ก่อนหน้านี้ผมได้อธิบายเปรียบเทียบเทรดเดอร์กับการเล่นโปกเกอร์
นักกีฬาอาชีพ นักล่า และเชฟมืออาชีพไปแล้ว
วันนี้ผมจะเปรียบเทียบการเทรดกับวิทยาศาสตร์ ลองสมมุติถึงวันในอดีต
ตอนที่คุณกำลังนั่งอยู่หลังห้องเรียน กำลังฟังบรรยายวิชาวิทยาศาสตร์
ลองนึกทบทวนดู แล้วเปรียบเทียบว่าวิทยาศาสตร์มีความคล้ายคลึง
กับการเทรดอย่างไร?
พื้นฐานวิทยาศาสตร์ คิอ การสังเกตุการณ์ ..มันคือกระบวนการเริ่มต้น
แบบง่ายๆ การสังเกตุผ่านประสาทสัมผัสทั้งหมดที่เรามี เพื่อเก็บ
รวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด ด้วยการจดบันทึกรูปแบบต่างๆที่เราสังเกตุ,
รูปแบบการเกิดเหตุการณ์แบบเดิมซ้ำๆ ..หรือเหตุการณ์ที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้
เมื่อข้อมูลมีมากพอ ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ รูปแบบของทฤษฏี
มนุษยชาติมีสัญชาตญาณความอยากรู้อยากเห็นเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว
พวกเราจึงกระตือรือร้นที่จะรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น รอบๆ ตัวเรา
พวกเราพยายามอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น โดยการเริ่มต้นด้วย
สมมุติฐาน ด้วยจุดเริ่มต้นนี้ เราจะทำการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เพื่อยืนยันสมมุติฐานที่เราคาดการณ์ไว้ จนสุดท้ายเราจึงจะได้ทฤษฏี
ความงดงามงามของวิทยาศาสตร์ อีกประการ คือ มันสอนให้เรารู้จักถ่อมตัว
//ยังไงหล่ะ?...
พวกเราต้องเปิดใจเพื่อที่จะรับรู้ข้อมูลใหม่ๆที่ได้จากการสังเกตุการณ์อยู่เสมอ
นักวิทยาศาสตร์ตระหนักดีว่า ทฤษฏีของพวกเขาไม่ใช่ข้อสรุปสุดท้าย
หรืออยู่คงทนถาวรตลอดไป
การเปิดใจเพื่อรับรู้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจธรรมชาติ และความซับซ้อนของธรรมชาติ
และพวกเขาจะพร้อมรับเหตุการณ์ใหม่ๆ ซึ่งอาจจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทฤษฏีของพวกเขาเอง
สำหรับเทรดเดอร์ การเปิดใจคือยาป้องกัน
ความมั่นใจจนเกินไป และ
การเทรดมากเกินไป เป็นอย่างดี
แล้วเราจะใช้วิทยาศาสตร์ช่วยในการเทรดได้อย่างไร ?
นี่คือ 4 ขั้นตอนง่ายๆในการฝึกเทรดให้เหมือนนักวิทยาศาสตร์ครับ
1. สังเกตุการณ์ตลาดอย่างระมัดระวัง มองหารูปแบบที่เกิดขึ้น
ในการเป็นเทรดเดอร์ คุณต้องเข้าใจพื้นฐานด้าน เทคนิค และปัจจัย
ด้านพื้นฐานเป็นอย่างดี คุณต้องเข้าใจว่าปัจจัยอะไรที่ขับเคลื่อนตลาด
คุณต้องเข้าใจเป็นอย่างดีว่า เหตุการณ์ต่างๆ,.. ตัวเลขทางเศรษฐกิจ
ที่ประกาศออกมาผลักดันราคาอย่างไร?
เช่น การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย สร้างแรงผลักไปด้านใด
และคุณจะเล่นแบบไหน ต่อการเคลื่อนไหวของราคาในรูปแบบนั้นๆ
เพื่อที่จะสร้างความได้เปรียบในการเทรดให้ตัวเอง คุณอาจจะสร้าง
ฐานข้อมูล เพื่ออธิบายปัจจัยต่างๆที่สร้างรูปแบบราคาในแบบต่างๆ
เช่น คุณสังเกตุเห็นว่า การประกาศตัวเลข CPI สร้างผลกระทบที่
รุนแรงมากกว่าปกติในช่วงนี้
ในฐานะเทรดเดอร์ คุณต้องเข้าใจว่าราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง
สร้างผลกระทบต่อตัวเลขดัชนีผู้บริโภค
คุณอาจจะเอาเหตุการณ์นี้มาบรรจุลงตารางเวลาตัวเอง เพื่อสังเกตุ
ว่าตลาดตอบสนองเช่นไร?
2.ใช้การสังเกตุการณ์สร้างสมมุติฐานสำหรับราคาที่เปลี่ยนแปลง
เทรดเดอร์อาจจะสังเกตุเห็นว่า นักลงทุนหิวกระหายที่จะกระโจน
เข้ามาเสี่ยงมากขึ้น เมื่อมีการประกาศนโยบายอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อ
กระตุ้นเศรษฐกิจ
สิ่งที่คุณต้องทำ คือ จดบันทึกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงเช่นนั้นหรือไม่?
คู่สกุลเงินตอบโต้เช่นไร? และรูปแบบไหนที่สร้างโอกาสในการเข้าเทรด
ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ?
คุณสามารถจดบันทึกลงในสมุดบันทึกการเทรด
จนกระทั่งคุณมั่นใจว่าสมมุติฐานของคุณ พร้อมที่จะทดสอบแล้ว
โปรดใส่ใจในรายละเอียด เช่น
ราคาที่เคลื่อนไหวก่อนเหตุการณ์นั้นๆ,.. การตอบสนองในขั้นต้นเป็นเช่นไร?
และ เทรนต์หลักที่เกิดขึ้นเป็นเช่นไร หลังจากนั้น?
3. ทดสอบทฤษฏีโดยการเทรดเมื่อเกิดรูปแบบนั้นๆขึ้น
เมื่อคุณมีข้อมูลมากพอจากการสังเกตุการณ์ ขั้นตอนต่อไป คือทดสอบ ทฤษฏี
โดยการเทรดตามรูปแบบที่เกิดขึ้น ( ตลาดสร้างโอกาสในการเทรดตามทฤษฏีของคุณ)
เช่น จากตัวอย่างการใช้มาตรการเพิ่มปริมาณการเงิน หรืออัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
คุณมองเห็นโอกาสที่ตลาดสร้างตามทฤษฏีของคุณ คุณจึงหาจังหวะในการเข้าถือสถานะ
แน่นอนที่สุดว่า การฝึกฝนอย่างปราณีต จะช่วยพัฒนามุมมองของคุณที่มีต่อตลาดให้ดีขึ้นเรื่อยๆได้
ในขณะที่เทรด คุณต้องสังเกตุการณ์ข้อมูลใหม่ๆที่เกิดขึ้น จดบันทึกไว้เพื่อทำการปรับแก้ทฤษฏีของตัวเอง
4.เปิดใจอยู่เสมอ
โปรดจำไว้ว่า ตลาดมีความไม่แน่นอนสูง และทฤษฏีของคุณก็ไม่ได้ถูต้องเสมอไป
ดังนั้น คุณต้องเปิดใจและสังเกตุการณ์ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ
ตลาดมีความเป็นไดนามิคสูงมาก อีกทั้ง อารมณ์ผู้คนในตลาดก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในพริบตา
เทรดเดอร์ต้องเปิดใจอยู่เสมอ เพื่อจะได้มองเห็นรูปแบบใหม่ๆที่เกิดขึ้น
เช่นเดียวกับนักวิทยาศาสตร์ที่ดี เทรดเดอร์ที่ดีต้องเปิดใจสำหรับข้อมูลใหม่ๆเสมอ
การใช้ชุดความคิดในการเทรดแบบนักวิทยาศาสตร์
คุณสามารถใช้การเทรดในแต่ละครั้งเพื่อยืนยัน หรือ หักล้างทฤษฏีของคุณได้
คุณจะได้ข้อมูลใหม่เข้ามาทุกครั้ง แม้ว่าการเทรดครั้งนั้นคุณจะขาดทุน
เป้าหมายคือ เพื่อพัฒนาการเทรดให้ดียิ่งๆขึ้นไป
เครดิต ---www.babypips.com---อนุสรณ์ จ. แปล เรียบเรียง
https://www.facebook.com/thaipips/--- เพราะชีวิตคือการลงทุน
เพจเล็กๆที่สร้างไว้เแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการเทรดครับ
การประยุกต์ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เพื่อใช้ในการเทรดใน 4 ขั้นตอน...อ่านเล่นๆครับ
นักกีฬาอาชีพ นักล่า และเชฟมืออาชีพไปแล้ว
วันนี้ผมจะเปรียบเทียบการเทรดกับวิทยาศาสตร์ ลองสมมุติถึงวันในอดีต
ตอนที่คุณกำลังนั่งอยู่หลังห้องเรียน กำลังฟังบรรยายวิชาวิทยาศาสตร์
ลองนึกทบทวนดู แล้วเปรียบเทียบว่าวิทยาศาสตร์มีความคล้ายคลึง
กับการเทรดอย่างไร?
พื้นฐานวิทยาศาสตร์ คิอ การสังเกตุการณ์ ..มันคือกระบวนการเริ่มต้น
แบบง่ายๆ การสังเกตุผ่านประสาทสัมผัสทั้งหมดที่เรามี เพื่อเก็บ
รวบรวมข้อมูลให้มากที่สุด ด้วยการจดบันทึกรูปแบบต่างๆที่เราสังเกตุ,
รูปแบบการเกิดเหตุการณ์แบบเดิมซ้ำๆ ..หรือเหตุการณ์ที่เราไม่สามารถคาดการณ์ได้
เมื่อข้อมูลมีมากพอ ผลลัพธ์ที่ตามมาคือ รูปแบบของทฤษฏี
มนุษยชาติมีสัญชาตญาณความอยากรู้อยากเห็นเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว
พวกเราจึงกระตือรือร้นที่จะรู้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น รอบๆ ตัวเรา
พวกเราพยายามอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น โดยการเริ่มต้นด้วย
สมมุติฐาน ด้วยจุดเริ่มต้นนี้ เราจะทำการทดสอบซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เพื่อยืนยันสมมุติฐานที่เราคาดการณ์ไว้ จนสุดท้ายเราจึงจะได้ทฤษฏี
ความงดงามงามของวิทยาศาสตร์ อีกประการ คือ มันสอนให้เรารู้จักถ่อมตัว
//ยังไงหล่ะ?...
พวกเราต้องเปิดใจเพื่อที่จะรับรู้ข้อมูลใหม่ๆที่ได้จากการสังเกตุการณ์อยู่เสมอ
นักวิทยาศาสตร์ตระหนักดีว่า ทฤษฏีของพวกเขาไม่ใช่ข้อสรุปสุดท้าย
หรืออยู่คงทนถาวรตลอดไป
การเปิดใจเพื่อรับรู้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์เข้าใจธรรมชาติ และความซับซ้อนของธรรมชาติ
และพวกเขาจะพร้อมรับเหตุการณ์ใหม่ๆ ซึ่งอาจจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทฤษฏีของพวกเขาเอง
สำหรับเทรดเดอร์ การเปิดใจคือยาป้องกัน ความมั่นใจจนเกินไป และ การเทรดมากเกินไป เป็นอย่างดี
แล้วเราจะใช้วิทยาศาสตร์ช่วยในการเทรดได้อย่างไร ?
นี่คือ 4 ขั้นตอนง่ายๆในการฝึกเทรดให้เหมือนนักวิทยาศาสตร์ครับ
1. สังเกตุการณ์ตลาดอย่างระมัดระวัง มองหารูปแบบที่เกิดขึ้น
ในการเป็นเทรดเดอร์ คุณต้องเข้าใจพื้นฐานด้าน เทคนิค และปัจจัย
ด้านพื้นฐานเป็นอย่างดี คุณต้องเข้าใจว่าปัจจัยอะไรที่ขับเคลื่อนตลาด
คุณต้องเข้าใจเป็นอย่างดีว่า เหตุการณ์ต่างๆ,.. ตัวเลขทางเศรษฐกิจ
ที่ประกาศออกมาผลักดันราคาอย่างไร?
เช่น การตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย สร้างแรงผลักไปด้านใด
และคุณจะเล่นแบบไหน ต่อการเคลื่อนไหวของราคาในรูปแบบนั้นๆ
เพื่อที่จะสร้างความได้เปรียบในการเทรดให้ตัวเอง คุณอาจจะสร้าง
ฐานข้อมูล เพื่ออธิบายปัจจัยต่างๆที่สร้างรูปแบบราคาในแบบต่างๆ
เช่น คุณสังเกตุเห็นว่า การประกาศตัวเลข CPI สร้างผลกระทบที่
รุนแรงมากกว่าปกติในช่วงนี้
ในฐานะเทรดเดอร์ คุณต้องเข้าใจว่าราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง
สร้างผลกระทบต่อตัวเลขดัชนีผู้บริโภค
คุณอาจจะเอาเหตุการณ์นี้มาบรรจุลงตารางเวลาตัวเอง เพื่อสังเกตุ
ว่าตลาดตอบสนองเช่นไร?
2.ใช้การสังเกตุการณ์สร้างสมมุติฐานสำหรับราคาที่เปลี่ยนแปลง
เทรดเดอร์อาจจะสังเกตุเห็นว่า นักลงทุนหิวกระหายที่จะกระโจน
เข้ามาเสี่ยงมากขึ้น เมื่อมีการประกาศนโยบายอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อ
กระตุ้นเศรษฐกิจ
สิ่งที่คุณต้องทำ คือ จดบันทึกว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงเช่นนั้นหรือไม่?
คู่สกุลเงินตอบโต้เช่นไร? และรูปแบบไหนที่สร้างโอกาสในการเข้าเทรด
ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ?
คุณสามารถจดบันทึกลงในสมุดบันทึกการเทรด
จนกระทั่งคุณมั่นใจว่าสมมุติฐานของคุณ พร้อมที่จะทดสอบแล้ว
โปรดใส่ใจในรายละเอียด เช่น
ราคาที่เคลื่อนไหวก่อนเหตุการณ์นั้นๆ,.. การตอบสนองในขั้นต้นเป็นเช่นไร?
และ เทรนต์หลักที่เกิดขึ้นเป็นเช่นไร หลังจากนั้น?
3. ทดสอบทฤษฏีโดยการเทรดเมื่อเกิดรูปแบบนั้นๆขึ้น
เมื่อคุณมีข้อมูลมากพอจากการสังเกตุการณ์ ขั้นตอนต่อไป คือทดสอบ ทฤษฏี
โดยการเทรดตามรูปแบบที่เกิดขึ้น ( ตลาดสร้างโอกาสในการเทรดตามทฤษฏีของคุณ)
เช่น จากตัวอย่างการใช้มาตรการเพิ่มปริมาณการเงิน หรืออัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ
คุณมองเห็นโอกาสที่ตลาดสร้างตามทฤษฏีของคุณ คุณจึงหาจังหวะในการเข้าถือสถานะ
แน่นอนที่สุดว่า การฝึกฝนอย่างปราณีต จะช่วยพัฒนามุมมองของคุณที่มีต่อตลาดให้ดีขึ้นเรื่อยๆได้
ในขณะที่เทรด คุณต้องสังเกตุการณ์ข้อมูลใหม่ๆที่เกิดขึ้น จดบันทึกไว้เพื่อทำการปรับแก้ทฤษฏีของตัวเอง
4.เปิดใจอยู่เสมอ
โปรดจำไว้ว่า ตลาดมีความไม่แน่นอนสูง และทฤษฏีของคุณก็ไม่ได้ถูต้องเสมอไป
ดังนั้น คุณต้องเปิดใจและสังเกตุการณ์ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ
ตลาดมีความเป็นไดนามิคสูงมาก อีกทั้ง อารมณ์ผู้คนในตลาดก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในพริบตา
เทรดเดอร์ต้องเปิดใจอยู่เสมอ เพื่อจะได้มองเห็นรูปแบบใหม่ๆที่เกิดขึ้น
เช่นเดียวกับนักวิทยาศาสตร์ที่ดี เทรดเดอร์ที่ดีต้องเปิดใจสำหรับข้อมูลใหม่ๆเสมอ
การใช้ชุดความคิดในการเทรดแบบนักวิทยาศาสตร์
คุณสามารถใช้การเทรดในแต่ละครั้งเพื่อยืนยัน หรือ หักล้างทฤษฏีของคุณได้
คุณจะได้ข้อมูลใหม่เข้ามาทุกครั้ง แม้ว่าการเทรดครั้งนั้นคุณจะขาดทุน
เป้าหมายคือ เพื่อพัฒนาการเทรดให้ดียิ่งๆขึ้นไป
เครดิต ---www.babypips.com---อนุสรณ์ จ. แปล เรียบเรียง
https://www.facebook.com/thaipips/--- เพราะชีวิตคือการลงทุน
เพจเล็กๆที่สร้างไว้เแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ในการเทรดครับ