เคลียดเรื่องที่บ้านค่ะ

กระทู้คำถาม
คือตั้งแต่เราขึ้นม.ปลายมาเราเริ่มมีปัญหากับพ่อและแม่ค่ะ อะไรหลายๆอย่างที่เราเคยเป็นในตอนที่เด็กยังไม่ค่อยคิดอะไร พอเราโตขึ้นเรารู้สึกว่าอะไรหลายๆอย่างเราเข้ากับเขาไม่ได้เลย เราติดการตะคอกเวลาเราโมโหมากๆจะตะคอกออกมาจนบ้างครั้งก็รู้สึก
ผิดมากๆค่ะ ยิ่งโตเรายิ่งรู้สึกว่าบ้านไม่ใช่ที่ๆทำให้เราสบายใจหรือที่พักพิง นับวันพ่อกับแม่ก็พูดแรงจนบางครั้งเรารับไม่ได้เราบอกเขาว่าพูดแรงเกินไปรึป่าวเขาก็บอกแค่นี้พูดไม่ได้รับไม่ได้ แต่สำหรับเราคนเป็นลูกพ่อแม่พูดกับเราแรงๆเราก็น้อยใจมากๆเลยค่ะ เราเคยมีปัญหาทะเลาะก็หนักพอตัวเลย พ่อกับแม่เขาเหมือนจะพยายามเข้าใจเรานะคะบอกว่ามีปัญหาอะไรให้บอกหรือพูดกันตรงเขาไม่ด่า เพราะเวลาเรามีปัญหาเราจะปรึกษาพี่ที่สอนพิเศษเราเพราะสนิทกันมากๆเจอกันตั้งแต่เด็กๆแม่พี่เขาก็เป็นคนคอยรับฟังปัญหาเราตลอด จนเหมือนพ่อกับแม่เราน้อยใจที่เราไม่ปรึกษาเขาก็มาพูดว่ากับพ่อแม่ทำไมไม่พูดทำไมต้องพูดกะคนอื่น มีอะไรให้พูดตรงๆพอเราพูดตรงๆเล่าหรือปรึกษาอะไร
ตรงกันข้ามค่ะแค่เราปรึกษาเรื่องนิดๆหน่อยๆหรือเรื่องสมมุติเขาก็ด่าแล้วค่ะ พักหลังๆพ่อกับแม่ก็เอาลูกพี่ลูกน้องมาอยู่ด้วยอีก กลายเป็นว่าความส่วนตัวไม่มีเลยค่ะ
พี่เขาไม่คิดจะช่วยดูแลบ้านเผลอๆเพิ่มภาระเข้ามาอีกด้วย อยากให้เจาย้ายออกไปหาที่อยู่เองเพราะเขาเองก็เรียนจบทำงานแล้ว เคยบอกพ่อกับแม่ว่าเมื่อไหร่เจาจะย้ายออกพ่อกับแม่ก็บอกว่าถ้าเขาไล่ก็จะมีปัญหากับญาติที่มาฝากไว้อีก เรารู้สึกว่าทำไมเขาจะต้องแคร์ว่าญาติเขาจะไม่มาพอใจทั้งๆที่ญาติเป็นคนเอาพี่เขามาฝากไว้แท้ๆ คือที่บ้านถ้าใครคนไหนมีปัญหาจะมาขอความช่วยเหลือจากบ้านเราตลอด หลายครั้งที่มีการมายืมเงินแล้วก็หนีไม่คืน มีการขโมยเงินในบ้าน  บางคนพ่อกับแม่เราช่วยเหลือมาตลอดออกไปก็มานินทาด่าลับหลังบ้างพ่อกับแม่มาเล่าให้ฟังเราก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าจะยื่นมือช่วยเหลืออีกทำไมแต่พ่อกับแม่ก็ช่วย จนเรารู้สึกได้ว่าเขาแคร์ความรู้สึกญาติคนอื่นๆมากกว่าลูกตัวเองด้วยซ้ำ ตอนนี้เราจะขึ้นม.6อีกปีเดียวก็ขึ้นมหาลัยความขัดแย้งก็มีมากขึ้นไปเรื่อยๆจนเราไม่อยากอยู่บ้านไม่แฮปปี้ ถ้าเป็นข่วงเปิดเทอมเวลาเราทำการบ้านดึกมากๆเขาก็มีมาว่ามานั่งดูเราทำบางครั้งเราก็เข้าใจว่าเป็นห่วงแต่บางครั้งเขาถึงขั้นร้องไห้ที่เราทำดึกมากๆประกอบกับตอนนั้นพี่สาวที่เป็นญาติห่างๆอีกคนเขาป่วยหนัก จนเราขอเขาว่าถ้าขึ้นมหาลัยเราจะไปอยู่ม.กรุงเทพค่ะซึ่งไกลจากบ้านเราพอสมควรเลยเราเลยจะอยู่หอเพราะเรารู้สึกว่าถ้าได้อยู่หอใกล้มหาลัยเดินทางสะดวกกว่าบวกับเราอยากใช้ชีวิตเองด้วยค่ะไม่อยากให้ขึ้นมหาลัยมันก็เหนื่อยแล้วถ้าให้กลับบ้านไปมีปัญหาคงจะเหนื่อยทั้งกายทั้งใจกันทั้ง2ฝ่าย เราเข้าใจนะคะว่าเป็นห่วงเพราะเราก็เป็นผญ.อยู่คนเดียวก็อันตราย แต่เราก็อยากให้เขาเข้าใจว่าถ้าจะให้เรามาทะเลาะกับเขาบ่อยๆเวลาเรียนหนังสือเราก็ไม่ไหวเหมือนกันค่ะ เพราะเวลาเราเหนื่อยมากๆเราไม่อยากพูดกับใครเลยค่ะถ้าพูดน้ำเสียงก็ชวนหงุดหงิดเหมือนกันหน้าก็เหวี่ยงโดยอัตโนมัติเลยกลายเป็นว่าหลายๆครั้งเราก็มีปัญหากับพ่อแม่เรื่องแบบนี้อยู่บ่อยๆ และบางครั้งก็ทะเลาะกันเรื่องค่าใช้จ่ายจนเราเคลียดมากๆเพราะพ่อกับแม่เคยพูดว่าเราผลาญเงินเขา แถมเขาเคยพูดว่าเขาไม่น่าเกิดเรามาเลย เราเลยรู้สึกว่าถ้าเขาไม่พร้อมที่จะเลี้ยงดูเราไม่พร้อมทำให้เรามีความสุขกับคำว่าครอบครัวเขาจะมีเราไปทำไมคะ บางครั้งเขาก็ให้คำสัญญาว่าจะทำนู่นนี่ให้ สุดท้ายก็ไม่มีอะไรได้ตามที่เขาพูดสักอย่าง เราเข้าใจนะคะว่าเขาก็ต้องดูแลเรามีค่าใช้จ่ายอื่นๆแต่เราก็อดน้อยใจไม่ได้จริงๆค่ะ ทุกวันนี้เรารู้สึกเหมือนตัวปัญหาของบ้าน เคยเคลียดจนอยากตายแต่ก็ไม่กล้าฆ่าตัวตายค่ะเพราะเรารู้ว่าบาปหนักมากๆบวกกับเรายังไม่ได้ทำอะไรที่เราอยากจะทำด้วย
เราเคยเป็นคนคิดบวกแต่กลับกันตอนนี้เราเป็นคนที่คิดมาก เคลียดง่ายมากๆ เราไม่เคยรู้สึกเลยว่าพ่อแม่แคร์ความรู้สึกเราเลย บางครั้งเราก็อึดอัดอยากจะพูดแต่มันก็จะกลายเป็นว่าเขาจะเสียใจกับสิ่งที่เราพูดออกไป ทุกวันนี้เลยทนกับความรู้สึกที่มีอยู่ เรารักพ่อกับแม่นะคะ แต่เรารู้สึกว่าอะไรหลายอย่างเรากับพ่อแม่ไม่สามารถเข้ากันได้จริงๆค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่