สวัสดีค่ะทุกๆท่านที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของหนู
หนูคิดอยู่นานสองนานว่าจะมาตั้งกระทู้ดีมั้ย
เพราะหนูก็กลัวและกังวลใจที่จะรับฟังคำตอบหรือคำแนะนำของทุกคน หนูขอเริ่มเรื่องเลยละกันนะ
คะ หนูอายุ16ปีค่ะ พึ่งอายุ16ไปเมื่อเดือนมีนาคม
ที่ผ่านมา หนูอยู่กับแม่แค่สองคนตั้งแต่ที่จำความได้ พ่อหนูเขาไปทำงานต่างประเทศกว่าจะกลับก็เป็นปี นั้นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานภายในบ้านค่ะ
ในความที่เป็นเด็ก หนูก็จะดื้อและซนมากๆ แม่ก็จะค่อยดุและหยิกที่แขนหนูบ่อยๆ พอโตขึ้นมาหน่อยประมาณป.2-3 หนูกับแม่ก็ทะเลาะกันมากขึ้น ทะเลาะกันทุกวันเลยละค่ะ หนูยังจำได้เลยว่า หนูนอนร้องไห้ทุกคืน เพราะความเป็นเด็ก หนูก็จะมีบ้างที่ทำอะไรขัดใจแม่ หนูอยากไปเล่นบ้านเพื่อน ซึ่งบ้านเพื่อนใกล้บ้านหนูมากๆเลยค่ะ แค่ปั่นจักรยานไปอึดใจเดียวก็ถึงแล้ว
แต่แม่ก็ไม่อนุญาติค่ะ บอกให้หนูเข้าบ้านไปอ่านหนังสือ เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง และมีอยู่วันนึง หนูเหงาและเบื่อกับการท่องจำหนังสือในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ
หนูเลยตัดสินใจลองขอแม่ดูอีกครั้ง แต่แม่ก็ไม่อนุญาติให้ไป เราเถียงกันอยู่อย่างนั้นจนกระทั้งแม่หยิบมีดมาขู่หนู แล้วแม่ก็เหวี่ยงมีดมา แต่หนูหลบได้ทัน
ตอนนั้นหนูตกใจมาก หนูกลัวมากๆเลยค่ะ มีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำหนูเสียใจ หนูแทบไม่อยากจะเชื่อว่าแม่จะทำกับหนู มีครั้งหนึ่งตอนที่หนูสอบได้คะแนนน้อย เกรดตก แม่โทรฟ้องพ่อก่อนจะมาพูดประโยคหนึ่งกับหนูว่า
"ถ้าเลี้ยงมาแล้วจะเป็นแบบนี้
กูไม่เลี้ยงให้เสียข้าวสุกหรอก"
ใช่ค่ะ พ่อกับแม่ของหนูคาดหวังกับหนูมากในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะการเรียน จนขนาดที่ว่าส่งหนูไปเรียนเสริมในตัวเมืองทั้งๆที่บ้านของเราอยู่นอกเมือง
ไปรอรับกลับด้วยตลอด ขอบอกตรงจุดนี้เลยนะคะว่า หนูเรียนพิเศษตั้งแต่ป.2จนกระทั้งตอนนี้ค่ะ แต่ละวัน หนูก็ยังทะเลาะกับแม่เหมือนเดิม และทุกครั้งที่ทะเลาะแม่ก็จะตีหนู แม่ชอบเอาไม้กวาดมาตีขากับท้ายทอยค่ะ บางทีก็ที่หัว ตอนนั้นหนูปวดหัวมากๆเลย ปวดจนไปนอนลงกับพื้นแล้วร้องไห้ ส่วนแม่ก็ไม่ได้สนใจอะไร แม่แค่บอกว่า สมน้ำหน้า อย่าดื้ออีก แค่นั้นค่ะ ต่อมาก็มีตีจนเลือดออกตามแขนขา พวกแผลถลอกอะไรพวกนี้น่ะค่ะ เวลาอาบน้ำแสบมากๆ
ก็เป็นอยู่อย่างนี้จนกระทั้งหนูขึ้นม.1เรื่องทุบตีของแม่ก็น้อยลง แต่เปลี่ยนเป็นความคาดหวังที่มีมากขึ้นแทน หนูพยายามอ่านหนังสือและเรียนเสริมหลังเลิกเรียนทุกวัน (กลับบ้าน1ทุ่ม) หนูพยายามอย่างหนักจนจิตตก หนูเริ่มมีอาการปวดหัว และหน้ามืดอยู่บ่อยครั้งในวันๆหนึ่ง หนูหน้ามืดไปแล้ว4-5ครั้ง และแล้ว วันรับเกรด
ก็มาถึง หนูยังคงรักษาระดับไว้ได้
แต่เกรดน้อยกว่าเทอมที่ผ่านมา แม่รู้เรื่องนี้ เราสองคนก็เลยทะเลาะกันอย่างหนัก หนูขังตัวเองในห้องน้ำ
ส่วนแม่ก็โทรฟ้องพ่อ แถมยังตะโกนเสียงดังให้คนแถวบ้านเขาได้รับรู้ หนูเสียใจมาก แล้วก็คิดว่าเป็นความผิดของตัวหนูเอง หนูมันดีไม่พอ หนูมันแย่ จนขนาดคิดสั้นเลยค่ะ ตอนนั้นก็แอบออกไปหยิบกระปุกยาพารา(ที่บ้านมีแค่ยาตัวนี้) หนูก็เทใส่มือไปสองครั้ง เต็มมือ แล้วก็กินสามเม็ดรวดเดียวบ้าง กินที่ละเม็ดบ้าง จนหมดไปสองกำมือที่เทไว้ หนูออกมาจากห้องน้ำ ทำตัวปกติ
ก่อนจะเขียนจดหมายแนบไว้กับสมุดบันทึกของหนู
ที่หนูซ่อนมันไว้ที่ชั้นวางหนังสือ เพราะคิดว่ายังไงก็จะตายอยู่แล้ว ในตอนนั้นไม่คิดอะไรเลยค่ะ สมองว่าง ทุกอย่างเป็นสีขาว เป็นความรู้สึกโล่งๆ พร้อมจะนอน
ก็เดินเข้าห้องไป แล้วก็นอนเลยค่ะ ตื่นมาอีกที่ตอน4ทุ่ม แม่มาปลุก แล้วก็ถามหนูว่ากินยาเหรอ
ตอนนั้นหนูตกใจมากว่าแม่รู้ได้ยังไง ก่อนที่แม่จะหยิบสมุดบันทึกให้ดู คือหนูก็คิดว่าซ่อนไว้ดีแล้วนะคะ
แต่ทำไมแม่ยังหาเจอ หนูก็บอกปัดไปว่า เขียนเล่นๆตั้งนานแล้ว ก่อนจะขอตัวนอน พอนอนไปได้สักพัก หนูรู้สึกอยากจะอาเจียนตลอดเวลาเลยค่ะ นอนไม่หลับเลยทั้งคืน หนูออกมาอ้วกที่ห้องน้ำ3-4รอบได้ และทุกครั้งอ้วกเป็นน้ำสีเขียวๆ แม่เองก็เริ่มสงสัย ก็เลยเค้นหนูยกใหญ่แต่หนูก็ไม่ยอมบอกอยู่ดี แม่ก็เลยพาไปรพ.
ไปจบที่รพ.นี้ย้ายหนูไป2รพ.เลย เพราะรักษาไม่ได้
ให้ได้แค่ยาต้านพิษ แล้วรอดูผล หนูนอนรพ.1อาทิตย์ พักฟื้นอีก1อาทิตย์ และตอนที่อยู่รพ.หนูพบจิตแพทย์ตลอดเลยค่ะ คุณหมอมาถามไถ่ตลอด ก่อนจะอนุญาติให้หนูกลับบ้านได้
ต่อมาทุกอย่างก็ดูเหมือนจะดีขึ้น
พ่อกับแม่ไม่บังคับหรือคาดหวังกับหนูมาก เพราะหนูป่วยอยู่ แต่พอหนูเริ่มหายดี ก็เริ่มมีปากเสียงกัน
พ่อกลับมาเยี่ยมที่บ้าน มีทะเลาะกับแม่เสียงดัง
มีครั้งหนึ่ง หนูจำได้ดีเลย พ่อเมาแล้วทะเลากกับแม่จะตีแม่ แต่หนูห้ามไว้ คืนนั้น หนูกับแม่ก็ไปนอนบ้านเพื่อน
เป็นอยู่แบบนี้จนพ่อกลับไปทำงาน หนูกับแม่ก็ได้อยู่กันสองคนอีกครั้งและแน่นอนว่า ทะเลาะกันอีกครั้ง
ทะเลาะกันเรื่อยๆจนหนูคิดทำร้ายตัวเองอีกรอบ แต่รอบนี้หนูกรีดแขนตัวเอง (หนูไม่อยากให้ทุกคนมองหนูเป็นเด็กไม่ดี เรียกร้องความสนใจ ทำไปเพื่ออะไร นะคะ หนูขอร้อง อย่ามองหนูแบบนั้น อย่าซ้ำเติมความรู้สึกของหนูเลย) หนูเริ่มกรีดแขนตัวเองทุกครั้งที่ทะเลาะกับแม่แรงๆ โดยที่ไม่ให้แม่รู้ เพราะหนูใส่นาฬิกาปกปิดไว้ หนูกลายเป็นคนที่เข้าสังคมไม่ได้
หนูเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน เพื่อนจากที่เคยสนิทก็เริ่มห่างหายกันไป ส่วนเรื่องการเรียนก็ดรอปลง เกรดตก เริ่มความจำสั้น พูดไม่รู้เรื่อง มีอารมณ์สองขั้ว เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย จนตอนนี้ทะเลาะกับเพื่อนในห้องไปหลายคนแล้ว เป็นคนไม่มีเพื่อนคบแล้วค่ะ555555555 ทุกอย่างเริ่มแย่ลง หนูมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง เหมือนมีมีดมาแทงที่ขมับสองข้าง พอขยับร่างกาย เคลื่อนไหวก็จะปวดที่ท้ายทอย เริ่มหน้ามืดเพิ่มขึ้นจาก4-5ครั้งต่อวัน เป็น7-8ครั้งต่อวัน หนูเริ่มมีอาการได้ยินเสียงแว่ว
เสียงของแม่ เป็นเสียงเวลาด่าหนู ว่าหนูทำตัวไม่ดี เรียนไม่ดี โง่ เพื่อนไม่คบ หนูเริ่มได้ยินบ่อยครั้ง
และเริ่มหนักขึ้นตอนฝนตก ถ้ามีเสียงฝนตกแรงๆ ก็จะได้ยินเสียงพวกนี้ดังขึ้นมากๆในหัว บางครั้งอยู่ๆหนูก็ร้องไห้ หัวเราะ แถมยังพูดคนเดียว อาการพวกนี้ หนูไม่ได้รู้ตัวเองนะคะ แม่เป็นคนบอกค่ะ แม่บอกว่าแม่สังเกตหนู แม่เคยถามว่าไปปรึกษาหมอกับแม่มั้ย แต่หนูปฏิเสธไปค่ะ ที่หนูมาเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างในชีวิตในวันนี้ เพราะหนูอยากได้คำแนะนำจากทุกคน และอยากจะทราบว่า หนูเป็นโรคจิตหรือเปล่า
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของหนูนะคะ
หนูจะยอมรับคำติเตือนคำสั่งสอนคำแนะนำของทุกคนค่ะ
โดนทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจจนกลายเป็นผู้ป่วยทางจิต(หรือเปล่า)
หนูคิดอยู่นานสองนานว่าจะมาตั้งกระทู้ดีมั้ย
เพราะหนูก็กลัวและกังวลใจที่จะรับฟังคำตอบหรือคำแนะนำของทุกคน หนูขอเริ่มเรื่องเลยละกันนะ
คะ หนูอายุ16ปีค่ะ พึ่งอายุ16ไปเมื่อเดือนมีนาคม
ที่ผ่านมา หนูอยู่กับแม่แค่สองคนตั้งแต่ที่จำความได้ พ่อหนูเขาไปทำงานต่างประเทศกว่าจะกลับก็เป็นปี นั้นคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ร้าวฉานภายในบ้านค่ะ
ในความที่เป็นเด็ก หนูก็จะดื้อและซนมากๆ แม่ก็จะค่อยดุและหยิกที่แขนหนูบ่อยๆ พอโตขึ้นมาหน่อยประมาณป.2-3 หนูกับแม่ก็ทะเลาะกันมากขึ้น ทะเลาะกันทุกวันเลยละค่ะ หนูยังจำได้เลยว่า หนูนอนร้องไห้ทุกคืน เพราะความเป็นเด็ก หนูก็จะมีบ้างที่ทำอะไรขัดใจแม่ หนูอยากไปเล่นบ้านเพื่อน ซึ่งบ้านเพื่อนใกล้บ้านหนูมากๆเลยค่ะ แค่ปั่นจักรยานไปอึดใจเดียวก็ถึงแล้ว
แต่แม่ก็ไม่อนุญาติค่ะ บอกให้หนูเข้าบ้านไปอ่านหนังสือ เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง และมีอยู่วันนึง หนูเหงาและเบื่อกับการท่องจำหนังสือในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ
หนูเลยตัดสินใจลองขอแม่ดูอีกครั้ง แต่แม่ก็ไม่อนุญาติให้ไป เราเถียงกันอยู่อย่างนั้นจนกระทั้งแม่หยิบมีดมาขู่หนู แล้วแม่ก็เหวี่ยงมีดมา แต่หนูหลบได้ทัน
ตอนนั้นหนูตกใจมาก หนูกลัวมากๆเลยค่ะ มีเหตุการณ์หลายอย่างที่ทำหนูเสียใจ หนูแทบไม่อยากจะเชื่อว่าแม่จะทำกับหนู มีครั้งหนึ่งตอนที่หนูสอบได้คะแนนน้อย เกรดตก แม่โทรฟ้องพ่อก่อนจะมาพูดประโยคหนึ่งกับหนูว่า
"ถ้าเลี้ยงมาแล้วจะเป็นแบบนี้
กูไม่เลี้ยงให้เสียข้าวสุกหรอก"
ใช่ค่ะ พ่อกับแม่ของหนูคาดหวังกับหนูมากในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะการเรียน จนขนาดที่ว่าส่งหนูไปเรียนเสริมในตัวเมืองทั้งๆที่บ้านของเราอยู่นอกเมือง
ไปรอรับกลับด้วยตลอด ขอบอกตรงจุดนี้เลยนะคะว่า หนูเรียนพิเศษตั้งแต่ป.2จนกระทั้งตอนนี้ค่ะ แต่ละวัน หนูก็ยังทะเลาะกับแม่เหมือนเดิม และทุกครั้งที่ทะเลาะแม่ก็จะตีหนู แม่ชอบเอาไม้กวาดมาตีขากับท้ายทอยค่ะ บางทีก็ที่หัว ตอนนั้นหนูปวดหัวมากๆเลย ปวดจนไปนอนลงกับพื้นแล้วร้องไห้ ส่วนแม่ก็ไม่ได้สนใจอะไร แม่แค่บอกว่า สมน้ำหน้า อย่าดื้ออีก แค่นั้นค่ะ ต่อมาก็มีตีจนเลือดออกตามแขนขา พวกแผลถลอกอะไรพวกนี้น่ะค่ะ เวลาอาบน้ำแสบมากๆ
ก็เป็นอยู่อย่างนี้จนกระทั้งหนูขึ้นม.1เรื่องทุบตีของแม่ก็น้อยลง แต่เปลี่ยนเป็นความคาดหวังที่มีมากขึ้นแทน หนูพยายามอ่านหนังสือและเรียนเสริมหลังเลิกเรียนทุกวัน (กลับบ้าน1ทุ่ม) หนูพยายามอย่างหนักจนจิตตก หนูเริ่มมีอาการปวดหัว และหน้ามืดอยู่บ่อยครั้งในวันๆหนึ่ง หนูหน้ามืดไปแล้ว4-5ครั้ง และแล้ว วันรับเกรด
ก็มาถึง หนูยังคงรักษาระดับไว้ได้
แต่เกรดน้อยกว่าเทอมที่ผ่านมา แม่รู้เรื่องนี้ เราสองคนก็เลยทะเลาะกันอย่างหนัก หนูขังตัวเองในห้องน้ำ
ส่วนแม่ก็โทรฟ้องพ่อ แถมยังตะโกนเสียงดังให้คนแถวบ้านเขาได้รับรู้ หนูเสียใจมาก แล้วก็คิดว่าเป็นความผิดของตัวหนูเอง หนูมันดีไม่พอ หนูมันแย่ จนขนาดคิดสั้นเลยค่ะ ตอนนั้นก็แอบออกไปหยิบกระปุกยาพารา(ที่บ้านมีแค่ยาตัวนี้) หนูก็เทใส่มือไปสองครั้ง เต็มมือ แล้วก็กินสามเม็ดรวดเดียวบ้าง กินที่ละเม็ดบ้าง จนหมดไปสองกำมือที่เทไว้ หนูออกมาจากห้องน้ำ ทำตัวปกติ
ก่อนจะเขียนจดหมายแนบไว้กับสมุดบันทึกของหนู
ที่หนูซ่อนมันไว้ที่ชั้นวางหนังสือ เพราะคิดว่ายังไงก็จะตายอยู่แล้ว ในตอนนั้นไม่คิดอะไรเลยค่ะ สมองว่าง ทุกอย่างเป็นสีขาว เป็นความรู้สึกโล่งๆ พร้อมจะนอน
ก็เดินเข้าห้องไป แล้วก็นอนเลยค่ะ ตื่นมาอีกที่ตอน4ทุ่ม แม่มาปลุก แล้วก็ถามหนูว่ากินยาเหรอ
ตอนนั้นหนูตกใจมากว่าแม่รู้ได้ยังไง ก่อนที่แม่จะหยิบสมุดบันทึกให้ดู คือหนูก็คิดว่าซ่อนไว้ดีแล้วนะคะ
แต่ทำไมแม่ยังหาเจอ หนูก็บอกปัดไปว่า เขียนเล่นๆตั้งนานแล้ว ก่อนจะขอตัวนอน พอนอนไปได้สักพัก หนูรู้สึกอยากจะอาเจียนตลอดเวลาเลยค่ะ นอนไม่หลับเลยทั้งคืน หนูออกมาอ้วกที่ห้องน้ำ3-4รอบได้ และทุกครั้งอ้วกเป็นน้ำสีเขียวๆ แม่เองก็เริ่มสงสัย ก็เลยเค้นหนูยกใหญ่แต่หนูก็ไม่ยอมบอกอยู่ดี แม่ก็เลยพาไปรพ.
ไปจบที่รพ.นี้ย้ายหนูไป2รพ.เลย เพราะรักษาไม่ได้
ให้ได้แค่ยาต้านพิษ แล้วรอดูผล หนูนอนรพ.1อาทิตย์ พักฟื้นอีก1อาทิตย์ และตอนที่อยู่รพ.หนูพบจิตแพทย์ตลอดเลยค่ะ คุณหมอมาถามไถ่ตลอด ก่อนจะอนุญาติให้หนูกลับบ้านได้
ต่อมาทุกอย่างก็ดูเหมือนจะดีขึ้น
พ่อกับแม่ไม่บังคับหรือคาดหวังกับหนูมาก เพราะหนูป่วยอยู่ แต่พอหนูเริ่มหายดี ก็เริ่มมีปากเสียงกัน
พ่อกลับมาเยี่ยมที่บ้าน มีทะเลาะกับแม่เสียงดัง
มีครั้งหนึ่ง หนูจำได้ดีเลย พ่อเมาแล้วทะเลากกับแม่จะตีแม่ แต่หนูห้ามไว้ คืนนั้น หนูกับแม่ก็ไปนอนบ้านเพื่อน
เป็นอยู่แบบนี้จนพ่อกลับไปทำงาน หนูกับแม่ก็ได้อยู่กันสองคนอีกครั้งและแน่นอนว่า ทะเลาะกันอีกครั้ง
ทะเลาะกันเรื่อยๆจนหนูคิดทำร้ายตัวเองอีกรอบ แต่รอบนี้หนูกรีดแขนตัวเอง (หนูไม่อยากให้ทุกคนมองหนูเป็นเด็กไม่ดี เรียกร้องความสนใจ ทำไปเพื่ออะไร นะคะ หนูขอร้อง อย่ามองหนูแบบนั้น อย่าซ้ำเติมความรู้สึกของหนูเลย) หนูเริ่มกรีดแขนตัวเองทุกครั้งที่ทะเลาะกับแม่แรงๆ โดยที่ไม่ให้แม่รู้ เพราะหนูใส่นาฬิกาปกปิดไว้ หนูกลายเป็นคนที่เข้าสังคมไม่ได้
หนูเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน เพื่อนจากที่เคยสนิทก็เริ่มห่างหายกันไป ส่วนเรื่องการเรียนก็ดรอปลง เกรดตก เริ่มความจำสั้น พูดไม่รู้เรื่อง มีอารมณ์สองขั้ว เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย จนตอนนี้ทะเลาะกับเพื่อนในห้องไปหลายคนแล้ว เป็นคนไม่มีเพื่อนคบแล้วค่ะ555555555 ทุกอย่างเริ่มแย่ลง หนูมีอาการปวดหัวอย่างรุนแรง เหมือนมีมีดมาแทงที่ขมับสองข้าง พอขยับร่างกาย เคลื่อนไหวก็จะปวดที่ท้ายทอย เริ่มหน้ามืดเพิ่มขึ้นจาก4-5ครั้งต่อวัน เป็น7-8ครั้งต่อวัน หนูเริ่มมีอาการได้ยินเสียงแว่ว
เสียงของแม่ เป็นเสียงเวลาด่าหนู ว่าหนูทำตัวไม่ดี เรียนไม่ดี โง่ เพื่อนไม่คบ หนูเริ่มได้ยินบ่อยครั้ง
และเริ่มหนักขึ้นตอนฝนตก ถ้ามีเสียงฝนตกแรงๆ ก็จะได้ยินเสียงพวกนี้ดังขึ้นมากๆในหัว บางครั้งอยู่ๆหนูก็ร้องไห้ หัวเราะ แถมยังพูดคนเดียว อาการพวกนี้ หนูไม่ได้รู้ตัวเองนะคะ แม่เป็นคนบอกค่ะ แม่บอกว่าแม่สังเกตหนู แม่เคยถามว่าไปปรึกษาหมอกับแม่มั้ย แต่หนูปฏิเสธไปค่ะ ที่หนูมาเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างในชีวิตในวันนี้ เพราะหนูอยากได้คำแนะนำจากทุกคน และอยากจะทราบว่า หนูเป็นโรคจิตหรือเปล่า
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของหนูนะคะ
หนูจะยอมรับคำติเตือนคำสั่งสอนคำแนะนำของทุกคนค่ะ