รู้สึกรังเกียจพ่อมากขึ้นทุกวันจะทำยังไงดีครับ

สวัสดีครับ ปัจจุบันผมอายุ 24 เพิ่งจบมหาฯลัยมาช่วงตุลาปีก่อน 
เมื่อก่อนผมก็ไม่ได้รังเกียจอะไรพ่อผมเลยนะ จนมาช่วงนึงที่พ่อเริ่มชอบใช้อารมณ์กับคนในบ้าน หาเรื่องจิกกัดคนอื่นอยู่ตลอดเวลา เวลาใครเล่าอะไรให้ฟังพูดยังไม่ทันจบประโยคพ่อก็จะแย่งไปพูดตลอดแล้วก็พยายามยัดเยียดความคิดตัวเองใส่หัวคนอื่นแถมยังชอบพูดอารมณ์แบบ”แค่นี้ก็ไม่รู้”อยู่เกือบทุกครั้ง
ต่อมาพอโดนจับได้ว่ามีเมียน้อยสันดานพ่อผมก็ยิ่งแย่เข้าไปอีก คือเลิกยุ่งกับเมียน้อยอะแหละแต่คือกลับกระหายอยากให้คนอื่นเคารพบูชา อารมณ์อยากสอนที่น่ารำคาญอยู่แล้วก็พุ่งพล่าน จ้องจับผิดคนอื่นตลอดเวลา ใครทำอะไรก็ผิดไปหมด จะสอนให้ได้ ใช้เหตุผลด้วยก็ไม่ยอมฟัง ซึ่งผมก็เข้าใจว่ามันเป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่งก็พอจะเมินๆ ไปได้ แต่นับวันพ่อผมก็ยิ่งอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ ต้องการมีส่วนร่วมในทุกๆ อย่าง แล้วผมที่เพิ่งเรียนจบอยู่บ้านเฉยๆ ก็กลายมาเป็นเป้าหมายหลีกของพ่อ เมื่อก่อนผมเคยแต่งนิยายอยู่แต่พอกลับมาอยู่บ้านก็ต้องหยุดเพราะสภาพแวดล้อมมันไม่เอื้ออำนวย ผมต้องการความสงบ เงียบและไม่มีใครรบกวน แต่เกือบทุกครั้งที่ผมเปิดหน้านิยายออกมาพ่อก็จะแกล้งเดินโฉบผ่านไปมาอยู่ตลอด(ผมเชื่อว่าคนที่แต่งนิยายหลายคนก็คงเหมือนกัน เวลาที่ไม่อยากให้คใกล้ตัวอ่านนิยายที่ตัวเองแต่ง) แล้วก็ชอบมาถามเซ้าซี้ว่าแต่งนิยายแนวไหน ยังไง อยุ่หลายครั้ง บางทีก็บอกแต่งนิยายเพ้อฝัน มันทำเงินให้ได้มั้ยล่ะ? ผมแต่งต่อไม่ได้ ก็ต้องเลิกไป พอผมจะทำงานไม้กับเรซิ่น พ่อที่ไม่เคยรู้จักเรซิ่นเลยก็รีบยิ้มเข้ามาทันที แปรงทาสี(ที่ผมซื้อเอง)ไม่ให้ใช้ทาเรซิ่น เพราะเดี่ยวมันพัง เปลืองของ ผมก็เอาถุงมือยางนี่แหละป้ายเรซิ่นก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่พ่อก็จะมีปัญหาให้ได้ จะให้ใช้แปรงสีฟันเก่าป้ายเรซิ่น ซึ่งไอ้แปรงนี่ใช้กับยาสีฟันก็ฟองฟอดให้เห็นซะขนาดนั้น ถ้าเอามาป้ายเรซิ่น(ที่ไม่ต้องการให้มีฟอง)นี่จะเหลือเหรอ ผมก้ไม่ใช้ พ่อผมก็เริ่มดราม่าอีก บอกว่าใช้มือเดี่ยวมันหก(ใช้แปรงมันก็หกมั้ย?) ถุงกระสอบที่รองข้างใต้ก็มี แล้วพ่อผมก็เริ่มเถียงข้างๆ คูๆ บอกผมเปลืองตังบ้าง ทำพื้นเปรอะบ้าง(ซึ่งจริงๆ คนที่เห็นแล้วยังเดินย่ำไว้จนเละคือพ่อ) วางของเกลื่อนบ้านบ้าง(ของผมวางหลบอยุ่มุมนึง ของคนอื่นก้มีไม่เท่าไหร่ ของพ่อผมนี่กองทั่วบ้านเลย ได้อะไรมาใหม่ก็ชอบมาจับของคนอื่นย้าย แถวชอบหยิบของชาวบ้านไปบริจาคแบบไม่บอกเป็นประจำเพื่อเอาหน้าเพื่อนร่วมงาน) แล้วก็เริ่มทวงบุญคุญ เปลี่ยนเรื่องเอง ยุตัวเอง ของขึ้นเองไปเรื่อยๆ เป็นแบบนี้นับครั้งไม่ถ้วนแล้ว พอผมจะซื้ออุปกรณ์อะไรก็ไม่ยอมให้ซื้อ บอกอันตรายยังงั้นยังงี้ไม่ก็ที่บ้านมี แต่พอเอาของที่บ้านมาใช้ก็ไม่ยอมให้ใช้ อย่างเลื่อยไฟฟ้าเป็นต้น จะซื้อก็ไม่ให้ซื้อ พอจะเอาที่บ้านมาใช้ก้ไม่ให้ใช้ ต้องไปใช้เลื่อยมือเอา ตอนผมไปเรียนทำอาหารที่ศูนย์ฝึกอาชีพที่สวนลุมผมจะไปอยุ่หอพ่อก็ไม่ให้ไป(สาเหตุที่จะไปคือไม่อยากเจอหน้าพ่อ) ก็ต้องนั่งรถไฟเที่ยว7โมงเช้าเข้าไปเรียนทุกวันแล้วก็นั่งกลับตอนเกือบ 4 โมงเย็น ถึงปัจจุบันนี้การจ้องหาเรื่องของพ่อก็ยังดำเนินอยุ่ทุกวันจมผมมีอาการหวาดระแวงแล้วว่าในวันนั้นวันนี้พ่อจะเอาเรื่องอะไรมาหาเรื่องผมอีก ตอนนี้จะทำอะไรก็โดนจ้องหาเรื่องไปหมดจนในที่สุดแล้วผมก็เลยเล่นเกมอยุ่บ้านเฉยๆไปวันๆ ซึ่งก็แน่นอนว่าพ่อก็ต้องมาหาเรื่องอีก “เห็นไล่ยิงไล่แทงกันอยุ่ได้ทั้งวัน ไม่เห็นมันจะมีอะไรดีตรงไหน บลาๆๆๆๆๆ” (กล่าวในขณะที่ผมกำลังขนสินค้าข้ามเมืองไปขายหรือแล่นเรือในทะเล นี่คือสายตาของคนนะครับ ขอย้ำ) ฟังแล้วผมก็อยากจะตอบกลับไปเหมือนกันนะว่า “แล้วหนังที่พ่อดูล่ะมันมีดีตรงไหน ก็เห็นมันไล่ยิงไล่แทงกันทั้งเรื่อง แถมดูแต่เรื่องซ้ำๆ วนไปวนมาอยุ่ไม่กี่เรื่อง บางเรื่องน่าจะดูเกินยี่สิบรอบแล้วด้วยซ้ำ แล้วไอ้ฉาก***เมื่อกี้น่ะรีบวางโทรศัพท์ในมือไปจ้องโทรทัศน์เลยนะ”
ครับ ก็ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ล่ะครับ แต่ผมรู้สึกว่าการอยู่กับพ่อมันทำให้ผมไม่มีความสุข ต้องมาคอยระแวงตลอดเวลา (ขนาดอาบน้ำยังโดนปิดปั๊มน้ำแกล้งเลย) จะไปไหนก็โดนรั้งไว้ไปไม่ได้ จะทำอะไรก็เข้ามาสั่งตลอด แม้แต่เกมที่เป็นความบันเทิงหนึ่งเดียวที่เหลืออยู่ในชีวิตผมก็ไม่สนุกเพราะมีคนเข้ามาเทศนาอยู่เรื่อยๆ พูดตามตรงตอนนี้ผมรู้สึกเกลียดพ่อมาก ผมควรทำยังไงดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่