เคยเป็นไหมคะ เวลาที่เรารู้สึกว่าเหนื่อยกับการเรียน ทำงาน ทีเรื่องท้อใจหรือรู้สึกว่าร่างกายหมดแรง อยากหลักหนีความวุ่นวายไปที่ใดสักที่หนึ่ง... ให้ร่างกายได้พักผ่อน เปิดโลกใหม่ ปล่อยใจไปตามธรรมชาติ สัมผัสกลิ่นอายวัฒนธรรมวิถีชีวิตชนบทที่เงียบสงบ และผสมผสานความน่าตื่นเต้นแปลกใหม่

ฮั่นนนนนนนนนแน่ เชื่อว่าหลายๆคนคงต้องเป็นบ้างหล่ะ
พวกเราเรียนมหาลัย ปี 3 แล้วค่ะ ม.สงขลานครินทร์ ที่หาดใหญ่ แน่นอนค่ะช่วงเรียน ปี1 ปี 2 ไปเที่ยวทะเล ลงเกาะบ่อยมาก ไหนๆมาเรียภาคใต้ทั้งที ไปเที่ยวทะเลให้คุ้มไปเลย ฮ่าๆ แต่พักหลังๆมานี้อยากจะเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง หาข้อมูลเรื่อยๆ ซักพักเห็นเพื่อนใน Facebook โพสรูปภาพไป ล่องเรือชมถ้ำเลสเตโกดอน ไปเที่ยวชิลล์ๆที่ทุ่งหว้า มาคิดๆจริงๆสตูลมีมากกว่าทะเลสวยๆนะคะ ลงความเห็นแล้วเพื่อนๆในแก๊งค์ประทับใจเห็นด้วยเหมือนกันค่ะ เลยตัดสินใจจะไปเที่ยวสตูลกันค่ะ อีกอย่างใกล้ๆด้วยเก็บข้อมูลแล้วพร้อมมาก!!! เสาร์ อาทิตย์นี้ ลุยเลยยยย 5 สาว ตะลอนทุ่งหว้า 2 วัน 1 คืน
** ขอออกตัวก่อนนะคะรูปอาจจะไม่ไ้สวยงาม อลังการมากมายเท่าไหร่ตามความสามารถน้อยๆของพวกเราเลยแต่น่ารักแน่นอน

**
6/04/2019

เดินทางออกจากหาดใหญ่ เช้าวันเสาร์ที่แสนสดใสไม่รีบไม่ร้อน และด้วยความไม่รีบนี่แหละค่ะทุกคน พวกเราไม่ทันรถตู้หาดใหญ่-ทุ่งหว้า รอบแรก 08.30 น. (ตลาดเกษตร) ต้องบอกก่อนว่าก่อนหน้านี้เราได้มีการโทรนัดกับไกด์ท้องถิ่นไว้เรียบร้อยแล้วว่าจะขึ้นรถเที่ยวแรกและถึงทุ่งหว้าให้ทันตามคุยไว้ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราสายชิลล์อยู่แล้ว ไปรอบ 09.30 น. ได้จ่ายเงินค่ารถคนละ130บาท โทรบอกไกด์เรียบร้อย ซื้อตั๋ว รอขึ้นรถกันเลยยยย
ถึงแล้วววว!!! ขออนุญาตพาทุกคนเข้าสู่บรรยากาศชุมชนทุ่งหว้าค่ะ และนี่คือไกด์นำเที่ยวของเราวันนี้ค่ะ บังเฉด นั่นเองงงง
กิจกรรมแรกที่บังจะพาไปทำก็คือ กินนนนน

เราจะไปทานมื้อเที่ยงที่จุดชมวิวท่าอ้อย ระหว่างเดินทางไกด์จะเล่าประวัติความเป็นมาของชุมชนโดยในอดีตทุ่งหว้าหรือสุไหงอูเป มีความเจริญรุ่งเรืองมากๆ ถือเป็นเมืองท่าค้าขายที่สำคัญ และมีสินค้าส่งออกจำนวนมาก อีกทั้งยังได้ขนานนามว่าเป็น “ปีนังน้อย” อีกด้วยยยย (ลืมบอกไปเลยค่ะ เราจะตะลอนทุ่งหว้าด้วยรถสองแถวกันนะคะ ชิลล์สุดๆไปเลย)

มื้อแรกของพวกเราที่นี่ค่ะ อาหารพื้นๆผสมผสานกับอาหารภาคใต้ #แนะนำเมนูกันก่อนเด้อ แกงส้มปลานิล ผัดผักรวมมิตร ปลาแดดเดียวทอด และสุดท้ายน้ำพริกผักค่ะ รสชาติอาหารก็คือโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ แน่นอนค่ะว่า อร่อยสุดๆบวกกับได้นั่งดื่มด่ำบรรยากาศริมน้ำ เพิ่มข้าวกันคนละสองรอบตามระเบียบบบบบ

#อิ่มหนำสำราญแล้วลุยกิจกรรมกันต่อเลย ไปทำขนมผูกรัก กันเถอะ ขึ้นชื่อเป็นของฝากเมืองสตูลกันเลยทีเดียว จุดนี้พวกเราได้ฝึกทำขนมร่วมกับชาวบ้านทั้งทำทั้งกิน อิ่มดีจริงๆทริปนี้ นอกจากชาวบ้านจะสาธิตการทำแล้ว ยังมีส่วนที่ทำเพื่อนำไปขายให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย บอกได้เลยว่าเป็นการสร้างรายได้ภายในชุมชนได้ดีทีเดียวค่ะ
มาต่อ ผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติผืนเดียวในโลกกกกกกก นอกจากได้ทดลองทำเองแล้วยังได้นำกลับบ้านเป็นของที่ระลึกอีกด้วย สีผ้ามัดย้อมที่นี่จะมาจากลูกตะบูนจากป่าชายเลน เป็นการใช้ทรัพยากรในพื้นที่นั่นเอง ต้องการลายไหน สร้างสรรค์ จินตนาการกันเองเลย
สนุกมากๆค่ะเพราะต้องลุ้นว่าจะได้ลายไหนหรือจะเป็นลายรึป่าวนะ ในกิจกรรมส่วนนี้เด็กๆจะชอบมากๆ
หากมาเป็นครอบครัวพลาดไม่ได้เลยนะคะขอบอก^^
ได้เวลาไปเยี่ยมชม ชวนชิม ที่ CHIM MELON ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน จึงทำให้พืชไม่เกิดโรค
จุดเด่นของที่นี่คือ รสชาติของเมล่อนที่หวานฉ่ำ การนำผลผลิตมาดัดแปรงเป็นผลิตภัณฑ์จากฟาร์ม รวมถึงการออกแบบลวดลายของผลเมล่อนค่ะ หากใครสนใจสามารถซื้อแล้วให้ทางผู้ดูแลฟาร์มสลักลายไว้ให้ได้ เมื่อผลเมล่อนของเราโตเต็มที่และมีลวดลายสวยงามตามที่ต้องการแล้ว ทางฟาร์มมีบริการ

จัดส่งไปให้ที่บ้านด้วยนะคะ
ถึงเวลาไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อุทยานธรณีสตูล พิพิธภัณฑ์ช้างดึกดำบรรพ์ทุ่งหว้า ที่มีอายุกว่า 500 ล้านปี!!!!!!!
ไกด์ก็จะเล่าเรื่องความเป็นมาของการค้นพบซากฟอสซิล และพาชมนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติช้างเผือกคู่พระบารมี ร.9
เดินต่อมาห้องถัดไปจะเป็นประวัติความเป็นมาของอำเภอทุ่งหว้าอย่างละเอียด รวมถึงวัฒนธรรมประเพณีที่ผสมผสานกันระหว่างไทย จีน และมุสลิมซึ่งแบบจำลองที่เห็นนั่นเราจะได้ไปสัมผัสจริงๆที่ถ้ำเลสเตโกดอนในพรุ่งนี้ค่าา….ความตื่นเต้นเริ่มมาาา
ออกจากพิพิธภัณฑ์มุ่งหน้าไปยัง สวนควนข้อง ต้นหมอข้าวหม้อแกงลิง กันต่อเลย พี่เจ้าของสวนจะมีน้ำตระไคร้เย็นๆ กับข้าวเหนียวหม้อข้าวหม้อแกงลิง ที่หาทานได้ยาก ไว้ต้อนรับทุกคนอีกด้วย
ระหว่างทาน พี่เขาก็จะเล่าความเป็นมาทำไมถึงมาสนใจที่จะปลูก รวมถึงอธิบายและสาธิตขั้นตอนการผสมพันธุ์ต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงและการดูแลรักษาด้วย
ไปลองทำข้าวเหนียวหม้อข้าวหม้อแกงลิงกันต่อเลยยยยย ทำเองกินเอง กินอีกแล้ว
และช่วงเวลาที่พวกเรารอคอยและตื่นเต้นสุดๆก็มาถึงแล้ววววว กระโดดขึ้นรถพร้อมเดินทางสู่ที่พัก
โฮมสเตย์คุณปรีดา ท่ามกลางธรรมชาติ ป่าไม้ หุบเขา เขียวขจี ที่เงียบสงบ เหมาะกับการมาพักผ่อน เรียกได้ว่าถ้าใครมีบ้านอยู่แบบบ้านนอกไกลตัวเมือง หากได้มาพักที่นี้จะให้ความรู้สึกเหมือนกลับบ้านเลยค่ะ
พอถึงหน้าบ้านก็มีคุณลุง คุณป้า ทุกคนออกมาต้อนรับ ยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตรไมตรี พร้อมกับพูดว่า ” ข้าวเย็น พร้อมแล้วจ้า”
นี่คือภาพห้องนอนของเราค่ะ อิ่มสบายท้องแล้ววววววว Good Night
[CR] “ชิลล์สุด เที่ยวสตูลไม่เหมือนใคร ไปย้อนรอยทุ่งหว้า 500ล้านปี ล่องเรือชมถ้ำเล นอนโฮมสเตย์ สัมผัสชีวิตคนบ้านบ้าน”
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้