“ลาบเป็ด“
ของพรรณ์นั้น ใครเขาจะทำกินกัน ซาลาเปาขนมจีบกินง่ายกว่าเยอะ
..
เช้าตรู่วันหนึ่ง กลางเดือน
มีนาคมผมได้เจอคุณหมอวิจารณ์ที่ล็อบบี้โรงแรมเอสซีพาร์ค
การสนทนาเป็นไปสักชั่วโมง มีบทสนทนาหลายเรื่อง..
..แต่เรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกตราตรึงและระคนตระหนก
ท่านเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ที่ไปสหรัฐอเมริกาครั้งแรกๆ
ตอนที่ไปเรียนเมื่อสัก 50 ปีก่อน เทียบกับการไปสัมมนาครั้งที่แล้ว.
สิ่งที่ท่านพบคือ สมัยก่อนนั้นคนส่วนใหญ่ของอเมริกามีหุ่นร่างเพรียวดี
แต่ปัจจุบัน คนอเมริกัน มีภาวะเป็นโรคอ้วน
กว่า 40%
แทบทั้งหมดเป็นคนกลุ่มล่างของสังคมชาวอเมริกา(หมายถึงผู้มีรายได้น้อยและมีการศึกษาต่ำ)นั่นหมายถึง
ประชากรเหล่านั้นมีความสุขภาพดีน้อยลง
ซึ่งต่างจากคนชั้นกลางที่มีฐานะและมีการศึกษาคนเหล่านั้นกลับมีหุ่นร่างเพรียวดี
เพราะ เข้าใจเรื่องการดูแลสุขภาพและ เข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ
..
ที่น่าคิดคือ ..ภาพมันตัดกันกับ เมื่อ 100-200 ปีก่อน
คนกลุ่มล่างของสังคม(หมายถึงผู้ที่มีรายได้น้อยและมีการศึกษาต่ำรวมทั้งกลุ่มคนที่เป็นทาสด้วย)
กลับมีร่างกายซูบผอม
..
เกิดอะไรขึ้น? ..
ชนกลุ่มล่างของอเมริกา ถูกกลไกของระบบอาหารอุตสากรรมเข้าครอบ.
พวกเขาเข้าถึงอาหารที่มีราคาถูกแต่พลังงานสูง
เข้าถึงได้ง่ายจนอยู่ในวงจรชีวิตทุกวี่วัน.
ผมรู้สึกว่าคนเหล่านั้นไม่ต่างจากทาสในอดีต คือ พวกเขาถูกควบคุมและ
ตกอยู่ในสภาวะที่ไม่มีทางเลือกมากนัก
พวกเขาหนีไม่พ้นจากมืออันเติบใหญ่ของผู้ผลิตอาหารแบบอุตสากรรม
หนีไม่ผลจากกลไกตลาดกลไกสังคม
แน่ละ อาจจะให้เหตุผลว่า
ระบบอาหารอุตสาหกรรมทำให้ ประชากรไม่อดอยาก
แต่ขณะที่พวกเขามั่งคั่งขึ้นประชากรกลับสูญเสียศักยภาพในการเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ
ไทยก็ถูกกินหัวไปด้วย เด็กเจเนอเรชั่นใหม่กำลังเผชิญหน้ากับสิ่งนี้
ร้านสะดวกซื้ออยู่ทุกหนทุกแห่ง แทบจะ เสิร์ฟถึงปาก
เด็กๆรู้จักผักไม่กี่ชนิด รู้จักอาหารไม่กี่อย่าง
และแทบไม่รู้จักวิธีทำอาหารเอาเสียเลย

บทความจากเพจ วิเชียร ไชยบัง
https://www.facebook.com/wichian.chaiyabang/
ลาบเป็ด
ของพรรณ์นั้น ใครเขาจะทำกินกัน ซาลาเปาขนมจีบกินง่ายกว่าเยอะ
..
เช้าตรู่วันหนึ่ง กลางเดือน
มีนาคมผมได้เจอคุณหมอวิจารณ์ที่ล็อบบี้โรงแรมเอสซีพาร์ค
การสนทนาเป็นไปสักชั่วโมง มีบทสนทนาหลายเรื่อง..
..แต่เรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกตราตรึงและระคนตระหนก
ท่านเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ที่ไปสหรัฐอเมริกาครั้งแรกๆ
ตอนที่ไปเรียนเมื่อสัก 50 ปีก่อน เทียบกับการไปสัมมนาครั้งที่แล้ว.
สิ่งที่ท่านพบคือ สมัยก่อนนั้นคนส่วนใหญ่ของอเมริกามีหุ่นร่างเพรียวดี
แต่ปัจจุบัน คนอเมริกัน มีภาวะเป็นโรคอ้วน
กว่า 40%
แทบทั้งหมดเป็นคนกลุ่มล่างของสังคมชาวอเมริกา(หมายถึงผู้มีรายได้น้อยและมีการศึกษาต่ำ)นั่นหมายถึง
ประชากรเหล่านั้นมีความสุขภาพดีน้อยลง
ซึ่งต่างจากคนชั้นกลางที่มีฐานะและมีการศึกษาคนเหล่านั้นกลับมีหุ่นร่างเพรียวดี
เพราะ เข้าใจเรื่องการดูแลสุขภาพและ เข้าถึงอาหารที่มีคุณภาพ
..
ที่น่าคิดคือ ..ภาพมันตัดกันกับ เมื่อ 100-200 ปีก่อน
คนกลุ่มล่างของสังคม(หมายถึงผู้ที่มีรายได้น้อยและมีการศึกษาต่ำรวมทั้งกลุ่มคนที่เป็นทาสด้วย)
กลับมีร่างกายซูบผอม
..
เกิดอะไรขึ้น? ..
ชนกลุ่มล่างของอเมริกา ถูกกลไกของระบบอาหารอุตสากรรมเข้าครอบ.
พวกเขาเข้าถึงอาหารที่มีราคาถูกแต่พลังงานสูง
เข้าถึงได้ง่ายจนอยู่ในวงจรชีวิตทุกวี่วัน.
ผมรู้สึกว่าคนเหล่านั้นไม่ต่างจากทาสในอดีต คือ พวกเขาถูกควบคุมและ
ตกอยู่ในสภาวะที่ไม่มีทางเลือกมากนัก
พวกเขาหนีไม่พ้นจากมืออันเติบใหญ่ของผู้ผลิตอาหารแบบอุตสากรรม
หนีไม่ผลจากกลไกตลาดกลไกสังคม
แน่ละ อาจจะให้เหตุผลว่า
ระบบอาหารอุตสาหกรรมทำให้ ประชากรไม่อดอยาก
แต่ขณะที่พวกเขามั่งคั่งขึ้นประชากรกลับสูญเสียศักยภาพในการเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพ
ไทยก็ถูกกินหัวไปด้วย เด็กเจเนอเรชั่นใหม่กำลังเผชิญหน้ากับสิ่งนี้
ร้านสะดวกซื้ออยู่ทุกหนทุกแห่ง แทบจะ เสิร์ฟถึงปาก
เด็กๆรู้จักผักไม่กี่ชนิด รู้จักอาหารไม่กี่อย่าง
และแทบไม่รู้จักวิธีทำอาหารเอาเสียเลย
บทความจากเพจ วิเชียร ไชยบัง https://www.facebook.com/wichian.chaiyabang/