆ และมีความนุ่มรวมกันได้อย่างลงตัว และไส้ที่ทำรสชาติมาได้อย่างพอดี จิ้มกับน้ำจิ้มก็ถือว่าฟินกินหมดไม่รู้ตัวเลยครับ



ของทานเล่นอีกอย่างที่อยากให้ชิมกันก็คือ ไก่คาราอาเกะครับ ทำรสสัมผัสออกมาได้ดีเยี่ยม กรอบนอก นุ่มใน ปริมาณแป้งกำลังดี ไม่มากหรือน้อยเกินไป ไก่เลาะกระดูออกมาเรียบร้อยกินได้ทั้งคำสบายๆ

สำหรับรสชาติของไก่คาราอาเกะ สำหรับผมอาจจะเข้มไปนิดถ้ากินเปล่าๆครับ แต่ถ้าเรามามากินกับราเมง หรือกินพร้อมข้าวก็จะได้รสชาติที่กำลังดี เท่าที่ดูน่าจะออกแบบมาให้สั่งรับประทานพร้อมราเมงครับ ดังนั้นควรสั่งมาพร้อมกัน และกินประกอบกันจะได้รสชาติที่พอดีและอร่อยที่สุดครับ เป็นของทานเล่นอีกเมนูที่ควรสั่งเลยครับ



บอกเลยว่ามื้อนี้เรารับประทานกันจนอิ่มมากๆเลยครับ เมนูแต่ละอย่างอร่อยทั้งนั้น และกินหมดตามเคย เพราะรสชาติถือว่าทำได้อย่างลงตัวและคงความเป็นต้นตำหรับได้ดีครับ

ชื่อสินค้า:   Ringer Hut สาขาพร้อมพงษ์
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่