เตือนภัย การเล่นแง่การคุ้มครองประกันภัยบริษัทหนึ่ง

ผมเพิ่งมาเขียนกระทู้เป็นครั้งแรก ซึ่งผมเป็นผู้ได้รับความเสียหายจากลุกค้าของประกันภัยบริษัทหนึ่งที่มาทำให้ผมเสียหาย  แต่ยังไม่สามารถเคลมได้ อยากขอแสดงความคิดเห็นจากท่านที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านกระทู้นี้หน่อยนะครับ ประกันภัยรถยนต์บริษัทนี้ผมขอเรียกว่า "บริษัท เมืองไม่บอก ประกันภัย" แล้วกันนะครับ
ก่อนอื่นต้องขออภัยก่อนนะครับเรื่องภาษาที่เขียน ผมอาจจะไม่ค่อยเก่งเรื่องเขียนอะไรแบบยาวๆ ซึ่งจะมึตกบ้างผิดบ้างต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2562 เวลาประมาณ 18:10 เหตุเกิด ณ. ทางเข้าคอนโดฯ ซึ่งผมได้ชะลอรถแล้วจอดรอที่ชิดเส้นเกาะกลางถนนเพื่อที่จะเลี้ยวเข้าซอย ได้มีรถกระบะคนหนึ่งมาชนท้ายดังปั้ง!! ผมได้ลงไปดูรถตัวเอง รอยจิกเพิ่มเป็นแผลใหญ่กว่าเดิมแล้วก็ถามน้องที่ขับมาชน
ผม : เอาไงดี

ตรงนั้นปกติรถก็ติดอยู่แล้วพอเกิดเหตุก็เริ่มเป็นอัมพาตเลยครับ น้องคนมาชนผมยกมือไหว้ขอโทษขอโพยพร้อมบอกว่า
น้อง : พี่รถผมมีประกันภัยชั้น 1 เคลื่อนรถออกเลยครับเดี๋ยวผมเคลียร์ประกันให้เพราะดูจุดที่เสียหายมันก็ไม่ได้เยอะอะไรครับ

ด้วยความเกรงใจรถติดหนักขึ้นเรื่อยๆ ผมลืมถ่ายรูปที่เกิดเหตุไว้เพราะเกรงใจสภาพจราจรตรงนั้น มานึกได้ตอนเข้ามาคุยกันในซอย แต่น้องมันก็บอกว่า
น้อง : ไม่เป็นไรพี่ผมรับผิดผมมาชนพี่เองไม่ต้องห่วงครับพี่

แล้วน้องก็โทรเรียกประกัน  เรารอประกันพักใหญ่ พอนางมาถึงก็อัธยาศัยดีครับ ยกมือไหว้ทั้งผู้เสียหาย (ผม) และลูกค้านางเอง ประโยคแรกหลังยกมือสวัสดีแล้วปึ่งมาถามผม
จนท.ประกัน : "ใหนประกันคุณ" 
ผม : "รถผมไม่ได้ทำประกันครับ ปกติผมใช้สิทธิ์ พรบ." 

แล้วนางก็ ถ่ายรูปรถทั้งสองถ่ายจุดชน ขอใบขับขี่แล้วก็ให้ลูกค้านางเองเขียนสำนวนเหตุที่เกิด ผมฟังนางนางก็พยายามจะบอกให้ลูกค้านางเขียนว่ารถใหล ซึ่งนางก็ไม่สามารถให้ลูกค้านางแต่งประโยคตามใจนางได้เพราะผมอยู่ตรงนั้นด้วย จากรถลูกค้านางไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่น้องที่ชนน้องเขาเป็นคนดีครับเขาก็เขียนตามที่เกิดจริงคือน้องบอกว่าจังหวะปล่อยครัชแล้วไม่ได้ดูนึกว่ารถใหลตามๆกันเลยชน  เรียบร้อยเสร็จสรรพผมก็เข้าใจว่าเสร็จแล้ว นางคุยโทรศัพท์แล้วเดินไปไกลพอควร แล้วเดินมาหาผมแล้วบอกว่า
จนท.ประกัน : ตรงจุดที่ลูกค้าหนูมาชนรถพี่มีรอยถูกชนเดิมอยู่แล้วใช่มั้ย
ผม :  ใช่ครับ
จนท.ประกัน : ถ้าผู้เสียหายมีรอยเดิมอยู่แล้วเราจ่ายให้แค่ 30% นะคะ
ผม : อ้าว!!! 30% เอาอะไรมาคำนวนถึงได้เลขนี้ครับ รถผมถูกชนอยู่แล้วจริง มันมีรอยแต่ผมรับได้ผมไม่ไปซ่อม แล้วคุณมาชนซ้ำมันเลยหนักกว่าเดิมคุณก็ต้องซ่อมให้ผมถูกมั้ย
จนท.ประกัน : มันเป็นกฏค่ะ

รุ้สึกมึนๆ กับคำตอบจบๆ ของนางที่ตอบผมมา ผมอยากจบไม่อยากเสียเวลา คิดว่าอย่างน้อยก็ได้ทำสีรถใหม่ก็ยังดีจากเดิมมันมีจิก ก็เลยตกลงกับนางใหม่ 
ผม : เอางี้ครับ คนละครึ่ง ผมพอรู้ราคากันชนกับค่าทำสีคร่าวๆ คุณไม่ต้องรับผิดชอบกันชนผมแต่คุณทำสีพอ แล้วออกใบเคลมให้ผมจะได้จบ

เหมือนนางจะยอม ให้ผมชี้จุดที่ให้ซ่อม  (เป็นรอยที่ขอบกันชนมากระแทกจนบุบซ้ำรอยใหญ่กว่าเดิม แล้วนางก็ถ่ายรูป แล้วก็เดินออกไปจากจุดที่เคลียร์กันอีกครั้งไปคุยโทรศัพท์ต่อ...
เดินกลับมาอีกรอบ
จนท.ประกัน : ไม่ได้ค่ะ ยังไงก็ 30%  

ผมเริ่มโมโหครับแต่ก็ทำอะไรไม่ได้...  ผมก็เลยถามน้องที่มาชนผม
ผม : "เอาไงดีครับน้องประกันน้องไม่ยอม" 
น้องก็พูดอะไรไม่ออก... 
น้อง : "ผมไม่มีความรู้เรื่องนี้ครับพี่ เหมือนพี่จะพอมีความรู้ พี่คุยกับเขาเลยผมช่วยพี่เต็มที่ครับ"

ผมกลับไปเจรจากับนางใหม่
ผม : เอาไงครับมันเริ่มเสียเวลากันทุกฝ่ายแล้วนะ เขาซื้อประกันคุณชั้น 1 เบี้ยหมื่นสี่หมื่นห้า ไอ้แค่รอยสามพันกว่าคุณจะอะไรนักหนา ผมไม่มีเวลาครับเคลียร์ให้น้องมันเถอะ ถือว่าดูแลลูกค้า เผื่อวันข้างหน้าผมก็อาจจะเป็นลูกค้าคุณได้เหมือนกัน
จนท.ประกัน : ถ้าตกลงกันไม่ได้ก็ต้องไปตกลงกันที่ สน. ค่ะ

เลือดขึ้นหน้าครับรู้สึกอยาก.... เฮ้อ... เหลือเกินแต่ได้แค่คิดครับทำอะไรไม่ได้ ก็เลยไปถามน้องใหม่
ผม : เอาไงน้อง อย่างที่เขาบอก
น้อง : ได้หมดพี่ ไป สน. ก็ได้ผมก็อยากจบ

สรุปเราไปเจอกันที่ สน.
ขาไปแฟนผมไปเป็นเพื่อนพอลงรถเจอน้องมัน น้องก็เดินมายกมือไหว้ขอโทษแฟนผมอีกทีที่ทำให้ผมเสียเวลา คดีมันเล็กครับ นั่งรอ จนท.สืบสวนร่วม ชม. ได้ 

เมื่อเจอจนท.ร้อยเวรสอบสวน เบื้องต้นเจรจาให้ยอมความกัน ผมก็ขอให้ประกันซ่อมจุดที่มันเสียมากว่าเดิมคือสีให้ผมจบ แต่นางก็ยืนกระต่ายขาเดียวเหมือนเดิม ถ้าผมไม่ยอม 30% ตามกฏเขาก็ให้ร้อยเวรเขียนสำนวนไปว่าไปฟ้องเอา
สรุปที่ สน. น้องที่ชนผมโดนค่าปรับขับรถโดยประมาทเหตุทำให้ผุ้อื่นเสียหายทางทรัพย์สินเทียบปรับ 1000 บาท  น้องร้อง "เ..ี้ย" หนักมากพร้อมบ่น "ประกันชั้นหนึ่งกูลากกูมาเสียค่าปรับ"  (ผมก็คิดครับว่าคนดีสังคมเราอยู่ยากเพราะแบบนี้แหละ น้องเขาเป็นคนดีรับผิดชอบแต่กำลังถูกกระทำ)
ด้านสำนวนบันทึกประจำวันไม่ได้เกี่ยวกับประกันนะครับ เพราะด้านกฏหมายผมก็ไม่ค่อยรู้ดีเท่าใหร่แต่พอทราบว่าถ้าฟ้องผมต้องฟ้องกับผู้ที่ทำให้ผมเสียหาย นั่นก็คือ "น้อง"

สี่ทุ่มวันนั้นเสร็จจาก สน. เดินทางกลับ นางโทรมาหาผม
จนท.ประกัน : พี่ บริษัทยอมออกใบเคลมให้พี่ค่ะ เดี๋ยวหนูเอาไปให้พี่หน้าคอนโดพี่นะคะ

ผมรู้สึกชื่นใจเป็นอย่างมากจะได้จบแล้ว ดีใจครับ รีบโทรไปบอกน้องที่มาชนผม แล้วก็รอนาง แต่ก็รู้สึกฉุนอยู่เหมือนกันเรื่องเสียเวลา สักพักนางก็มาถึงหน้าคอนโดผม
จนท. ประกัน : พี่อ่านดีๆ ก่อนเซ็นต์นะคะ
ผม : แน่นอน ผมต้องอ่านดีอยู่แล้ว...

สรุป ในสำนวนใบเคลมมีวงเล็บว่า "มีรอยเสียหายเดิมอยู่แล้ว"
ผม :ในใบเคลมวงเล็บมาอย่างนี้มันต่างอะไรกับ 30% ล่ะ สรุปจะซ่อมให้ผมมั้ย ถ้าซ่อมก็ลบวงเล็บออกแล้วเขียนว่าซ่อมสีรถตามจุดที่เกิด แล้วอ้างอิงไปตามที่คุณถ่ายรูปที่ผมชี้จะได้จบ
จนท.ประกัน : ไม่ได้ค่ะ หนู่ทำตามที่เขาสั่งมาแค่นี้
ผม : ขอถ่ายรูปใบเครมนะ
จนท.ประกัน : ไม่ได้ค่ะ ถ้าพี่ไม่เซ็นต์พี่ก็ถ่ายรูปไม่ได้ มันมีผลต่อกฏหมาย
ผม : ผมเสียเวลากับคุณมาหลาย ชม. แล้วนะ ไปใหนก็ไปครับ.......

สรุป ผ่านมา 1 สัปดาห์ถึงตอนนี้ผมได้ไปประเมินราคาจุดที่เสียหายจากอู่ซ่อมมาแล้วรวม 6,500 บาท แล้วได้ส่งใบเสนอราคาให้น้องมันเพื่อไปเจรจากับประกันฯ ใหม่เพื่อที่ผมจะได้ไม่ไปฟ้องขึ้นโรงขึ้นศาล แต่เบื้องต้นผมขอเจรจาตกลงกับน้องไปว่า 
ผม : เอางี้น้อง ค่าเสียหายจุดที่เกิด  6,500 บาท พี่ให้ส่วนของน้องรับผิดชอบ 3,000   ถ้าประกันมันยังยืนกระต่ายขาเดียวว่า 30% ก็เท่ากับเราจะเคลมมันได้แค่ 1,950 บาท มีส่วนต่าง  1,050 บาท น้องก็เอามาช่วยพี่แล้วกันจะได้จบไม่ถึงโรงถึงศาล
น้อง : ผมจ่ายเบี้ยประกันไปแล้วตั้งหมื่นกว่าบาท ค่าโรงพักผมก็ถูกจ่าย ทำไมผมต้องมาจ่ายเพิ่มให้พี่อีกล่ะครับ
ผม : ....... ถูกของน้องครับ ถ้าน้องไม่อยากจ่ายน้องก็ต้องไปเคลียร์ประกันน้องให้จ่ายให้พี่ครับถ้าเคลียร์ไม่ได้น้องก็ต้องจ่ายเพราะน้องเป็นคนมาทำให้พี่เสียหาย 
น้อง : ถ้ามันยุ่งยากนัก พี่ก็ไปฟ้องศาลเอาเลยครับ เชิญครับ  ผมเบื่อ....

แล้วตอนนี้ เรื่องก็หยุดที่ตรงจุดนี้อยู่ครับ... ผมควรทำอย่างไรกับเหตุการต่อไปดี....
เหมือนผมมีทางเลือกแค่สามทางตอนนี้
1.ถ้าอยากจบ สงสารน้องก็หยุดแล้วจ่ายเอง 6,500 คนเดียว (ถือว่าซวย)
2.ถ้าฟ้องเราก็ชนะแต่เราจะเสียเวลา มาก... (น้องซวย)
3.ถ้าไม่ทำอะไรเลยประกันก็ยิ้มแฉ่ง สำเร็จ ไปอีกงาน (กูไม่ต้องจ่าย)555+

ปล. ยอดเงินอาจน้อยสำหรับหลายๆ ท่านครับ แต่สำหรับ พนง. โรงงาน แล้วมันไม่ได้ได้น้อยเลยครับ... T T
      ขอขอบคุณสำหรับท่านที่เสนอข้อคิดเห็นเพื่อรับมือกับ เหตุการณ์ลักษณะนี้ที่อาจจะเกิดขึ้นกับคุณได้นะครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่