สวัสดีค่ะ อยากเล่าประสบการณ์เข้ารับการผ่าตัดรักษาเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าขาดด้วยการผ่าตัดแบบส่องกล้อง
ใช้เส้นเอ็นแฮมสตริง(ที่อยู่ด้านหลัง) มาทดแทนเอ็นไขว้หน้าที่ขาดไป เล่ายาวหน่อยนะคะ
เริ่มแรกสาเหตุเลยคือเกิดอุบัติเหตุ จักรยานยนต์ล้ม ล้มแบบด้านหน้าหัวเข่าครูดไปกับพื้นตอนแรกx-rayไม่เจอ
เจอแค่กล้ามเนื้อบาดเจ็บนิดหน่อยเลยรอเวลาผ่านไป 3อาทิตย์ อาการไม่ดีขึ้นหมอห้องฉุกเฉิน ส่งหาหมอเชี่ยวชาญด้านหัวเข่า
วันที่พบคุณหมอ คุณหมอเพียงจับเข่าไปมาหมุนๆบอกว่าขาดแน่นอนแต่ต้อง MRI เพื่อให้แน่ใจผลออกมาว่า
“complete tear of ACL”

หมอเลยแนะนำว่าอายุเท่านี้ผ่าไปเลยเพื่อไม่ให้ในอนาคตจะเกิดปัญหาข้อเข่าเสื่อมก่อนวัย
คนทั่วไปอาจเสื่อมตอน60 แต่ถ้าจขกท.ปล่อยทิ้งไว้อาจจะเสื่อมตอน40
ช่วงนั้นระหว่างตัดสินใจคุณหมอให้ใส่knee brace ที่มีแกนประกบข้างๆ ประคองเข่าเพื่อลดบาดเจ็บเพิ่ม
คุณหมอท่านแรกส่งจขกท.พบหมออีกท่านที่เป็นอาจารย์หมอเชี่ยวชาญด้านหัวเข่าโดยเฉพาะ
คุณหมอแนะนำวิธีดีมาก การผ่ามีหลายรูปแบบ จะเอาเอ็นเทียมมาต่อ หรือจะเอาเอ็นแฮมสตริงมาต่อ
คุณหมอยังให้เราเลือกเองได้ หลังจากพบคุณหมอวันนั้น คุณหมอแนะนำให้ไปผ่าคลีนิคนอกเวลาของโรงพยาบาลจุฬา
อาจใช้เวลาราวๆเกือบๆ2 เดือนที่จะได้ผ่า ในการต่อคิว แต่ตอนนั้นก็ยังไม่มีความคิดจะผ่าหรืออะไรเพราะคิดว่า ก็เดินได้
ลงบันไดได้ ใช้ชีวิตประจำวันได้ไม่มีปัญหาไร ประจวบเหมาะกับช่วงนั้นเรียนหนัก ไม่มีเวลาหยุดยาวๆ
กลัวว่าจะขาดเรียนขาดสอบ และคิดว่าต้องพักฟื้นนาน เลยพับโปรแกรมเรื่องผ่าตัดไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคม2561
ทิ้งไว้ราวๆ8 เดือน ผ่านมาจนวันที่10มีนาคม62 เป็นช่วงมีวันหยุดยาวพอดี 2 อาทิตย์ เลยตัดสินใจว่าจะผ่าช่วงนี้แหลาะ
เพราะการทิ้งมานานแรกๆรู้สึกไม่กระทบก็จริง แต่กระทบปัญหาการออกกำลังกายมาก แต่ก่อนจากเป็นคนไปฟิตเนสทุกวัน เหลือแค่เดือนละไม่ถึง5ครั้ง
กลัวการบาดเจ็บซ้ำ มันจี๊ดๆในหัวเข่าเวลาออกกำลังกายนานๆ เคยเป็นคนแอคทีฟมากแต่ก็กลายเป็นทำไรก็เริ่มกระทบความเจ็บที่เข่า
สุดท้ายตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดที่ โรงพยาบาลกรุงเทพ เวชศาสตร์การกีฬา(BASEM)แทนเพราะไม่ต้องรอคิว
ไปพบคุณหมอพร้อมผลMRIที่มีอยู่แล้วในมือ คุณหมอจับขยับทดสอบเข่าอีกครั้ง คุณหมอตกใจมากที่ทิ้งไว้นาน
คุณหมอแนะนำให้ผ่าเช่นเดิมจขกท.ตกลงผ่าในอาทิตย์ถัดมาเลย วันเข้ารับการผ่าไปนอนรอที่โรงพยาบาลแล้วตั้งแต่ช่วงบ่ายก่อนวันผ่า
มีการเจาะเลือด x-rayปอด ตรวจความพร้อมเบื้องต้น และผ่าตี5 ของวันที่15 มีนาคม 2562 โดยการบล็อคหลัง
เป็นการผ่าตัดครั้งแรกในชีวิตกลัวมาก สั่นไปหมด จำได้ว่าช่วงเข้าห้องผ่าตัดคุณหมอให้นอนตะแคง และบอกว่าให้งอตัว
และภาพก็ตัดไปเลย ไม่รู้เรื่องอะไรอีกทั้งน้น แต่พีคกว่านั้นจขกท.ตื่นมาตอนที่ยังผ่าไม่เสร็จ เลยรีบข่มตาหลับต่อเพราะกลัวมาก
ตื่นมาอีกทีคือกำลังถูกเข็นไปห้องพักฟื้น อากาศหนาวมากสั่นไปทั้งตัว จะมีท่อลมอุ่นๆมาสอดใต้ผ้าห่ม ห่มผ้า2ชั้นหนาๆนอนได้สัก40นาที
ก็ถูกเข็นไปห้อง x-ray และเข็นกลับมาอยู่ห้องตัวเอง ผ่าตัดรวมนอนรอดูอาการเกือบๆ3ชั่วโมง
ยังไม่รู้สึกใดๆกับท่อนล่าง ตอนนั้นต้องนอนราบไปก่อน พยาบาลบอกว่าถ้าเริ่มหายชาแล้วถึงจะปรับนั่งได้
ตอนนั้นหิวมาก จำได้ว่านอนกินแซนวิชด้วย วันนั้นนอนบนเตียงทั้งวัน ไม่ว่าจะเข้าห้องน้ำ เช็ดตัว ทุกอย่างทำอยู่บนเตียง
คุณหมอแวะมาหา พร้อมบอกผลการผ่าเรียบร้อยดี แผล3 จุดเล็กๆ(ผ่าตัดแบบส่องกล้อง)
สรุปคือ เอ็นไขว้หน้าขาดหายไปไม่เหลือซาก ใช้เอ็นจากแฮมสตริงแบ่งมาส่วนนึงมาทำเป็นเอ็นไขว้หน้า
และใช้น็อตยึดไว้ซึ่งน็อตจะสลายหายไปเองตามเวลา และเพิ่มเติมมีหมอนรองกระดูกหัวเข่าฉีก
ด้านในและนอกเสียหายเย็บซ่อม1 เข็ม ตัดทิ้ง30% ผลจากการทิ้งไว้นาน

(ภาพหลังจากออกจากห้องผ่าตัดพันผ้าหนาๆและประคบเย็นตลอด)
จนผ่านอีกวัน ยาชาหายหมดก็ยังไม่มีความปวด อัดยาแก้ปวดทุกมื้ออาหาร
คุณหมอมาเปิดผ้าออกให้ดูแผล แปะพลาสเตอร์กันน้ำ และจะได้ฝึกเดินด้วยไม้ค้ำยัน
ไม่อนุญาตให้ลงน้ำหนักข้างที่ผ่าเด็ดขาด ใส่Knee brace ล็อคเข่าไว้ที่ 0องศา กันเข่าบิด ใส่ตลอด24ชม.
บอกเลยว่าอันนี้แหลาะทรมานที่สุด ผ่าเข่ายังไม่ทรมานเท่าใส่ที่ล็อคเข่าตลอดเวลา

(อันนี้ตอนเอาผ้าพันออกและแปะพลาสเตอร์กันน้ำแทน แผลเล็กมากๆแต่เข่าบวม)

(ที่ล็อคเข่าจอมอึดอัด)
วันก่อนกลับบ้านมีกายภาพฝึกเดินด้วยไม้ค้ำยัน เดินขึ้นลงบันได ขึ้นรถยังไง
ตอนนี้คือห้ามงอเข่า ใส่knee brace ตลอดหลังกลับบ้าน ตอนอาบน้ำถอดได้ นั่งยืดขาตลอดเวลา และประคบเย็นตลอดเวลา
หมอให้ยาแก้ปวดมา3อย่าง แทบไม่ได้ทานเลยไม่มีความปวดแผลอะไรเลยยกเว้นเวลาเดินเยอะๆ
คุณหมอให้ยานอนหลับมาเผื่อปวดจนนอนไม่ได้ จขกท.กินยานอนหลับทุกคืน ทรมานเพราะใส่knee brace เวลานอนเหมือนโดนล่ามขา
ช่วงนั้นก็จะนั่งๆนอนๆไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน กายภาพด้วยตนเองที่บ้านคือยกขาขึ้นลง
และฝึกงอให้เท่าที่ทำได้โดยคุณหมอกำหนดให้งอได้ถึง 90 องศาซึ่งตอนนั้น50องศาก็เหงื่อแตกแล้ว

(ไปนั่งที่ไหนก็ต้องยืดขาตลอดเวลา บางทีนั่งนานๆก็แอบปลดknee braceมีรอยช้ำบริเวณหัวเข่าและยังบวมๆอยู่)

(ประคบเย็นมี4 อันแช่วนๆใช้ไปเรื่อยๆตลอดทั้งวันทั้งคืน)
อึดอัดตลอดเวลา2 อาทิตย์จนไปเจอหมออีกครั้งตัดไหม หมอก็ยังคงไม่ให้ถอดknee brace
ใส่ไปอีก2อาทิตย์และไม้ค้ำยันก็ยังคู่กายต่อไปอีก 2 อาทิตย์
ระหว่างนั้นกายภาพอาทิตย์ละ2 ครั้งกระตุ้นไฟฟ้า เลเซอร์ลดบวม และกายภาพท่าพื้นฐานหัวเข่าเริ่มบวมน้องลงแต่จะเห็นได้ว่า
กล้ามเนื้อขาลีบ การกระตุ้นไฟฟ้าจริงๆก็ช่วยลดการลีบของขา ช่วงตอนนั้นขาเล็กลีบลงไปมากเพราะไม่ได้ลงน้ำหนักเลย

(ต้นขากล้ามเนื้อหายและลีบลงไปมาก)
แผลเริ่มแห้งก็หาวิธีลดรอยแผลเป็นทันที อยากแนะนำใครขี้เกียจทาครีมแบบจขกท.
แปะเป็นแผ่นเจลแทน อยู่ได้28 วันล้างสบู่อ่อนๆทุกวันแล้วนำมาใช้ซ้ำได้

จบครบอีกสองอาทิตย์นัดคุณนัดหมออีกครั้ง เป็นช่วงครบ1เดือนพอดีหลังผ่าตัด
ตอนนี้หมอปล่อยให้งอตามสะดวก เท่าที่ไหว ซึ่งตอนนั้นก็งอได้90องศาแล้ว
เป็นเรื่องที่ดีมาก และทิ้งไม้เท้า knee braceก็ไม่ต้องใส่อีกแล้ว แอบโล่งๆ เหยียบพื้นแบบกังวลๆในวันแรกนิดหน่อย
แต่รู้สึกเบาตัวมากที่ไม่ต้องใส่ที่ล็อคเข่าแล้ว อัพlevelการกายภาพหนักขึ้น ออกกำลังหนักขึ้นเดินลู่วิ่งAnti-Gravity(Alter-G) จะเป็นลู่อัดลมเข้าไปช่วยพยุงตัวเราไม่ให้ลงน้ำหนักมากเกินไป เพื่อเซฟหมอนรองเข่าที่ยังซ่อมตัวเองจากการถูกเย็บอยู่ และมีฝึกการทรงตัวทิ้งน้ำหนักขาข้างที่ผ่า
และยังคงกระตุ้นไฟฟ้า เลเซอร์ลดบวมต่อไปอีก คุณหมอแนะนำให้กายภาพไปจนครบ6 เดือนเลยก็ได้แล้วแต่ความสะดวกของคนไข้
และจะเริ่มปั่นจักรยาน และวิ่งจ็อกกิ้งเบาได้ในเดือนถัดๆไปตามลำดับของร่างกายเร่งไม่ได้นะคะ คุณหมอบอกว่าร่างกายจะซ่อมแซมด้วยตัวมันเอง
ซึ่งสำหรับจขกท. รู้สึกว่าตัวเองฟื้นตัวเร็วมาก สามารถเดินเหินกลับไปเรียน ไปขับรถได้ ใช้ชีวิตไปเที่ยวไปไหนมาไหน แต่งดเดินนานๆนะคะ

(ติดเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า พร้อมกับเกร็งขากดเข่า20นาที)
แผลปัจจุบันหลังครบ1 เดือนครึ่ง

อาการตอนนี้เรียกว่า จะปกติเลยก็ได้ ใน80% ในตอนนี้มีแค่
ยังต้องระวังการขึ้ลงบันไดที่ยังเดินก้าวสลับขาไม่ได้ต้องขึ้นทีละขั้น และระวังการหมุนตัวเร็ว กระโดดวิ่งยังงดอยู่ การผ่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย
ชีวิตดีขึ้นเยอะมากแม้เพิ่งผ่ามาเดือนกว่าๆ ร่างกายเราต้องดูแลรักษานะคะ ทิ้งไว้นานก็มีแต่จะยิ่งพังไปกันใหญ่
ตอนนี้ใครเป็นอยู่อย่าปล่อยทิ้งไว้นานนะคะ มีโอกาสผ่าได้รีบจัดการ เพราะว่าโดยส่วนใหญ่เอ็นไขว้หน้าขาด ทิ้งไว้นานจะมีปัญหาหมอน
รองกระดูกเสียหายตามมาตลอด อย่ากลัวนะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ หวังว่าข้อมูลของจขกท.จะช่วยคนอื่นๆได้นะคะ
เพราะก่อนจะผ่าจขกท.ก็สิงอยู่ในพันทิปหาข้อมูลอยู่นานกว่าจะตัดสินใจอยู่เหมือนกัน
ขอบคุณค่าาาาอ่านจนจบเลย พิมพ์ยาวมากหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่ใครหลายๆคนนะคะ : -)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สรุปค่าใช้จ่าย (คร่าวๆ)
MRI ~12,000+
ผ่าตัด~ 270,000บาท
กายภาพอาทิตย์ละ2 ครั้ง
กายภาพหลังผ่าตัด4อาทิตย์แรก 2,500 + (ต่อครั้ง)
กายภาพหลังครบ1เดือน-6 เดือน 3,500 + (ต่อครั้ง)
ประสบการณ์ผ่าตัดส่องกล้องเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าขาด (ACL Recon)
ใช้เส้นเอ็นแฮมสตริง(ที่อยู่ด้านหลัง) มาทดแทนเอ็นไขว้หน้าที่ขาดไป เล่ายาวหน่อยนะคะ
เริ่มแรกสาเหตุเลยคือเกิดอุบัติเหตุ จักรยานยนต์ล้ม ล้มแบบด้านหน้าหัวเข่าครูดไปกับพื้นตอนแรกx-rayไม่เจอ
เจอแค่กล้ามเนื้อบาดเจ็บนิดหน่อยเลยรอเวลาผ่านไป 3อาทิตย์ อาการไม่ดีขึ้นหมอห้องฉุกเฉิน ส่งหาหมอเชี่ยวชาญด้านหัวเข่า
วันที่พบคุณหมอ คุณหมอเพียงจับเข่าไปมาหมุนๆบอกว่าขาดแน่นอนแต่ต้อง MRI เพื่อให้แน่ใจผลออกมาว่า“complete tear of ACL”
หมอเลยแนะนำว่าอายุเท่านี้ผ่าไปเลยเพื่อไม่ให้ในอนาคตจะเกิดปัญหาข้อเข่าเสื่อมก่อนวัย
คนทั่วไปอาจเสื่อมตอน60 แต่ถ้าจขกท.ปล่อยทิ้งไว้อาจจะเสื่อมตอน40
ช่วงนั้นระหว่างตัดสินใจคุณหมอให้ใส่knee brace ที่มีแกนประกบข้างๆ ประคองเข่าเพื่อลดบาดเจ็บเพิ่ม
คุณหมอท่านแรกส่งจขกท.พบหมออีกท่านที่เป็นอาจารย์หมอเชี่ยวชาญด้านหัวเข่าโดยเฉพาะ
คุณหมอแนะนำวิธีดีมาก การผ่ามีหลายรูปแบบ จะเอาเอ็นเทียมมาต่อ หรือจะเอาเอ็นแฮมสตริงมาต่อ
คุณหมอยังให้เราเลือกเองได้ หลังจากพบคุณหมอวันนั้น คุณหมอแนะนำให้ไปผ่าคลีนิคนอกเวลาของโรงพยาบาลจุฬา
อาจใช้เวลาราวๆเกือบๆ2 เดือนที่จะได้ผ่า ในการต่อคิว แต่ตอนนั้นก็ยังไม่มีความคิดจะผ่าหรืออะไรเพราะคิดว่า ก็เดินได้
ลงบันไดได้ ใช้ชีวิตประจำวันได้ไม่มีปัญหาไร ประจวบเหมาะกับช่วงนั้นเรียนหนัก ไม่มีเวลาหยุดยาวๆ
กลัวว่าจะขาดเรียนขาดสอบ และคิดว่าต้องพักฟื้นนาน เลยพับโปรแกรมเรื่องผ่าตัดไปตั้งแต่เดือนกรกฎาคม2561
ทิ้งไว้ราวๆ8 เดือน ผ่านมาจนวันที่10มีนาคม62 เป็นช่วงมีวันหยุดยาวพอดี 2 อาทิตย์ เลยตัดสินใจว่าจะผ่าช่วงนี้แหลาะ
เพราะการทิ้งมานานแรกๆรู้สึกไม่กระทบก็จริง แต่กระทบปัญหาการออกกำลังกายมาก แต่ก่อนจากเป็นคนไปฟิตเนสทุกวัน เหลือแค่เดือนละไม่ถึง5ครั้ง
กลัวการบาดเจ็บซ้ำ มันจี๊ดๆในหัวเข่าเวลาออกกำลังกายนานๆ เคยเป็นคนแอคทีฟมากแต่ก็กลายเป็นทำไรก็เริ่มกระทบความเจ็บที่เข่า
สุดท้ายตัดสินใจเข้ารับการผ่าตัดที่ โรงพยาบาลกรุงเทพ เวชศาสตร์การกีฬา(BASEM)แทนเพราะไม่ต้องรอคิว
ไปพบคุณหมอพร้อมผลMRIที่มีอยู่แล้วในมือ คุณหมอจับขยับทดสอบเข่าอีกครั้ง คุณหมอตกใจมากที่ทิ้งไว้นาน
คุณหมอแนะนำให้ผ่าเช่นเดิมจขกท.ตกลงผ่าในอาทิตย์ถัดมาเลย วันเข้ารับการผ่าไปนอนรอที่โรงพยาบาลแล้วตั้งแต่ช่วงบ่ายก่อนวันผ่า
มีการเจาะเลือด x-rayปอด ตรวจความพร้อมเบื้องต้น และผ่าตี5 ของวันที่15 มีนาคม 2562 โดยการบล็อคหลัง
เป็นการผ่าตัดครั้งแรกในชีวิตกลัวมาก สั่นไปหมด จำได้ว่าช่วงเข้าห้องผ่าตัดคุณหมอให้นอนตะแคง และบอกว่าให้งอตัว
และภาพก็ตัดไปเลย ไม่รู้เรื่องอะไรอีกทั้งน้น แต่พีคกว่านั้นจขกท.ตื่นมาตอนที่ยังผ่าไม่เสร็จ เลยรีบข่มตาหลับต่อเพราะกลัวมาก
ตื่นมาอีกทีคือกำลังถูกเข็นไปห้องพักฟื้น อากาศหนาวมากสั่นไปทั้งตัว จะมีท่อลมอุ่นๆมาสอดใต้ผ้าห่ม ห่มผ้า2ชั้นหนาๆนอนได้สัก40นาที
ก็ถูกเข็นไปห้อง x-ray และเข็นกลับมาอยู่ห้องตัวเอง ผ่าตัดรวมนอนรอดูอาการเกือบๆ3ชั่วโมง
ยังไม่รู้สึกใดๆกับท่อนล่าง ตอนนั้นต้องนอนราบไปก่อน พยาบาลบอกว่าถ้าเริ่มหายชาแล้วถึงจะปรับนั่งได้
ตอนนั้นหิวมาก จำได้ว่านอนกินแซนวิชด้วย วันนั้นนอนบนเตียงทั้งวัน ไม่ว่าจะเข้าห้องน้ำ เช็ดตัว ทุกอย่างทำอยู่บนเตียง
คุณหมอแวะมาหา พร้อมบอกผลการผ่าเรียบร้อยดี แผล3 จุดเล็กๆ(ผ่าตัดแบบส่องกล้อง)
สรุปคือ เอ็นไขว้หน้าขาดหายไปไม่เหลือซาก ใช้เอ็นจากแฮมสตริงแบ่งมาส่วนนึงมาทำเป็นเอ็นไขว้หน้า
และใช้น็อตยึดไว้ซึ่งน็อตจะสลายหายไปเองตามเวลา และเพิ่มเติมมีหมอนรองกระดูกหัวเข่าฉีก
ด้านในและนอกเสียหายเย็บซ่อม1 เข็ม ตัดทิ้ง30% ผลจากการทิ้งไว้นาน
(ภาพหลังจากออกจากห้องผ่าตัดพันผ้าหนาๆและประคบเย็นตลอด)
จนผ่านอีกวัน ยาชาหายหมดก็ยังไม่มีความปวด อัดยาแก้ปวดทุกมื้ออาหาร
คุณหมอมาเปิดผ้าออกให้ดูแผล แปะพลาสเตอร์กันน้ำ และจะได้ฝึกเดินด้วยไม้ค้ำยัน
ไม่อนุญาตให้ลงน้ำหนักข้างที่ผ่าเด็ดขาด ใส่Knee brace ล็อคเข่าไว้ที่ 0องศา กันเข่าบิด ใส่ตลอด24ชม.
บอกเลยว่าอันนี้แหลาะทรมานที่สุด ผ่าเข่ายังไม่ทรมานเท่าใส่ที่ล็อคเข่าตลอดเวลา
(อันนี้ตอนเอาผ้าพันออกและแปะพลาสเตอร์กันน้ำแทน แผลเล็กมากๆแต่เข่าบวม)
(ที่ล็อคเข่าจอมอึดอัด)
วันก่อนกลับบ้านมีกายภาพฝึกเดินด้วยไม้ค้ำยัน เดินขึ้นลงบันได ขึ้นรถยังไง
ตอนนี้คือห้ามงอเข่า ใส่knee brace ตลอดหลังกลับบ้าน ตอนอาบน้ำถอดได้ นั่งยืดขาตลอดเวลา และประคบเย็นตลอดเวลา
หมอให้ยาแก้ปวดมา3อย่าง แทบไม่ได้ทานเลยไม่มีความปวดแผลอะไรเลยยกเว้นเวลาเดินเยอะๆ
คุณหมอให้ยานอนหลับมาเผื่อปวดจนนอนไม่ได้ จขกท.กินยานอนหลับทุกคืน ทรมานเพราะใส่knee brace เวลานอนเหมือนโดนล่ามขา
ช่วงนั้นก็จะนั่งๆนอนๆไม่ได้ออกจากบ้านไปไหน กายภาพด้วยตนเองที่บ้านคือยกขาขึ้นลง
และฝึกงอให้เท่าที่ทำได้โดยคุณหมอกำหนดให้งอได้ถึง 90 องศาซึ่งตอนนั้น50องศาก็เหงื่อแตกแล้ว
(ไปนั่งที่ไหนก็ต้องยืดขาตลอดเวลา บางทีนั่งนานๆก็แอบปลดknee braceมีรอยช้ำบริเวณหัวเข่าและยังบวมๆอยู่)
(ประคบเย็นมี4 อันแช่วนๆใช้ไปเรื่อยๆตลอดทั้งวันทั้งคืน)
อึดอัดตลอดเวลา2 อาทิตย์จนไปเจอหมออีกครั้งตัดไหม หมอก็ยังคงไม่ให้ถอดknee brace
ใส่ไปอีก2อาทิตย์และไม้ค้ำยันก็ยังคู่กายต่อไปอีก 2 อาทิตย์
ระหว่างนั้นกายภาพอาทิตย์ละ2 ครั้งกระตุ้นไฟฟ้า เลเซอร์ลดบวม และกายภาพท่าพื้นฐานหัวเข่าเริ่มบวมน้องลงแต่จะเห็นได้ว่า
กล้ามเนื้อขาลีบ การกระตุ้นไฟฟ้าจริงๆก็ช่วยลดการลีบของขา ช่วงตอนนั้นขาเล็กลีบลงไปมากเพราะไม่ได้ลงน้ำหนักเลย
(ต้นขากล้ามเนื้อหายและลีบลงไปมาก)
แผลเริ่มแห้งก็หาวิธีลดรอยแผลเป็นทันที อยากแนะนำใครขี้เกียจทาครีมแบบจขกท.
แปะเป็นแผ่นเจลแทน อยู่ได้28 วันล้างสบู่อ่อนๆทุกวันแล้วนำมาใช้ซ้ำได้
จบครบอีกสองอาทิตย์นัดคุณนัดหมออีกครั้ง เป็นช่วงครบ1เดือนพอดีหลังผ่าตัด
ตอนนี้หมอปล่อยให้งอตามสะดวก เท่าที่ไหว ซึ่งตอนนั้นก็งอได้90องศาแล้ว
เป็นเรื่องที่ดีมาก และทิ้งไม้เท้า knee braceก็ไม่ต้องใส่อีกแล้ว แอบโล่งๆ เหยียบพื้นแบบกังวลๆในวันแรกนิดหน่อย
แต่รู้สึกเบาตัวมากที่ไม่ต้องใส่ที่ล็อคเข่าแล้ว อัพlevelการกายภาพหนักขึ้น ออกกำลังหนักขึ้นเดินลู่วิ่งAnti-Gravity(Alter-G) จะเป็นลู่อัดลมเข้าไปช่วยพยุงตัวเราไม่ให้ลงน้ำหนักมากเกินไป เพื่อเซฟหมอนรองเข่าที่ยังซ่อมตัวเองจากการถูกเย็บอยู่ และมีฝึกการทรงตัวทิ้งน้ำหนักขาข้างที่ผ่า
และยังคงกระตุ้นไฟฟ้า เลเซอร์ลดบวมต่อไปอีก คุณหมอแนะนำให้กายภาพไปจนครบ6 เดือนเลยก็ได้แล้วแต่ความสะดวกของคนไข้
และจะเริ่มปั่นจักรยาน และวิ่งจ็อกกิ้งเบาได้ในเดือนถัดๆไปตามลำดับของร่างกายเร่งไม่ได้นะคะ คุณหมอบอกว่าร่างกายจะซ่อมแซมด้วยตัวมันเอง
ซึ่งสำหรับจขกท. รู้สึกว่าตัวเองฟื้นตัวเร็วมาก สามารถเดินเหินกลับไปเรียน ไปขับรถได้ ใช้ชีวิตไปเที่ยวไปไหนมาไหน แต่งดเดินนานๆนะคะ
(ติดเครื่องกระตุ้นไฟฟ้า พร้อมกับเกร็งขากดเข่า20นาที)
แผลปัจจุบันหลังครบ1 เดือนครึ่ง
อาการตอนนี้เรียกว่า จะปกติเลยก็ได้ ใน80% ในตอนนี้มีแค่
ยังต้องระวังการขึ้ลงบันไดที่ยังเดินก้าวสลับขาไม่ได้ต้องขึ้นทีละขั้น และระวังการหมุนตัวเร็ว กระโดดวิ่งยังงดอยู่ การผ่าไม่น่ากลัวอย่างที่คิดเลย
ชีวิตดีขึ้นเยอะมากแม้เพิ่งผ่ามาเดือนกว่าๆ ร่างกายเราต้องดูแลรักษานะคะ ทิ้งไว้นานก็มีแต่จะยิ่งพังไปกันใหญ่
ตอนนี้ใครเป็นอยู่อย่าปล่อยทิ้งไว้นานนะคะ มีโอกาสผ่าได้รีบจัดการ เพราะว่าโดยส่วนใหญ่เอ็นไขว้หน้าขาด ทิ้งไว้นานจะมีปัญหาหมอน
รองกระดูกเสียหายตามมาตลอด อย่ากลัวนะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ หวังว่าข้อมูลของจขกท.จะช่วยคนอื่นๆได้นะคะ
เพราะก่อนจะผ่าจขกท.ก็สิงอยู่ในพันทิปหาข้อมูลอยู่นานกว่าจะตัดสินใจอยู่เหมือนกัน
ขอบคุณค่าาาาอ่านจนจบเลย พิมพ์ยาวมากหวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์แก่ใครหลายๆคนนะคะ : -)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้