อยากจีบหมอค่ะ แต่ไม่รู้จะเข้าหายังไง (รบกวนทีนะคะ)

สวัสดีค่ะ ขอเล่าเรื่องตัวเองเลยนะคะ คือเราแขนหักแล้วได้เข้ารับการรักษาที่รพ.รัฐแห่งหนึ่งค่ะ ตอนเข้าเฝือกหมอประจำบ้านเป็นคนทำเฝือกให้แล้วส่งเคสเราให้อาจารย์หมอ (ได้ยินพยาบาลเรียกงี้) ดูแลต่อค่ะ หลังจากเข้าเฝือกได้หนึ่งสัปดาห์ เราก็ไปรพ.ตามนัดแล้วได้เจออาจารย์หมอคนนั้นค่ะ

เนื่องด้วยเรายังเรียนในระดับมหา'ลัย อยู่และช่วงนั้นเป็นช่วงที่ทำการสอบอยู่ ต้องแต่งกายสุภาพ เราจึงบอกกับอาจารย์หมอคนนั้นค่ะ
เรา: หมอคะ ลดขนาดเฝือกลงได้ไหมคะ
อาจารย์หมอ: ไม่ได้ครับ! (ตอนนั้นพูดเสียงดังมากเหมือนเราพูดไม่เข้าหู จนเราใจฝ่อ มีแพทย์ประจำบ้านนั่งอยู่ในห้องตรวจอีกสองคนด้วย ยิ่งทำให้เราอายค่ะ จะร้องไห้เลย)
เรา: แต่หนูมีสอบนะคะ
อาจารย์หมอ: เค้าก็ต้องยอมครับ

พอหมอว่าอย่างนั้น เราก็นิ่งไปค่ะ เครียดมากเลย จะใช้ชีวิตยังไง ใส่ชุดนักศึกษาไม่ได้เพราะเฝือกใหญ่มาก สักพักใหญ่ๆ อาจารย์หมอก็พูดกับเราอีกค่ะ

อาจารย์หมอ: งั้นผมจะส่งไปอีกแผนกให้เขาลองทำ !$^^Z&%$ (ไม่รู้เขาเรียกไรค่ะ ฟังไม่ทัน) แล้วกันนะ
เราก็คิดในใจ ก็ใจดีอยู่นี่หว่า ได้ยินแบบนั้น เรายิ้มเลยค่ะ ว่าจบอาจารย์หมอก็เขียนข้อมูลเรา ส่งไปอีกแผนกให้ค่ะ

ตอนแรกเราก็ดีใจอยู่นะคะ คิดว่าถ้าได้ทำ มันคงจะดีกว่าที่เป็นอยู่ค่ะ แต่พอไปหาอีกแผนก ปรากฎว่าทำไม่ได้ค่ะ หมอบอกอุปกรณ์ไม่พอ โอนเราไปทำศิริราชต่อ คือเหนื่อยมากกกกเรา ตอนเช้าอยู่รพหนึ่ง ตอนบ่ายไปศิริราชต่อ พอไปถึงก็ไม่ได้ทำอีก เขาบอกแขนเรากระดูกเคลื่อน ทำเฝือกใหม่ให้

นัดเจออาจารย์หมอรอบต่อมา เรามาเอกซ์เรย์ติดตามกระดูก เราก็ลืมบอกว่าถูกโอนให้ไปที่ศิริราช บอกแค่ว่ากระดูกเคลื่อน ทางนั้นเขาจัดกระดูกให้ใหม่เลยยังไม่ได้ทำ อาจารย์หหมอก็เลยเขียนเอกสารส่งไปให้อีกรอบค่ะ (ไปที่แผนกเดิม) วันต่อมา เราก็เกิดอาการเปลี่ยนใจค่ะ ถ้าต้องไปทำที่อีกรพ เราไม่สะดวก เลยเอาเอกสารส่งตัวกลับไปให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในแผนกออร์โธค่ะ บอกว่าไม่ทำแล้ว ที่หมอให้ทำ เพราะเป็นความต้องการของเราเฉยๆ ไม่ใช่หนึ่งในขั้นตอนการรักษา เรื่องก็จบไป เจอหน้าอาจารย์หมอเราก็เล่าให้ฟัง เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร

ปัญหามันมีอยู่ว่า จิตใจเราอยู่กับหมอเจ้าของไข้เราตลอดเลยค่ะ จากที่ตอนแรกไม่ชอบหน้า เพราะเขาดุ กลายเป็นรู้สึกดีซะงั้น เพราะเจอกันช่วงหลังเขาไม่เคยดุเราเลยค่ะ ท่าใส่ที่คล้องแขนเราผิด เขาก็จัดให้ใหม่ ไม่เคยบ่นอีกเลย ดูใจดี เราก็กล้าจะคุยกับเขามากขึ้นค่ะ ตอนนี้คิดหลายตลบเลยค่ะ ชอบไม่ชอบ หลงหรืออะไร เพราะเขาบอกว่า คนป่วยจะจิตใจอ่อนไหวง่าย

 เรามีไปค้นหาเฟซ ไม่มีเพื่อนร่วมกันเลย เหมือนมีแต่เพื่อนคณะเดียวกัน แค่เรียนด้วยกันมาและเพื่อนร่วมงานค่ะ จึงชั่งใจอยู่นานสักพักถึงแอดเฟซไปค่ะและเขาก็ไม่รับ ฮ่าๆๆ เราแอดค้างไว้เกือบหนึ่งวันค่ะ เลยกดยกเลิก
แล้วทีนี้ประสบปัญหาคันเฝือกมาก ยิ่งกว่าทุกที เราจึงตัดสินใจแอดไปอีกรอบค่ะ (คราวนี้เอาเฟซที่ใช้ส่งงานอาจารย์แอดไป) คุณหมอรับค่ะ แล้วก็คุยเรื่องอาการของเรา

ผลพลอยได้คือเราได้รู้จักข้อมูลคุณหมอมากขึ้นค่ะ อาจารย์หมอท่านนี้อายุสามสิบกลาง ๆ (เราอายุยี่สิบ) และยังโสดด้วยค่ะ ตอนแรกคิดว่าเป็นหรือเปล่า แต่เหมือนไม่ใช่ค่ะ เพื่อนเขายังคอมเมนต์อยู่เลย ว่าอยากให้แนะนำใครสักคนให้ไหม

เราอยากจะรู้ว่าหลังจากจบจากการรักษาแล้ว เราควรเข้าหาคุณหมอยังไงดีคะ ตอนนี้เราอยู่ในฐานะคนไข้ หมอ มันคงไม่ควร ผิดจรรยารรณแพทย์ แต่ถ้าพ้นสถานะนี้ไป เราก็ไม่เรื่องอะไรที่จะเอาไปคุยกับหมออะค่ะ ดีไม่ดีคงถูกลบเพื่อน เพราะเฟซนั้นคงเป็นเฟซส่วนตัวและสังคมของเขาจริงๆ เราก็คงเป็นคนนอก
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของทุกคนนะคะ เราได้คำตอบในใจแล้วค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่